เหรียญ Polkadot อีกบล็อกเชนหนึ่งที่ผู้พัฒนาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง และผู้บริหารระดับสูงของ เครือข่าย Ethereum โดยเหรียญนี้มีมูลค่าอยู่ที่อันดับ 14 ของโลก และยังเป็นต้นแบบของศูนย์กลางที่เชื่อมบล็อกเชนได้หลายๆ ตัวที่สำคัญ บทความนี้จะเป็นการพูดถึงที่มา การทำงานหลักๆ และประวัติศาสตร์ที่สำคัญๆ ของเหรียญนี้

ประวัติการก่อตั้ง เหรียญ Polkadot

เครือข่ายบล็อกเชนที่ถูกสร้างขึ้นโดยหนึ่งในทีมผู้สร้าง Ethereum คือ Gavin wood โดยเริ่มโปรเจกต์เมื่อปี 2016 ก่อนจะประกาศแล้วเสร็จในปี 2020 ซึ่งเชนนี้มีเป้าหมายคล้ายๆ กับของอีเธอเรียม พร้อมจุดมุ่งหมายเพื่อเชื่อมต่อบล็อกเชนอื่น ๆ เข้าด้วยกัน ให้ DOT เป็นดั่งอินเทอร์เน็ตในโลกของบล็อกเชนนั่นเอง

• ช่วงแรกที่เครือข่ายเริ่มทำงาน การสร้าง DOT จะใช้ระบบฉันทามติแบบ Proof of Authority ที่เป็นการทำงานโดยการเลือกผู้ตรวจสอบตามชื่อเสียง สำหรับสิทธิ์ในการตรวจสอบ 1 Block โดยเชนนี้ก็ให้ Web3 Foundation มาเป็นผู้ตรวจสอบ
• ไม่กี่เดือนต่อมาจะเปลี่ยนมาใช้ระบบ Nominated Proof of Stake ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถือเหรียญ DOT ตามเกณฑ์ขั้นต่ำ (350 เหรียญ) และให้ผู้ที่มีไม่ถึงสามารถฝากเหรียญให้คนที่มีครบมาตรวจสอบได้

ที่มา: Polkadot (DOT) คืออะไร? [1]

จุดเด่น และหลักการทำงานของมัน

โดยเหรียญนี้นับว่าเป็นเหรียญที่มีโครงสร้างซับซ้อนที่สุด และเต็มไปด้วยเทคโนโลยีหลายอย่างเป็นองค์ประกอบร่วมกัน ซึ่งทำให้จุดเด่นของมันจะเป็นบล็อกเชนที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อบล็อกเชนอื่นเข้าด้วยกันได้ อย่างการโอนเหรียญข้ามเชนใน ecosystem ก็จะต้องผ่าน Relay Chain ของ Polkadot blockchain นั่นเอง ซึ่งก็มีอีกหลายระบบทำงานในนี้ด้วย

อย่างการเขียน smart contract ก็ไม่ได้เขียนใน Relay Chain แต่จะใช้ระบบ Parachain เขียนและส่งเชื่อมเข้ากับ Relay อีกที และมี Collators ที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดในเครือข่าย เพื่อส่งต่อไปให้ตรวจสอบอีกทีในกลไกฉันทามติแบบ Nominated Proof-of-Stake (NPoS) [2] ซึ่งในระบบการตรวจสอบแบบนี้ ก็ยังมีองค์ประกอบหลักถึง 4 ส่วนด้วยกัน 

องค์ประกอบของ กลไกฉันทามติแบบ NPoS

ระบบนี้เรียกเต็มๆ ว่า Nominated Proof-of-Stake ก็คือการตรวจสอบโดยใช้เหรียญมาค้ำคล้ายๆ Ethereum บล็อกเชน และเชนใหม่อื่นๆ นั่นเอง เพียงแต่ของเชนนี้จะมีรายละเอียดที่แต่ต่างออกไปด้วยองค์ประกอบหลักถึง 4 ส่วนที่สามารถทำได้ตอนนี้ และทำให้ระบบฉันทามตินี้ประหยัดไฟฟ้ามากกว่า ETH ถึง 240,000 เท่าเลย

1. Validator ก็คือบุคคลที่จะมาตรวจสอบธุรกรรมบน Relay Chain ตามกลไกฉันทามติที่กล่าวไปข้างต้นนั่นแหละ โดยบุคคลที่จะเรียกได้ว่าเป็น Validator ก็จะต้องรวย DOT หน่อย จะต้องทำการวาง (stake) เหรียญ DOT เป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน อย่างน้อย 350 DOT และจะได้ผลตอบแทนเป็น DOT คืน 10% แน่นอนหากทำทุจริตเหรียญที่นำมาฝากก็จะถูกริบทันที
2. Nominator คือผู้ที่มีใจอย่างจะช่วยตรวจสอบธุรกรรม แต่อาจจะไม่สะดวก run node หรือไม่มีเหรียญ Dot มากพอขั้นต่ำ ก็สามารถให้บุคคลแรก ยืมเหรียญได้ และจะนำมาคืนภายหลังพร้อมดอกเบี้ยนิดหน่อย โดยสามารถเลือก Validator ที่ชอบได้เลย
3. Collator ก็คือคนที่กล่าวในตอนแรกที่รวบรวมข้อมูล validate ที่ทำธุรกรรมระหว่าง Parachain และ Relay Chain โดยจะต้องวาง DOT เช่นกันเป็นการค้ำ ก่อนจะทำหน้าที่ยืนยันธุรกรรม ด้วยกลไกเดียวกันกับ validator 
4. Fisherman ไม่ใช่ยาอมเม็ดชุ่มคอแต่อย่างใด แต่นี่คือผู้ที่ต้องวาง DOT เพื่อคอยสอดส่องพฤติกรรมของ validator และ collator ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่ และหากสามารถตรวจจับพฤติกรรมต้องสงสัยว่ามีการทุจริตจริงก็จะรับ DOT เป็นค่าตอบแทน

ที่มา: Polkadot: A blockchain of blockchains [2]

ข้อน่าสนใจที่เกี่ยวกับ เหรียญ Polkadot 

เหรียญที่เป็นถึง Top 20 แห่งวงการคริปโต และหลายคนก็ต้องรู้จักผ่านตากันมาบ้าง โดยหัวข้อนี้ก็เป็นข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับเหรียญที่สามารถเป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนใน Ecosystem ของหลายบล็อกเชนที่เรียกว่า Interoperability ยิ่งมีการใช้งานเยอะก็ยิ่งมีความปลอดภัยสูง 

