Passion Fruit หรือ เสาวรส เป็นผลไม้ที่มีชื่อเรียก อย่างเป็นทางการว่า "Passiflora edulis" จัดอยู่ในวงศ์ Passifloraceae และเป็นที่รู้จักกันดี ในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบผลไม้ เพราะรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และคุณค่าทางโภชนาการที่สูง
Passion Fruit ที่มา
Passion Fruit เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดในอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในประเทศบราซิล ปารากวัย และภาคเหนือของอาร์เจนตินา ชื่อ "Passion" ไม่ได้หมายถึงความหลงใหล ในแง่ของความรัก แต่เป็นการอ้างอิงถึง "Passion of Christ" หรือ "ความทุกข์ยากของพระเยซู" จากความเชื่อของชาวยุโรป ที่นำพืชชนิดนี้ไปศึกษา และตั้งชื่อใหม่ ตามสัญลักษณ์คริสเตียน ที่พบในดอกของมัน
ประโยชน์ของ passion fruit
เสาวรส เป็นผลไม้ที่ไม่เพียงมีรสชาติเฉพาะตัว ที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยสารอาหาร หลายชนิดที่มีประโยชน์ ต่อสุขภาพอีกด้วย รวมถึงวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ ด้านล่างนี้คือรายละเอียด ของสารอาหารที่สำคัญในเสาวรส
- วิตามิน C เสาวรสเป็นแหล่งวิตามิน C ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบำรุงรักษา ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย [1] ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญ ในการซ่อมแซมเซลล์ และเนื้อเยื่อ และยังช่วยป้องกันความเสียหาย จากอนุมูลอิสระด้วย
- ไฟเบอร์ ไฟเบอร์ในเสาวรสมีสูงมาก ทั้งในรูปแบบของไฟเบอร์ละลายน้ำ และไม่ละลายน้ำ ซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร และป้องกันปัญหาทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก นอกจากนี้ ไฟเบอร์ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และสามารถลดความเสี่ยง ของโรคเบาหวานได้
- วิตามิน A เสาวรสมีวิตามิน A ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญ ที่ช่วยในการรักษาสุขภาพของตา รองรับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และดีต่อสุขภาพผิวพรรณ
- โพแทสเซียม โพแทสเซียมในเสาวรส มีบทบาทในการควบคุมความดันโลหิต ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อ และระบบประสาทเป็นปกติ รวมถึงช่วยป้องกันโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด
- แร่ธาตุอื่นๆ นอกจากนี้เสาวรส ยังมีแร่ธาตุอื่นๆ เช่น แมกนีเซียม ซึ่งช่วยในการสร้างกระดูก และฟันให้แข็งแรง เหล็ก ซึ่งสำคัญต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง และฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเซลล์ และกระดูก
เสาวรส รสชาติ
เสาวรส มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานระหว่างรสหวาน และเปรี้ยวจี๊ด ซึ่งสร้างประสบการณ์การรับประทานที่ไม่เหมือนใคร ผลไม้นี้มีเปลือกนอกที่แข็ง และมีเมล็ดมากมาย ที่รอบด้วยเยื่อวุ้นเนื้อนุ่ม สีเหลืองหรือม่วงอมแดง ซึ่งเป็นส่วนที่รับประทานได้ มีกลิ่นหอม ซึ่งเพิ่มความน่าสนใจ ให้กับการทาน
เสาวรส การนำมาทาน
เสาวรส สามารถนำมาใช้ในการประกอบอาหาร ได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่การรับประทานสดๆ โดยตรงจากเปลือก ไปจนถึงการใช้เป็นส่วนผสม ในเครื่องดื่ม เช่น น้ำผลไม้ หรือค็อกเทล นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เป็นส่วนผสมในเบเกอรี่ เช่น เค้ก หรือพาย และเป็นซอสท็อปปิ้ง สำหรับไอศกรีม หรือโยเกิร์ต ตัวอย่างเมนู
- น้ำเสาวรสสด สูตรเครื่องดื่มที่ง่าย และสดชื่นที่สุด คือน้ำเสาวรสสด โดยแค่นำเนื้อเสาวรสมาปั่นกับน้ำเล็กน้อย และน้ำตาลตามชอบ กรองเมล็ดออกและเสิร์ฟเย็นๆ สามารถเติมน้ำแข็ง หรือน้ำผึ้งเพิ่มเติมได้ตามชอบ
- พานาคอตต้าเสาวรส พานาคอตต้าเป็นของหวานอิตาเลียน ที่เนื้อเนียนละมุน การเติมน้ำเสาวรสลงไปในสูตร จะเพิ่มรสชาติที่สดชื่น และกลิ่นหอมน่าทาน โดยใช้เจลาตินในการตั้งตัว และเนื้อเสาวรสเป็นซอสท็อปปิ้ง
- เค้กเสาวรส เค้กที่มีกลิ่นหอมของเสาวรส ใช้เนื้อเสาวรสและน้ำเสาวรสในการทำเนื้อเค้ก และครีมที่ทาหน้าเค้ก เพื่อเพิ่มรสชาติ และความสดชื่น
- ซอสเสาวรส สำหรับไอศกรีม หรือโยเกิร์ต นำเนื้อเสาวรสมาเคี่ยวกับน้ำตาล และน้ำนิดหน่อย จนได้ซอสที่มีความหนืดเล็กน้อย สามารถเติมน้ำผึ้ง หรือเลมอน เพื่อเพิ่มความสดชื่น ใช้เป็นท็อปปิ้งไอศกรีม หรือโยเกิร์ต
- ค็อกเทลเสาวรส ผสมเสาวรสกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โซดา และน้ำเชื่อม เพื่อทำค็อกเทลที่สดชื่น และมีเอกลักษณ์ เติมน้ำแข็ง และใช้เนื้อเสาวรส หรือเลมอนตกแต่ง
- สลัดผลไม้เสาวรส เพิ่มเนื้อเสาวรส ลงในสลัดผลไม้ที่มีมะม่วง สตรอว์เบอร์รี หรือผลไม้อื่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติเปรี้ยวหวาน และกลิ่นหอม ใช้น้ำสลัดที่ผสมกับน้ำเสาวรส เพื่อเพิ่มรสชาติ
เสาวรส ข้อแนะนำ
เมื่อซื้อเสาวรส ควรเลือกผลที่มีเปลือกเรียบ และมีน้ำหนักเหมาะสม ซึ่งบ่งบอกถึงความสุก และความหวาน เมื่อเสาวรสเริ่มแก่จัด เปลือกอาจดูย่น แต่นั่นกลับเป็นสัญญาณ ของความหวานที่เพิ่มขึ้น ควรเก็บในที่เย็น หากยังไม่ต้องการรับประทานทันที แต่หากต้องการให้ผลไม้สุกเร็วขึ้น ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง
สรุป Passion Fruit
เสาวรส เป็นผลไม้ที่มีรสชาติ และกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ รวมถึงวิตามิน C ไฟเบอร์ และแร่ธาตุที่สำคัญต่อสุขภาพ วิธีการนำมาทานที่หลากหลาย ทำให้เสาวรสเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับการเพิ่มรสชาติ ให้กับอาหาร และเครื่องดื่ม
อ้างอิง
[1] hellokhunmor. (February 24, 2021). เสาวรส. Retrieved from hellokhunmor