น้ำแครอท (Carrot juice) น้ำผักที่มีรสหวาน สีส้มละมุน เครื่องดื่มจากผักที่มีคุณประโยชน์มากมาย นอกจากความอร่อย ยังช่วยเสริม บำรุงสุขภาพให้มีความแข็งแรงอีกด้วย หลายคนอาจยังไม่เคยดื่มน้ำแครอท เราขอแนะนำเลยว่าต้องลองสักครั้ง แล้วจะติดใจ ด้วยรสหวานจากธรรมชาติ ที่ไม่ต้องเติมเพิ่ม ก็อร่อยได้ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มสมุนไพร ที่สายรักสุขภาพต้องลอง
แครอท เป็นพืชผักสีส้ม ที่มีสารเบตาแคโรทีน มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และประโยชน์อีกมากมาย ซึ่งแครอท ในส่วนมากจะถูกนำมาใช้ ในการประกอบอาหาร ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ก็ทำได้ทั้งหมด รวมถึงทำเป็น น้ำแครอท น้ำผักไว้ดื่มได้อีกด้วย ซึ่งในแครอทก็มีสารอาหารที่มีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งช่วยบำรุง และรักษาโรคบางชนิดได้อีกด้วย
น้ำแครอท เป็นเครื่องดื่มสมุนไพร ที่มีรสหวานธรรมชาติ อร่อย กินง่าย สำหรับใครที่ชื่นชอบแครอท ต้องได้ลอง แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบในกลิ่น หรือรสของแครอท ก็สามารถนำมาผสมกับผลไม้ชนิดอื่นได้ เช่น น้ำแครอทผสมน้ำส้มคั้น หรือผสมน้ำมะนาว ก็ได้เช่นกัน
ที่มา : สรรพคุณและประโยชน์ของแครอท [1]
การทำน้ำแครอทดื่มด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุมากมาย เพียงมีแครอท หัวเดียวก็ทำได้แล้ว ซึ่งในวันนี้ เรามีวิธีการทำน้ำแครอทรสหวานอมเปรี้ยว ที่อร่อย และมีประโยชน์มาฝาก สามารถทำตามได้ง่ายๆ เพียงเตรียมวัตถุดิบดังต่อไปนี้ แครอท น้ำเชื่อม เกลือป่น น้ำมะนาว และน้ำต้มสุก ซึ่งวิธีทำ ก็จะมีเพียงแค่ 4 ขั้นตอนเท่านั้น
ที่มา : วิธีทำน้ำแครอทปั่น [2]
และสำหรับใครที่ยังรู้สึกว่า การทำน้ำแครอทปั่นนั้นยุ่งยาก ต้องใช้วัตถุดิบมากมาย หรือชอบดื่มน้ำแครอทแบบเข้มข้น เราก็มีวิธีง่ายๆ คือ นำแครอทที่ล้างสะอาด ปอกเปลือกแล้ว ใส่ลงในเครื่องคั้น แยกกากอัตโนมัติ ก็จะได้น้ำแครอทแบบเข้มข้นมาดื่ม สามารถเติมน้ำเชื่อมเพิ่มหวานได้
น้ำแครอท เป็นน้ำผักสีส้ม ที่มีทั้งความอร่อย มีประโยชน์มากมาย และยังสามารถทำดื่มเองได้ง่ายๆ สำหรับใครที่ชอบกินแครอท แต่เบื่อการกินแบบสดๆ เป็นหัว หรือต้มกินแบบเดิมๆ แล้ว การนำมาทำกินในรูปแบบของเครื่องดื่ม ก็มีประโยชน์ และความอร่อยไม่แพ้กัน โดยในบทความนี้ เรามีวิธีทำนำแครอท ที่สามารถนำไปทำตามได้ด้วยตนเอง แบบง่ายมากๆ ใครที่ทำอาหารไม่เป็น ก็สามารถทำน้ำแครอทดื่มเองได้
[1] Medthai. (July 4, 2020). สรรพคุณและประโยชน์ของแครอท. Retrieved from medthai
[2] WANDEE CLINIC. (July 13, 2019). วิธีทำน้ำแครอทปั่น. Retrieved from 1dclinic
น้ำทับทิม หรือ Pomegranate juice เป็นน้ำผลไม้ที่ให้ประโยชน์มากมาย นอกจากวิตามินซีสูงแล้ว ยังมีคุณประโยชน์อีกมากมาย รวมถึงความอร่อย ที่เมื่อได้ลิ้มลองแล้วจะต้องติดใจ สำหรับใครที่เป็นสายรักสุขภาพ ชื่นชอบอาหาร และเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย น้ำทับทิม สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน โดยในบทความนี้ เราจะบอกถึงประโยชน์อีกมากมาย ของน้ำทับทิมให้ทราบกัน
