betdog
betdog

เขาโดโลไมท์ ส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ ที่ทอดยาวผ่านหลายประเทศ ในทวีปยุโรป ตั้งอยู่ในทางตอนเหนือของประเทศ อิตาลี ครอบคลุมพื้นที่หลายเมือง เช่น เทรนโต, โบลซาโน, เบลลูโน, เวโรนา, วิเชนซา, อูดีเน และปอร์เดโนเน

เขาโดโลไมท์ ได้รับยกย่อง หนึ่งในเทือกเขาที่สวยที่สุด

เขาโดโลไมท์นั้นโด่งดังไปทั่วโลก ในฐานะดินแดนแห่งธรรมชาติ ที่น่าจดจำ ได้รับการยกย่องให้เป็น มรดกโลกทางธรรมชาติ โดยองค์การยูเนสโก้ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ยากจะหาที่ไหนเปรียบเทียบได้ ดังนี้

ยอดเขาสูงเสียดฟ้า รูปทรงแปลกตา

ภูเขาหินปูนที่เรียงรายกัน เป็นทิวทัศน์อันสละสลวย ยอดเขาแต่ละลูก มีรูปทรงแหลมชัน โดดเด่นท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม บ้างก็เหมือนหอคอย บ้างก็เหมือนกำแพงเมืองโบราณ สร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้กับผู้พบเห็นกันอย่างมาก [1]

ขึ้นชื่อเรื่องแสงอาทิตย์ ที่เปล่งประกาย

มีชื่อเสียงโด่งดัง เรื่องปรากฏการณ์ Enrosadira เมื่อหินปูนกระทบกับแสงแดด ยามพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก  ยอดเขาเปลี่ยนเป็นสีชมพูจางๆ สวยงามราวกับภาพวาด บางส่วนเป็นสีส้ม ผสมแดง สีน้ำตาล ตัดกับสีท้องฟ้า สามารถชมแสงนี้ได้จาก เทือกเขา Tre Cime di Lavaredo, เทือกเขา Catinaccio, ยอดเขา Monte Civetta [2]

เดินทางไป เขาโดโลไมท์ ด้วยวิธีใด ?

การเดินทางไปยังโดโลไมท์นั้น มีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความสะดวก ความชอบ และงบประมาณของคุณ

แลนด์มาร์คเด่น 5 แห่ง ไม่ควรพลาด

เขาโดโลไมท์
  1. ซานตา มัดดาเลนา (Santa Maddalena) หมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา
  2. ทะเลสาบเบรียส (Braies Lake) ทะเลสาบสีฟ้าใส โอบล้อมไปด้วยภูเขาหินปูน
  3. ทะเลสาบดอบบิเอโค (Dobbiaco Lake) ทะเลสาบกลางหุบเขา ที่พักผ่อนแบบจริงใจ
  4. ออร์ทิเซ (Ortisei) หมู่บ้านน่ารัก ตั้งอยู่บนเทือกเขาโดโลไมท์ เต็มไปด้วยบ้านเรือนสีสันสดใส
  5. ทะเลสาบมิซูรินา (Misurina Lake) ตั้งอยู่บนยอดเขา จุดชมที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ของเทือกเขาโดโลไมท์

ที่มา: 5 แลนด์มาร์คงามแห่งโดโลไมท์ [3]

ที่พักใกล้เขาโดโลไมท์

และสามารถดูที่พักอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ Tripadvisor

สรุป เขาโดโลไมท์

สรุป เขาโดโลไมท์ สถานที่เที่ยวทางธรรมชาต อีกหนึ่งที่ ที่นักท่องเที่ยว ต้องประทับใจเป็นแน่แท้ เพราะป่าไม้โอบล้อมคุณ อากาศดี ควรค่าแก่เอาใจที่เฉา ไปผ่อนคลาย

อ้างอิง

[1] grazietravel. (2021-2024). เทือกเขาโดโลไมท์ Dolomite ธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งอิตาลีเหนือ. Retrieved from grazietravel

[2] patourlogy. (March 14, 2024). สัมผัสมนต์เสน่ห์ของเทือกเขาอิตาลี. Retrieved from patourlogy

[3] freebirdtour. (March 22, 2022). 5 แลนด์มาร์คงามแห่งโดโลไมท์. Retrieved from freebirdtour

ภูเขาโรไรมา ภูเขาที่สูงที่สุด ในเทือกเขาพากาไรมา ตั้งอยู่บนที่ราบสูงเทปุย ในทวีปอเมริกาใต้ ติดพรมแดนระหว่าง 3 ประเทศ ได้แก่ เวเนซุเอลา บราซิล และกายอานา กลายเป็นเส้นแบ่ง เขตแดนตามธรรมชาติ

ลักษณะ ภูเขาโรไรมา

ภูเขาโรไรมา มีรูปร่างคล้ายกับโต๊ะ ยอดเขาเป็นพื้นที่ ราบกว้างใหญ่ รายล้อมไปด้วย หน้าผาสูงชัน มีความสูงจากฐาน ถึงยอดเขาประมาณ 2,338 เมตร และมีความกว้าง ประมาณ 31 ตารางกิโลเมตร [1]

ความเก่าแก่ของภูเขาโรไรมา

ขึ้นชื่อเรื่องความเก่าแก่ จัดอันดับว่าเป็น การก่อตัวทางธรณีวิทยา ที่เก่าแก่ที่สุดบนโลก มีอายุประมาณ 2 พันล้านปี เลยทีเดียว ซึ่งย้อนกลับไปไกลถึง ยุคพรีแคมเบรียน

ในอดีต ภูเขาลูกนี้เคยเป็นที่ราบสูง หินทราย ขนาดมหึมา แต่ด้วยกาลเวลา และแรงกัดเซาะของธรรมชาติ ได้ถูกเปลี่ยนสภาพ จนกลายเป็นยอดเขา ที่มีหน้าผารอบด้าน สูงชันถึง 400 เมตร

ที่มา: สถานที่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และมันเรียกว่าภูเขาโรไรมา [2]

