เขาโดโลไมท์ ส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ ที่ทอดยาวผ่านหลายประเทศ ในทวีปยุโรป ตั้งอยู่ในทางตอนเหนือของประเทศ อิตาลี ครอบคลุมพื้นที่หลายเมือง เช่น เทรนโต, โบลซาโน, เบลลูโน, เวโรนา, วิเชนซา, อูดีเน และปอร์เดโนเน
เขาโดโลไมท์นั้นโด่งดังไปทั่วโลก ในฐานะดินแดนแห่งธรรมชาติ ที่น่าจดจำ ได้รับการยกย่องให้เป็น มรดกโลกทางธรรมชาติ โดยองค์การยูเนสโก้ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ยากจะหาที่ไหนเปรียบเทียบได้ ดังนี้
ภูเขาหินปูนที่เรียงรายกัน เป็นทิวทัศน์อันสละสลวย ยอดเขาแต่ละลูก มีรูปทรงแหลมชัน โดดเด่นท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม บ้างก็เหมือนหอคอย บ้างก็เหมือนกำแพงเมืองโบราณ สร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้กับผู้พบเห็นกันอย่างมาก [1]
มีชื่อเสียงโด่งดัง เรื่องปรากฏการณ์ Enrosadira เมื่อหินปูนกระทบกับแสงแดด ยามพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ยอดเขาเปลี่ยนเป็นสีชมพูจางๆ สวยงามราวกับภาพวาด บางส่วนเป็นสีส้ม ผสมแดง สีน้ำตาล ตัดกับสีท้องฟ้า สามารถชมแสงนี้ได้จาก เทือกเขา Tre Cime di Lavaredo, เทือกเขา Catinaccio, ยอดเขา Monte Civetta [2]
การเดินทางไปยังโดโลไมท์นั้น มีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความสะดวก ความชอบ และงบประมาณของคุณ
ที่มา: 5 แลนด์มาร์คงามแห่งโดโลไมท์ [3]
และสามารถดูที่พักอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ Tripadvisor
สรุป เขาโดโลไมท์ สถานที่เที่ยวทางธรรมชาต อีกหนึ่งที่ ที่นักท่องเที่ยว ต้องประทับใจเป็นแน่แท้ เพราะป่าไม้โอบล้อมคุณ อากาศดี ควรค่าแก่เอาใจที่เฉา ไปผ่อนคลาย
[1] grazietravel. (2021-2024). เทือกเขาโดโลไมท์ Dolomite ธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งอิตาลีเหนือ. Retrieved from grazietravel
[2] patourlogy. (March 14, 2024). สัมผัสมนต์เสน่ห์ของเทือกเขาอิตาลี. Retrieved from patourlogy
[3] freebirdtour. (March 22, 2022). 5 แลนด์มาร์คงามแห่งโดโลไมท์. Retrieved from freebirdtour
ภูเขาโรไรมา ภูเขาที่สูงที่สุด ในเทือกเขาพากาไรมา ตั้งอยู่บนที่ราบสูงเทปุย ในทวีปอเมริกาใต้ ติดพรมแดนระหว่าง 3 ประเทศ ได้แก่ เวเนซุเอลา บราซิล และกายอานา กลายเป็นเส้นแบ่ง เขตแดนตามธรรมชาติ
ภูเขาโรไรมา มีรูปร่างคล้ายกับโต๊ะ ยอดเขาเป็นพื้นที่ ราบกว้างใหญ่ รายล้อมไปด้วย หน้าผาสูงชัน มีความสูงจากฐาน ถึงยอดเขาประมาณ 2,338 เมตร และมีความกว้าง ประมาณ 31 ตารางกิโลเมตร [1]
ขึ้นชื่อเรื่องความเก่าแก่ จัดอันดับว่าเป็น การก่อตัวทางธรณีวิทยา ที่เก่าแก่ที่สุดบนโลก มีอายุประมาณ 2 พันล้านปี เลยทีเดียว ซึ่งย้อนกลับไปไกลถึง ยุคพรีแคมเบรียน
ในอดีต ภูเขาลูกนี้เคยเป็นที่ราบสูง หินทราย ขนาดมหึมา แต่ด้วยกาลเวลา และแรงกัดเซาะของธรรมชาติ ได้ถูกเปลี่ยนสภาพ จนกลายเป็นยอดเขา ที่มีหน้าผารอบด้าน สูงชันถึง 400 เมตร
ที่มา: สถานที่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และมันเรียกว่าภูเขาโรไรมา [2]
ด้วยความเก่าแก่ และสภาพแวดล้อมที่โดดเด่น ภูเขาโรไรมา จึงรองรับ ระบบนิเวศ ที่ไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่น ที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศ ที่เย็นสบาย ชื้นแฉะ และเต็มไปด้วยหมอก ปกคลุม