ทับทิม เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มาก ซึ่ง น้ำทับทิม ก็เป็นสุดยอดของน้ำผลไม้ เพื่อสุขภาพ ที่มีปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระสูง และยังมีทั้งวิตามินซี วิตามินบี 5 โพแทสเซียม ซึ่งเมื่อดื่มเป็นประจำ ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยง ในการเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้
แล้วถึงแม้ว่าน้ำทับทิม จะมีประโยชน์มากมาย แต่การดื่มน้ำทับทิม ที่มีขายตามท้องตลาดมากเกินไป อาจทำให้มีความเสี่ยง ในการเป็นโรคเบาหวานได้ เพราะในน้ำทับทิมตามท้องตลาด มีปริมาณของน้ำตาลถึง 11 - 12 % ซึ่งเป็นปริมาณที่เยอะ
ที่มา : 10 คุณประโยชน์จากทับทิม [1]
ที่มา : ดื่มน้ำทับทิม ก่อนนอน ดีต่อสุขภาพจริงหรือ? [2]
น้ำทับทิม เป็นน้ำผลไม้ที่เรียกได้ว่า เป็นสุดยอดน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ ที่มีคุณประโยชน์มากมาย ที่หากใครเป็นสายรักสุขภาพ ต้องไม่พลาดที่จะดื่มน้ำผลไม้ชนิดนี้ เพราะนอกจากจะมีสีสวย รสหวานอมเปรี้ยว ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นระหว่างวันแน่นอน แต่หากดื่มตอนกลางคืน ในช่วงก่อนนอน ก็ช่วยให้หลับสบายเช่นกัน เรียกว่าเป็นน้ำผลไม้ที่ให้ประโยชน์ที่หลากหลายจริงๆ
[1] sanook. (October 3, 2021). 10 คุณประโยชน์จากทับทิม. Retrieved from sanook
[2] True ID. (February 7, 2024). ดื่มน้ำทับทิม ก่อนนอน ดีต่อสุขภาพจริงหรือ?. Retrieved from food.trueid
น้ำฟักทอง หรือ Pumpkin juice เป็นน้ำผักที่หลายคนรู้กันดีว่า มีทั้งความอร่อย และมีประโยชน์ สำหรับสาวๆ หรือใครที่เป็นสายศัลยกรรม ยิ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแน่นอนว่า น้ำฟักทอง เป็นตัวช่วยชั้นดี ในการช่วยลดบวมจากการทำศัลยกรรมได้ ซึ่งนอกจากนี้ น้ำฟักทองจะมีประโยชน์ และวิธีทำยังไงบ้าง ติดตามอ่านต่อกันได้เลย
น้ำฟักทอง (Pumpkin juice) เครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพ ด้วยคุณประโยชน์ จากสารอาหารมากมาย ที่อยู่ในฟักทอง พร้อมกับกลิ่น และรสชาติที่ดี ทำให้น้ำฟักทอง เป็นน้ำผักที่ดื่มได้ง่าย ด้วยความอร่อย โดยในน้ำฟักทอง จะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย และให้พลังงานกว่า 20 กิโลแคลอรี่
ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ในหมู่ของผู้ที่ทำศัลยกรรมว่า น้ำฟักทองมีส่วนช่วยในการลดบวมได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่ต้องพึ่งยาลดบวมเพียงอย่างเดียว สำหรับใครที่ไม่ชอบการกินยาลดบวม น้ำฟักทองช่วยได้ แต่นอกจากการลดบวม น้ำฟักทองก็มีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ที่หากใครได้รู้แล้ว ต้องอยากดื่มแน่นอน
ที่มา : ประโยชน์ และข้อควรระวังการบริโภค [1]