• DOT เป็นเหรียญที่ไม่มีการจำกัดจำนวนเหรียญที่ผลิตออกมา จึงทำให้ตอนนี้มีเหรียญดอทในระบบมากกว่ากว่า 1.2 พันล้านเหรียญแล้ว
• โปรเจกต์ในกระแส Megatrend ที่มีการทำงานร่วมกันแบบ Muti-Chain จึงทำให้มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนจากเชนต่างๆ และนักวิเคราะห์ กำลังจับตามองตั้งแต่ปี 2022-ปัจจุบัน
• ระบบของ Parachain ที่สามารถสร้างสัญญาอัจฉริยะ หรือเขียนโปรแกรมลงไปได้ ยังมีการประมูลที่จะคัดเฉพาะ Chain หรือโปรเจกต์ที่มีคุณภาพ และมีคนเลือกมากที่สุด 100 โปรเจกต์ (dApp) มาทำงานอยู่บน Polkadot
• เหรียญดอทเคยทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ All-time High ถึง 55.09 ดอลลาร์ หรือโตใน 1 ปีถึง 583%

ที่มา: 10 ข้อน่ารู้เกี่ยวกับ Polkadot [3]

การทำ Redenomination ที่ทำให้ผู้ถือกำไร 2000%

ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นหลังช่วงการเปิดขายก่อนจะเปิดตัวของ DOT โดยขายเหรียญก่อนในปี 2017 ในราคาประมาณ 30 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ซึ่งพอมาถึงช่วงเปิดตัวราคาของเหรียญก็ตกมาเรื่อยๆ จนเหลือแค่ประมาณ 6 ดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งนี่ก็เป็นข้อดีของผู้ที่เลือกจะถือเก็บไว้จนมีการเปิดตัว 2020 

เพราะในวันที่ วันที่ 21 สิงหาคม 2020 ทางเชนของดอทก็ได้ทำสิ่งที่เรียกว่า Redenomination ด้วยตัวแปรที่ 100 ซึ่งแปลว่าผู้ที่ถือเหรียญอยู่ ณ เวลานั้น จะได้เหรียญใหม่ 100 ดอทที่มีมูลค่า 6 ดอลลาร์ ต่อเหรียญในมือ 1 ดอท อย่างถ้าซื้อ Dot coin มาตอน 30 ดอลลาร์ 10 ดอทก็จะมีเหรียญเพิ่มขึ้นเป็น 1000 เหรียญนั่นเอง จึงเป็นที่มาของ กำไร 2000% [4]

รายละเอียดของราคา และข้อมูลในตลาดคริปโต

โดยราคาของเหรียญ ณ ตอนนี้ อยู่ที่ประมาณ 7.39 ดอลลาร์ หรือประมาณ 270.67 บาท (ราคาวันที่ 29 พฤษภาคม 2024) ถึงแม้จะตกมาจาก All-timr High มากแต่ก็เป็นเหรียญอันดับ 14 และทำกำไรในความผันผวนให้หลายคน จนมีมูลค่าการซื้อขายที่มากถึง 240.26 ล้านดอลลาร์ 

• อุปทานหมุนเวียน Supply 1.44 พันล้าน DOT
• อุปทานสูงสุด Max Supply ยังไม่มีจำกัด ผลิตได้เรื่อยๆ
• มูลค่าตามราคาตลาด 10.65 พันล้านดอลลาร์
• กำไร +36.05% เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปี 2023

ดูข้อมูลของเหรียญ DOT เพิ่มเติมที่ coinmarketcap

สรุป เหรียญ Polkadot เชนที่เปรียบเป็นอินเทอร์เน็ตของบล็อกเชน

เหรียญที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษามูลค่าของตัวเอง ซึ่งต้องการเป็นศูนย์กลางของเชนทั้งหมด สังเกตจากการไม่มี Max Supply และไม่มีการเบิร์นเหรียญออกจากระบบ ซึ่งปัจจุบันก็เป็นเหรียญที่แก้ไขปัญหาการโอนเหรียญระหว่างเชนจาก ที่ใช้เวลาและค่าธรรมเนียมที่สูง ให้มีประสิทธิภาพขึ้นมาก

อ้างอิง

[1] bitkubacademy. (October 6, 2021). Polkadot (DOT) คืออะไร?. Retrieved from bitkubacademy

[2] finnomena. (June 22, 2022). Polkadot: A blockchain of blockchains. Retrieved from finnomena

[3] moneybuffalo. (March 2, 2022). 10 ข้อน่ารู้เกี่ยวกับ Polkadot. Retrieved from moneybuffalo

[4] siamblockchain. (August 30, 2020). เหรียญคริปโตที่ก่อตั้งในปี 2017 ทำ ICO แต่ให้ผลตอบแทนนักลงทุนไป 2,000% แล้ว. Retrieved from siamblockchain

เหรียญ Ripple อีกหนึ่งเหรียญที่ได้รับความนิยมในการใช้งานอย่างมากตั้งแต่ปี 2020 ที่บิตคอยน์มาแรงสุดๆ และเหรียญนี้ก็อยู่ใน 10 อันดับเหรียญที่มีการใช้งานมากที่สุดมาตลอดจนถึงปัจจุบัน บทความนี้จึงพูดถึงเหรียญนี้ว่ามีดีอะไร พร้อมที่มา และหลักการทำงานคร่าวๆ ของเหรียญนี้

ประวัติการก่อตั้ง และจุดเด่นของ เหรียญ Ripple 

โดยจุดเริ่มต้นของ Ripple หรือ XRP เกิดขึ้นในปี 2011 จากวิศวกรคอมพิวเตอร์สามคนที่สนใจใน Bitcoin คือ David Schwartz, Jed McCaleb และ Arthur Britto และตั้งใจจะทำโปรเจกต์ที่เกี่ยวกับระบบการส่งโอนมูลค่าที่มีความเสถียร และเร็วขึ้นกว่าระบบเดิมๆ เดิมที่บริษัทนี้ชื่อว่า XRP ledger และเปลี่ยนไปเป็น NewCoin และ OpenCoin ในปี 2012 ก่อนจะมาในชื่อ Ripple ในปัจจุบัน [1]

ซึ่งเครือข่าย Ripple มีจุดเด่นคือ เป็นเหมือนตัวกลางที่ใช้ในการโอนทั้งเงินทั่วไป และเงินดิจิทัลข้ามเขตแดนประเทศได้ โดยมีความเร็วจาก 3-4 วันของระบบเดิมเป็นหลักนาทีได้ และจุดเด่นอีกอย่างที่เหรียญ Top 10 ต่างจากเหรียญอื่นๆ คือระบบที่ค่อนข้างเอนเอียงไปทาง Centralized ไม่ได้มุ่งเน้นการกระจายอำนาจแบบเหรียญอื่นๆ แต่มุ่งเน้นการโอนเงินและง่ายต่อการดีลกับธนาคารต่างๆ [2]

หลักการทำงานของ Ripple หรือ XRP 

ก่อนอื่นต้องพูดก่อนว่า XRP คือเหรียญคริปโตที่สร้างมาจากเครือข่ายของ Ripple แต่เพียงปัจจุบันหลายคนมักจะเรียกว่าเหรียญ Ripple กันมากกว่า ซึ่งเป็นเหรียญที่มีหลักการทำงานเพื่อใช้เป็นสื่อกลางการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยมีการทำงานดังนี้