ยอดเขาโรไรมา จุดหมายหลัก ของการท่องเที่ยวบนภูเขาโรไรมา นักท่องเที่ยวจะต้องเดินป่า เพื่อขึ้นไปยังยอดเขา ใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ระหว่างทางจะได้กลิ่นอาย ของธรรมชาติอย่างแท้จริง พืชพรรณแปลกตา สัตว์ป่าหายาก และวิวสวยงาม คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ Kapook
บนภูเขาโรไรมา มีทะเลสาบหลายแห่ง แอ่งน้ำเหล่านี้เกิดขึ้นเอง ตามธรรมชาติ จากการกัดเซาะของน้ำฝน บนหินทราย มีขนาดต่างๆ กัน บางแห่งมีขนาดเล็ก เพียงไม่กี่เมตร บางแห่งใหญ่พอ ที่จะว่ายน้ำได้ ได้แก่ แอ่งน้ำสายรุ้ง แอ่งน้ำจาคูซซี่ แอ่งน้ำกบ [3]
สรุป ภูเขาโรไรมา สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ซึ่งมีจุดเด่นหลายอย่าง ที่ทำให้นักท่องเที่ยวสนใจ แล้วยิ่งเป็นสายที่ลุยทุกสถานการณ์แล้วล่ะก็ ที่นี้อาจใช่สำหรับพวกคุณ
[1] wikipedia. (January 22, 2023). เขาโรไรมา. Retrieved from wikipedia
[2] facebook. (October 15, 2023). สถานที่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลd และมันเรียกว่าภูเขาโรไรมา. Retrieved from facebook
[3] blockdit. (April 14, 2019). โรไรมา เขายอดตัดอันน่ามหัศจรรย์ของโลก. Retrieved from blockdit
ยอดเขาเดนาลี เต็มไปด้วยอันตรายจากธารน้ำแข็ง รอยแยก และสภาพอากาศที่แปรปรวน เฉพาะผู้พิชิตที่แท้จริงเท่านั้น ที่จะสัมผัสยอดเขาได้
ยอดเขาเดนาลี เคยมีชื่อเรียกว่า Mount McKinley มาก่อน แต่ในปี 2015 ได้มีการเปลี่ยนชื่อ อย่างเป็นทางการเป็น Denali ซึ่งสอดคล้องกับชื่อ ที่ใช้เรียกโดยชาวพื้นเมือง อะแลสกา มานานหลายศตวรรษ
นับว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ในทวีปอเมริกาเหนือ เนื่องจากมีความสูง 6,190 เหนือระดับน้ำทะเล ทำให้เป็นยอดเขาที่โดดเด่น และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ภูมิประเทศโดยรอบ จะมีภูเขาเป็นป่าไม้ ทุ่งหญ้า และทุ่งทุนดรา
ที่มา: Mount Denali [1]
ยอดเขาเดนาลีมีธารน้ำแข็งมากมาย ธารน้ำแข็งเหล่านี้ เกิดจากหิมะที่ตกหนัก บนนยอดเขา และไหลลงตามด้านข้างของภูเขา ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุด [2] เป็นจุดแลนมาร์คสำคัญ ในการท่องเที่ยว สามารถเชยชมชม ธารน้ำแข็งเหล่านี้ ได้หลายวิธี เช่น การเดินป่า การปีนเขา หรือการล่องเรือ
ยอดเขาเดนาลีเป็นจุดหมาย ปลายทางยอดนิยม สำหรับนักปีนเขาและนักผจญภัย การปีนเขาเดนาลีนั้น ท้าทายและอันตราย เนื่องจากสภาพอากาศที่รุนแรง และภูมิประเทศที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สามารถพิชิตยอดเขาได้สำเร็จ จะได้รับรางวัลจากทิวทัศน์ ที่สวยงาม และประสบการณ์ที่น่าตราตรึง จนหมดลมหายใจ
การพิชิตยอดเขาเดนาลีครั้งแรก เกิดขึ้นโดยคณะนักปีนเขา 4 คน พวกเขาประสบความสำเร็จ ในการพิชิตยอดเขาเดนาลี เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2456 (ค.ศ. 1913) ผ่านเส้นทาง West Buttress Route ซึ่งเป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุด และปลอดภัยที่สุดบนภูเขา โดยมีรายชื่อดังนี้
คนไทยที่สามารถพิชิตยอดเขาเดนาลีสำเร็จ เป็นคนแรกคือ คุณวิทิตนันท์ โรจนพานิช เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ถือเป็นคนไทยคนแรก ที่สามารถบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี้