ระบบนิเวศ บนยอดเขาโรไรมา

ด้วยความเก่าแก่ และสภาพแวดล้อมที่โดดเด่น ภูเขาโรไรมา จึงรองรับ ระบบนิเวศ ที่ไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่น ที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศ ที่เย็นสบาย ชื้นแฉะ และเต็มไปด้วยหมอก ปกคลุม

สถานที่น่าสนใจบน ภูเขาโรไรมา

ภูเขาโรไรมา

ยอดเขาโรไรมา จุดหมายหลัก ของการท่องเที่ยวบนภูเขาโรไรมา นักท่องเที่ยวจะต้องเดินป่า เพื่อขึ้นไปยังยอดเขา ใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ระหว่างทางจะได้กลิ่นอาย ของธรรมชาติอย่างแท้จริง พืชพรรณแปลกตา สัตว์ป่าหายาก และวิวสวยงาม คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ Kapook

ทะเลสาบที่เกิดจากธรรมชาติ

บนภูเขาโรไรมา มีทะเลสาบหลายแห่ง แอ่งน้ำเหล่านี้เกิดขึ้นเอง ตามธรรมชาติ จากการกัดเซาะของน้ำฝน บนหินทราย มีขนาดต่างๆ กัน บางแห่งมีขนาดเล็ก เพียงไม่กี่เมตร บางแห่งใหญ่พอ ที่จะว่ายน้ำได้ ได้แก่ แอ่งน้ำสายรุ้ง แอ่งน้ำจาคูซซี่ แอ่งน้ำกบ [3]

ข้อมูลเพิ่มเติมที่ต้องรู้

สรุป ภูเขาโรไรมา

สรุป ภูเขาโรไรมา สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ซึ่งมีจุดเด่นหลายอย่าง ที่ทำให้นักท่องเที่ยวสนใจ แล้วยิ่งเป็นสายที่ลุยทุกสถานการณ์แล้วล่ะก็ ที่นี้อาจใช่สำหรับพวกคุณ

อ้างอิง

[1] wikipedia. (January 22, 2023). เขาโรไรมา. Retrieved from wikipedia

[2] facebook. (October 15, 2023). สถานที่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลd และมันเรียกว่าภูเขาโรไรมา. Retrieved from facebook

[3] blockdit. (April 14, 2019). โรไรมา เขายอดตัดอันน่ามหัศจรรย์ของโลก. Retrieved from blockdit

ยอดเขาเดนาลี เต็มไปด้วยอันตรายจากธารน้ำแข็ง รอยแยก และสภาพอากาศที่แปรปรวน เฉพาะผู้พิชิตที่แท้จริงเท่านั้น ที่จะสัมผัสยอดเขาได้

ข้อมูลเกี่ยวกับ ยอดเขาเดนาลี

ยอดเขาเดนาลี เคยมีชื่อเรียกว่า Mount McKinley มาก่อน แต่ในปี 2015 ได้มีการเปลี่ยนชื่อ อย่างเป็นทางการเป็น Denali ซึ่งสอดคล้องกับชื่อ ที่ใช้เรียกโดยชาวพื้นเมือง อะแลสกา มานานหลายศตวรรษ

นับว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ในทวีปอเมริกาเหนือ เนื่องจากมีความสูง 6,190 เหนือระดับน้ำทะเล ทำให้เป็นยอดเขาที่โดดเด่น และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ภูมิประเทศโดยรอบ จะมีภูเขาเป็นป่าไม้ ทุ่งหญ้า และทุ่งทุนดรา

ที่มา: Mount Denali [1]

สิ่งมหัศจรรย์ของธารน้ำแข็ง บนยอดเขาเดนาลี

ยอดเขาเดนาลีมีธารน้ำแข็งมากมาย ธารน้ำแข็งเหล่านี้ เกิดจากหิมะที่ตกหนัก บนนยอดเขา และไหลลงตามด้านข้างของภูเขา ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุด [2] เป็นจุดแลนมาร์คสำคัญ ในการท่องเที่ยว สามารถเชยชมชม ธารน้ำแข็งเหล่านี้ ได้หลายวิธี เช่น การเดินป่า การปีนเขา หรือการล่องเรือ

ยอดเขาที่สูง เป็นที่ต้องตาของนักปีนเขา

ยอดเขาเดนาลีเป็นจุดหมาย ปลายทางยอดนิยม สำหรับนักปีนเขาและนักผจญภัย การปีนเขาเดนาลีนั้น ท้าทายและอันตราย เนื่องจากสภาพอากาศที่รุนแรง และภูมิประเทศที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สามารถพิชิตยอดเขาได้สำเร็จ จะได้รับรางวัลจากทิวทัศน์ ที่สวยงาม และประสบการณ์ที่น่าตราตรึง จนหมดลมหายใจ

ใครคือผู้ชิต ยอดเขาเดนาลี ครั้งแรก

ยอดเขาเดนาลี

การพิชิตยอดเขาเดนาลีครั้งแรก เกิดขึ้นโดยคณะนักปีนเขา 4 คน พวกเขาประสบความสำเร็จ ในการพิชิตยอดเขาเดนาลี เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2456 (ค.ศ. 1913) ผ่านเส้นทาง West Buttress Route ซึ่งเป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุด และปลอดภัยที่สุดบนภูเขา โดยมีรายชื่อดังนี้

แม้แต่คนไทย ก็เคยไปพิชิตยอดเขาเดนาลี

คนไทยที่สามารถพิชิตยอดเขาเดนาลีสำเร็จ เป็นคนแรกคือ คุณวิทิตนันท์ โรจนพานิช เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ถือเป็นคนไทยคนแรก ที่สามารถบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี้

ต่อมาหญิงไทย คนแรกที่พิชิตยอดเขาคือ คุณนภัสพร ชำนาญสิทธิ์ เธอประสบความสำเร็จ ในปีเดียวกัน กับคุณวิทิตนันท์

การพิชิตยอดเขาเดนาลี ถือเป็นความท้าทายอันยิ่งใหญ่ ต้องใช้ความอดทน ความมุ่งมั่น และการเตรียมตัวอย่างดีเยี่ยม คุณวิทิตนันท์และคุณนภัสพร ได้สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับคนไทยรุ่นหลัง ที่ใฝ่ฝันอยากพิชิตยอดเขาสูงสักครั้ง