•  XRP จะถูกควบคุมโดย Node จากบริษัทและธนาคารในเครือข่าย นั่นแปลว่าบุคคลทั่วไปไม่สามารถทำการขุดหรือ เข้าไปตรวจสอบธุรกรรมได้แบบ Bitcoin หรือใช้เหรียญไปค้ำเพื่อสิทธิ์การเข้าถึงแบบเหรียญคริปโตอื่นๆ 
•  XRP เป็นอีกเหรียญที่มีจำนวน Supply เยอะมาก แต่ก็ถูกสร้างขึ้นมาอย่างจำกัด โดยมีทั้งหมดมากถึง 100,000 ล้านเหรียญ ซึ่งจะไม่ได้ปล่อยออกมาทั้งหมด เพราะ 80% ของเหรียญจะอยู่ที่บริษัท เพื่อรักษามูลค่าไว้ ซึ่งหากมีความต้องการถึงจุดหนึ่งก็อาจต้องใช้มาตรการเบิร์นเหรียญเพื่อให้มูลค่าสูงขึ้นได้
• XRP จะใช้ตัวเองเป็นค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน ซึ่งเปรียบเสมือนการเบิร์นอยู่แล้ว จึงทำให้ทุกการทำธุรกรรม ปริมาณของเหรียญจะลดลงเรื่อยๆ ยิ่งมีจำนวนความต้องการเยอะเหรียญก็จะถูกนำออกระบบไปเยอะด้วย เป็นการรักษาสมดุลของปริมาณและความต้องการ โดยไม่ต้องมาควบคุมจำนวนเหรียญเองเลย 

ที่มา: ล้วงลึก XRP คืออะไร? ทำไมนักลงทุนส่วนใหญ่ถึงสนใจ [2]

XRP เหรียญที่จะมาเปลี่ยนการโอนเงินระหว่างประเทศ

เหรียญที่มีเป้าหมายในการทำธุรกรรมที่เร็ว และมีคุณสมบัติตามที่กล่าวไป อย่างการมีค่าธรรมเนียมที่ถูก แถมทำได้เร็วอาจไม่เท่า Solana บล็อกเชน แต่ก็เร็วกว่าเหรียญทัั่วไปหลายเท่ามาก พร้อมด้วยการเป็นระบบที่รวมอำนาจไว้ทำให้ธนาคารเข้ามามีส่วนร่วม โดยธนาคารไทยหลายแห่งก็เอาด้วยกับ Ripple แล้วและทำให้เหรียญนี้เป็นเหรียญที่ถูกนำมาใช้ในการโอนเงินระหว่างประเทศ ทั้งเงินทั่วไป และเงินดิจิทัลต่างๆ [2]

• เพราะแต่เดิมการติดต่อซื้อขายข้ามประเทศ มักมีปัญหาในความไม่โปร่งใส และความล่าช้าในการโอนเป็นวัน
• แต่เหรียญนี้กลับทำได้รวดเร็วแทบจะเรียลไทม์เลย แถมทางผู้ส่ง และผู้รับยังสามารถมองเห็นสถานะ ของการชำระเงินได้ทันที
• ธุรกิจใหญ่ๆ อย่างบริษัทปิโตรเคมี ธุรกิจส่งออกระหว่างประเทศ ก็หันมาใช้ Ripple Net จากเงินที่ต้องรอนานอย่างน้อย 3 วันก็เหลือแต่หลักนาทีเท่านั้น

เปรียบเทียบความแตกต่างของ Ripple กับ Bitcoin

จากความเป็นมาของผู้พัฒนาที่ว่ามีความสนใจใน Bitcoin แต่เครือข่ายของริปเปอร์กลับมีหลักการที่ตรงข้ามกันอย่าง Centralized ทำให้นี่ก็คือจุดแตกต่างแรกระหว่าง ริปเปอร์ กับ คริปโตส่วนใหญ่เลย โดยในความแตกต่างกับเหรียญตัวเป้งแบบบิตคอยน์ก็มีอีกหลายอย่าง

1. ระบบที่ใช้ผลิต Bitcoin ใช้บล็อกเชน ในขณะที่ Ripple ไม่ได้ใช้  แต่จะเป็นระบบ Distributed Ledger Consensus ที่จะอิงตามเครือข่ายการตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์แบบระบบปิด
2. Ripple มีระยะเวลาในการประมวลผลการชำระเงินที่เร็วกว่า ซึ่งต้องต่างกันอยู่แล้วจากเป้าหมายที่ต่างกัน โดยเหรียญที่มีเป้าหมายเพื่อรักษามูลค่าอย่างบิตคอยน์ทำธุรกรรมได้ 3 ถึง 6 รายการต่อวินาที ในขณะที่ริปเปอร์เหรียญที่มีเป้าหมายในการถ่ายโอนธุรกรรมนี้ ทำได้ 1500 รายการต่อวินาที
3. Ripple ใช้กระบวนการฉันทามติแบบวนซ้ำ ส่วน Bitcoin ใช้กระบวนการที่เรียกว่า Proof of work หรือที่เรียกว่าการขุด

ที่มา: ความแตกต่างระหว่าง Ripple กับ Bitcoin? [3]

รายละเอียดราคา และความนิยมในการใช้งาน

สำหรับเหรียญนี้ราคา ณ ปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 19.48 บาทหรือราว 0.53 ดอลลาร์สหรัฐ  และมีโวลุ่มการซื้อขายอยู่ที่ 606.62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราคาวันที่ 27 พฤษภาคม 2024) โดยเหรียญที่เคยทำสถิติสูงสุด หรือ all-time high ไปถึง 3.84 ดอลลาร์ และเป็นเหรียญที่อยู่อันดับที่ 7 ในปัจจุบัน

โดยเหรียญนี้มีการใช้งานในกลุ่มธุรกิจมากที่สุด ไม่นับแอป Defi หรือเกมต่างๆ จะใช้ในธุรกิจส่งออก และระหว่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และในกลุ่มนักลงทุนเองก็มีความสนใจในเหรียญนี้จากการเบิร์นเหรียญทุกๆ ธุรกรรม เพราะเหรียญที่ถือไว้อาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้จากยอดการทำธุรกรรมนั่นเอง

สองปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา XRP

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเหรียญนี้ สามารถมองได้จากปัจจัยพื้นฐานที่อาจส่งผลต่อมูลค่าราคาในระยะยาว และปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถส่งผลต่อราคาในระยะสั้นได้ โดยเป็นสองปัจจัยที่เป็นที่พื้นฐาน และปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้

