ลงทุนกับตราสารหนี้ เป็นอีกหนึ่งช่องทางของการลงทุน ตราสารหนี้ ที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างคงตัว มีความเสี่ยงน้อยกว่าหุ้นทั่วไป ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านมารู้จัก ตราสาร ชนิดต่างๆ พร้อมแนวทางสำหรับ ลงทุนตราสารหนี้
ตราสารหนี้ (Debt Instruments) เป็นตราสารที่ออกให้แก่ผู้ซื้อ ผู้ที่ซื้อ และครอบครองตราสาร จะมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ ส่วนผู้ที่ออกตราสาร จะมีสถานะเป็นลูกหนี้ [1] กระบวนการออกตราสารหนี้ มีดังนี้
ลงทุนกับตราสารหนี้ กับภาครัฐบาล จะมีความเสี่ยงที่ต่ำมาก เทียบเท่าการฝากเงินในธนาคาร โดยตราสารหนี้จากภาครัฐ หมายถึงตราสารที่ทางรัฐเป็นผู้ออก เพื่อระดมเงินทุนจากประชาชน สำหรับเป็นเงินทุนเพื่อพัฒนาประเทศ ต่อยอด ชำระหนี้ หมุนเวียน หรือสร้างผลกำไรในอนาคต
ตราสารหนี้ที่รัฐบาลออกคือ พันธบัตรรัฐบาล (Government Bonds) เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าซื้อได้ พันธบัตรรัฐบาลนี้ ถูกกำหนดระยะเวลาการถือ พร้อมกับดอกเบี้ยที่ได้รับ เมื่อถือจนครบอายุ บางพันธบัตรจะมีผลตอบแทนพิเศษ อย่างการจับฉลากเงินรางวัลด้วยเช่นกัน
พันธบัตรรัฐบาลจะให้อัตราผลตอบแทน หรือดอกเบี้ยที่มากกว่า การฝากเงินในธนาคาร เล็กน้อย ปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2.5-3.5% มีความเสี่ยงที่น้อยกว่าการลงทุนประเภทอื่นๆ
ตัวอย่าง พันธบัตรรัฐบาลออมทรัพย์
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย [2]
ลงทุนกับตราสารหนี้ กับพันธบัตรรัฐบาล ก็มีจุดเด่น หรือข้อดีของการลงทุนดังนี้
จุดเด่นหลักๆของพันธบัตรรัฐบาล ก็คือความเสี่ยงที่น้อย และผลตอบแทนที่ตายตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงใดๆ ผู้ที่ไม่มีเวลาศึกษาหุ้น และต้องการรักษามูลค่าของเงินไม่ให้สูญหาย ไปตามอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
ลงทุนกับตราสารหนี้ กับพันธบัตรรัฐบาล ก็มีจุดที่เป็นข้อด้อย หรือเป็นข้อเสียเช่นกันดังนี้
ข้อเสียของพันธบัตรรัฐบาล ถือว่าให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างน้อยมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น รวมถึงหากในปีนั้น มีอัตราเงินเฟ้อที่สูง ก็จะหมายถึงไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้เลย
ลงทุนกับตราสารหนี้ กับบริษัท จะแตกต่างกับพันธบัตรรัฐบาล หากบริษัทเป็นผู้ออกตราสารหนี้ เราจะเรียกตราสารนั้นว่า หุ้นกู้ (Debenture) เพื่อเป็นการระดมเงินสำหรับใช้หมุนเวียน ทำกำไรในธุรกิจ ของบริษัทที่ออกหุ้นกู้มา
หุ้นกู้ สามารถดำเนินการซื้อขายได้ผ่านทางธนาคารในประเทศไทย หุ้นกู้มีราคาซื้อที่ถูกที่สุดคือ หน่วยละ 100 บาท มีอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล และก็มีความเสี่ยงที่สูงมากขึ้นตามเช่นเดียวกัน