ต่อมาหญิงไทย คนแรกที่พิชิตยอดเขาคือ คุณนภัสพร ชำนาญสิทธิ์ เธอประสบความสำเร็จ ในปีเดียวกัน กับคุณวิทิตนันท์
การพิชิตยอดเขาเดนาลี ถือเป็นความท้าทายอันยิ่งใหญ่ ต้องใช้ความอดทน ความมุ่งมั่น และการเตรียมตัวอย่างดีเยี่ยม คุณวิทิตนันท์และคุณนภัสพร ได้สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับคนไทยรุ่นหลัง ที่ใฝ่ฝันอยากพิชิตยอดเขาสูงสักครั้ง
ที่มา: เดนาลิ [3]
สรุป ยอดเขาเดนาลี เป็นภูเขาที่สวยงาม มองไปแล้วสะอาดตา เนื่องด้วยหิมะปกคลุมไปหมด แต่ก็ยังมีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติซ่อนอยู่ สามารถไปปีนเขา หรือเที่ยวชมก็ย่อมได้
[1] wikipedia. (January 7, 2023). Mount Denali. Retrieved from wikipedia
[2] wikipedia. (December 7, 2023). ธารน้ำแข็ง. Retrieved from wikipedia
[3] artsandculture. เดนาลิ. Retrieved from artsandculture
ภูเขาไฟรินจานี แต่ละก้าวที่ปีนเขา เต็มไปด้วยความท้าทาย บททดสอบกำลังกาย กำลังใจ และความอดทน หากสำเร็จ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีอีกหนึ่งอย่าง
ภูเขาไฟรินจานี เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ บนเกาะลอมบอก ประเทศอินโดนีเซีย ที่ห่างจาก บาหลี ประมาณ 139 กิโลเมตร ซึ่งภูเขาไฟลูกนี้ มีความสูงเป็นอันดับสอง ของอินโดนีเซีย ด้วยความสูง 3,726 เมตร [1]
ภูเขาไฟรินจานี มีแอ่งยุบปากปล่องขนาด 6 x 8.5 กิโลเมตร อยู่ติดกับภูเขาไฟ ซึ่งบางส่วนเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่เรียกว่า เซอการาอานัก (Segara Anak) หรือ อานักเลาต์ (Anak Laut)
เนื่องจากสีของน้ำ เป็นสีฟ้าเหมือนน้ำทะเล ทะเลสาบแห่งนี้ ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร และคาดว่าจะมีความลึกประมาณ 200 เมตร แอ่งยุบปากปล่องยังมีน้ำพุร้อน เดือดพุดๆ
ที่มา: Rinjani Volcano [2]
ชนเผ่าซาซัก ชาวฮินดู บนเกาะลอมบก มีความเชื่อและเคารพศรัทธา ต่อธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง พวกเขามองเห็นทะเลสาบ ภูเขา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พื้นที่เหล่านี้ เปรียบเสมือนสถานที่ สำหรับการเชื่อมต่อกับบรรพบุรุษและวิญญาณ ผ่านพิธีกรรมทางศาสนา ที่จัดขึ้นเป็นประจำ
คำว่าภูเขาไฟ ก็คงไม่มีใครอยากเข้าใกล้ อาจฟังดูน่ากลัวและอันตราย แต่ภูเขาไฟรินจานี กลับดึงดูดนักท่องเที่ยว จากทุกมุมโลกให้มาเยือน ด้วยเสน่ห์อันน่าค้นหา และประสบการณ์ ที่ไม่เหมือนใคร เพราะนักท่องเที่ยวแต่ละท่าน ต่างก็มีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน
บางคนมาเพื่อชมธรรมชาติ อันงดงาม สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ชมทิวทัศน์ที่กว้างไกล สุดลูกหูลูกตา บางคนมาเพื่อตั้งแคมป์ เรียนรู้วิถีชีวิตแบบเรียบง่าย แต่กิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด บนภูเขาไฟรินจานี คงหนีไม่พ้น การปีนเขา การพิชิตยอดเขาที่สูง เป็นความท้าทาย ที่นักผจญภัยต่างใฝ่ฝัน
ที่มา: Mt. Rinjani Indonesia [3]
สรุป ภูเขาไฟรินจานี รอให้คุณมาสัมผัสความท้าทาย เตรียมร่างกายและหัวใจให้พร้อม แล้วออกเดินทางสู่ยอดเขาแห่งนี้ คุณจะได้พกความประทับใจกับบ้านแน่นอน
[1] wikipedia. (January 7, 2024). เขารินจานี. Retrieved from wikipedia
[2] lemon8. (June 13, 2023). Rinjani Volcano. Retrieved from lemon8