ความมีอยู่อย่างจำกัดของเหรียญ 

• ถึงแม้ทางริปเปอร์จะมี XRP มากมายดั่งปลาในมหาสมุทร แต่ก็เป็นปลาที่ขยายพันธุ์เพิ่มไม่ได้ นอกจากจะมีการจำกัดปริมาณแล้ว ยังสามารถลดลงไปได้ด้วยทุกธุรกรรม แต่ยังไม่ถึงกับขาดแคลน เพราะยังมีจำนวนเหรียญที่รักษาเสถียรภาพของราคาอยู่ในระบบของริปเปอร์ถึง 80% และหากจำนวนเหรียญเหล่านั้นเริ่มลดน้อยลง ก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ XRP ได้

การขยายตัวของการใช้งานเครือข่าย   

• เมื่อมีผู้เข้ามาใช้บริการโอน หรือทำธุรกรรมของริปเปอร์มากมากขึ้น ก็จะส่งผลให้เหรียญนี้ เป็นที่ต้องการ และมันจะเป็นแรงผลักดันให้ราคาสูงขึ้น ทั้งจากความต้องการในตลาดของผู้ใช้งานและนักลงทุน
• ซึ่งนอกจากความต้องการเพิ่มขึ้นแล้ว เหรียญจะมีราคาขึ้นด้วยกลไกการเบิร์นเหรียญอัตโนมัติด้วย จากการใช้งานเหรียญเพิ่มขึ้นก็จะมีเหรียญถูกนำออกไปจากระบบ และเมื่อมีปริมาณเหรียญในระบบมีน้อยลง ก็จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันราคาของเหรียญได้

ที่มา: Ripple (XRP) น่าลงทุนหรือไม่ในกระแสการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัล [4]

สรุป เหรียญ Ripple การโอนคริปโตแบบมีตัวกลางหนึ่งเดียว

ระบบที่ออกเหรียญมาเพื่อการใช้งาน และโอนระหว่างประเทศ ซึ่งอยู่ในอันดับ 7 ของโลก โดยมีลักษณะที่ค่อนข้างรวมศูนย์ แต่เป็นการควบคุมของระบบริปเปอร์เอง ซึ่งด้วยความเร็วของธุรกรรมจึงสามารถขจัดปัญหาการโอนเงินระหว่างประเทศแบบเดิมที่ใช้ 3-4 วัน มาเป็นไม่กี่นาทีเท่านั้น  

อ้างอิง

[1] siamblockchain. (July 24, 2023). XRP คืออะไร ? อะไรที่เราควรรู้เกี่ยวกับ XRP และ Ripple. Retrieved from siamblockchain

[2] thestorythailand. (July 1, 2021). ล้วงลึก XRP คืออะไร? ทำไมนักลงทุนส่วนใหญ่ถึงสนใจ. Retrieved from thestorythailand

[3] admiralmarkets. (January 8, 2024). ความแตกต่างระหว่าง Ripple กับ Bitcoin? . Retrieved from admiralmarkets

[4] mitrade. (August 17, 2023). Ripple (XRP) น่าลงทุนหรือไม่ในกระแสการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัล. Retrieved from mitrade

เหรียญ UNI เป็นโทเค็นหนึ่งของแพลตฟอร์ม Uniswap ซึ่งมีไว้สำหรับแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตทั้งหลายที่เรียกว่า Decentralized Exchange หรือแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจโดยทำงาน และพัฒนาบนระบบ Ethereum บล็อกเชน ซึ่งกลายเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในเวลาต่อมา แถมผู้ใช้งานยังสามารถช่วยเรื่องสภาพคล่องให้กับแพลตฟอร์มได้ด้วย

ผู้ก่อตั้ง และประวัติการปรับเปลี่ยนของ เหรียญ UNI

Protocol การแลกเปลี่ยน และมีสภาพคล่องสูงจนได้รับความนิยมมากที่สุดของโลกนี้ เริ่มให้ใช้งานเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2018 โดย Hayden Adams อดีตวิศวกรเครื่องกลของ Siemens และเริ่มมาได้รับความสนใจเมื่อปี 2020 จากการอัปเกรด V.2 ที่ผู้ใช้งานสามารถเทรดคู่เหรียญได้มากขึ้น ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ก็มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจากทุนที่ได้กว่า 3 ล้านบาท

• เพิ่มฟังก์ชัน Smart Cotrnact จากที่เขียนด้วย Vyper เปลี่ยนเป็นการเขียนด้วย Solidity แทน
• ใช้ CREATE2 เพื่อกำหนดที่อยู่ของ Pool ตามเหรียญคู่ในระบบบล็อกเชนอีเธอเรียม ERC20 ให้สามารถฝากได้มากขึ้น ส่งผลดีต่อขนาด Pool และสภาพคล่องที่สูงขึ้น
• เพิ่มการป้องกันการเข้าใหม่โดยใช้ Mutex เพื่อที่จะสามารถรองรับรองรับเครือข่าย ERC777 และโทเค็น ERC20 ด้วย

ที่มา: Uniswap(UNI) คืออะไร? เหรียญนี้ดีไหม? แนวโน้มเหรียญ UNI จะเป็นอย่างไร? [1]

Uniswap และหลักการทำงานของมัน

แพลตฟอร์มที่ว่านี้คือแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเหรียญที่ทำงานในรูปแบบของ Automated Market Maker หรือว่าง่ายๆ คือแอปที่สามารถเก็บสภาพคล่องสำรอง เพื่อที่ให้ผู้ที่ต้องการนำเหรียญมาสลับเป็นเหรียญอื่นๆ สามารถทำการแลกได้ทันทีผ่าน Pool หรือ Liquidity Provider โดยไม่ต้องไปเทรด หรือขายเป็น USD กับ Stable coin เลย 

• โดยขั้นตอนการ Swap จากเหรียญหนึ่งไปยังอีกเหรียญหนึ่งจะใช้ระบบ Smart Contract มันจึงต้องเป็นที่สามารถใช้งานบน ERC-20 หรือ ETH ได้เท่านั้น
• ผู้ใช้งานยังสามารถนำเหรียญคู่ที่คาดว่าจะมีการแลกเปลี่ยนมากที่สุดมาฝากไว้กับแพลตฟอร์มนี้ได้ เช่น BTC/DAI, BTC/UNI หรือ BTC/BNB ซึ่งวิธีนี้เป็นการช่วยเพิ่มเหรียญในระบบการแลกเปลี่ยนให้มีความเร็วหรือ สภาพคล่องที่สูง  แถมยังได้รับผลตอบแทนจากการฝากในรูปแบบของดอกเบี้ยด้วย
• นอกจากนี้ยังมีระบบการถอนโทเค็น ERC20 ไปใช้ก่อนได้คล้ายการกู้ยืม ซึ่งจะมีทั้งระบบดอกเบี้ย และการคืนเหรียญแบบเดียวกันเลย โดยจ่ายเปอร์เซ็นต์ของโทเคน ERC20 และคืนส่วนที่เหลือ

