เทรนด์ AI นับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ใช้กันมาปีกว่าแล้ว ซึ่งที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ อย่าง AI Generative (GenAI) [1] ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ออนไลน์ รวมไปถึงเรื่องรูปภาพศิลปะก็สามารถทำได้ แถมออกมาสวยไม่ซ้ำใคร โดยก็จะมีอย่าง Adobe Firefly, Midjourney ล่าสุดมีของ Bing และอีกมากมาย และบทความนี้ยังจะมาเจาะลึก นวัตกรรมเกี่ยวกับ AI อื่นๆ ว่ายังมีอะไรอีกบ้าง?
ชีวิตในการทำงานของหลายองค์กรในตอนนี้ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้ เทคโนโลยีนี้ ด้วยความสะดวกแถมยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้สูงมาก หลายองค์กรจึงใช้เพื่อให้การทำงานง่ายและมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีตัวที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยด้วย รวมไปถึงแต่ละคนด้วยก็อาจลองใช้มาแล้ว อย่างบางตัวที่ให้ใช้ได้ฟรีๆ เช่น แชตบอทอัจฉริยะ ChatGPT
โดยในบทความนี้ จึงเป็นการแนะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าสนใจ มาอีก 2-3 ตัว เกี่ยวกับ AI ในปี 2024 นี้จากบริษัทวิจัยยักษ์ใหญ่ ว่าจะมีอะไรใหม่ๆ ที่จะเข้ามาช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ธุรกิจมีการเติบโต ไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม
ตัวที่จะมาทำให้ประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ให้ดีขึ้นไปอย่างมาก ด้วยตัวที่ชื่อว่า AI-Augmented Development จะเป็น AI ที่สามารถเขียนโค้ดได้เร็ว และมีประสิทธิภาพสูง เป็น Tester ทดสอบซอฟต์แวร์ต่าง ๆ มันจึงสามารถลดเวลารวมไปถึงต้นทุนในการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้มาก
ที่มา : Gartner Identifies the Top 10 Strategic Technology Trends for 2024 [2]
อีกหนึ่งเทคโนโลยี ที่เข้ามามีส่วนร่วมกับการเข้ามาช่วยปกป้องความปลอดภัยต่างๆ โดยเปรียบได้กับพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ป้องกันการถูกโจมตีข้อมูลได้ โดยในอนาคตองค์กรต่างๆ ก็จะต้องนำตัวนี้ไปใช้ เพื่อเสริมความปลอดภัยในด้านต่างๆ ได้อีกมากมาย
โดยการรักษาความปลอดภัยเป็นรากฐานของ AI นี้ อย่างความเสี่ยงที่เกิดจากการโจมตีของคู่แข่ง การละเมิดข้อมูล รวมไปถึงการเข้าถึงฐานข้อมูลต่างๆ เจ้าตัวนี้จึงช่วยกรองและคาดการณ์ การคุกคามในข้อมูล ช่วยวิเคราะห์ และเสริมความปลอดภัยในระบบคลาวด์ รวมไปถึงการหลอกล่อ พร้อมวางกับดักรับมือการโจมตีไซเบอร์ ได้อีกด้วย
มีอีกชื่อเรียกว่า custobots ตัวช่วยที่จะเข้ามาช่วยเรื่องการจัดการด้านธุรกิจ และสร้างการบริการที่ดีให้ด้วย ซึ่งเจ้าตัวนี้เหมาะกับธุรกิจการสั่งซื้อสินค้าที่สามารถใช้ AI เป็นตัวกลางในการซื้อขาย เพิ่มความรวดเร็วในการถามตอบลูกค้า ทำให้ปิดการขายได้เร็วอีกด้วย
นวัตกรรมใหม่ที่แตกแขนงออกไปได้หลายส่วน ซึ่ง AI นี้ก็เป็นประโยชน์อย่างมากในการช่วยเราทำงานต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งช่วยในความปลอดภัยในองค์กร ก็สามารถใช้ระบบของ AI นี้ป้องกันได้ ในอนาคตอาจมีเทคโนโลยีนี้เข้ามาอีก และบริษัทที่กุม Big Data หลายเจ้าก็อาจพัฒนา AI มาเป็นของตัวเองด้วยก็ได้