วิธีการทำน้ำฟักทองด้วยตนเอง ถือว่าเป็นการทำน้ำผักที่ไม่ยุ่งยาก แต่มีความอร่อยอย่างมาก ด้วยการใช้วัตถุดิบเพียง 3 อย่าง ก็สามารถทำน้ำฟักทองดื่มเองได้ง่ายๆ โดยวัตถุดิบที่ใช้ ก็จะมี ฟักทอง น้ำเปล่า และน้ำตาล และวิธีการทำก็มีเพียงแค่ 5 ขั้นตอนเท่านั้น
ที่มา : น้ำฟักทอง [2]
น้ำฟักทอง ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำผัก แต่ด้วยสีสันของน้ำ และรสชาติอมหวาน จึงทำให้เป็นน้ำผักที่สามารถดื่มได้ง่าย แถมยังได้ประโยชน์อีกด้วย โดยในบทความนี้ เราได้บอกถึงประโยชน์ของน้ำฟักทอง และวิธีการทำแบบง่ายๆ ไว้ให้แล้ว สามารถไปลองทำดื่มด้วยตนเอง รับรองว่าจะติดใจ แต่หากใครที่ไม่อยากทำเอง ก็สามารถหาซื้อน้ำฟักทองได้ ตามร้านขายน้ำเต้าหู้ แต่ขอบอกว่า อาจมีขายเป็นบางร้านนะ
[1] hello คุณหมอ. (October 19, 2022). ประโยชน์ และข้อควรระวังการบริโภค. Retrieved from hellokhunmor
[2] wongnai. (July 28, 2020). น้ำฟักทอง. Retrieved from wongnai
น้ำมะเขือเทศ (Tomato Juice) น้ำผักสีแดง ที่มีทั้งคนชอบ และคนเกลียด ด้วยรสชาติ ด้วยกลิ่นที่หลายคนอาจไม่ชอบ แต่หากพูดถึงคุณประโยชน์ของน้ำมะเขือเทศแล้ว หลายคนที่ถึงแม้จะไม่ชอบ แต่ก็จำใจ และฝืนที่จะกิน เพื่อประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ และผิวพรรณ ซึ่งน้ำมะเขือเทศ จะมีประโยชน์อะไร นอกจากให้ผิวพรรณที่ดูดีแล้ว ตามไปดูกัน
มะเขือเทศสีแดง มีการนำไปทำเป็นเครื่องดื่มครั้งแรกในปี ค.ศ. 1917 ที่โรงแรมเฟรนช์ลิกสปริงส์ ในรัฐอินเดียนา โดยหลุยส์ เพอร์ริน [1] ซึ่งแรกเริ่มของการทำน้ำมะเขือเทศ มาจากการที่เขา ไม่มีน้ำส้มให้บริการแขก และต้องการหาน้ำอย่างอื่น เพื่อทดแทนในเวลาเร่งด่วน จึงได้ใช้น้ำที่บีบออกมาจากมะเขือเทศ ผสมกับวัตถุดิบอื่นๆ ก็ทำให้ได้รสชาติที่พอดี จึงกลายมาเป็นค็อกเทลน้ำมะเขือเทศ นับตั้งแต่นั้นมา
ที่มา : ประโยชน์ของน้ำมะเขือเทศ มีอะไรบ้าง ? [2]
ที่มา : ดื่ม“น้ำมะเขือเทศ”ไม่ก่อโรคไตแต่เสี่ยงอ้วน [3]
น้ำมะเขือเทศ เป็นน้ำผักที่ให้ประโยชน์ได้มากมาย แต่นอกจากประโยชน์แล้ว หากกินในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย หรือต่อสุขภาพได้เช่นกัน ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการกินมะเขือเทศแบบน้ำ หรือแบบลูกสดๆ หากต้องการได้รับสารอาหาร หรือประโยชน์ที่ดีกับร่างกาย ก็ควรมีวิธีการกินที่เหมาะสม เพื่อประโยชน์จากมะเขือเทศที่ดีที่สุด
[1] วิกิพีเดีย. (February 18, 2023). น้ำมะเขือเทศ. Retrieved from wikipedia
[2] KAPOOK. (September 20, 2021). ประโยชน์ของน้ำมะเขือเทศ มีอะไรบ้าง ?. Retrieved from women.kapook
[3] สสส. (April 19, 2016). ดื่ม“น้ำมะเขือเทศ”ไม่ก่อโรคไตแต่เสี่ยงอ้วน. Retrieved from thaihealth
เหล้าบ๊วย หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า อุเมะชู (Umeshu) เป็นเหล้าที่มีรสชาติอร่อย และยังกินง่าย ละมุนลิ้น ไม่บาดคอ แถมยังมีสรรพคุณที่ช่วยเรื่องสุขภาพอีกด้วย ซึ่งเหล่าบ๊วย ก็เป็นเหล้าของญี่ปุ่น ที่มีขั้นตอนการทำที่เรียบง่ายอย่างมาก สามารถทำเองได้ที่บ้าน ในบทความนี้ จะบอกถึงคุณประโยชน์ และวิธีการทำเหล้าบ๊วยแบบง่ายๆ ได้ด้วยตนเอง