ที่มา: Uniswap คืออะไร? แพลตฟอร์ม ที่ได้รับความนิยมมากในตลาด [2]

ตัวอย่างความสามารถของ Uniswap และความเสี่ยง

โดยหัวข้อนี้จะเป็น การพูดถึงความสามารถของแพลตฟอร์มนี้ ที่เป็นระบบที่มีประโยชน์ในระบบนิเวศของการแลกเปลี่ยน และดีต่อคนบางกลุ่ม พร้อมระบุความเสี่ยง หรือข้อควรระวังของการใช้งานด้วย ซึ่งมันเกิดขึ้นได้และยังไม่มีมาตรการแก้ไขขึ้นมา

ยูนิสวอปทำอะไรได้บ้าง

• Swaping เหรียญ ตามชื่อเลย ก็คือบริการแลกเปลี่ยนเหรียญทั้งเหรียญคู่ และเหรียญที่มีการแลกเปลี่ยนมากที่สุด ซึ่งสามารถนำมาแลกได้โดยไม่ต้องเสียเวลาขายก่อน ให้เสี่ยงเสียมูลค่ากับความผันผวนในตลาด
• สำรวจราคาของเหรียญต่างๆ แพลตฟอร์มนี้ยังมีฟีเจอร์ที่สามารถดูราคาของเหรียญต่างๆ ได้ โดยมีการแสดงราคาแบบเรียลไทม์อิงจากแพลตฟอร์มของตัวเองเลยด้วย ซึ่งบอกได้ทั้งกราฟ โวลุ่มการแลกเปลี่ยน การซื้อขาย ตั้งแต่หลักนาที ถึงหลักปีได้เลย 
• ซื้อขาย NFT โดยแพลตฟอร์มนี้ยังเปิดให้สามารถซื้อขาย NFTs ได้อย่างหลากหลาย ที่จาก GameFi  เพลง และผลงานทางศิลปินต่างๆ ได้ โดยผู้ผลิต NFT ก็สามารถเข้าไปสร้างโปรไฟล์ของตนเองได้ เพื่อวางขายผลงานตัวเอง ซึ่งจะเสียส่วนแบ่งเล็กน้อยจากค่า Gas 
• Pool ระบบเอกของแพลตฟอร์มนี้เลย ที่ผู้ใช้งานทั่วไปที่มีเหรียญอยู่แล้ว สามารถนำมาฝากได้เป็นคู่ๆ เพื่อสำรองการแลกเปลี่ยนในระบบให้มีความคล่องตัวมากขึ้น การฝากเหรียญคู่สามารถทำได้ฟรีๆ แถมยังได้ค่าตอบแทนเป็นค่าธรรมเนียมด้วย และยังสามารถช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แพลตฟอร์มนี้อีก ให้มีคุณภาพการแลกเปลี่ยนที่ดีสุดๆ

ความเสี่ยง

• Smart contract ปลอม สัญญาอัจฉริยะจากโครงการปลอมๆ ที่อาจทำขึ้นมาเพื่อหลอกให้นำเหรียญต่างๆ มาลงทุน หรือเป็นแอบอ้าง ซึ่งนี่ถือเป็นปัญหาใหญ่ของแพลตฟอร์มนี้  เมื่อใครก็ได้สามารถสร้างโทเค็น ERC20 และเพิ่งลงไปได้จึงมีผู้ไม่ประสงค์ดีแทรกซึมเข้ามาด้วย
• Gas ราคาแพง เป็นที่ทราบดีว่าค่า Gas ของ Ethereum นั้นสูง และสูงขึ้นจากการรู้จักคริปโตในวงกว้าง และมีการใช้งานเครือข่ายเป็นจำนวนมาก โดยความแออัดของเครือข่ายก็อยู่ที่ 97% หลาย dApp ก็เปลี่ยนไปใช้กับ Solana ที่มีค่าธรรมเนียมถูกกว่าแถมเร็วกว่ามาก แต่สำหรับแพลตฟอร์มนี้ที่ยังใช้เครือข่ายเดิม ก็อาจมีบางครั้งที่ค่าธรรมเนียมแพง และถูกตามจำนวนผู้ใช้งาน [3]

รายละเอียดด้านราคา และการเติบโต

ในเรื่องของราคา UNI ในตอนนี้มีราคาอยู่ที่ 10.71 ดอลลาร์ โวลุ่มการซื้อ 35.58 ล้านดอลลาร์ โดยในปีที่ผ่านมาจากการใช้งานที่เพิ่มขึ้น 140% ของผู้ใช้งานที่เพิ่มจาก 3.03 ล้านวอลเล็ตเป็น 7.26 ล้านวอลเล็ตในต้นเดือนพฤษภาคมนี้เอง ก็ส่งผลให้เหรียญนี้มีราคาพุ่งขึ้นสูง และทำให้วอลลุ่มการซื้อขายสะสมที่สูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ ในเดือนเมษาที่ผ่านมานี้เอง

Roadmap การปล่อยโปรโตคอลเวอร์ชันใหม่ล่าสุด

ทีมผู้อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์ม DEX ชื่อดังนี้อย่าง Uniswap Foundation ล่าสุดได้ออกมาประการถึงการพัฒนาของระบบโทเคน และโปรโตคอลใหม่ของแอปแล้ว ซึ่งจะออกมาในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2024 นี้จึงมีคาดการณ์การมาของโทเคนนี้ และก็มีการใช้งานมากขึ้นในช่วงต้นปีโดยมีผู้ใช้รายวันบนเครือข่ายเติบโตถึง 26.2% ซึ่งแผนการปล่อยก็จะมีการแบ่งออกเป็น 3 เฟสด้วยกันคือ

• Code Freeze แผนที่กำลังพัฒนาอยู่ โดยเป็นขั้นตอนการเขียนโค้ด เวอร์ชัน 4 และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ 
• Auditing and Testnet เฟสการตรวจสอบโค้ด และการทดลองการใช้งานบนเครือข่ายทดสอบอีกทีก่อนปล่อย
• Launch Push เป็นการปล่อยให้ใช้งานจริง ยูนิสวอป v4 หลังจากทดสอบสำเร็จทันที บนเครือข่ายหลักที่ใช้มาตลอดอย่าง Ethereum บล็อกเชน

ที่มา: มาแน่! Uniswap เผยโรดแมป เตรียมปล่อย ‘Uniswap v4’ ช่วง Q3/2024 หลังอัปเกรด Dencun [4]

ข้อจำกัดในการใช้งาน เหรียญ UNI 

สำหรับการใช้งานของแพลตฟอร์มยูนิสวอป ในปัจจุบัน ถึงจะเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูง และสามารถใช้งานได้หลากหลายวิธีแล้ว แต่ในการใช้งานก็ต้องมีข้อจำกัด และข้อแลกเปลี่ยนอีกไม่กี่อย่างก่อนการใช้งานด้วย

