Hardy Kiwi หรือกีวีเบอร์รี เป็นผลไม้ขนาดเล็ก ที่มีรสชาติคล้ายกับ Kiwifruit แต่มาในรูปแบบที่เล็กกว่า คล้ายกีวีจิ๋ว และสามารถทานได้ทั้งเปลือก ด้วยความทนทานต่อสภาพอากาศหนาว จึงเป็นที่นิยม ในหมู่ผู้ที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคที่มีอุณหภูมิต่ำ
Hardy Kiwi คืออะไร
กีวีเบอร์รี (Actinidia arguta) [1] เป็นพืชผลไม้พันธุ์ไม้เลื้อย ที่มีที่มาจาก ญี่ปุ่น, เกาหลี และ รัสเซียตะวันออก มีความทนทานต่อความเย็นมากกว่า Kiwifruit ทั่วไป และสามารถทนต่ออุณหภูมิถึง -25 องศาเซลเซียส
ประวัติของ Hardy Kiwi เริ่มต้นจากการนำเข้าสู่ตลาดตะวันตก ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และได้รับความนิยมในหมู่ผู้ปลูก ที่มองหาผลไม้ที่สามารถทน ต่อสภาพอากาศหนาวได้ดี
ประโยชน์ของ Hardy Kiwi
Kiwi Berry เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเต็มไปด้วยสารอาหารที่สำคัญมากมาย สำหรับสุขภาพ นี่คือรายละเอียดของประโยชน์สารอาหารที่สำคัญใน Kiwi Berry
- วิตามิน C กีวีเบอร์รี เป็นแหล่งของวิตามิน C ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นสารอาหาร ที่สำคัญสำหรับการซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย การผลิตคอลลาเจน และการดูดซึมเหล็ก วิตามิน C ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันความเสียหาย จากอนุมูลอิสระ และสนับสนุน ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
- ไฟเบอร์ กีวีเบอร์รีมีไฟเบอร์ในปริมาณที่ดี ซึ่งมีความสำคัญ ต่อการรักษาระบบย่อยอาหาร ให้ทำงานอย่างปกติ ช่วยให้การลำเลียงอาหาร ในระบบทางเดินอาหารให้ดีขึ้น และสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรค ที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหาร เช่น ท้องผูก และโรคริดสีดวงทวาร
- วิตามิน E กีวีเบอร์รีเป็นแหล่งของวิตามิน E ที่ช่วยในการปกป้องเซลล์ จากความเสียหาย และมีบทบาทในการต่อต้านการอักเสบ วิตามิน E ยังช่วยในการรักษา สุขภาพของผิวพรรณ และดวงตา
- กรดไขมันโอเมก้า 3 มีความสำคัญ ต่อการพัฒนาสมอง และการมองเห็น รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
- แร่ธาตุ กีวีเบอร์รีมีแร่ธาตุหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, และแคลเซียม โพแทสเซียมมีบทบาท ในการควบคุมความดันโลหิต ในขณะที่แมกนีเซียม และแคลเซียม มีส่วนช่วยในการรักษาสุขภาพกระดูก และฟันให้แข็งแรง
- สารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ กีวีเบอร์รียังมีสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ เช่น Anthocyanin และ Flavonoids ที่มีบทบาทในการป้องกันโรค และชะลอกระบวนการ เสื่อมของเซลล์
กีวีเบอร์รี รสชาติ
กีวีเบอร์รีมีรสชาติที่หวาน และมีกลิ่นหอมคล้ายกับ kiwifruit มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย เนื้อในมีความนุ่ม และเต็มไปด้วยเมล็ดเล็กๆ สีดำ ใความชุ่มฉ่ำ เปลือกนอกบางและเรียบ ไม่มีขนเหมือนกวีทั่วไป ทำให้สามารถทานได้ทั้งผล แบบพอดีคำ
กีวีเบอร์รี การนำมาทาน
กีวีเบอร์รี เป็นผลไม้ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางรสชาติ และวิธีการนำมาใช้งาน ทำให้เป็นที่ชื่นชอบในหมู่คนที่รักสุขภาพ และชอบลองผลไม้แปลกใหม่ๆ
- ทานเป็นผลไม้สด ด้วยเปลือกที่บาง และไม่มีขน กีวีเบอร์รีสามารถทานได้ทันที โดยไม่ต้องปอกเปลือก ทำให้เป็นอาหารว่างที่สะดวก และมีประโยชน์
- เพิ่มในสลัดผลไม้ ด้วยลูกเล็ก และรสชาติหวาน ทำให้เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับการเพิ่มลงในสลัดผลไม้ เพื่อเพิ่มรสชาติ และสีสัน
- ใช้เป็นส่วนผสมในขนมปัง และเค้ก สามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมในขนมปัง, เค้ก, หรือมัฟฟินเพื่อเพิ่มรสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการ
- ทำเป็นแยมหรือเยลลี่ กีวีเบอร์รีสามารถนำมาทำเป็นแยม หรือเยลลี่ เพื่อใช้ทาขนมปัง หรือขนมอื่นๆ
- น้ำสมูทตี้ นำไปผสมกับผลไม้อื่นๆ ในการทำสมูทตี้ เพื่อเพิ่มรสชาติที่หวาน และความสดชื่น
- เพิ่มใน Cocktail เพื่อเพิ่มรสชาติ และกลิ่นหอมหวาน
กีวีเบอร์รี ข้อแนะนำ
- สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ kiwifruit ทั่วไป ควรระมัดระวังเมื่อทานกีวีเบอร์รี เนื่องจากมีโอกาส ที่จะทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน
- เนื่องจากเปลือกที่สามารถทานได้ ควรล้างผลไม้ให้สะอาดก่อนทาน
- ผู้ที่มีปัญหาทางระบบย่อยอาหาร ควรทานด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากเมล็ด และเนื้อผลไม้อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง
สรุป Hardy Kiwi
กีวีเบอร์รีเป็นผลไม้ที่น่าสนใจ ไม่เพียงแต่เพราะความทนทาน ต่อสภาพอากาศหนาว แต่ยังมีรสชาติที่หวานอร่อย เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความหลากหลาย ให้กับอาหารในชีวิตประจำวัน ด้วยผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และรสชาติที่โดดเด่นนี้
อ้างอิง
[1] thairath. (September 10, 2018). รู้จักไหม Mini Kiwi. Retrieved from thairath