เหล้าบ๊วย หรืออุเมะชู (Umeshu) เป็นเหล้าชนิดหนึ่ง ของญี่ปุ่น ที่ทำจากลูกพลัม หรือที่คนไทยเรียกว่าบ๊วย เป็นการนำมาหมักดองไว้ กับส่วนผสมอื่นๆ จนถึงระยะเวลา และรสชาติที่พอดี จึงนำมากินกัน ในสมัยก่อน เหล้าบ๊วยถูกนำไปใช้เพื่อเป็นยา ในการบรรเทาอาการเจ็บคอเท่านั้น ด้วยกฎหมายที่เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในสมัยนั้น มีความเข้มงวดมาก
แต่ภายหลังที่ได้มีการผ่อนปรนกฎหมาย เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี้ ทำให้ชาวญี่ปุ่น หันมาทำเหล้าบ๊วยกันเอง และเริ่มขยายไปจนเป็นการทำเหล้าบ๊วยขาย โดยการหมักเหล้าบ๊วย จะใช้เวลาอยู่ที่ 6 เดือน – 1 ปี ก็จะได้เหล้าบ๊วย ที่มีรสชาติเปรี้ยวผมหวาน และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของบ๊วย ที่เมื่อได้ดื่มแล้ว เพิ่มรสชาติให้อร่อย กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ที่มา : ชวนมาทำ “เหล้าบ๊วย” [1]
ที่มา : "เหล้าบ๊วย" กับประโยชน์ที่คนญี่ปุ่นหลงรัก [2]
เหล้าบ๊วย เป็นเหล้าที่ทำจากผลไม้ ที่มีวิธีการทำที่ง่ายมาก สามารถทำได้ด้วยตนเอง แถมยังมีคุณประโยชน์มากมาย ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ แต่รู้หรือไม่ว่า ที่ประเทศไทย ก็มีกลุ่มคนที่นิยมทำเหล้าบ๊วยกินเองเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่า ข้อมูลของเหล้าบ๊วย วิธีทำ และประโยชน์ที่บอกไปในบทความนี้ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้ การเลือกชนิดของเครื่องดื่มสำหรับสายปาร์ตี้ มีความง่ายมากยิ่งขึ้น
[1] SPRING GREEN EVOLUTION. (March 9, 2022). ชวนมาทำ “เหล้าบ๊วย”. Retrieved from sgethai
[2] sanook. (January 3, 2021). "เหล้าบ๊วย" กับประโยชน์ที่คนญี่ปุ่นหลงรัก. Retrieved from sanook
Raspberry หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาไทยว่า "ราสป์เบอร์รี" เป็นผลไม้สีแดง ที่มีรสชาติลงตัว ระหว่างความหวาน และความเปรี้ยว มีกลิ่นหอม ต้นกำเนิดมาจากยุโรป และเอเชียเหนือ ราสป์เบอร์รีเป็นผลไม้ ที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งทั้งหมดนี้มีประโยชน์มากมาย ต่อสุขภาพของเรา
ราสป์เบอร์รี เป็นผลไม้ที่มีประวัติยาวนาน ในภูมิภาคยุโรป เอเชีย และอเมริกาเหนือ ราสป์เบอร์รีถูกใช้ และปลูกมาตั้งแต่ยุคโบราณ ทั้งเป็นอาหาร และเพื่อการรักษาโรค ในหลายวัฒนธรรม ในยุคกลาง ราสป์เบอร์รีถูกนำมาใช้ในยุโรป เพื่อการประกอบอาหาร และการทำยา โดยมีการบันทึกสูตรอาหาร และยาสมุนไพร
การเพาะปลูกราสป์เบอร์รี เริ่มต้นขึ้นในยุโรป ในศตวรรษที่ 16 และต่อมาได้แพร่กระจาย ไปยังส่วนต่างๆ ของโลก โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ [1] ซึ่งกลายเป็นผู้ผลิตราสป์เบอร์รีรายใหญ่ ในปัจจุบัน ราสป์เบอร์รีได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และถูกใช้ในหลากหลายรูปแบบ
