Cranberry เบอร์รีสีแดงที่เต็มไปด้วยประโยชน์

Cranberry เป็นผลไม้ที่มีสีแดงสด เป็นที่รู้จักกันดี ในหมู่ผู้บริโภคทั่วโลก เนื่องจากประโยชน์ทางโภชนาการ และสรรพคุณทางยาที่มากมาย มีต้นกำเนิดจากอเมริกาเหนือ และมักถูกใช้ในเทศกาลต่างๆ เช่น วันขอบคุณพระเจ้า และคริสต์มาส เป็นส่วนประกอบในอาหาร ขนม หรือ Smoothies

ประโยชน์ของ Cranberry

Cranberry เป็นผลไม้ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีประโยชน์หลายด้าน ต่อสุขภาพ ด้วยสารอาหารที่หลากหลาย จนถูกยกให้เป็น Superfood [1] มีสารอาหารที่น่าสนใจ ดังนี้

• Vitamin C แครนเบอร์รี เป็นแหล่งที่ดีของ Vitamin C ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และเพิ่มการดูดซึมเหล็ก จากอาหารที่เรารับประทาน
• Fiber การทานแครนเบอร์รี ช่วยให้ได้รับ Fiber ที่มีประโยชน์ ต่อระบบย่อยอาหาร ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และควบคุมน้ำตาลในเลือด
• สารต้านอนุมูลอิสระ แครนเบอร์รี มีสารประกอบพฤกษเคมี เช่น Polyphenols และ anthocyanins ที่มีคุณสมบัติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกัน ความเสียหายต่อเซลล์ และลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรังหลายชนิด
• Vitamin E เป็นอีกหนึ่งสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีความสำคัญ ในการปกป้องเซลล์ จากความเสียหาย
• Potassium มีส่วนช่วย ในการควบคุมความดันโลหิต ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อ และระบบประสาทเป็นปกติ
• Manganese เป็นแร่ธาตุที่สำคัญ ต่อกระบวนการ Metabolism และการสร้างกระดูก
• แครนเบอร์รี มีส่วนช่วยในการ ป้องกันการติดเชื้อ ในระบบปัสสาวะ โดยสารประกอบ Proanthocyanidins ใน แครนเบอร์รี ช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรีย E. coli และแบคทีเรียอื่นๆ ยึดติดกับผนังกระเพาะปัสสาวะ

แครนเบอร์รีเป็นผลไม้ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทั้งในเรื่องของการป้องกันโรค การเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และการดูแลสุขภาพในระยะยาว การเพิ่มแครนเบอร์รี เข้าไปในอาหารประจำวัน จึงเป็นวิธีที่ดี ในการเพิ่มคุณค่า ทางโภชนาการ

Cranberry รสชาติ

Cranberry มีรสชาติที่เปรี้ยวจัด หวานเล็กน้อย มีความหอมกลิ่นเบอร์รี ซึ่งทำให้เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับการทำเป็นน้ำเชื่อม แยม หรือผสมในเครื่องดื่ม เนื้อสัมผัสเมื่อสดนั้น มีความกรอบ แต่หลังจากการแปรรูป อาจมีความเหนียว และนุ่มมากขึ้น ซึ่งเพิ่มความหลากหลาย ให้กับการใช้งานในหลายๆ รูปแบบ

Cranberry เมนู

Cranberry เป็นผลไม้ที่มีความหลากหลาย ในการนำไปใช้ ในเมนูอาหาร ตั้งแต่อาหารคาว ไปจนถึงของหวาน ด้วยรสชาติเปรี้ยวหวาน ที่โดดเด่น สามารถเพิ่มรสชาติ และสีสัน ให้กับอาหารได้อย่างลงตัว ตัวอย่างเช่น

• แครนเบอร์รี Sauce เป็นซอสที่นิยม ใช้เสิร์ฟ คู่กับอาหารวันขอบคุณพระเจ้า โดยเฉพาะกับไก่งวง มีรสชาติที่เปรี้ยวหวาน เพิ่มความสดชื่นให้กับอาหาร

• แครนเบอร์รี Muffins มัฟฟินที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม ผสมด้วยเม็ดแครนเบอร์รี ที่เพิ่มรสชาติเปรี้ยวหวาน และความกรุบกรอบเล็กน้อยให้กับ Muffins
• แครนเบอร์รี Salad สลัดที่ใช้แครนเบอร์รีสด หรือแห้งผสมกับผักสลัด ถั่ว และ cheese ราดด้วยน้ำสลัดที่มีรสชาติเข้มข้น เพิ่มความหลากหลายให้กับสลัด
• แครนเบอร์รี Smoothie ผสมผสานรสชาติ ของแครนเบอร์รี กับผลไม้อื่นๆ เช่น กล้วยหรือ strawberry เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ และรสชาติที่สดชื่น
• แครนเบอร์รี Cheesecake ชีสเค้กที่มีฐาน หรือไส้ sauce, Jelly แครนเบอร์รี ให้รสชาติที่ลงตัว ระหว่างความหวานและเปรี้ยว
• แครนเบอร์รี Oatmeal โอ๊ตมีลที่เพิ่มเม็ดแครนเบอร์รีอบแห้ง เพื่อเพิ่มรสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการ

Cranberry ข้อแนะนำ

การใช้งานแครนเบอร์รีนั้น มีความหลากหลาย ตั้งแต่การทำเป็นน้ำผลไม้ เพื่อสุขภาพ การเพิ่มลงในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การทำเป็นซอส หรือแยม เพื่อรับประทานคู่กับอาหารหลัก หรือแม้แต่การใช้เป็นส่วนประกอบใน bakery และขนมหวานต่างๆ การเลือกซื้อแครนเบอร์รีที่สด และคุณภาพดี เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้รสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการ ที่ดีที่สุด

แครนเบอร์รี ข้อควรระวัง

สำหรับบางคน ที่มีปัญหาเรื่องการย่อยอาหาร หรือมีปัญหาเกี่ยวกับกรด ในกระเพาะอาหาร ควรทานแครนเบอร์รี ในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากแครนเบอร์รี  เป็นผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวจัด นอกจากนี้ ควรระมัดระวัง ในการดื่มน้ำแครนเบอร์รีที่แปรรูป ซึ่งอาจมีการเติมน้ำตาลเยอะ

สรุป Cranberry

Cranberry เป็นผลไม้ที่ไม่เพียงแต่ มอบรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และสามารถนำไปใช้ ในการประกอบอาหาร ได้หลายแบบเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์มากมาย ต่อสุขภาพ เช่น การป้องกันการติดเชื้อ ในกระเพาะปัสสาวะ และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง การทานแครนเบอร์รี อย่างพอดี จึงสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพ และเพิ่มคุณภาพชีวิต ได้อย่างดีเยี่ยม

อ้างอิง

 [1] hellokhunmor. (January 04, 2023). แครนเบอร์รี่. Retrieved from hellokhunmor