ที่มา: เดนาลิ [3]

ยอดเขาเดนาลี มีบางอย่างที่ยังไม่รู้

สรุป ยอดเขาเดนาลี

สรุป ยอดเขาเดนาลี เป็นภูเขาที่สวยงาม มองไปแล้วสะอาดตา เนื่องด้วยหิมะปกคลุมไปหมด แต่ก็ยังมีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติซ่อนอยู่ สามารถไปปีนเขา หรือเที่ยวชมก็ย่อมได้

อ้างอิง

[1] wikipedia. (January 7, 2023). Mount Denali. Retrieved from wikipedia

[2] wikipedia. (December 7, 2023). ธารน้ำแข็ง. Retrieved from wikipedia

[3] artsandculture. เดนาลิ. Retrieved from artsandculture

ภูเขาไฟรินจานี แต่ละก้าวที่ปีนเขา เต็มไปด้วยความท้าทาย บททดสอบกำลังกาย กำลังใจ และความอดทน หากสำเร็จ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีอีกหนึ่งอย่าง

ภูเขาไฟรินจานี เฉิดฉายตลอดเวลา 2

ภูเขาไฟรินจานี เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ บนเกาะลอมบอก ประเทศอินโดนีเซีย ที่ห่างจาก บาหลี ประมาณ 139 กิโลเมตร ซึ่งภูเขาไฟลูกนี้ มีความสูงเป็นอันดับสอง ของอินโดนีเซีย ด้วยความสูง 3,726 เมตร [1]

ภูเขาไฟมีแอ่งอยู่ปากปล่อง ลึกแค่ไหน

ภูเขาไฟรินจานี มีแอ่งยุบปากปล่องขนาด 6 x 8.5 กิโลเมตร อยู่ติดกับภูเขาไฟ ซึ่งบางส่วนเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่เรียกว่า เซอการาอานัก (Segara Anak) หรือ อานักเลาต์ (Anak Laut)

เนื่องจากสีของน้ำ เป็นสีฟ้าเหมือนน้ำทะเล ทะเลสาบแห่งนี้ ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร และคาดว่าจะมีความลึกประมาณ 200 เมตร แอ่งยุบปากปล่องยังมีน้ำพุร้อน เดือดพุดๆ

ที่มา: Rinjani Volcano [2]

ชนเผ่า ส่งต่อความเชื่อสถานที่นี้

ชนเผ่าซาซัก ชาวฮินดู บนเกาะลอมบก มีความเชื่อและเคารพศรัทธา ต่อธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง พวกเขามองเห็นทะเลสาบ ภูเขา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์  พื้นที่เหล่านี้ เปรียบเสมือนสถานที่ สำหรับการเชื่อมต่อกับบรรพบุรุษและวิญญาณ ผ่านพิธีกรรมทางศาสนา ที่จัดขึ้นเป็นประจำ

ภูเขาไฟรินจานี เส้นทางปีนเขาสุดท้าทาย

ภูเขาไฟรินจานี

คำว่าภูเขาไฟ ก็คงไม่มีใครอยากเข้าใกล้ อาจฟังดูน่ากลัวและอันตราย แต่ภูเขาไฟรินจานี กลับดึงดูดนักท่องเที่ยว จากทุกมุมโลกให้มาเยือน ด้วยเสน่ห์อันน่าค้นหา และประสบการณ์ ที่ไม่เหมือนใคร เพราะนักท่องเที่ยวแต่ละท่าน ต่างก็มีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน

บางคนมาเพื่อชมธรรมชาติ อันงดงาม สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ชมทิวทัศน์ที่กว้างไกล สุดลูกหูลูกตา บางคนมาเพื่อตั้งแคมป์ เรียนรู้วิถีชีวิตแบบเรียบง่าย แต่กิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด บนภูเขาไฟรินจานี คงหนีไม่พ้น การปีนเขา การพิชิตยอดเขาที่สูง เป็นความท้าทาย ที่นักผจญภัยต่างใฝ่ฝัน

ที่มา: Mt. Rinjani Indonesia [3]

ทำไมนักท่องเที่ยว ถึงอยากปีนเขาไฟรินจานี?

  1. การปีนเขาไฟรินจานี ต้องใช้ทั้งกำลังกายและกำลังใจ เส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ช่วยให้ผู้ปีนเขาได้พิสูจน์ความอดทนและความมุ่งมั่นของตัวเอง
  2. บนเส้นทางเดินป่า เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามหลากหลาย ป่าฝน ทุ่งหญ้า ป่าสน ทะเลสาบ และปล่องภูเขาไฟ
  3. การยืนอยู่บนยอดเขา รู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับหลังคาโลก เป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย เรียกว่า เป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่ง
  4. เป็นประสบการณ์ ที่ไม่เหมือนใคร สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ ทดสอบขีดจำกัดของตัวเอง และสร้างมิตรภาพใหม่ๆ

เตรียมตัวก่อนปีนเขาไฟรินจานี เตรียมอะไรบ้าง

สรุป ภูเขาไฟรินจานี

สรุป ภูเขาไฟรินจานี รอให้คุณมาสัมผัสความท้าทาย เตรียมร่างกายและหัวใจให้พร้อม แล้วออกเดินทางสู่ยอดเขาแห่งนี้ คุณจะได้พกความประทับใจกับบ้านแน่นอน

อ้างอิง

[1] wikipedia. (January 7, 2024). เขารินจานี. Retrieved from wikipedia

[2] lemon8. (June 13, 2023). Rinjani Volcano. Retrieved from lemon8

[3] facebook. (May 7, 2024). Mt. Rinjani Indonesia. Retrieved from facebook

ภูเขาหวงซาน ยอดเขาหินแกรนิต เรียงรายสลับซับซ้อน ป่าสนรูปทรงแปลกตา ทะเลหมอกขาวโพลน ก่อให้เกิดภาพทิวทัศน์ดั่งภาพวาดจีนโบราณ สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม

ภูเขาหวงซาน ความเป็นมากว่า 1,000 ปี

ภูเขาหวงซาน หรือที่รู้จักกันในชื่อ ภูเขาเหลือง ตั้งอยู่ทางตอนใต้ ของมณฑลอันฮุย ประเทศจีน ขึ้นชื่อโด่งดังในฐานะมรดกโลกทางธรรมชาติ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,300 ปี หลักฐานทางโบราณคดี บ่งชี้ว่ามีผู้คนอาศัยอยู่ ในบริเวณนี้ตั้งแต่สมัยหินใหม่ [1]

ลักษณะทางธรรมชาติของภูเขาหวงซาน

ภูเขาหวงซานประกอบไปด้วย ยอดเขาหินแกรนิตกว่า 72 ยอด มียอดเขาเหลียนฮวา (ยอดเขาดอกบัว) สูงที่สุด 1,864 เมตร เอกลักษณ์ของภูเขาหวงซานคือ หินที่มีรูปร่างแปลกตา ต้นสนที่บิดงอ ตามแรงลม และทะเลหมอกยามเช้า อ่านเพิ่มเติมต่อได้ที่ Planetworldwide

ภูเขาหวงซานแหล่งกำเนิด 2 ศาสนา

สำหรับศาสนาเต๋า ภูเขาหวงซาน มีความเกี่ยวเนื่องกับตำนาน และคติความเชื่อมากมาย เชื่อกันว่าเป็นดินแดนของเหล่าเซียน กษัตริย์เหลือง (หวงตี้) ในตำนานก็เคยขึ้นเขาหวงซาน เพื่อกลั่นยาอายุวัฒนะ นักพรตเต๋าหลายท่าน ก็เคยมาบำเพ็ญพรตบนภูเขานี้

ศาสนาพุทธ เริ่มเข้ามาสู่เขาหวงซาน ในช่วงสมัยราชวงศ์ใต้ (ค.ศ. 420-589) หลักฐานทางประวัติศาสตร์บ่งบอกถึงวัดพุทธ ที่ถูกสร้างขึ้นมากกว่า 100 แห่งบนยอดเขา วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ได้แก่ วัดเสียงฝู วัดฉือกวง วัดชุ่ยเวย และวิหารจื้อปอฉาน

ที่มา: หวงซาน…หุบเขาในม่านเมฆ [2]

ต่อมาในยุคเฟื่องฟู ภูเขาหวงซาน มีศิลปะวรรณกรรม

นับตั้งแต่ยุคเฟื่องฟูของสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907) จนถึงราชวงศ์ชิงตอนปลาย (ค.ศ. 1644-1912) ช่วงเวลาราว 1,200 ปี  เขาหวงซานกลายเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับศิลปิน และนักเขียนมากมาย ผลงานทางศิลปะวรรณกรรมจำนวนมาก ถูกสร้างสรรค์ขึ้น ซึ่งทำให้เห็นธรรมชาติอันงามตา ของภูเขาหวงซาน [3]

กิจกรรมบนเขาหวงซาน ทำสิ่งใดได้บ้าง

ภูเขาหวงซาน

การเดินทางไปยังเขาหวงซาน ไม่ยากอย่างที่คิด

โดยเครื่องบิน : สนามบินที่ใกล้เขาหวงซานมากที่สุดคือ สนามบินนานาชาติหวงซาน ฟูยาง นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเครื่องบิน จากเมืองใหญ่ๆ ในจีน เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หรือ กวางโจว ไปลงที่สนามบินหวงซาน ฟูยาง

โดยรถไฟ : นั่งรถไฟจากเมืองใหญ่ๆ ในจีน เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หรือ กวางโจว ไปลงที่สถานีรถไฟถังโข่ว จากนั้นต่อรถบัส หรือแท็กซี่ไปยังเขาหวงซาน

สรุป ภูเขาหวงซาน

สรุป ภูเขาหวงซาน หากคุณมีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่ อย่าลืมลองไปสัมผัส บรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ ชมความงดงามของธรรมชาติ ซึ่งมีกิจกรรมหลากหลายบนภูเขา

อ้างอิง

[1] wikipedia. (October 5, 2021). เขาหวง. Retrieved from wikipedia

[2] eliteholidaythailand. หวงซาน…หุบเขาในม่านเมฆ. Retrieved from eliteholidaythailand

[3] wikipedia. (March 8, 2024). ประวัติศาสตร์จีน. Retrieved from wikipedia

ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยอดเขาธรรมดา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ อันเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ มักถูกนำไปใช้เป็นโลโก้ บนสินค้าต่างๆ มากมาย รวมไปถึงภาพยนตร์และสื่อต่างๆ อีกด้วย

ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น พรมแดน 2 ประเทศ

ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) หรือที่รู้จักกันในชื่อ แซร์แว็ง (ฝรั่งเศส : Cervin) หรือ แชร์วีโน (อิตาลี : Cervino) เป็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาแอลป์ พรมแดนระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์กับอิตาลี มีความสูง 4,478 เมตร [1]

รูปทรงยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น มีหน้าตาอย่างไร

ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น มีรูปทรงพีระมิดสี่หน้า ที่ปกคลุมด้วยหิมะอันโดดเด่น ยอดเขาสี่ด้านนั้น มีความลาดชันที่แตกต่างกัน โดยด้านทิศเหนือ ตะวันออก และใต้นั้น มีความลาดชันและเรียบ ส่วนด้านทิศตะวันตก มีความชันและเป็นหน้าผา

รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ ของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น เกิดจากการกัดเซาะ ของธารน้ำแข็ง ในยุคน้ำแข็ง ธารน้ำแข็งเหล่านี้ ไหลผ่านหุบเขาโดยรอบภูเขา และกัดเซาะด้านข้าง ของภูเขาให้ลึกขึ้น

ที่มา: Matterhorn [2]

ยอดเขาลูกนี้ ยังมีผู้ชิต ไปเยือนมากมาย

ยอดเขาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม สำหรับการปีนเขา และการเดินป่า นักปีนเขาคนแรก ที่พิชิตยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นคือ Edward Whymper ในปี 1865 ตั้งแต่นั้นมา มีนักปีนเขาหลายพันคน ที่ปีนขึ้นไปบนยอดเขา