[1] techsauce. (January 20, 2023). Generative AI คืออะไร ทำไมถึงโดดเด่นกว่า AI ทั่วไป มุมมองความเป็นไปได้ในอนาคต. Retrieved from techsauce
[2] gartner. (October 16, 2023). Gartner Identifies the Top 10 Strategic Technology Trends for 2024. Retrieved from gartner
แอปดูดเงิน หรือ แอปหลอกโอนเงิน นวัตกรรมใหม่ของมิจฉาชีพที่เป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมาก ทั้งในอินเตอร์เน็ต และตามข่าวช่องต่างๆ ซึ่งจากที่ดู และฟังมาก็น่ากลัวมากสำหรับผู้ใหญ่ ที่นำเสนอว่า เพียงแค่โทรก็ถูกดูดเงินได้ หรือไม่ก็เชื่อมเสียบสายทิ้งไว้เงินก็หายเลย แต่ทางเทคนิคแล้วนี่น่า จะดูเกินจริงไปมากที่สื่อจะนำมานำเสนอ ซึ่งตามเทคนิคอาจต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น ก่อนจะถูกโอนได้
แอปที่มิจฉาชีพ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อดูดเงินตรงๆ แต่เจ้าแอปตัวร้ายนี้ จริงๆ เป็นแอปพลิเคชั่นที่ควบคุมมือถือได้หลังจากที่หลอกให้เหยื่อติดตั้งแอป ตั้ง pin สแกนหน้า และกดยอมรับการเข้าถึงสำเร็จ จะเป็นได้ว่ามีหลายขั้นตอนมากกว่าจะ เข้าไปดูดเงินได้ แอปนี้จึงไม่ใช้แฮก แต่ต้องใช้การล่อหลอกด้วยคำพูดมากกว่า เพื่อให้เหยื่อทำตามถึง 3-4 ขั้นตอนนี้แบบไม่เอะใจ
โดยแอปนี้ที่สร้างมาจะเป็นแอปที่ทำหน้าที่ ควบคุมหน้าจอ (remote control) โดยล็อกหน้าจอ และเข้าแอปธนาคารแล้วโอนเงินทั้งหมด หลังจากเหยื่อที่กด “ยินยอมการเข้าถึง” ได้เท่านั้น ระหว่างนั้นอาจเป็นการโทรคุยเพื่อหลอกล่อ โดยจะเป็นแอปที่ทำออกมาหน้าตาเหมือนแอปที่อยู่ใน Play store เลย แต่จุดสังเกตเลยคือให้โหลดผ่านเว็บ ซึ่งจะมีการหลอกหลายรูปแบบ
ด้วยมือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android นั้นมีฟังก์ชัน Accessibility Service ที่สามารถวาดทับ หรือสามารถควบคุมเครื่องเหยื่อได้จากระยะไกลเพียงล่อให้กดยอมรับ โดยกระบวนการทำงานของมิจฉาชีพแอปดูดเงินก็จะเป็นดังนี้ ที่เป็นไปได้ที่สุด
ที่มา : เจาะลึก! แอปดูดเงิน ทำงานยังไง วิธีสังเกตและป้องกัน โดยนักพัฒนาแอป Android [1]
ในขั้นตอนของการ Remote Access ในปัจจุบัน นับว่าหลายธนาคารก็ไม่อนุญาตให้ ทำรายการเขียนทับหน้าจอได้แล้ว แนวคิดเดิมที่พยายามใช้แอปดูดเงินเข้ามาควบคุมและใช้งานแอปธนาคารก็ได้รับการป้องกันแล้ว จึงได้เกิดแนวทางใหม่ขึ้น โดยมีแอปเหมือนเดิมแต่เป็นแค่แอปเก็บข้อมูลเท่านั้น
ในเมื่อเหยื่อกว่าแสนคนที่เคยโดนหลอก ซึ่งก็ทำทุกอย่างที่แอปต้องการ ที่ลงทะเบียนตั้ง pin สแกนหน้า หรือแม้กระทั้งโอนไปเองก็มี ดังนั้นมิจฉาชีพที่สามารถหลอกคนให้เชื่อได้ขนาดนี้ โจรก็เลยใช้เครื่องตัวเองทำไปซะเลยโดยใช้ระบบเปลี่ยนมือถือของธนาคาร ที่ใช้แค่ เบอร์ เลขบัตรประชาชน PIN และ OTP เท่านั้น ซึ่งก็มีวิธีการที่ต่างจากเดิมเล็กน้อย
ที่มา : เจาะลึกกลโกงของแอปดูดเงิน ในยุค 2567 [2]
หลังจากนั้นธนาคารก็เพิ่มการบังคับสแกนหน้ามาหากโอนเกิน 5 หมื่น มิจก็เอาข้อมูลที่เราสแกนหน้าไปสแกนได้เลย ซึ่งในเมื่อมิจได้ใบหน้าไปธนาคารก็สู้ด้วยการอนุญาตให้การโอนเงินใช้งานด้วยสัญญาณ 4G เท่านั้น มิจก็เพิ่มฟังก์ชั่นในแอปดูดเงินในการ Reverse Proxy [3] เพื่อขอยืมสัญญาณเครื่องเหยื่อ และใช้ในการส่งข้อมูลการโอนไป เพื่อให้ระบบของธนาคารยอมรับได้ เหมือนเหยื่อส่งไปเองเลย