ลงทุนกับตราสารหนี้ กับหุ้นกู้ ก็มีจุดที่โดดเด่นดังต่อไปนี้
หุ้นกู้ มีจุดเด่นในเรื่องผลตอบแทนที่สูงขึ้น รวมถึงมีหลากหลายประเภทให้เลือกลงทุน ซึ่งสามารถใช้เป็นทางเลือก รวมถึงใช้เพื่อการกระจายความเสี่ยงของเราได้
ลงทุนกับตราสารหนี้ กับหุ้นกู้ ก็มีจุดด้อยอยู่เช่นเดียวกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ผลตอบแทนที่มากขึ้น ก็ต้องแลกมากับความเสี่ยงที่มากขึ้นตาม หุ้นกู้จึงมีผลเสียทั้งในด้านผลตอบแทนที่ไม่ได้สูงมาก และผู้ซื้อต้องแบกรับความเสี่ยง ที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดเวลาได้
ลงทุนกับตราสารหนี้ ในหัวข้อนี้ จะเป็นตัวอย่างรายชื่อ ตราสารหนี้ ที่เปิดให้นักลงทุนสามารถเข้าไปซื้อขายได้ เราจะแยกประเภทออกไปอีกเป็น 2 ประเภท คือ ตราสารหนี้แบบหุ้นกู้ และ กองทุนตราสารหนี้
ลงทุนกับตราสารหนี้ แบบหุ้นกู้ ก็คือตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทต่างๆ ถูกกำหนดระยะเวลาซื้อขายเอาไว้อย่างชัดเจน เราก็ได้หยิบยกตัวอย่างตราสารหนี้ ในประเทศไทย ที่กำลังมีการซื้อขาย หรือใกล้จะเปิดให้ซื้อขายมาเพียงบางตัวอย่าง ดังนี้
อายุสัญญาของหุ้นกู้ 2 ปี ให้อัตราดอกเบี้ยที่ 7.30% ต่อปี มีการจ่ายดอกเบี้ยในทุกๆ 3 เดือน เปิดให้ซื้อในวันที่ 23-25 เมษายน 2567
อ่านรายละเอียดของหุ้นกู้ เพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) (CMC)
อายุสัญญาของหุ้นกู้ 2 ปี กับอีก 6 เดือน ให้อัตราดอกเบี้ยที่ 7.10% ต่อปี มีการจ่ายดอกเบี้ยในทุกๆ 3 เดือน เปิดให้ซื้อในวันที่ 22-24 เมษายน 2567
อ่านรายละเอียดของหุ้นกู้ เพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (MJD)
อายุสัญญาของหุ้นกู้ 1 ปี ให้อัตราดอกเบี้ยที่ 4.75% ต่อปี มีการจ่ายดอกเบี้ยในทุกๆ 3 เดือน เปิดให้ซื้อในวันที่ 18-19 และ 22 เมษายน 2567
อ่านรายละเอียดของหุ้นกู้ เพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (DAOLS)
ลงทุนกับตราสารหนี้ กับกองทุนตราสารหนี้ จะเป็นการระดมเงินทุน เพื่อนำมาลงทุนในตราสารหนี้ ผ่านกองทุนรวม โดยจะมีผู้บริการกองทุนที่มีความรู้ และความเชี่ยวชาญ เป็นอีกหนึ่งการลงทุนทางเลือก สำหรับผู้ที่สนใจในหุ้นกู้ แต่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญนัก
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ตราสารหนี้ระยะสั้นต่างประเทศ เป็นกองทุนตราสารหนี้ ที่ให้ผลตอบแทนไม่แน่นอน ตามรายได้ที่กองทุนสามารถทำได้ มูลค่าการซื้อครั้งแรก และครั้งถัดไปขั้นต่ำ 1,000 บาท
อ่านรายละเอียดของกองทุนตราสารหนี้เพิ่มเติมได้ที่ SCBFST
กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ตราสารหนี้ระยะสั้น เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนไปที่ SPDR Bloomberg 1-3 Month T-Bill ETF เป็นหลัก มูลค่าการซื้อครั้งแรก และครั้งถัดไปขั้นต่ำ 1,000 บาท
อ่านรายละเอียดของกองทุนตราสารหนี้ เพิ่มเติมได้ที่ TUSFIX
กองทุนเปิดกรุงไทยอ้างอิงเงินเฟ้อ เป็นกองทุนที่มีการลงทุนทั้งในไทย และในต่างประเทศ โดยเฉพาะตราสารหนี้ของภาครัฐบาล มูลค่าการซื้อครั้งแรก และครั้งถัดไปขั้นต่ำ 1,000 บาท
อ่านรายละเอียดของกองทุนตราสารหนี้ เพิ่มเติมได้ที่ KTILF
ตราสารหนี้ก็ถูกแบ่งประเภทย่อยออกไป มีทั้งจุดเด่น และจุดด้อยแตกต่างกัน ตราสารหนี้นี้ ยังเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการรักษามูลค่าของเงิน ไม่ให้สูญเสียตามเงินเฟ้อ รวมถึงการทำกำไรที่มีความเสี่ยงไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับหุ้นชนิดอื่น
[1] Bond. (2023-2024). วางแผนลงทุนกับตราสารหนี้. Retrieved from oic
[2] BOT. (2024). พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง 2567. Retrieved from bot
[3] Krungsri. (2017-2024). ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลดีอย่างไร. Retrieved from krungsri
[4] Krungthai. (January 8, 2024). อัตราเงินเฟ้อ. Retrieved from krungthai
รีวิว ลงทุนฟิกเกอร์ กับการขาย โมเดลฟิกเกอร์ ในบทความนี้จะเป็นการ รีวิวธุรกิจฟิกเกอร์ จากประสบการณ์ของผู้เขียน รายละเอียด ขั้นตอนการลงทุน รวมถึงอัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับธุรกิจนี้
รีวิว ลงทุนฟิกเกอร์ ในบทความนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ แชร์ประสบการณ์การลงทุนในฟิกเกอร์ ของผู้เขียนบทความ ตลอดช่วงระยะเวลาหนึ่ง รวมถึงมีการอธิบายเนื้อหาความรู้ เกี่ยวกับฟิกเกอร์ รวมถึงขั้นตอนการลงทุน การวางแผน การตลาด ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจฟิกเกอร์โดยตรง
ลงทุนฟิกเกอร์ เป็นการลงทุนธุรกิจขายสินค้าประเภท โมเดลฟิกเกอร์ ผ่านการขายแบบหน้าร้าน หรือการขายแบบออนไลน์ โดยสินค้าโมเดลฟิกเกอร์ จะถูกแยกย่อยประเภทออกไปอีก แตกต่างกันตามลักษณะ โดยหลักๆจะมีประเภททั้งหมดดังนี้
การลงทุนฟิกเกอร์ ก็จะแบ่งการลงทุนตามประเภทต่างๆ จากประเภทเหล่านี้ แยกกันออกไป เนื่องจากฟิกเกอร์แต่ละแบบ มีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ขนาดของตลาดที่แตกต่างกัน รวมถึงมูลค่าของฟิกเกอร์ ต้นทุน ที่แยกต่างกันอย่างชัดเจน
ก่อนที่จะเข้าสู่การลงทุนฟิกเกอร์ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแบบจริงจัง ต้องการสร้างธุรกิจ เป็นงานเสริม หรือเพื่อเป็นงานอดิเรก ก็มีสิ่งที่ควรทราบ และข้อที่ควรพึงระวัง ดังต่อไปนี้