อย่างไรก็ตาม การปีนเขาแมทเทอร์ฮอร์นนั้น อันตรายมาก ตั้งแต่ปี 1865 มีนักปีนเขาเสียชีวิตบนภูเขาลูกนี้มากกว่า 500 คน ความอันตรายส่วนใหญ่ เกิดจากสภาพอากาศที่เลวร้าย หินถล่ม และความลาดชันที่สูงชัน

ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น มีอุณหภูมิเท่าไหร่

ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น

อุณหภูมิที่ยอดเขา Matterhorn อยู่ที่ -4 องศาเซลเซียส รู้สึกเหมือน -7 องศาเซลเซียส เนื่องจากลมหนาว ทำให้ สภาพอากาศประจำเดือนกรกฎาคม - กันยายน มีดังนี้

โปรดทราบ อุณหภูมิบนยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับความสูง ระดับความชื้น และสภาพลม ดูเพิ่มเติมต่อได้ที่ Accuweather

ชมยอดเขา ทำวิธีไหนได้บ้าง

  1. นั่งรถไฟ : สาย Gornergrat Bahn (The Matterhorn Railway) จากสถานีรถไฟ Zermatt ขึ้นไปยังสถานี Gornergrat ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
  2. ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า : นั่งกระเช้าลอยฟ้า Sunnegga Express ขึ้นไปยังจุดชมวิว Sunnegga ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจุดชมวิว Sunnegga อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,288 เมตร
  3. เดินป่า : มีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทาง ที่สามารถนำไปยังจุดชมวิว แมทเทอร์ฮอร์น ได้แก่ Täschalp - Hohbalm - Gornergrat และ Zermatt - Stellisee – Gornergrat ใช้เวลาเดินป่าประมาณ 2-4 ชั่วโมง
  4. เฮลิคอปเตอร์ : นั่งเฮลิคอปเตอร์ชมวิว ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ชมวิวแมทเทอร์ฮอร์น แบบใกล้ชิด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ประสบการณ์พิเศษ

ที่มา: วิธีชมความงดงามของยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น [3]

จุดชมวิวแมทเทอร์ฮอร์นที่สวยงาม

สรุป ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น

สรุป ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น หากคุณกำลังวางแผน ที่จะปีนเขาแมทเทอร์ฮอร์น สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมตัวให้พร้อม และตระหนักถึงความเสี่ยง

อ้างอิง

[1] wikipedia. (December 24, 2022). มัทเทอร์ฮอร์น. Retrieved from wikipedia

[2] eliteholidaythailand. Matterhorn. Retrieved from eliteholidaythailand

[3] seeyouagain. วิธีชมความงดงามของยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น. Retrieved from seeyouagain

ภูเขาบินิกุนกา มีความพิเศษ จากสีสันที่หลากหลาย สลับกันเป็นแถบๆ ดูแล้วเหมือนกับสายรุ้ง สีสันเหล่านี้ เกิดจากแร่ธาตุต่างๆ บนผิวหน้าภูเขา ทำให้เกิดปรากฏการณ์อันน่าทึ่ง บวกกับความสวยงาม

ข้อมูลที่ชัดเจนของ ภูเขาบินิกุนกา

ภูเขาบินิกุนกา (Vinicunca) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ภูเขาสายรุ้งแห่งเปรู ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอนดีส แคว้นกุสโก ประเทศเปรู เป็นภูเขาที่มีความสูง 5,200 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ขึ้นชื่อเรื่องสีสัน ที่สวยงาม สลับกันเป็นแถบๆ ดูแล้วเหมือนกับสายรุ้ง [1]

ทำไมถึงเกิดปรากฏการณ์ ภูเขาสีรุ้ง

ปรากฏการณ์ภูเขาสีรุ้ง เกิดจากการทับถมของหินทราย และแร่ธาตุหลากชนิด นานกว่าหลายสิบล้านปี โดยแต่ละชั้นของหินทราย มีสีสันที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุที่สะสมอยู่

เมื่อเวลาผ่านไป เกิดการกัดเซาะของลม ฝน และแม่น้ำ ทำให้ชั้นหินทรายเหล่านี้ สึกกร่อน เผยให้เห็นชั้นหินที่มีสีสันแตกต่างกันเป็นชั้นๆ  แสงแดดที่ส่องกระทบกับชั้นหินเหล่านี้ จะสะท้อนแสงสีต่างๆ ออกมา ส่งผลให้มองเห็นภูเขาเป็นริ้วรอย ที่มีสีสันคล้ายสายรุ้ง

ความงามที่เกิดจากแร่ธาตุ

ความมหัศจรรย์นี้ เกิดขึ้นจากการสะสม ของแร่ธาตุต่างๆ  ในชั้นหิน แต่ละชั้น ก่อให้เกิดเป็นเฉดสี ที่แตกต่างกัน ดังนี้

ที่มา: ภูเขาสายรุ้งแห่งเปรู @Peru [2]

การเดินทางไปยัง ภูเขาบินิกุนกา (Vinicunca)

ภูเขาบินิกุนกา

การเดินทางไปยังภูเขาบินิกุนกานั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จะเริ่มต้นจากเมืองกุสโก (Cusco) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง โดยรถบัสหรือรถตู้ จากนั้นจะต้องเดินป่าขึ้นเขา ต่ออีกประมาณ 1.5 - 2 ชั่วโมง

เส้นทางเดินป่ามีความสูงชัน อากาศเบาบาง ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว ที่มีสภาพร่างกายแข็งแรง เนื่องจากเส้นทาง มีความท้าทายพอสมควร ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม ศึกษาข้อมูล และควรไปกับไกด์ ที่มีประสบการณ์

คลิกอ่านต่อได้ที่ The Cloud

ช่วงเวลาไหน ควรค่าแก่การท่องเที่ยว

โดยทั่วไปแล้ว ช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการไปยัง ภูเขาบินิกุนกา นั้นคือช่วงฤดูแล้ง ซึ่งกินเวลาตั้งแต่เดือน เมษายน - ตุลาคม เนื่องจากมีฝนตกน้อย อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าโปร่ง สามารถชมวิวภูเขาได้อย่างชัดเจน และสีสันของภูเขา จะปรากฏออกมาได้สวยงามที่สุด โดยเฉพาะในเดือน สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศแห้งแล้งที่สุด [3]