• ก่อนที่จะสามารถใช้ยูนิสวอปได้ ผู้ใช้ก็จะต้องมีเหรียญคริปโตก่อน หรือซื้อเหรียญคริปโตมาเตรียม ไม่สามารถใช้สกุลเงินดอลลาร์ในการแลกเปลี่ยน จึงเป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานส่วนมาจะเข้าใจง่ายๆ หากไม่ใช้ผู้ใช้งานมาก่อน
• ถึงแม้ว่ายูนิสวอปจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ต่ำ แต่ผู้ใช้งานก็ยังต้องจ่ายค่าแก๊สในการแลกเปลี่ยนกับเชนพื้นฐานอย่าง Ethereum ด้วย ซึ่งยิ่งมีความแออัดบนแพลตฟอร์ม Ethereum เท่าไหร่ ค่าแก๊สก็จะยิ่งมีราคาแพง 
• มีความเสี่ยงค่อนข้างสูงในการถูกแฮ็กจากช่องว่างของระบบ โดยหลังจาก Uniswap v4 ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ปัญหาดังกล่าวอาจถูกแก้ไขไปแล้วก็ได้

ที่มา: Uniswap(UNI) คืออะไร? เหรียญนี้ดีไหม? แนวโน้มเหรียญ UNI จะเป็นอย่างไร? [1]

สรุป เหรียญ UNI แพลตฟอร์มที่ไม่ได้มีดีแค่แลกเปลี่ยน

เหรียญแห่งแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนที่ถูกใช้งานมากที่สุดในโลก แถมยังเป็นแหล่งหารายได้จากการนำเหรียญไปฝากได้อีกด้วย ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ถึงจะมีข้อดีข้อเสียแต่ก็มีคนใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมราคาเหรียญที่มีแนวโน้มพัฒนา

อ้างอิง

[1] mitrade. (Septenber 20, 2023). Uniswap(UNI) คืออะไร? เหรียญนี้ดีไหม? แนวโน้มเหรียญ UNI จะเป็นอย่างไร?. Retrieved from mitrade

[2] orbixtrade. (Septenber 25, 2021). Uniswap คืออะไร? แพลตฟอร์ม ที่ได้รับความนิยมมากในตลาด. Retrieved from orbixtrade

[3] siamblockchain. (Septenber 8, 2020).วิธีใช้ Uniswap หรือเว็บเทรด Bitcoin แบบ Decentralized เพื่อทำกำไร. Retrieved from siamblockchain

[4] efinancethai. (February 7, 2024). มาแน่! Uniswap เผยโรดแมป เตรียมปล่อย ‘Uniswap v4’ ช่วง Q3/2024 หลังอัปเกรด Dencun. Retrieved from efinancethai

Solana บล็อกเชน เครือข่ายที่ใครๆ ก็รู้ว่าเป็นเชนหนึ่งที่สามารถปรับขนาด และสามารถส่งและบันทึกข้อมูลธุรกรรมได้ทีเดียว วินาทีละ 65,000 ธุรกรรม มันจึงเป็นเครือข่ายที่ถูกพูดถึง และโปรเจกต์ต่างๆ ก็อย่างร่วมงานด้วย บทความนี้จึงมาแจงรายละเอียดความน่าสนใจของเหรียญคู่แข่งตัวสำคัญของ Ethereum บล็อกเชน ตัวนี้ ว่ามีจุดเด่นอะไรบ้าง และมีตัวอย่างโปรเจกต์ไหนที่ร่วมมือกับเชนนี้

Solana บล็อกเชนเหรียญอันดับ 5 นี้คืออะไร ?

แพลตฟอร์ม Blockchain ที่มีระบบการทำงานเหมือนกันกับของ Ethereum โดยเป็นแพลตฟอร์มแบบยืดหยุ่นที่รองรับแอปแบบไม่รวมศูนย์ได้โปรเจกต์ แถมขึ้นมาเป็นเหรียญอันดับ 5 ของโลก ด้วยมูลค่าเหรียญปัจจุบัน 178.01 ดอลลาร์ หรือราว 6,504.28 บาท จากการพุ่งขึ้นของราคาครั้งใหญ่ในปี 2021 ที่ทำราคาได้ถึง 260 ดอลลาร์

นวัตกรรมหลักของ Solana คือความเร็ว และมีระบบการตรวจสอบธุรกรรมที่ไม่เหมือนเหรียญไหนใน 10 อันดับแรกคือระบบ Proof of History ซึ่งเป็นระบบที่ผู้ตรวจสอบสามารถหยิบธุรกรรมไหนมาตรวจสอบก็ได้โดยไม่ต้องสนลำดับและเวลา  เพราะมีการ stamp เวลาไปแล้วเรียบร้อย [1]

Time stamp ลักษณะเด่นของระบบธุรกรรมใน Solana

ระบบ Proof of History การปั๊มเวลาของธุรกรรมแต่ละธุรกรรม โดย Solana ถูกออกแบบมาให้มีวัฏจักรเวลาเป็นของตัวเอง หรือปั๊มเวลาการเกิดขึ้นของธุรกรรมต่าง ๆ ไว้ ซึ่งต้องเป็นการกระจายศูนย์เพื่อไม่ให้ใครสามารถกำหนดการ Time stamp ในโซลาน่าได้ โดยกลไกนี้ก็จะทำงานหมุนวนไปเรื่อยๆ ตามที่เซตไว้

• ได้มีการใช้งาน SHA256 ซึ่งเป็นกลไกที่ถูกใช้ในบล็อกเชนของ Bitcoin ซึ่งกลไกนี้เองที่เป็นตัวคอยปั๊มเวลาของธุรกรรมแต่ละธุรกรรมในโซลาน่า
• เมื่อแต่ละบล็อกมีเวลาการเกิดขึ้นของธุรกรรมแล้ว โซลาน่าก็ปั๊มเวลาการเกิดนั่นไว้  ทำให้ผู้ตรวจสอบแต่ละคน สามารถตรวจสอบไปพร้อมๆ กับผู้ตรวจสอบคนอื่นได้โดยไม่จำเป็นต้องรอ หรือเรียงลำดับ เพราะสุดท้ายแล้วธุรกรรมเหล่านั้นก็จะเรียงลำดับตามเวลาที่บันทึกไว้ก่อนหน้าอยู่ดี
• ระบบดังกล่าวก็ลดช่องว่างในการรอเป็นอย่างมาก ทำให้แต่ละบล็อกของเครือข่ายนี้เร็วเป็น 400 มิลลิวินาทีต่อบล็อก ในขณะที่ Bitcoin จะนานกว่าเป็น บล็อกละ 10 นาที กว่าจะครบ 210,000 บล็อก จึงนานถึง 4 ปีถึงจะครบ 1 รอบ