ปัจจัยที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มลงทุน เพราะจะช่วยให้การลงทุนฟิกเกอร์ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในหัวข้อนี้ เราจะมาพูดถึง วิธีการเตรียมความพร้อม ของการเริ่มต้นลงทุนฟิกเกอร์ สิ่งที่ควรทำ และควรทราบก่อนที่จะเริ่มลงทุน เนื่องจากทุกการลงทุนคือการทำธุรกิจ ที่ต้องมีการเตรียมการในหลายด้าน เราจะแจกแจงรายละเอียด ให้ทราบในหัวข้อต่อไปนี้
ผู้เขียนจะขอ รีวิว ลงทุนฟิกเกอร์ กับขั้นตอนแรกที่ต้องทำ นั้นก็คือการสำรวจประเภทของฟิกเกอร์ ซึ่งประเภทหลักๆนั้นจะถูกแบ่งย่อยเป็น 6 ประเภท ตามที่เราได้กล่าวไปในหัวข้อที่แล้ว แต่สิ่งที่ผู้เขียนจะสื่อ ก็คือการทำความเข้าใจฟิกเกอร์ แต่ละประเภทในเชิงลึก
ก่อนทำการขายสินค้า การทำความเข้าใจในตัวของสินค้า ก็ถือเป็นข้อที่สำคัญมาก เพราะเราจะสามารถตอบคำถาม แก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้ รวมถึงการรู้ในรายละเอียด รู้ในวัสดุ จะช่วยให้เรามีความระมัดระวังในการจัดเก็บ และขนส่ง ที่จะเป็นขั้นตอนในระหว่างการขาย
ฟิกเกอร์แต่ละชนิดนั้น มีรายละเอียดที่ค่อนข้างมาก แตกต่างกันออกไป ทั้งในแง่ของคุณลักษณะภายนอก ในแง่ของวัสดุ รวมถึงบริษัทผู้ผลิต
ขั้นตอนที่ 2 ที่ผู้เขียนจะ รีวิว ลงทุนฟิกเกอร์ ก็คือการสำรวจราคาตลาด ฟิกเกอร์ถือว่าเป็นสินค้าที่ค่อนข้างมีหลายชนิด ราคาก็ย่อมแตกต่างกันออกไป ตามบริษัทที่ผลิต วัสดุ ความนิยม และความหายาก การสำรวจราคามีขั้นตอนดังต่อไปนี้
เป็นการสำรวจ ราคาของฟิกเกอร์ แบบง่ายที่สุด การสำรวจราคานี้ มีวัตถุประสงค์ให้เราคุ้นชินกับรายการสินค้า และเพื่อให้ทราบราคาของตลาด ในมุมมองแบบกว้าง โดยขั้นตอนการสำรวจแบบคร่าวๆ มีขั้นตอนดังนี้
การคลุกคลีอยู่กับสินค้า และราคาอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เรารู้จักสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าใหม่ สินค้าที่คนต้องการ รวมถึงราคา ผู้ที่ชำนาญแล้ว จะสามารถบอกได้เลยว่า สินค้านี้มีควรมีราคาเท่าไหร่ ราคานี้แพงหรือถูก เราจะใช้ประโยชน์ด้านนี้ในการ รีวิว ลงทุนฟิกเกอร์ ในรายละเอียดข้ออื่นๆ
หลังจากที่เราสำรวจตลาดแบบคร่าวๆ จนเริ่มคุ้นชินกับสินค้า และราคากันบ้างแล้ว ข้อนี้เราจะมา รีวิว ลงทุนฟิกเกอร์ กับการสำรวจราคาแบบเจาะจงมากขึ้น มีขึ้นตอนการสำรวจดังนี้
ข้อมูลของการสำรวจราคานี้ จะใช้ในการคำนวณ อัตราผลตอบแทน และใช้สำหรับอ้างอิงราคาตลาดที่แท้จริง ที่เราจะลงรายละเอียดในหัวข้ออื่นๆถัดไป
ในหัวข้อของ การสำรวจราคาต้นทุน ขั้นตอนนี้จะช่วยให้เรารู้ว่า ต้นทุนมีราคามากน้อยเพียงใด เมื่อเทียบกับราคาตลาดตามหัวข้อที่ผ่านมา ซึ่งเราจะนำมาคำนวณผลต่าง ที่เรียกว่ากำไร โดยขั้นตอนการสำรวจต้นทุนมีดังนี้
เมื่อเราได้ทราบราคาต้นทุน และราคาขายฟิกเกอร์ตามท้องตลาดแล้ว ตอนนี้ เราจึงสามารถนำมาหักลบกัน เพื่อคำนวณอัตราส่วนต่าง ที่เป็นกำไรจากการขายได้ โดยที่ฟิกเกอร์แต่ละชนิด จะมีส่วนต่างในกำไร ที่แตกต่างกันออกไป