[3] facebook. (May 7, 2024). Mt. Rinjani Indonesia. Retrieved from facebook
ภูเขาหวงซาน ยอดเขาหินแกรนิต เรียงรายสลับซับซ้อน ป่าสนรูปทรงแปลกตา ทะเลหมอกขาวโพลน ก่อให้เกิดภาพทิวทัศน์ดั่งภาพวาดจีนโบราณ สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
ภูเขาหวงซาน หรือที่รู้จักกันในชื่อ ภูเขาเหลือง ตั้งอยู่ทางตอนใต้ ของมณฑลอันฮุย ประเทศจีน ขึ้นชื่อโด่งดังในฐานะมรดกโลกทางธรรมชาติ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,300 ปี หลักฐานทางโบราณคดี บ่งชี้ว่ามีผู้คนอาศัยอยู่ ในบริเวณนี้ตั้งแต่สมัยหินใหม่ [1]
ภูเขาหวงซานประกอบไปด้วย ยอดเขาหินแกรนิตกว่า 72 ยอด มียอดเขาเหลียนฮวา (ยอดเขาดอกบัว) สูงที่สุด 1,864 เมตร เอกลักษณ์ของภูเขาหวงซานคือ หินที่มีรูปร่างแปลกตา ต้นสนที่บิดงอ ตามแรงลม และทะเลหมอกยามเช้า อ่านเพิ่มเติมต่อได้ที่ Planetworldwide
สำหรับศาสนาเต๋า ภูเขาหวงซาน มีความเกี่ยวเนื่องกับตำนาน และคติความเชื่อมากมาย เชื่อกันว่าเป็นดินแดนของเหล่าเซียน กษัตริย์เหลือง (หวงตี้) ในตำนานก็เคยขึ้นเขาหวงซาน เพื่อกลั่นยาอายุวัฒนะ นักพรตเต๋าหลายท่าน ก็เคยมาบำเพ็ญพรตบนภูเขานี้
ศาสนาพุทธ เริ่มเข้ามาสู่เขาหวงซาน ในช่วงสมัยราชวงศ์ใต้ (ค.ศ. 420-589) หลักฐานทางประวัติศาสตร์บ่งบอกถึงวัดพุทธ ที่ถูกสร้างขึ้นมากกว่า 100 แห่งบนยอดเขา วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ได้แก่ วัดเสียงฝู วัดฉือกวง วัดชุ่ยเวย และวิหารจื้อปอฉาน
ที่มา: หวงซาน…หุบเขาในม่านเมฆ [2]
นับตั้งแต่ยุคเฟื่องฟูของสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907) จนถึงราชวงศ์ชิงตอนปลาย (ค.ศ. 1644-1912) ช่วงเวลาราว 1,200 ปี เขาหวงซานกลายเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับศิลปิน และนักเขียนมากมาย ผลงานทางศิลปะวรรณกรรมจำนวนมาก ถูกสร้างสรรค์ขึ้น ซึ่งทำให้เห็นธรรมชาติอันงามตา ของภูเขาหวงซาน [3]
โดยเครื่องบิน : สนามบินที่ใกล้เขาหวงซานมากที่สุดคือ สนามบินนานาชาติหวงซาน ฟูยาง นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเครื่องบิน จากเมืองใหญ่ๆ ในจีน เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หรือ กวางโจว ไปลงที่สนามบินหวงซาน ฟูยาง
โดยรถไฟ : นั่งรถไฟจากเมืองใหญ่ๆ ในจีน เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หรือ กวางโจว ไปลงที่สถานีรถไฟถังโข่ว จากนั้นต่อรถบัส หรือแท็กซี่ไปยังเขาหวงซาน
สรุป ภูเขาหวงซาน หากคุณมีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่ อย่าลืมลองไปสัมผัส บรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ ชมความงดงามของธรรมชาติ ซึ่งมีกิจกรรมหลากหลายบนภูเขา
[1] wikipedia. (October 5, 2021). เขาหวง. Retrieved from wikipedia
[2] eliteholidaythailand. หวงซาน…หุบเขาในม่านเมฆ. Retrieved from eliteholidaythailand
[3] wikipedia. (March 8, 2024). ประวัติศาสตร์จีน. Retrieved from wikipedia
ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยอดเขาธรรมดา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ อันเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ มักถูกนำไปใช้เป็นโลโก้ บนสินค้าต่างๆ มากมาย รวมไปถึงภาพยนตร์และสื่อต่างๆ อีกด้วย
ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) หรือที่รู้จักกันในชื่อ แซร์แว็ง (ฝรั่งเศส : Cervin) หรือ แชร์วีโน (อิตาลี : Cervino) เป็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาแอลป์ พรมแดนระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์กับอิตาลี มีความสูง 4,478 เมตร [1]
ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น มีรูปทรงพีระมิดสี่หน้า ที่ปกคลุมด้วยหิมะอันโดดเด่น ยอดเขาสี่ด้านนั้น มีความลาดชันที่แตกต่างกัน โดยด้านทิศเหนือ ตะวันออก และใต้นั้น มีความลาดชันและเรียบ ส่วนด้านทิศตะวันตก มีความชันและเป็นหน้าผา
รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ ของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น เกิดจากการกัดเซาะ ของธารน้ำแข็ง ในยุคน้ำแข็ง ธารน้ำแข็งเหล่านี้ ไหลผ่านหุบเขาโดยรอบภูเขา และกัดเซาะด้านข้าง ของภูเขาให้ลึกขึ้น
ที่มา: Matterhorn [2]
ยอดเขาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม สำหรับการปีนเขา และการเดินป่า นักปีนเขาคนแรก ที่พิชิตยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นคือ Edward Whymper ในปี 1865 ตั้งแต่นั้นมา มีนักปีนเขาหลายพันคน ที่ปีนขึ้นไปบนยอดเขา
อย่างไรก็ตาม การปีนเขาแมทเทอร์ฮอร์นนั้น อันตรายมาก ตั้งแต่ปี 1865 มีนักปีนเขาเสียชีวิตบนภูเขาลูกนี้มากกว่า 500 คน ความอันตรายส่วนใหญ่ เกิดจากสภาพอากาศที่เลวร้าย หินถล่ม และความลาดชันที่สูงชัน
อุณหภูมิที่ยอดเขา Matterhorn อยู่ที่ -4 องศาเซลเซียส รู้สึกเหมือน -7 องศาเซลเซียส เนื่องจากลมหนาว ทำให้ สภาพอากาศประจำเดือนกรกฎาคม - กันยายน มีดังนี้
โปรดทราบ อุณหภูมิบนยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับความสูง ระดับความชื้น และสภาพลม ดูเพิ่มเติมต่อได้ที่ Accuweather
ที่มา: วิธีชมความงดงามของยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น [3]
สรุป ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น หากคุณกำลังวางแผน ที่จะปีนเขาแมทเทอร์ฮอร์น สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมตัวให้พร้อม และตระหนักถึงความเสี่ยง
[1] wikipedia. (December 24, 2022). มัทเทอร์ฮอร์น. Retrieved from wikipedia
[2] eliteholidaythailand. Matterhorn. Retrieved from eliteholidaythailand
[3] seeyouagain. วิธีชมความงดงามของยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น. Retrieved from seeyouagain
ภูเขาบินิกุนกา มีความพิเศษ จากสีสันที่หลากหลาย สลับกันเป็นแถบๆ ดูแล้วเหมือนกับสายรุ้ง สีสันเหล่านี้ เกิดจากแร่ธาตุต่างๆ บนผิวหน้าภูเขา ทำให้เกิดปรากฏการณ์อันน่าทึ่ง บวกกับความสวยงาม
ภูเขาบินิกุนกา (Vinicunca) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ภูเขาสายรุ้งแห่งเปรู ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอนดีส แคว้นกุสโก ประเทศเปรู เป็นภูเขาที่มีความสูง 5,200 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ขึ้นชื่อเรื่องสีสัน ที่สวยงาม สลับกันเป็นแถบๆ ดูแล้วเหมือนกับสายรุ้ง [1]
ปรากฏการณ์ภูเขาสีรุ้ง เกิดจากการทับถมของหินทราย และแร่ธาตุหลากชนิด นานกว่าหลายสิบล้านปี โดยแต่ละชั้นของหินทราย มีสีสันที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุที่สะสมอยู่