ราสป์เบอร์รี มีวิตามิน C สูง ซึ่งช่วยในการบำรุงผิวพรรณ ลดอาการอักเสบ และเสริมระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งดีต่อระบบย่อยอาหาร และช่วยลดความเสี่ยง ของโรคหัวใจ และโรคอ้วน
ราสป์เบอร์รียังมีแร่ธาตุ อย่างแมงกานีส ซึ่งมีส่วนช่วยในกระบวนการ เมตาบอลิซึม และต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกัน ความเสียหายของเซลล์ และต่อสู้กับโรคต่างๆ
ราสป์เบอร์รี สามารถทานได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทานสดๆ การทำเป็นสมูทตี้ เพิ่มลงในซีเรียล หรือโยเกิร์ตสำหรับมื้อเช้า หรือใช้เป็นส่วนผสมในขนม เบเกอรี่ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ทำเป็นแยม หรือซอสที่ใช้ราดขนม ไอศกรีม หรือกับเนื้อสัตว์ก็เข้ากัน เช่นสเต๊กเนื้อ
แม้ว่าราสป์เบอร์รี จะเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังในทาน เช่น ความเสี่ยงของการแพ้กับยาบางชนิด การปนเปื้อนของสารเคมี เช่นจากยาฆ่าแมลง ควรล้างให้สะอาด และควรเก็บรักษาให้เหมาะสม เนื่องจากเป็นผลไม้ที่บอบบาง และเสียได้ง่าย
Raspberry เป็นผลไม้ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีประโยชน์ มากมายต่อสุขภาพ ด้วยรสชาติที่หวาน และเปรี้ยวลงตัว ทำให้เป็นที่ชื่นชอบ และสามารถนำมาทำเมนูอาหาร ทั้งอาหารคาว หรือขนมหวาน การเพิ่มราสป์เบอร์รี เข้าไปในอาหารประจำวัน สามารถช่วยเพิ่มคุณค่า ทางโภชนาการ เพื่อสุขภาพที่ดีได้
[1] medthai. (September 04, 2020). 16 สรรพคุณและประโยชน์ของราสเบอร์รี่. Retrieved from medthai
Ebiko หรือไข่กุ้งสีส้ม ที่มีรสชาติหวาน และเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ เป็นหนึ่งในส่วนประกอบ วัตถุดิบยอดนิยม ในโลกของอาหารญี่ปุ่น ที่ช่วยเพิ่มความอร่อย และความน่าสนใจ ให้กับจานอาหารได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นใน Sushi Sashimi หรือแม้แต่ อาหารทานเล่น
เอบิโกะ ให้รสชาติที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เป็นที่ชื่นชอบ ของใครหลายๆคน และผู้ที่ชื่นชอบการลองรสชาติใหม่ๆ บทความนี้ เราจะพาคุณดำดิ่ง สู่โลกแห่งรสสัมผัส จากท้องทะเลไปด้วยกัน
Ebiko หรือที่เราคุ้นกันในชื่อ “ไข่กุ้ง” จริงๆแล้ว มันได้มาจากไข่ของปลา Capelin (Mallotus villosus) ซึ่งเป็นปลาขนาดเล็ก [1] ที่พบในน่านน้ำเย็น ของมหาสมุทรแอตแลนติก และอาร์กติก ปลา Capelin เป็นแหล่งอาหารสำคัญของปลาชนิดอื่นๆด้วย รวมถึงวาฬ
เอบิโกะ มีรากฐานมาจาก วัฒนธรรมการกิน ของญี่ปุ่นที่ยาวนาน ไข่ปลา Capelin ได้รับความนิยม เนื่องจากมีรสชาติที่หวาน และเนื้อสัมผัส ที่กรุบกรอบ มักใช้เป็นท็อปปิ้ง เพื่อเพิ่มรสชาติ และด้วยสีสัน ที่น่าดึงดูดการใช้ไข่ปลาในอาหาร ยังสะท้อนถึง ความเชี่ยวชาญ และความประณีต ในศิลปะการปรุงอาหารอีกด้วย
Ebiko เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งมีประโยชน์และสารอาหาร ที่สำคัญหลายอย่าง