ช่วงที่ควรหลีกเลี่ยง การไปภูเขาบินิกุนกา

สรุป ภูเขาบินิกุนกา

สรุป ภูเขาบินิกุนกา เกิดจากการผสมผสาน ระหว่างธรณีวิทยา แร่ธาตุ และสภาพอากาศ ส่งผลให้เกิดเป็นภูมิทัศน์ธรรมชาติ ที่สวยงามและแปลกตา ควรค่าแก่การเดินทาง ไปเยือนให้เห็นกับตา

อ้างอิง

[1] wikipedia. (March 24, 2024). Vinicunca. Retrieved from wikipedia

[2] wixsite. (December 30, 2019). ภูเขาสายรุ้งแห่งเปรู @Peru. Retrieved from wixsite

[3] blockdit. (April 6, 2019). เปรู. Retrieved from blockdit

เนื่องจาก ล่องแก่ง ท้าทายสายน้ำ กิจกรรมสุดหิน ที่จะต้องใช้ทั้งร่างกาย และ ความสามัคคี เพื่อสร้างความร่วมมือกันและกัน โดยจะมีเรือยางเป็นพาหนะในการล่องตามลำธาร ซึ่งจะมีสายน้ำเชี่ยวเป็นความท้าทายของเหล่าผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมพายเรือ

ข้อปฏิบัติของ การล่องแก่ง ควรทำอย่างไร

โดยข้อที่ควรปฏิบัติในการ ล่องแก่ง นั้นจะเริ่มจาก การสวมหมวกนิรภัย และ เสื้อชูชีพ พร้อมกับการตรวจความเรียบร้อยของอุปกรณ์ทุกชนิด โดยป้องกันจากเหตุการณ์ฉุกเฉิน ด้วยการพกพาอุปกรณ์ยังชีพในป่า โดยก่อนที่จะล่องแก่งนั้นก็ควรเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะในการพายเรือต่างๆ

การแบ่งระดับ ของการล่องแก่ง เป็นอย่างไร

ซึ่งการ ล่องแก่ง นั้นจะมีการแบ่งระดับของความยากที่แตกต่างกันในแต่ละลำธาร ของแต่ละสถานที่ เพราะด้วยแต่ละสถานที่จะมีความรุนแรงของน้ำที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะแบ่งได้มากถึง 6 ระดับตามดังนี้

  1. ระดับที่หนึ่ง ในความง่ายมาก มีแก่งน้ำเล็กน้อย มีน้ำไหลผ่านช้าเอื่อยๆ โดยคนทั่วไปสามารถพายได้
  2. ระดับที่สอง อยู่ในกระแสน้ำแบบธรรมดา ที่จะมีความรุนแรงขึ้นมาจากระดับหนึ่งเพียงเล็กน้อย เป็นแก่งน้ำที่ควรต้องมีทักษะในการพายพอสมควร
  3. ระดับที่สาม อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง โดยจะเพิ่มความตื่นเต้นท้าทายขึ้นมามากกว่าปกติ โดยต้องมีเทคนิคในการพายในระดับสูง
  4. ระดับที่สี่ โดยจะอยู่ในขั้นที่ยากเลยทีเดียว ซึ่งมีการไหลผ่านของน้ำที่รุนแรงอย่างมากเลยทีเดียว ควรต้องมีการระมัดระวังในการพายอย่างยิ่ง
  5. ระดับที่ห้า ถือว่าอยู่ในขั้นที่ยากอย่างมาก โดยต้องมีทั้งทักษะ และ ประสบการณ์ในการพายในปริมาณที่สูงอย่างยิ่ง และควรต้องมีการระมัดระวังเป็นพิเศษ
  6. ระดับที่หก โดยเป็นสถานที่ที่ ไม่เหมาะสมกับเหล่านักล่องแก่งปกติ เพราะด้วยจะเป็นแก่งที่มีลักษณะเป็นที่ เที่ยวน้ำตก เลยทีเดียว

ที่มา: ข้อปฏิบัติในการล่องแก่ง [1]

วิธีช่วยเหลือ ตนเองเมื่อตกน้ำ ทำอย่างไร

เนื่องจากการ ช่วยเหลือเมื่อเจอกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ในเรื่องของการตกน้ำ ซึ่งจะเริ่มจากการพยายามว่ายน้ำเข้าหาเรือ หรือจะเป็นการลอยตัวให้เหนือน้ำในท่านอนหงาย โดยถ้าไม่มีโอกาสในการว่ายน้ำ ก็ควรเริ่มตั้งสติและให้หาที่ยึดเกาะเพื่อรอเรือมาช่วยเหลือ โดยสามารถคลิกเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ piyadatour

จุดเด่นของ กิจกรรมล่องแก่ง เป็นอย่างไร

เนื่องจากจุดเด่น ของการล่องแก่งนั้น จะเป็นกิจกรรมที่มีความท้าทาย และ ตื่นเต้นด้วยการที่เจอกับกระแสน้ำรุนแรง ซึ่งจะเสริมไปด้วย ความแข็งแกร่ง เพื่อร่วมทีมที่จะช่วยสร้างความสามัคคี ในการพึ่งพากันและกัน ที่ต้องช่วยเหลือลูกทีมในเรือยางนั้นเอง

อุปกรณ์สำคัญ ในการล่องแก่ง มีอะไรบ้าง

โดยอุปกรณ์สำคัญ ในการล่องแก่งนั้น จะมาพร้อมกับ เรือยาง หรือ แพยาง โดยจะเป็นพาหนะในการเคลื่อนที่ ซึ่งต่อมาก็ต้องเป็นเครื่องแต่งกายในสวมใส่เสื้อชูชีพและ หมวกนิรภัย ที่จะมาพร้อมกับไม้พายเป็นอุปกรณ์ตัวช่วยในการขับเคลื่อน โดยอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาดก็เป็น เครื่องปฐมพยาบาลนั้นเอง