จากที่กล่าวมาเจ้า แอปดูดเงิน ก็เป็นโปรแกรมหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อใช้ฟังก์ชั่นควบคุมจอ อาจเป็นนวัตกรรมแอปพลิเคชั่นในโลกของมิจฉาชีพ แต่หลักๆ แล้วคือการหลอกล่อให้เชื่อ จากกล่าวมาและเหยื่อที่มีมากเป็นหลักแสนคน จึงทำให้สรุปได้ว่าจริงๆ แล้วที่มิจเอาเงินไปได้ ก็เพราะเหยื่อหลงเชื่อ และคนที่หลงใช้ก็พร้อมที่จะทำตามที่มิจฉาชีพบอกหมดเลย ธนาคารจะแก้ทางยังไง หากเหยื่อเชื่อก็คงมีค่าเท่าเดิม
[1] droidsans. (January 20, 2023). เจาะลึก! แอปดูดเงิน ทำงานยังไง วิธีสังเกตและป้องกัน โดยนักพัฒนาแอป Android. Retrieved from droidsans
[2] medium. (February 22, 2024). เจาะลึกกลโกงของแอปดูดเงิน ในยุค 2567 (คุย 2 นาทีดูดเงินได้จริงหรือ). Retrieved from medium
[3] medium. (January 3, 2019). ความแตกต่างระหว่าง Proxy กับ Reverse Proxy. Retrieved from medium
Vision Pro สินค้าอันเป็นไฮไลต์ที่น่าจับตามากที่สุดของ Apple โดยสิ่งนี้เป็นเทคโนโลยี AR/VR ที่มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์ตัวใหม่ๆ ผ่านระบบปฏิบัติการของ OS [1] ทำให้โลกขยับเข้าใกล้คำว่าโลกเสมือนจริงยิ่งเข้าไปอีก ซึ่งบทความนี้จึงจะมาพูดถึงจุดเด่นอันน่าสนใจ ไปจนถึงข้อจำกัดสำหรับคนอยากเสียเงินในไทย ว่าควรคิดก่อนจะซื้อของใหม่แบบนี้ก่อน
การนำโปรดักต์ตัวนี้เข้าสู่ตลาดของ VR จึงเป็นการผลักดันทั้งความสนใจและความสามารถใหม่ๆ ในการใช้งาน VR/AR ได้มากขึ้น แถมยังกระเตื้องคำว่า “Metaverse” ให้เข้าใกล้ความจริงมากขึ้นอีกด้วย เพราะเจ้าสิ่งนี้เปิดตัวมาพร้อมความสามารถ และฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย
ที่มา : Apple เปิดตัว Vision Pro แว่น VR ราคาหลักแสน [1]
หลังจากชิงเปิดตัวโปรดักต์ซุ่มนี้ ก็อาจทำให้บริษัทเจ้าถิ่นอย่าง Oculus ที่จะ เปิดตัว Quest 3 ไอเทมใหม่ในปลายปีต้องนั่งไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียว แต่อย่างนั้นทาง META เองก็ออกมาบอกว่าการมาของ Apple ครั้งนี้อาจจะส่งผลดีต่อเมตาเวิร์สแน่นอน โดยจากความสนใจในงาน WWDC23 ที่ถูกพูดถึงอย่างล้นหลาม แม้กระทั่งคนที่ไม่สนใจ VR หรือ AR มาก่อน
ด้วยความคมชัดที่มากยิ่งขึ้นกว่าแว่น XR หรือ VR ทั่วไปที่ชัดได้ถึง 23 ล้านพิกเซล รวมถึงระบบ Eyesight ที่ใช้เซนเซอร์จับสายตาโดยไม่ต้องใช้คอนโทรลเลอร์อื่นๆ มาจับไว้อีกแล้ว อย่างที่บอกไปในหัวข้อก่อนหน้า ว่าระบบของชิปประมวลผลยังควบคุมเฟรมดรอป และการกระตุกได้ดีมากๆ อีกด้วย
จากที่ดูๆ มาไอเทมชิ้นนี้นับเป็น แว่น XR หรือ VR ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาแล้ว แต่ด้วยความใหม่ แถมมีราคาที่สูง คนไทยที่คิดจะซื้อมาใช้งานเร็วๆ นี้ อาจต้องคิดให้ดีก่อน ว่าจะรับข้อจำกัดพวกนี้ได้หรือไม่ ถ้ารับได้ก็ไม่มีปัญหานะ
ที่มา : เครื่องหิ้ว 2 แสน! 5 ข้อจำกัด ‘Vision Pro’ ใช้งานในไทย [2]
หนึ่งในไอเทมของนวัตกรรม AR/VR ที่เปิดตัวมาด้วยระบบที่ดีที่สุดทั้งฮาร์ดแวร์ Gadget คุณภาพที่ให้ใช้งานผ่านระบบ OS ที่คุ้นเคย รับรองว่าจะกระตุ้นนักพัฒนาเกี่ยวกับโลกเสมือนอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าในประเทศต่างๆ จะยังไม่รองรับเต็มรูปแบบแต่หากรออีกนิดก็คงรองรับทั้งหมดแล้ว