Ebiko หรือไข่ปลา Capelin มีรสชาติที่ละเอียดอ่อน และเป็นเอกลักษณ์ มีความหวานเล็กน้อย พร้อมกับความเค็มจากน้ำทะเล ให้ความรู้สึกสดชื่นเมื่อทาน เนื้อสัมผัสเอบิโกะ มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ กรุบกรอบ และแตกในปากเมื่อทาน
Ebiko เป็นวัตถุดิบที่น่าสนใจ สามารถนำไปสร้างสรรค์ เป็นเมนูอาหาร ได้หลายแบบ เช่น
ในการทาน Ebiko ควรระวังเรื่องอาการแพ้ไข่ปลา หรืออาหารทะเล ควรระวังในเรื่องปริมาณ Sodium, Cholesterol และไขมัน ที่ค่อนข้างสูง อาจส่งผลต่อสุขภาพได้ ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่มีคุณภาพ และความสดใหม่
Ebiko หรือไข่ปลา Capelin เป็นวัตถุดิบยอดนิยม ในอาหารญี่ปุ่น ที่มีรสชาติหวาน และเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น โปรตีน, Omega 3, Vitamin, และแร่ธาตุ แต่ต้องระวังปริมาณ Sodium เอบิโกะนิยมใช้เป็น Toppings ใน Sushi หรือเมนูอื่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ และความน่าสนใจในอาหาร
[1] big fridge boy. (July 25, 2023). เอบิโกะ. Retrieved from bigfridgeboy
Kani Miso หรือมันปูญี่ปุ่น เป็นอาหารญี่ปุ่น ที่ทั้งเข้มข้น และเต็มไปด้วยรสชาติที่เข้มข้น หอมมันนัว ถูกใจใครหลายๆคน คานิมิโสะ ทำมาจากมันปู ที่ผสมกับ Miso และส่วนผสมอื่นๆ เพื่อสร้างรสชาติที่ลึกล้ำ และมีเอกลักษณ์
คานิมิโสะเป็นอาหารญี่ปุ่น ที่ทำจากมันของปู และเนื้อปูที่ผสมกับ Miso (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) และส่วนผสมอื่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติที่เข้มข้น [1] มีความเฉพาะตัว มีเริ่มทานในวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น มานานหลายศตวรรษ
แสดงถึงการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น และการประยุกต์ใช้ วิธีการปรุงอาหารแบบดั้งเดิม เพื่อสร้างอาหารที่ทั้งอร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นที่ชื่นชอบ สำหรับคนที่รักอาหารทะเล มักจะเสิร์ฟเป็นส่วนหนึ่ง ของมื้ออาหารหลัก หรือเป็นอาหารว่างพิเศษ ในร้านอาหารญี่ปุ่น
คานิมิโสะมีโปรตีนที่ดีมากจากเนื้อปู และยังมีกรดไขมัน Omega 3 ที่มีประโยชน์ ต่อสุขภาพหัวใจ และสมอง นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วย Vitamin B, Selenium และแร่ธาตุอื่นๆ ที่ช่วยเสริมสร้าง ระบบภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรังต่างๆ
คานิมิโสะมีรสชาติที่เข้มข้น และซับซ้อน มีการผสมผสานระหว่าง ความหวานของเนื้อปู กับรสเค็มมัน ของมันปูและ Miso ให้เนื้อสัมผัส ที่เนียนนุ่ม และละมุนลิ้น มีเนื้อให้เคี้ยวเล็กเล็กน้อย จากส่วนผสมของเนื้อปู ที่ไม่ได้บดละเอียด ทำให้เป็นอาหาร ที่มอบประสบการณ์รสชาติ ที่ไม่เหมือนใคร และน่าประทับใจ
คานิมิโสะเป็นวัตถุดิบที่มีความหลากหลาย สามารถนำไปใช้ในการทำเมนูต่างๆ เช่น
คานิมิโสะ เป็นอาหารญี่ปุ่น ที่ทำจากมันปู และเนื้อปู ผสมกับ Miso มอบรสชาติที่เข้มข้น และหลากหลาย มีประโยชน์จากโปรตีน และกรดไขมัน Omega 3 นอกจากนี้ยังมีวิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญ สามารถนำมาทำเป็นเมนูต่างๆ ที่หลากหลายได้ ควรทานอย่างพอดี และระมัดระวังเรื่องความสด