รีวิวสถานที่ ล่องแก่งที่ควรพิชิต มีที่ไหนบ้าง

ล่องแก่ง

ล่องแก่งลำน้ำเข็ก

ที่มา: ล่องแก่งลำน้ำเข็ก พิษณุโลก [2]

แก่งลำน้ำว้า

ที่มา: ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย [3]

สรุป ล่องแก่ง กิจกรรมสุดท้าทาย ล่องเรือยางตามลำธาร

สรุป ล่องแก่ง กิจกกรมที่ได้รับความนิยม ซึ่งจะข้อปฏิบัติ และการแบ่งระดับของการล่องแก่ง รวมถึงบอกไปในเรื่องของจุดเด่น ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์สำคัญต่างๆมากมาย โดยจะใช้กับการพายเรือนั้นเอง ซึ่งทางเรายังได้แนะนำสถานที่ล่องแก่งไปอีกด้วย

อ้างอิง

[1] dnp. (2015-2024). ข้อปฏิบัติในการล่องแก่ง. Retrieved from dnp

[2] alldreamdestinations. (2019-2024). ล่องแก่งลำน้ำเข็ก พิษณุโลก. Retrieved from alldreamdestinations

[3] Thailand. (May 15, 2023). ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย. Retrieved from Thailand

โซล มีความทันสมัย ผสมผสานกลมกลืน ย่านต่างๆ แหล่งช้อปปิ้งสุดคึกคัก เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์ดัง ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือ ศูนย์รวมวัฒนธรรม ย่านแฟชั่น สตรีทอาร์ท และดนตรี

โซล เมืองหลวงใหญ่สุด ในเกาหลีใต้ 2

โซล หรือ โซลพิเศษนคร เป็นเมืองหลวง และเมืองที่ใหญ่ที่สุด ของประเทศ เกาหลีใต้ มีประชากรประมาณ 10 ล้านคน และเป็นศูนย์กลางของเขตเมืองหลวง ปริมณฑล ซึ่งมีประชากรมากกว่า 25 ล้านคน คิดเป็นเกือบหนึ่งในสี่ ของประชากรทั้งประเทศ [1]

ประวัติศาสตร์ของโซล

ประวัติศาสตร์ของโซล ย้อนหลังไปถึง 18 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อก่อตั้งโดยอาณาจักรแพ็กเจ หนึ่งในสามอาณาจักรของเกาหลี ต่อมาเมืองนี้ ถูกกำหนดให้เป็น เมืองหลวงของเกาหลี โดยราชวงศ์โชซ็อน โซลตั้งอยู่บริเวณภูมิประเทศที่เป็นภูเขา และเนินเขา

โดยมีภูเขาพุกฮันซาน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ เมืองหลวงและปริมณฑล เป็นที่ตั้งของแหล่งมรดกโลก จำนวนห้าแห่ง ได้แก่ พระราชวังชังด็อก ป้อมฮวาซ็อง ศาลเจ้าชงมโย นัมฮันซันซ็อง และสุสานหลวงราชวงศ์โชซ็อน

ที่มา: ประวัติศาสตร์เกาหลี [2]

วัฒนธรรมโซล ยังไม่เลือนหายไป

วัฒนธรรมกรุงโซล ยังคงมีชีวิตชีวา แม้จะผสมผสานกับความทันสมัย แต่เอกลักษณ์ดั้งเดิม ยังคงอยู่ให้เห็นได้ชัด ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น การสวมใส่ชุดฮันบก พระราชวังเก่าแก่ วัดวาอาราม อาหารเกาหลี เทศกาลตลอดทั้งปี เป็นต้น

โซลขึ้นชื่อด้านไอที ชั้นนำของโลก

โซลเป็นเมืองชั้นนำด้านเทคโนโลยี เป็นที่ตั้งของบริษัทไอทีชั้นนำของโลก เช่น ซัมซุง และแอลจี  นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัส เทคโนโลยีล้ำสมัยได้ที่ พิพิธภัณฑ์ Samsung D'light

ธรรมชาติดีๆ อยู่ที่นี่

โซลไม่ได้เป็นเพียงเมือง ที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง แต่ยังมีธรรมชาติ ที่สวยงามอยู่รอบตัว นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่าบนภูเขา นั่งเรือชมแม่น้ำฮัน หรือพักผ่อน ฮีลใจ ในสวนสาธารณะ เดินสูดบรรยากาศ รับโอโซนดีๆ กับเมืองไทย

ชีวิตยามค่ำคืน ในโซล

โซล

โซลมีชีวิตชีวา ในเวลากลางคืน เต็มไปด้วยสถานที่ต่างๆ ให้คุณได้ไปเที่ยว ไม่ว่าคุณจะอยากเต้นรำจนเช้า  ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมเกาหลี หรือแค่หาอะไรทานยามดึกๆ ในย่านดังนี้

ที่มา: ที่เที่ยวในโซลตอนกลางคืน [3]

สรุป โซล

สรุป โซล อีกหนึ่งเมืองในเกาหลีใต้ ที่ผู้คนไม่หลับกันจริงๆ ปาร์ตี้กันทุกคืน หากใครชอบดื่มแบบอิสระ แนะนำต้องมาเที่ยวเมืองนี้ แล้วธรรมชาติบ้านเมืองของเขา ยังมีกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่อยู่

อ้างอิง

[1] wikipedia. (October 28, 2021). เขตเมืองหลวงและปริมณฑล (ประเทศเกาหลีใต้). Retrieved from wikipedia

[2] wikipedia. (April 1, 2024). ประวัติศาสตร์เกาหลี. Retrieved from wikipedia

[3] klook. (2014-2024). ที่เที่ยวในโซลตอนกลางคืน. Retrieved from klook

เนื่องจากการ เที่ยวทะเลหมอก พื้นที่ที่ราบสูง โดยจะเป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมเลยทีเดียว เพราะด้วยความสวยงามของทะเลหมอก โดยจะมาพร้อมกับอากาศสุดบริสุทธิ์ แถมยังมีกิจกรรมมากมายในสถานที่จุดชมวิว ทะเลหมอก นั้นเอง