รีวิวลงทุนฟิกเกอร์ ในหัวข้อของ การสำรวจตลาดฟิกเกอร์ หัวข้อนี้จะหมายถึง ผู้ซื้อฟิกเกอร์ ที่อยู่ในตลาด การสำรวจตลาดก็เพื่อให้รู้ว่ามีความต้องการในฟิกเกอร์ มากน้อยเพียงใด ประเภทฟิกเกอร์ชนิดไหน ที่มีสัดส่วนตลาดมาก โดยขั้นตอนการสำรวจมีดังนี้
ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลดิบ ที่ใช้กะขนาดของตลาดได้อย่างคร่าวๆ ทำให้ได้ทราบว่า ฟิกเกอร์นั้นมีความต้องการมากน้อยเพียงใด สำหรับ รีวิว ลงทุนฟิกเกอร์ กับการประเมินของตลาด เราจะลงรายละเอียดเชิงลึกในหัวข้อที่จะกล่าวต่อไปในอนาคต
ตัวอย่าง พิกัด ซื้อขายฟิกเกอร์แหล่งใหญ่
Mega Plaza สะพานเหล็ก
ที่มา: True ID [4]
ในหัวข้อนี้ จะคล้ายกับในหัวข้อสำรวจตลาดที่ผ่านมา แต่จะเป็นการเจาะกลุ่มตลาดเป้าหมายที่ลึกยิ่งขึ้น โดยขั้นตอนการสำรวจมีดังต่อไปนี้
ข้อมูลนี้ จะทำให้เราเห็นตลาดที่ชัดเจนมากกว่าเดิม สามารถนำมาใช้เปรียบเทียบว่า กลุ่มสินค้าฟิกเกอร์ชนิดไหน ที่มีความต้องการสูง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการเลือกกลุ่มตลาดเป้าหมายได้
เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ งบประมาณจะถูกใช้สำหรับซื้อฟิกเกอร์ ก่อนที่ฟิกเกอร์เหล่านั้น จะถูกนำมาขายต่ออีกทีหนึ่ง ยิ่งเรามีต้นทุนที่มาก ก็จะสามารถซื้อสินค้าได้มากขึ้น ทำให้ร้านของเรามีสินค้าที่เยอะ ส่งผลต่อการทำกำไรในสัดส่วนที่มากขึ้นตาม
รีวิว ลงทุนฟิกเกอร์ ในส่วนของงบประมาณ ผู้เขียนได้เริ่มต้นด้วยงบ 5,000 บาท ซึ่งสามารถทำกำไรได้ในสัดส่วน 20-30% ในช่วงระยะเวลา 1 สัปดาห์ โดยรายละเอียดในขั้นตอนการลงทุน แหล่งซื้อสินค้า รวมถึงขายที่ไหน รายละเอียดเหล่านี้ค่อนข้างเยอะ เราจะกล่าวกันต่อในพาร์ทถัดไป
รีวิว ลงทุนฟิกเกอร์ พาร์ท 1 ส่วนนี้เป็นการ รีวิว การเตรียมความพร้อมของผู้เขียน เพื่อให้ผู้อ่านทราบเป็นแนวทางว่า ควรเริ่มจากตรงไหน และเกิดอะไรขึ้นจากขั้นตอนเหล่านั้น เราจะมาต่อรายละเอียดของ รีวิว ลงทุนฟิกเกอร์ ในพาร์ทที่ 2 กันต่อ กับบทความถัดไป
[1] Zenmarket. (November 24, 2021). Nendoroid คืออะไร. Retrieved from zenmarket
[2] Lease it. (2023-2024). ประโยคย้ำเตือนใจ บริหารเงินให้ธรุกิจรอด. Retrieved from leaseit
[3] Toysmile. (April 18, 2024). Hu Tao Happy Shake Spring Toy. Retrieved from toysmile
[4] True ID. (August 8, 2023). พิกัด คนรักของเล่น Mega Plaza สะพานเหล็ก. Retrieved from trueid
ขายของเก่า เป็นอีก 1 อาชีพที่ในสมัยก่อน คนอาจจะมองว่ายาก ที่จะทำกำไรได้ หลังจากที่มีคนประสบความสำเร็จ ในด้านนี้ให้เห็น แนวคิดในการขายของเก่าจึงเปลี่ยนไป แม้แต่วัยรุ่นสร้างตัวหลายคน ก็เริ่มต้นจากการทำธุรกิจประเภทนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในการลงทุน
ขายของเก่า ไม่เพียงแค่ลงทุนน้อย แต่หากลงทุนตรงจุด ตามความต้องการของตลาด โอกาสที่จะได้กำไร มีสูงมาก ของเก่าที่นิยมขาย มีหลายประเภท เช่น ขยะ เสื้อมือ 2 ของใช้มือสองจากญี่ปุ่น ของสะสม แบรนด์ Dior ทุกสิ่งที่กล่าวมา ล้วนตีเป็นค่าเงินที่สูงขึ้นได้อย่างทันตาเห็น
การทำธุรกิจซื้อ ขายของเก่า เริ่มต้นจากความสนใจ และเรียนรู้เกี่ยวกับสินค้า ที่คุณต้องการนำมาเปลี่ยนเป็นเงิน หลังจากที่แน่ใจแล้ว ว่ามีความสนใจ และจะทุ่มเทกับงานได้อย่างเต็มที่ ขั้นตอนต่อไปนี้ จะเริ่มต้นขึ้นได้ทันที
ขั้นตอนการจดทะเบียนร้านรับซื้อของเก่า
ตามพระราชบัญญัติ ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ.2499 กำหนด การ ขายของเก่า ต้องมีสถานที่ ที่ชัดเจนในการตั้งร้าน และได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง โดยใช้เอกสารดังนี้
1. สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ใบ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ใบ
2. คำขอจดทะเบียนพาณิชย์ (แบบ ทพ.)
3. แผนที่แสดงหน้าร้านที่ชัดเจน
4. นิติบุคคล จะต้องมีหนังสือรับรองบริษัท
5. ค่าจดทะเบียนจำนวน 50 บาท
6. หากเช่าสถานที่ จะต้องมีสัญญาเช่า
7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ให้เช่าอย่างละ 1 ใบ
8. บางธุรกิจจะต้องมีสำเนาหนังสืออนุญาต เช่น ธุรกิจแผ่นซีดี แถบบันทึก วีดิทัศน์ และดีวีดี
9. หากไม่เป็นนิติบุคคล จะต้องแสดงหลักฐานจำนวนเงินทุน
ที่มา: ทะเบียนการขายทอดตลาดและค้าของเก่า [1]
การทำธุรกิจ ขายของเก่า อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าของธุรกิจ จะต้องทำการขออนุญาตเปิดธุรกิจ และจะต้องได้รับการอนุญาตก่อน จึงจะสามารถเปิดธุรกิจขึ้นมาได้ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
1. คุณสมบัติของเจ้าของกิจการ
2. การขออนุญาตเปิดธุรกิจรับซื้อของเก่า
3. สิ่งที่เจ้าของกิจการต้องทำหลังได้รับใบอนุญาต
4. ค่าธรรมเนียมการเปิดร้านขายของเก่า
ที่มา: เปิดตำรา… วิธีจดทะเบียนร้านรับซื้อของเก่า [2]
ของเก่าที่นิยมนำมาทำธุรกิจมีหลายอย่าง ซึ่งบางอย่าง ได้รับความนิยมน้อยลง ตามแต่ละยุค ของบางอย่างมีราคาที่พุ่งแรง อย่างคาดไม่ถึง ทั้งนี้ผู้ที่ทำธุรกิจเหล่านี้ จะสัมผัสถึงแนวโน้ม ที่เปลี่ยนแปลงได้อยู่แล้ว สำหรับมือใหม่ ที่อยากเริ่มต้นขายของเก่า เรามีของเก่า ที่มีมูลค่ามาแนะนำ ดังนี้
หากคุณเคย ขายของเก่า มาบ้าง จะรู้ว่าของประเภทไหน ที่มีราคาสูง นำไปแปรรูปได้เยอะ ซึ่งของเหล่านี้ เป็นสิ่งที่คนทั่วไป ไม่เห็นค่า เพราะไม่มีทักษะ หรือความรู้ที่จะเอาไปใช้ประโยชน์ มีดังนี้
1. เศษเหล็ก