[1] thairath. (June 6, 2023). Apple เปิดตัว Vision Pro แว่น VR ราคาหลักแสน. Retrieved from thairath
[2] mgronline. (Febuary 12, 2024). เครื่องหิ้ว 2 แสน! 5 ข้อจำกัด ‘Vision Pro’ ใช้งานในไทย. Retrieved from mgronline
Super App ประเภทของแอปพลิเคชัน ที่มีบริการต่างๆ อันจำเป็นกับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เกือบทั้งหมดในแอปเดียว และประเทศไทยก็เป็นประเทศที่มีการใช้สมาร์ตโฟนมากที่สุดในอาเซียน หลายคนจึงอาจเห็นซุปเปอร์แอปผ่านหูผ่านตามาแล้วแน่นอน ไปดูกันเลยว่าซุปเปอร์แอปคืออะไร และจะเป็นแอปไหนบ้าง
แอปพลิเคชันนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างคือ Everyday App คือแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมบริการทุกอย่างมาให้ผู้ใช้ผ่านอินเตอร์เฟซเดียว เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดอีคอมเมิร์ซที่ขยายตัว อย่างการชำระเงินหรือบิลต่างๆ หรือในธุรกิจอื่นเช่น เรียกรถมารับส่ง รถไฟฟ้า สั่งอาหาร และอาจจะมีระบบแชท ประชุมสายได้ด้วยในบางแอป
ซึ่งในประเทศไทยเราจึงอาจเห็นแอปเหล่านี้ โดยบางคนก็อาจโหมดมาใช้งานไปแล้ว พวกแอปที่ดูเหมือนจะไม่เผื่อแผ่ให้แอปอื่นๆ เลย แต่ก็เป็นแอปที่จำเป็นสำหรับหลายคน และนับว่าเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตอันสะดวกสบายอย่างมาก โดยจะมีข้อดีที่แอปทั่วๆ ไปไม่มีด้วย
ที่มา : ทำความรู้จัก SuperApp [1]
หัวข้อนี้จะมาพูดถึง แอปพลิเคชันที่เรียกได้ว่าเป็นแอปที่มีผู้ใช้งานเข้าใช้ทุกวัน ซึ่งมีบริการทุกอย่างแบบครบจบในที่เดียว โดยที่ไม่ต้องไปใช้แอปพลิเคชันอื่นๆ หรือบางคนก็อาจโหลดมาบ้างเพื่อตัวเลือกที่หลากหลาย
สำหรับแอบพลิเคชั่นที่ไปรอดในปัจจุบัน ก็อาจจะเป็นพวกแอปพลิเคชันที่มีความจำเป็นอยู่ ทั้งระบบการแชทที่บางหน่วยงานยังใช้ติดต่องาน ระบบการจ่ายเงินที่ง่ายสำหรับใช้บางคน การเดินทางและจ่ายค่าบริการรถไฟฟ้า การเรียกรถรับส่งต่างๆ จึงทำให้แอปพวกนี้อยู่ได้ ซึ่งแอปเหล่านี้ก็ต้องแลกมาด้วยการเพิ่มต้นทุนอย่างการกระหน่ำโปรโมชัน และการโฆษณาต่างๆ
ถึงแม้จะมีช่วงโควิดมาช่วยให้การใช้งานแอปเพิ่มขึ้นจริง แต่ก็มีผลกระทบอื่นๆ ที่มันลุกลามทั่วโลกอย่างการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อหนีเงินเฟ้อของทั่วโลก ต้นทุนของพลังงาน ให้ซุปเปอร์แอปในเอเชียหรือในไทยอยู่ในภาวะซบเซาเรื่อยๆ [2] นี่จึงอาจเป็นแรงกดดันมหาศาลของซุปเปอร์แอปหน้าใหม่ๆ ก็ได้
บทความนี้คือบทความที่พูดถึงแอปที่มีบริการครอบคลุมทุกอย่างโดยไม่ต้องเพิ่งแอปอื่นๆ เลย โดยจะพูดในเรื่องประโยชน์ และแอปที่มีการใช้งานในไทย รวมไปถึงแนวโน้มเกี่ยวกับความยั่งยืนของแอปพลิเคชันเหล่านี้ ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะรุ่งอยู่รึเปล่า
[1] bluebik. (January 28, 2022). ทำความรู้จัก Super App . Retrieved from bluebik
[2] The Economist. (June 29, 2023). Respawn Entertainment: Why Asia’s super-app companies are stuck in a rut. Retrieved from economist