เมื่อเวลาผ่านไป เกิดการกัดเซาะของลม ฝน และแม่น้ำ ทำให้ชั้นหินทรายเหล่านี้ สึกกร่อน เผยให้เห็นชั้นหินที่มีสีสันแตกต่างกันเป็นชั้นๆ แสงแดดที่ส่องกระทบกับชั้นหินเหล่านี้ จะสะท้อนแสงสีต่างๆ ออกมา ส่งผลให้มองเห็นภูเขาเป็นริ้วรอย ที่มีสีสันคล้ายสายรุ้ง
ความมหัศจรรย์นี้ เกิดขึ้นจากการสะสม ของแร่ธาตุต่างๆ ในชั้นหิน แต่ละชั้น ก่อให้เกิดเป็นเฉดสี ที่แตกต่างกัน ดังนี้
ที่มา: ภูเขาสายรุ้งแห่งเปรู @Peru [2]
การเดินทางไปยังภูเขาบินิกุนกานั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จะเริ่มต้นจากเมืองกุสโก (Cusco) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง โดยรถบัสหรือรถตู้ จากนั้นจะต้องเดินป่าขึ้นเขา ต่ออีกประมาณ 1.5 - 2 ชั่วโมง
เส้นทางเดินป่ามีความสูงชัน อากาศเบาบาง ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว ที่มีสภาพร่างกายแข็งแรง เนื่องจากเส้นทาง มีความท้าทายพอสมควร ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม ศึกษาข้อมูล และควรไปกับไกด์ ที่มีประสบการณ์
คลิกอ่านต่อได้ที่ The Cloud
โดยทั่วไปแล้ว ช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการไปยัง ภูเขาบินิกุนกา นั้นคือช่วงฤดูแล้ง ซึ่งกินเวลาตั้งแต่เดือน เมษายน - ตุลาคม เนื่องจากมีฝนตกน้อย อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าโปร่ง สามารถชมวิวภูเขาได้อย่างชัดเจน และสีสันของภูเขา จะปรากฏออกมาได้สวยงามที่สุด โดยเฉพาะในเดือน สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศแห้งแล้งที่สุด [3]
สรุป ภูเขาบินิกุนกา เกิดจากการผสมผสาน ระหว่างธรณีวิทยา แร่ธาตุ และสภาพอากาศ ส่งผลให้เกิดเป็นภูมิทัศน์ธรรมชาติ ที่สวยงามและแปลกตา ควรค่าแก่การเดินทาง ไปเยือนให้เห็นกับตา
[1] wikipedia. (March 24, 2024). Vinicunca. Retrieved from wikipedia
[2] wixsite. (December 30, 2019). ภูเขาสายรุ้งแห่งเปรู @Peru. Retrieved from wixsite
[3] blockdit. (April 6, 2019). เปรู. Retrieved from blockdit
เนื่องจาก ล่องแก่ง ท้าทายสายน้ำ กิจกรรมสุดหิน ที่จะต้องใช้ทั้งร่างกาย และ ความสามัคคี เพื่อสร้างความร่วมมือกันและกัน โดยจะมีเรือยางเป็นพาหนะในการล่องตามลำธาร ซึ่งจะมีสายน้ำเชี่ยวเป็นความท้าทายของเหล่าผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมพายเรือ
โดยข้อที่ควรปฏิบัติในการ ล่องแก่ง นั้นจะเริ่มจาก การสวมหมวกนิรภัย และ เสื้อชูชีพ พร้อมกับการตรวจความเรียบร้อยของอุปกรณ์ทุกชนิด โดยป้องกันจากเหตุการณ์ฉุกเฉิน ด้วยการพกพาอุปกรณ์ยังชีพในป่า โดยก่อนที่จะล่องแก่งนั้นก็ควรเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะในการพายเรือต่างๆ
ซึ่งการ ล่องแก่ง นั้นจะมีการแบ่งระดับของความยากที่แตกต่างกันในแต่ละลำธาร ของแต่ละสถานที่ เพราะด้วยแต่ละสถานที่จะมีความรุนแรงของน้ำที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะแบ่งได้มากถึง 6 ระดับตามดังนี้
ที่มา: ข้อปฏิบัติในการล่องแก่ง [1]
เนื่องจากการ ช่วยเหลือเมื่อเจอกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ในเรื่องของการตกน้ำ ซึ่งจะเริ่มจากการพยายามว่ายน้ำเข้าหาเรือ หรือจะเป็นการลอยตัวให้เหนือน้ำในท่านอนหงาย โดยถ้าไม่มีโอกาสในการว่ายน้ำ ก็ควรเริ่มตั้งสติและให้หาที่ยึดเกาะเพื่อรอเรือมาช่วยเหลือ โดยสามารถคลิกเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ piyadatour