เศษเหล็กเป็นของเก่า ที่มีราคาสูง ด้วยราคามือหนึ่ง ที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน การก่อสร้างบ้าน ในแต่ละครั้ง จะเหลือเศษเหล็ก ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ให้เห็นมากมาย สามารถเอาไปขายได้ แต่ราคาของเศษเหล็ก ที่ต่างชนิดกัน อาจจะได้ราคาที่ต่างกัน ซึ่งทาง บริษัทวงษ์พาณิชย์ จะรับซื้อในราคา ดังนี้
สามารถสอบถามรายละเอียด ราคาเศษเหล็กอื่นๆ ได้ที่ บริษัทวงษ์พาณิชย์
2. สายไฟ, หม้อแปลง
สายไฟและหม้อแปลง มีส่วนประกอบของทองแดง จึงเป็นที่ต้องการของร้าน ขายของเก่า เป็นอย่างมาก เนื่องจากนำไปขายต่อได้ กำไรเยอะ ได้ราคาดี เมื่อเปรียบเทียบ กับราคารับในโกดังใหญ่แล้ว สำหรับหม้อแปลงจะมีการตีราคารับซื้อ โดยขึ้นอยู่กับสภาพภายนอก จึงทำให้ได้ราคาที่ไม่แน่นอน
3. เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่าง สามารถนำไปซ่อมได้ บางอย่างก็พังเยอะ จนซ่อมไม่คุ้มเท่าการซื้อใหม่ ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ ล้วนซื้อมาในราคาที่สูง เป็นไปได้ว่า อะไหล่หลายอย่างภายในตัว ยังคงสามารถนำไปใช้งานต่อได้ คุณสามารถนำมาขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าใกล้บ้านได้ จะมีการตีราคา ณ จุดรับซื้อในราคาที่เหมาะสม
เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละอย่างจะขายได้ในราคาที่แตกต่างกัน เช่น จอคอมพิวเตอร์ LED 20 บาทต่อ 1 ตัว, เคสคอมพิวเตอร์ 10 บาทต่อ 1 กิโลกรัม, โทรทัศน์เก่าจอ LED 20 - 50 บาทต่อ 1 ตัว, เม้าท์ คีย์บอร์ด 1 บาทต่อ 1 กิโลกรัม, พัดลมตั้งโต๊ะและเพดาน 20 - 30 บาทต่อ 1 ตัว เป็นต้น [3]
ของเก่าหลายอย่าง นำไปรีไซเคิลได้ หลายอย่างนำไปใช้ต่อได้ หลายอย่างสภาพดีแต่ราคาถูก ทำให้คุ้มค่าต่อการนำมาใช้ แม้กระทั่งรถยนต์มือ 2 ยังมีราคาถูกกว่ารถมือ 1 เกือบเท่าตัว ทั้งที่สภาพไม่ได้แย่มาก หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้าบางประเภท ที่มีราคาสูงกว่ามือ 1
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ของมือสองหรือของเก่าหลายอย่าง จึงมีคุณค่าเฉพาะ ที่แตกต่างกัน การนำไปใช้งาน ผลประโยชน์ที่ได้รับ รวมถึงการนำของที่ไม่ใช้แล้ว ไปตีค่าเป็นเงินนั้น ช่วยให้เราเห็นคุณค่า ของเงินและลดปริมาณขยะ ที่มหาศาลให้น้อยลงได้
ขายของเก่า เป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ในปัจจุบัน เนื่องจากมีแหล่งซื้อ-ขายที่ชัดเจน มีโกดังใหญ่รองรับ เพื่อการส่งต่อไปแปรรูป จึงไม่เสี่ยงที่จะขาดทุน จากธุรกิจนี้ แถมยังมีราคาขาย ที่สูงขึ้นตามค่าเงินที่เปลี่ยนไป
[1] Bora.dopa. (2024). ทะเบียนการขายทอดตลาดและค้าของเก่า. Retrieved from bora.dopa
[2] Inflowaccount. เปิดตำรา วิธีจดทะเบียนร้านรับซื้อของเก่า. Retrieved from inflowaccount
[3] .Jobrecycle (2015 - 2024). ขยะมีค่าอย่าทิ้ง! เช็คราคา ‘รับซื้อของเก่า. Retrieved from jobrecycle