[1] foodguru. (December 10, 2021). กินคานิมิโซะ มันปูญี่ปุ่น. Retrieved from foodguru
Ama Ebi หรือกุ้งหวานญี่ปุ่น เป็นวัตถุดิบชั้นเลิศ ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น ด้วยรสชาติที่หวาน และเนื้อที่นุ่มละมุน กุ้งหวานได้กลายเป็นส่วนสำคัญ ในเมนูซูชิ และซาชิมิ บทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับกุ้งหวานญี่ปุ่นกัน
กุ้งหวานญี่ปุ่น มีประวัติที่มา จากการประมง ในน่านน้ำเย็น ของมหาสมุทรแปซิฟิก โดยเฉพาะรอบๆ ภูมิภาคฮอกไกโดของญี่ปุ่น และน่านน้ำอื่นๆ ที่มีอุณหภูมิต่ำ กุ้งชนิดนี้ ได้รับความนิยมในอาหารญี่ปุ่น เนื่องจากรสชาติที่หวานตามธรรมชาติ และมีเนื้อที่นุ่ม
นอกจากนี้ ยังถือเป็นวัตถุดิบพิเศษ ในการทำซูชิ และซาชิมิ [1] การนำกุ้งหวานมาใช้ในอาหารญี่ปุ่น ได้เพิ่มความหลากหลาย และความสนใจ ในวัฒนธรรมอาหารทะเลญี่ปุ่น โดยเฉพาะในงานเลี้ยง และร้านอาหารชั้นนำ ที่ต้องการนำเสนอวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง และรสชาติที่โดดเด่น
กุ้งหวานญี่ปุ่น เป็นแหล่งโปรตีน ที่มีแคลอรี่ต่ำ ช่วยในการสร้าง และซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกาย มีกรดไขมัน Omega 3 ซึ่งดีต่อสุขภาพหัวใจ และสมอง รวมถึงลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด
นอกจากนี้ กุ้งหวานญี่ปุ่นยังอุดมไปด้วย Vitamin B12 ซึ่งสำคัญต่อการทำงาน ของระบบประสาทและการสร้าง DNA และมีแร่ธาตุ เช่น Selenium ที่ช่วย Anti oxidant และดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย
กุ้งหวานญี่ปุ่น มีรสชาติหวานธรรมชาติอย่างชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากกุ้งทั่วไป ให้ความรู้สึกสดชื่นเมื่อทาน สำหรับเนื้อสัมผัส เป็นเนื้อกุ้งที่นุ่ม และละเอียด ละลายในปากได้ง่าย เมื่อทานสดแบบดิบ จะรู้สึกถึงความกรุบ และเด้งเล็กน้อย
กุ้งหวานญี่ปุ่น สามารถนำมาทำเมนูอาหารหลากหลาย โดยเฉพาะในอาหารญี่ปุ่น เช่น
ข้อแนะนำในการทานกุ้งหวานญี่ปุ่น ควรคำนึงถึงความสด เพื่อรักษารสชาติหวาน ตามธรรมชาติ และเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุน ที่จะอร่อยที่สุด เมื่อได้ทานแบบสดๆ
ข้อแนะนำคือ ควรลองผสมผสานกุ้งหวานญี่ปุ่น เข้ากับเมนูอาหารที่หลากหลาย เพื่อสัมผัสประสบการณ์รสชาติใหม่ๆ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเฉพาะเช่น โรคเกาต์ควรทานในปริมาณที่จำกัด และผู้ที่แพ้อาหารทะเลควรหลีกเลี่ยง
กุ้งหวานญี่ปุ่น เป็นของขวัญจากท้องทะเล ที่มอบทั้งรสชาติอันหวานละมุน แถมมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย การเลือกทานกุ้งหวานญี่ปุ่น ไม่เพียงแต่เพิ่มความหลากหลาย ในเมนูอาหาร แต่ยังมีประโยชน์ และดีต่อสุขภาพ ในหลายๆด้านอีกด้วย
[1] fun! japan. (February 16, 2021). คู่มือโดยละเอียดเกี่ยวกับซูชิ. Retrieved from fun-japan