ลักษณะของ ทะเลหมอก เป็นอย่างไร

ซึ่งลักษณะของ หมอก นั้นจะมาจากกลุ่มละอองน้ำ โดยเมฆที่เคลื่อนตัวในระดับที่สูงกว่าพื้นผิวอากาศ จะถูกพิจารณาว่าเป็นหมอก โดยหมอกนั้นจะมีความแตกต่างจากหมอกน้ำค้าง (mist) โดยเฉพาะความหนาแน่นของหมอกนั้น จะมีความแตกต่างกันออกไป

สถานที่ ที่จะเกิดหมอก มากที่สุดในโลก

โดยทั่วโลกนั้น จะมีสถานที่ที่มีหมอกในปริมาณมากที่สุด จะอยู่ตามหมู่เกาะนิวฟันด์แลนด์ และ แคนาดา โดยสถานที่บนพื้นบกที่มีหมอกมากที่สุดในทั่วโลกนั้นจะ ได้แก่เมือง อาร์เจนเทีย รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ และ พอยน์ตเรย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และเมืองอื่นๆในบริเวณใกล้เคียง

ความอันตรายของ ทะเลหมอก เป็นอย่างไร

โดยสิ่งที่อันตรายของการ เกิดหมอก นั้นจะเป็นเรื่องของการมองทัศนวิสัยที่ไม่ดี ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุของการขับขี่ยานพาหนะได้ เพราะด้วยทัศนวิสัยที่ถูกปิดบังด้วยหมอก อย่างเช่นในปี 1945 ในเหตุการณ์เครื่องบินรุ่น บี-25 มิตเชลล์ ที่พุ่งชนเข้ากับตึกเอ็มไพร์สเตต เพราะหมอก

ประเภทของหมอก จะมีหมอกแบบใดบ้าง

  1. หมอกความร้อน เป็นหมอกที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว โดยวันที่มีอากาศแจ่มใส ในช่วงเวลากลางคืน เพราะพื้นดินจะคายความร้อนด้วยการแผ่รังสีความร้อน
  2. หมอกความร้อนในแนวนอน โดยเป็นหมอกที่เกิดขึ้นจากอากาศ ที่เคลื่อนตัวผ่านพื้นผิวที่เย็น จึงทำให้อากาศที่อยู่ต่ำกว่าอุณหภูมิลดลงจนต่ำกว่าจุดน้ำค้าง 
  3. หมอกลาดเนินเขา โดยเกิดจากการที่อากาศเคลื่อนที่ตามพื้นที่ที่ราบเขา ซึ่งอากาศที่ยกตัวสูงขึ้นในอุณหภูมิลดลง
  4. หมอกหุบเขา เป็นหมอกที่มีความหนาแน่นสูงที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มีพื้นที่ราบสูง เป็นผลให้อุณหภูมิของอากาศบริเวณหุบเขา เย็นตัวลงจนเกิดการควบแน่นและกลายเป็นหมอก
  5. หมอกน้ำแข็ง จะเป็นการควบแน่นของ อากาศ และ ไอน้ำ จะเย็นและกลายเป็นหมอก
  6. หมอกที่เกิดจากการระเหย ที่จะเกิดจากการระเหยของไอน้ำ จากแหล่งน้ำอุ่นเข้าสู่อากาศเย็น ที่มีการเคลื่อนที่ผ่าน โดยสามารถคลิกเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ scimath

แนะนำพิกัด เที่ยวทะเลหมอก มีที่ไหนบ้าง

เที่ยวทะเลหมอก

เที่ยวทะเลหมอก ยอดดอยภูชี้ฟ้า

ที่มา: ภูชี้ฟ้า [1]

ดอยผาตั้ง

ที่มา: ดอยผาตั้ง [2]

รีวิวภาพยนตร์ ที่ถ่ายทำที่ท่องเที่ยว ทะเลหมอก

โดยทางเราจะ แนะนำภาพยนตร์ล่าสุดที่ได้ไป ถ่ายทำตามเทือกเขาที่ราบสูง สัมผัสกับทะเลหมอก โดยจะเป็นภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า สุขสันต์วันโสด (Low Season) ซึ่งจะเป็นหนังแนวสนุกสนาน มีสีสัน โดยจะได้คะแนนรีวิวจาก imdb ไปมากถึง 6.4 คะแนน [3]

สรุป เที่ยวทะเลหมอก แหล่งธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยว

สรุป เที่ยวทะเลหมอก นั้นจะอยู่บนยอดภูเขา โดยทางเราก็ได้บอกความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับหมอก แถมยังได้แนะนำสถานที่ที่มีจุดชมวิวของทะเลหมอกอีกด้วย โดยจะมีบางภาพยนตร์ ที่ได้ขึ้นไปถ่ายทำบนดอย โดยทางเราก็ได้นำเสนอภาพยนตร์ที่มีชื่อเรื่องว่า สุขสันต์วันโสด (Low Season) นั้นเอง

อ้างอิง

[1] trip. (October 14, 2022). ภูชี้ฟ้า. Retrieved from trip

[2] thai.tourismthailand. (2003-2025). ดอยผาตั้ง. Retrieved from thai.tourismthailand

[3] imdb. (1990-2024). Low Season. Retrieved from imdb

คาสิโนออนไลน์
SEXY BACCARAT
SA GAMING
WM CASINO
PG SLOT
JOKER GAME
โปรโมชั่น
สมาชิกใหม่รับโบนัส
แตกแจกเพิ่ม
ฝากแรกของวัน
กงล้อลุ้นโชค
ขาประจำ
ติดต่อเรา
LINE OA
TELEGRAM
แจ้งปัญหา
Betdog-LogoLINE ID : @bdog9Betdog-line
Betdog-bank
Copyright © 2023 Supported by BETDOG
Logo-BetdogLINE ID : @bdog9Betdog-lineBetdog-bankCopyright © 2023 Supported by BETDOG
Betdog-Homeหน้าหลักBetdog-Promotionโปรโมชั่นBetdogBetdog-RegisterสมัครสมาชิกBetdog-eventกิจกรรม
line-Betdog
football-funpgslot