เนื่องจากจุดเด่น ของการล่องแก่งนั้น จะเป็นกิจกรรมที่มีความท้าทาย และ ตื่นเต้นด้วยการที่เจอกับกระแสน้ำรุนแรง ซึ่งจะเสริมไปด้วย ความแข็งแกร่ง เพื่อร่วมทีมที่จะช่วยสร้างความสามัคคี ในการพึ่งพากันและกัน ที่ต้องช่วยเหลือลูกทีมในเรือยางนั้นเอง
โดยอุปกรณ์สำคัญ ในการล่องแก่งนั้น จะมาพร้อมกับ เรือยาง หรือ แพยาง โดยจะเป็นพาหนะในการเคลื่อนที่ ซึ่งต่อมาก็ต้องเป็นเครื่องแต่งกายในสวมใส่เสื้อชูชีพและ หมวกนิรภัย ที่จะมาพร้อมกับไม้พายเป็นอุปกรณ์ตัวช่วยในการขับเคลื่อน โดยอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาดก็เป็น เครื่องปฐมพยาบาลนั้นเอง
ล่องแก่งลำน้ำเข็ก
ที่มา: ล่องแก่งลำน้ำเข็ก พิษณุโลก [2]
แก่งลำน้ำว้า
ที่มา: ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย [3]
สรุป ล่องแก่ง กิจกกรมที่ได้รับความนิยม ซึ่งจะข้อปฏิบัติ และการแบ่งระดับของการล่องแก่ง รวมถึงบอกไปในเรื่องของจุดเด่น ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์สำคัญต่างๆมากมาย โดยจะใช้กับการพายเรือนั้นเอง ซึ่งทางเรายังได้แนะนำสถานที่ล่องแก่งไปอีกด้วย
[1] dnp. (2015-2024). ข้อปฏิบัติในการล่องแก่ง. Retrieved from dnp
[2] alldreamdestinations. (2019-2024). ล่องแก่งลำน้ำเข็ก พิษณุโลก. Retrieved from alldreamdestinations
[3] Thailand. (May 15, 2023). ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย. Retrieved from Thailand
โซล มีความทันสมัย ผสมผสานกลมกลืน ย่านต่างๆ แหล่งช้อปปิ้งสุดคึกคัก เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์ดัง ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือ ศูนย์รวมวัฒนธรรม ย่านแฟชั่น สตรีทอาร์ท และดนตรี
โซล หรือ โซลพิเศษนคร เป็นเมืองหลวง และเมืองที่ใหญ่ที่สุด ของประเทศ เกาหลีใต้ มีประชากรประมาณ 10 ล้านคน และเป็นศูนย์กลางของเขตเมืองหลวง ปริมณฑล ซึ่งมีประชากรมากกว่า 25 ล้านคน คิดเป็นเกือบหนึ่งในสี่ ของประชากรทั้งประเทศ [1]
ประวัติศาสตร์ของโซล ย้อนหลังไปถึง 18 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อก่อตั้งโดยอาณาจักรแพ็กเจ หนึ่งในสามอาณาจักรของเกาหลี ต่อมาเมืองนี้ ถูกกำหนดให้เป็น เมืองหลวงของเกาหลี โดยราชวงศ์โชซ็อน โซลตั้งอยู่บริเวณภูมิประเทศที่เป็นภูเขา และเนินเขา
โดยมีภูเขาพุกฮันซาน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ เมืองหลวงและปริมณฑล เป็นที่ตั้งของแหล่งมรดกโลก จำนวนห้าแห่ง ได้แก่ พระราชวังชังด็อก ป้อมฮวาซ็อง ศาลเจ้าชงมโย นัมฮันซันซ็อง และสุสานหลวงราชวงศ์โชซ็อน
ที่มา: ประวัติศาสตร์เกาหลี [2]
วัฒนธรรมกรุงโซล ยังคงมีชีวิตชีวา แม้จะผสมผสานกับความทันสมัย แต่เอกลักษณ์ดั้งเดิม ยังคงอยู่ให้เห็นได้ชัด ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น การสวมใส่ชุดฮันบก พระราชวังเก่าแก่ วัดวาอาราม อาหารเกาหลี เทศกาลตลอดทั้งปี เป็นต้น
โซลเป็นเมืองชั้นนำด้านเทคโนโลยี เป็นที่ตั้งของบริษัทไอทีชั้นนำของโลก เช่น ซัมซุง และแอลจี นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัส เทคโนโลยีล้ำสมัยได้ที่ พิพิธภัณฑ์ Samsung D'light