Foie Gras เป็นตับห่านหรือเป็ด ที่ได้รับการเลี้ยงดู และปรุงสุกอย่างพิถีพิถัน ฟัวกราส์มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และเป็นที่รักในหมู่ Food Lover ด้วยเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม และรสชาติที่ลึกล้ำ เป็นอาหารที่สะท้อนถึงความประณีตในการปรุง และยังเป็นการเฉลิมฉลอง วัฒนธรรมการกินอันงดงาม
Foie Gras หรือตับห่าน หรือเป็ดที่มีขนาดใหญ่ เป็นหนึ่งในเครื่องเคียงที่มีชื่อเสียง และมีความหรูหราในอาหารฝรั่งเศส มีประวัติยาวนานหลายพันปี โดยมีหลักฐานแรก เกี่ยวกับการทานฟัวกราส์ ในอียิปต์โบราณ ต่อมาวัฒนธรรมนี้ ได้ถูกสืบทอดผ่านชาวกรีก และโรมัน และได้รับการพัฒนา และปรับปรุงเทคนิคการผลิตในฝรั่งเศส จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความประณีต และรสชาติอันเข้มข้นที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน
ฟัวกราส์ ถือเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพเยี่ยม แถมมี Vitamin A, D, E, B6, B12 และแร่ธาตุเช่น Iron และ Selenium ซึ่งสำคัญต่อสุขภาพกระดูก ระบบประสาท และระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ฟัวกราส์ ยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัว ที่ดีต่อหัวใจ แม้ว่า Foie Gras จะมีประโยชน์ทางโภชนาการ แต่ก็ควรบริโภคอย่างพอเหมาะเนื่องจากมีไขมันและคอเลสเตอรอลในปริมาณสูง
ฟัวกราส์ เป็นอาหารหรูที่ทำมาจากตับห่านหรือเป็ดที่มีรสชาติหวานมัน ละมุนละไม มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มเนียน และละลายในปาก มีความเข้มข้นอย่างลงตัว แตกต่างจากตับปกติ เนื้อสัมผัสของฟัวกราส์ มักจะมีความ Creamy ละลายในปาก [1] ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมอย่างมาก มักเสิร์ฟเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย หรืออาหารจานหลักในร้านอาหารหรู
ฟัวกราส์ มีปริมาณไขมัน และคอเลสเตอรอลที่ค่อนข้างสูง ควรระมัดระวัง สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจ หรือระดับคอเลสเตอรอลสูง ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากการบริโภคมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ และอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกพูดถึง คือวิธีการเลี้ยงบางวิธี อาจถูกมองว่าขัดต่อจริยธรรม ในการเลี้ยงสัตว์ ควรตรวจสอบแหล่งที่มา และเลือกฟัวกราส์ จากฟาร์มที่ใช้วิธีการเลี้ยงที่เหมาะสม
ฟัวกราส์ เป็นอาหารหรูสุดอร่อย ที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม และรสชาติเข้มข้น เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา ในวัฒนธรรมการกินฝรั่งเศส มีประโยชน์ทางโภชนาการ เช่นมีโปรตีนและวิตามิน มีข้อควรระวัง สำหรับในบางคน ที่มีปัญหาสุขภาพ เกี่ยวกับคอเลสเตอรอลสูง ควรเลือกฟัวกราส์ จากฟาร์มที่คำนึงถึงจริยธรรม ในการเลี้ยงสัตว์ เพื่อเพลิดเพลินกับความอร่อยและเสน่ห์ของฟัวกราส์ได้อย่างเต็มที่
[1] mgronline. (September 14, 2006). ก็องเตส ดู บาร์รี. Retrieved from mgronline