ที่มา: Solana: บล็อกเชนที่เร็วที่สุด? [2]

ราคาของ Solana ที่เคยพุ่งขึ้น 12,000% ในช่วง 2021

นอกจากระบบตรวจสอบธุรกรรมที่ใช้การ Time stamp โซโลน่าก็ยังมีความโดดเด่นจากบล็อกเชนอื่นๆ มาก นั่นก็คือความเร็วในการทำธุรกรรม และค่าธรรมเนียมที่ต่ำ โดยในปี 2021 ราคาของเหรียญนี้ก็พุ่งแรงเกือบ 12,000% ซึ่งส่งผลให้มีมูลค่าตามราคาตลาดเกิน 75 พันล้านดอลลาร์ ก่อนจะปรับฐานในช่วงปลายปี 2022 เหลือ 3.63 พันล้านดอลลาร์ และสาเหตุที่เหรียญนี้มาแรงก็อาจเพราะผลลัพธ์ต่างๆ ดังนี้

• การเป็นแพลตฟอร์มสำหรับแอปพลิเคชันการเงินที่กระจายอำนาจ ซึ่งทำให้แอปพลิเคชันเหล่านั้นปรับขนาดได้ดีและกระจายอำนาจ
• การขึ้นแซงหน้า Ripple และ Binance Coin ในเวลาสั้น จากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด
• จุดแข็งที่เป็นความสามารถในการจัดการจำนวนธุรกรรมต่อวินาทีที่สูงมากๆ จาก 50,000 เป็น 65,000 ธุรกรรมต่อวินาที พร้อมกับค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับบล็อกเชนอันดับ 2 อย่าง Ethereum
• Solana มีระบบฉันทามติแบบ  Proof-of-Stake แต่ปรับปรุงให้มีความเร็วมากขึ้นด้วยกลไกที่เรียกว่า Proof-of-History เพื่อประทับเวลาที่แฮช และสามารถตรวจสอบธุรกรรมได้พร้อมๆ กัน

ที่มา: โซลานาคืออะไร? ทำไมราคาของ Solana ถึงเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม 2566 ? [3]

หลายโปรเจกต์ที่จับมือกับ Solana บล็อกเชน

โซลาน่ายังเป็นอีกหนึ่งเครือข่ายที่หลายโปรเจกต์ให้ความสนใจ และเข้ามาทำงานร่วมกัน ถึงจะไม่เท่าอีเธอเรียม แต่ด้วยความโดดเด่นด้านความเร็วและค่า gas ที่ถูกจึงสามารถดึงดูดผู้พัฒนาต่างๆ ได้ไม่น้อย และมีจำนวนธุรกรรมที่เกิดขึ้นมหาศาล โดย Partnerships ของโซลาน่าก็มีอยู่หลายบริษัทเลยที่ทำเกี่ยวกับการเงิน กับโลกของ NFT GameFi และ SocialFi ดังนี้

บริษัทที่เกี่ยวข้องกับระบบธุรกรรม และ Payment 

หลายๆ โปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับระบบ Payment ในรูปแบบกระจายอำนาจ ไม่มีตัวกลางควบคุม โดยจุดเด่นของบล็อกเชนโซลาน่าก็ทำให้ แอปหรือโครงการนั้นๆ มีจุดเด่นทางด้านธุรกรรมไปด้วย โดยหลักๆ ที่เห็นก็จะเป็นบริษัทดังนี้

• Circle (USDC) 

บริษัทเทคโนโลยีที่มีการทำธุรกรรมแบบ peer-to-peer ซึ่งยังเป็นผู้ออกเหรียญ Stable coin ที่ชื่อว่า USDC โดยในปลายปี 2020 Circle ประกาศจับมือกับ Solana ซึ่งจะให้เป็นบล็อกเชนหลักของ USDC เลย มันจึงช่วยให้การโอน USDC ในแอปพลิเคชันมือถือของ Circle จะทำได้รวดเร็วสุดๆ แถมได้ประโยชน์ด้านค่า gas ที่ถูกมากด้วย

• Solana Pay

แอปพลิเคชันบนบล็อกเชนของ Solana ที่ให้นักพัฒนารถเพิ่มฟีเจอร์การชำระเงิน และสามารถส่งโทเคนดิจิทัลจาก Wallet ของตัวเองไปยังกระเป๋าของร้านค้าที่ใช้งาน Solana Pay เหมือนกันได้ด้วยค่า gas ที่ต่ำเป็นพิเศษ โดยร้านที่เลือกใช้งาน Solana Pay ก็จะได้ประโยชน์จากการไม่มีตัวกลางอย่างธนาคาร ที่ดูแลการเงินให้ และอาจจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมเล็กน้อย แต่ในแอปนี้มันจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนค่าธรรมเนียมได้ แถมยังมีความเร็วเพิ่มขึ้นได้ด้วย

ที่มา: Solana: บล็อกเชนที่เร็วที่สุด? [2]

บริษัทที่เกี่ยวข้องกับระบบของ NFT 

ทั้งนี้ในบรรดาแอปที่เกี่ยวกับ  NFT GameFi และ SocialFi ที่สามารถออกแบบ และนำมาปรับเข้ากับเครือข่ายนี้ได้อย่างลงตัวสุดๆ อย่างระบบการเล่น และสามารถเป็น community ของกลุ่มที่ใช้แอปด้วยกันได้ด้วย แถมยังไปได้ไกลอีกมากในโลกเสมือน

• STEPN

แอปพลิเคชันบนมือถือในหมวดหมู่ไลฟ์สไตล์ ในด้านการออกกำลังกาย ซึ่งก็มีความน่าสนใจหลายๆ ด้านอย่างการสร้างแรงจูงใจให้ออกกำลังกายด้วยแนวคิดคล้ายๆ play to earn แต่เป็น  exercise-to-earn จากการซื้อรองเท้าวิ่งโดยก็จะมีค่าพลังต่างกันไป และในการเก็บแต้มก็จะขึ้นอยู่กับการวิ่งล้วนๆ โดยจำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชันก็เหยียบ 1 ล้านคนเรียบร้อยในปี 2022 

• OpenSea

ตลาดซื้อ-ขาย NFT ที่มีมูลค่าซื้อ-ขายรายวันสูงเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งเดิมที่ถูกพัฒนาด้วย Ethereum และจากการเป็นตลาดซื้อ-ขายที่ใหญ่ที่สุดแต่มีปัญหาค่า gas ที่สูงของ ETH ในปี 2022  การมีทางเลือกที่เร็วและแก้ปัญหาค่า Gas ได้ OpenSea จึงเปลี่ยนมาใช้โซลาน่าตั้งแต่นั้นมา

ที่มา: Solana: บล็อกเชนที่เร็วที่สุด? [2]