โซลไม่ได้เป็นเพียงเมือง ที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง แต่ยังมีธรรมชาติ ที่สวยงามอยู่รอบตัว นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่าบนภูเขา นั่งเรือชมแม่น้ำฮัน หรือพักผ่อน ฮีลใจ ในสวนสาธารณะ เดินสูดบรรยากาศ รับโอโซนดีๆ กับเมืองไทย
โซลมีชีวิตชีวา ในเวลากลางคืน เต็มไปด้วยสถานที่ต่างๆ ให้คุณได้ไปเที่ยว ไม่ว่าคุณจะอยากเต้นรำจนเช้า ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมเกาหลี หรือแค่หาอะไรทานยามดึกๆ ในย่านดังนี้
ที่มา: ที่เที่ยวในโซลตอนกลางคืน [3]
สรุป โซล อีกหนึ่งเมืองในเกาหลีใต้ ที่ผู้คนไม่หลับกันจริงๆ ปาร์ตี้กันทุกคืน หากใครชอบดื่มแบบอิสระ แนะนำต้องมาเที่ยวเมืองนี้ แล้วธรรมชาติบ้านเมืองของเขา ยังมีกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่อยู่
[1] wikipedia. (October 28, 2021). เขตเมืองหลวงและปริมณฑล (ประเทศเกาหลีใต้). Retrieved from wikipedia
[2] wikipedia. (April 1, 2024). ประวัติศาสตร์เกาหลี. Retrieved from wikipedia
[3] klook. (2014-2024). ที่เที่ยวในโซลตอนกลางคืน. Retrieved from klook
เนื่องจากการ เที่ยวทะเลหมอก พื้นที่ที่ราบสูง โดยจะเป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมเลยทีเดียว เพราะด้วยความสวยงามของทะเลหมอก โดยจะมาพร้อมกับอากาศสุดบริสุทธิ์ แถมยังมีกิจกรรมมากมายในสถานที่จุดชมวิว ทะเลหมอก นั้นเอง
ซึ่งลักษณะของ หมอก นั้นจะมาจากกลุ่มละอองน้ำ โดยเมฆที่เคลื่อนตัวในระดับที่สูงกว่าพื้นผิวอากาศ จะถูกพิจารณาว่าเป็นหมอก โดยหมอกนั้นจะมีความแตกต่างจากหมอกน้ำค้าง (mist) โดยเฉพาะความหนาแน่นของหมอกนั้น จะมีความแตกต่างกันออกไป
โดยทั่วโลกนั้น จะมีสถานที่ที่มีหมอกในปริมาณมากที่สุด จะอยู่ตามหมู่เกาะนิวฟันด์แลนด์ และ แคนาดา โดยสถานที่บนพื้นบกที่มีหมอกมากที่สุดในทั่วโลกนั้นจะ ได้แก่เมือง อาร์เจนเทีย รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ และ พอยน์ตเรย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และเมืองอื่นๆในบริเวณใกล้เคียง
โดยสิ่งที่อันตรายของการ เกิดหมอก นั้นจะเป็นเรื่องของการมองทัศนวิสัยที่ไม่ดี ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุของการขับขี่ยานพาหนะได้ เพราะด้วยทัศนวิสัยที่ถูกปิดบังด้วยหมอก อย่างเช่นในปี 1945 ในเหตุการณ์เครื่องบินรุ่น บี-25 มิตเชลล์ ที่พุ่งชนเข้ากับตึกเอ็มไพร์สเตต เพราะหมอก
เที่ยวทะเลหมอก ยอดดอยภูชี้ฟ้า
ที่มา: ภูชี้ฟ้า [1]
ดอยผาตั้ง
ที่มา: ดอยผาตั้ง [2]
โดยทางเราจะ แนะนำภาพยนตร์ล่าสุดที่ได้ไป ถ่ายทำตามเทือกเขาที่ราบสูง สัมผัสกับทะเลหมอก โดยจะเป็นภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า สุขสันต์วันโสด (Low Season) ซึ่งจะเป็นหนังแนวสนุกสนาน มีสีสัน โดยจะได้คะแนนรีวิวจาก imdb ไปมากถึง 6.4 คะแนน [3]
สรุป เที่ยวทะเลหมอก นั้นจะอยู่บนยอดภูเขา โดยทางเราก็ได้บอกความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับหมอก แถมยังได้แนะนำสถานที่ที่มีจุดชมวิวของทะเลหมอกอีกด้วย โดยจะมีบางภาพยนตร์ ที่ได้ขึ้นไปถ่ายทำบนดอย โดยทางเราก็ได้นำเสนอภาพยนตร์ที่มีชื่อเรื่องว่า สุขสันต์วันโสด (Low Season) นั้นเอง
[1] trip. (October 14, 2022). ภูชี้ฟ้า. Retrieved from trip
[2] thai.tourismthailand. (2003-2025). ดอยผาตั้ง. Retrieved from thai.tourismthailand
[3] imdb. (1990-2024). Low Season. Retrieved from imdb