สรุป Solana บล็อกเชน อีกเหรียญอนาคตไกลในเรื่องความเร็ว

อีกเหรียญหนึ่งที่ครองตำแหน่งอันดับ 5 ไปในด้านมูลค่าตลาด ถึงจะไม่ได้มีเป้าหมายแบบนี้ก็ตาม ซึ่งในด้านของเป้าหมายก็ทำสำเร็จ โดยการกลายเป็นเครือข่ายที่มีธุรกรรมแบบกระจายศูนย์ที่เร็วที่สุดในโลก แถมมีค่าแก๊สที่ต่ำที่สุดด้วย ซึ่งก็เริ่มเห็นหลายๆ โปรเจกต์ทั้งน้อยใหญ่ เริ่มใช้เชนนี้กันแล้ว

อ้างอิง

[1] mitrade. (Septenber 12, 2023). Solana(SOL) คืออะไร? เหรียญ SOL ดีไหม? อนาคตของเหรียญ SOL จะเป็นไงบ้าง?. Retrieved from mitrade

[2] finnomena. (Septenber 28, 2023). Solana: บล็อกเชนที่เร็วที่สุด?. Retrieved from finnomena

[3] btcwires. (Decenber 26, 2023). What is Solana ? Why is Solana’s price increasing in December 2023 ?. Retrieved from btcwires

เหรียญ Cardano หรือ ADA เหรียญประเภทเดียวกับเหรียญอันดับสอง ต้นตระกูลคริปโตสมาร์ตคอนแทกต์ อย่าง Ethereum บล็อกเชน โดยทีมพัฒนาเหรียญนี้ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและพัฒนา Ethereum Classic ด้วย โดยเหรียญนี้มีจุดเด่น การนำไปใช้ และเส้นทางการพัฒนา ที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย พร้อมติด 1 ใน 5 เหรียญมาแรงของโลกด้วย

กำเนิด เหรียญ Cardano พร้อม Roadmap การพัฒนา

เหรียญ Top 10 นี้มีอายุอยู่ที่ 7 ปีเท่านั้นหากนับจากการเปิดตัวในปี 2017 ซึ่งแนวคิดนี้เริ่มมาจาก Charles Hoskinson ที่เป็นอดีตทีมสร้าง และพัฒนาเครือข่ายบล็อกเชนอย่าง Ethereum โดยต้องการออกมาทำเครือข่ายของตนเองจากการใช้เครือข่ายเดียวกับ Ethereum โปรเจกต์เริ่มเมื่อปี 2015 และสำเร็จในปี 2017 [1] และ Cardano ก็เติบโตมาเรื่อยๆ จากการพัฒนาอัปเดตแบ่งออกเป็น 5 เฟสใหญ่ดังนี้

• Byron (Foundation Phase)

เฟสเริ่มแรกของการสร้างเครือข่ายนี้หลังจากออกมาเป็นรูปเป็นร่างในปี 2017 ก็ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้งานและนักลงทุนสามารถซื้อขายเหรียญ ADA ได้ และเริ่มมีการนำเหรียญขึ้นกระดานซื้อขายใหญ่ๆ ในช่วงนี้เลย แต่เนื่องจากยังไม่มี Node จากยูสเซอร์เครือข่าย จึงยังไม่ค่อยดูกระจายอำนาจเท่าที่ควร

• Shelley (Decentralization Phase)

จากเฟสที่แล้วที่ยังไม่ค่อยเป็นเครือข่ายที่กระจายอำนาจ เฟสนี้จึงนำระบบฉันทามติแบบ PoS (Proof of Stake) มาใช้อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น เพื่อที่จะเพิ่มผู้ถือเหรียญในเครือข่าย (User) ให้มากขึ้นจากการซื้อมาฝาก และรับผลตอบแทนจากการ Steaking จากที่มีแค่นักขุดเพียงหยิบมือ ก็มีคนมาฝากเพื่อตรวจสอบธุรกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ 

• Goguen (Smart Contract Phase)

โปรเจกต์เอก หรือเฟสแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ก็คือการนำฟังก์ชัน Smart Contract แบบ ETH มาใช้ในระบบธุรกรรมโดยภาษา Plutus ให้สามารถเขียนโค้ดยัดลงไปได้หรือ Programmable เพื่อดึงดูดนักพัฒนาใหม่ และผู้ใช้งานเข้ามาในระบบผ่าน dApps ต่างๆ ซึ่งก็มีให้เห็นทั้งแอป SundaeSwap DEX และในระบบการศึกษา

• Basho (Scaling Phase)

เฟสนี้ก็ตามชื่อเฟสเลย คือการ Scaling หรือมุ่งเน้นไปที่การขยายขอบเขตของเครือข่าย ให้ผู้ใช้งานดำเนินธุรกรรม และใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น จากการนำ Sidechain มาใช้งานภายในเครือข่ายที่จะย่อส่วนข้อมูลให้เคลื่อนที่ได้ง่ายมากๆ และเฟสนี้ก็ทำให้ Cardano เร็วขึ้นมากด้วยการรองรับธุรกรรมได้ 270 ครั้ง/วินาที

• Voltaire (Governance Phase)

เป็นเฟสที่มีการปรับให้มีความกระจายอำนาจมากขึ้น ให้ผู้ใช้งานภายในเครือข่ายร่วมกันกำหนดทิศทางของเครือข่ายได้ จากการโหวตเพื่อร่วมในการตัดสินใจตามสัดส่วนเหรียญที่ถือครอง อารมณ์คล้ายๆ กับพวกกรรมการในบริษัทที่เปิดขายหุ้นสาธารณะใหญ่ๆ เลย

ที่มา: Investing in Cardano (ADA) - Everything You Need to Know [2]

Cardano เหรียญท็อป 10 ของโลก และมาแรง 1 ใน 5

เหรียญ Cardano หรือ ADA ได้ขึ้นมาเป็นเหรียญ 1 ใน 10 ของโลก และเป็นที่พูดถึงรวมถึงเป็นเหรียญมาแรงตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมาโดยครองตำแหน่งเหรียญคริปโตอันดับ 8 มาจนถึงปัจจุบัน โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 17,217 ล้านดอลลาร์ ปริมาณการซื้อขาย 231 ล้านใน 24 ชั่วโมง และติด 5 Cryptocurency ที่น่าจับตามากที่สุดในบรรดา 4 เหรียญที่เหลือนี้เลย โดยอ้างข้อมูลราคามาจากวันที่ 19 พฤษภาคม 2024 นี้

• Bitcoin (BTC) แน่นอนอยู่แล้วว่าเหรียญอันดับ 1 นี้ต้องมาแรงก่อนใครๆ และถูกสนใจมากที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นเหรียญที่มูลค่าอันดับ 1 แล้วในปีนี้ยังมีปรากฏการณ์ Bitcoin halving อีกด้วย โดยเหรียญนี้ในปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ ปริมาณการซื้อขาย 16,061 ล้านดอลลาร์ใน 24 ชั่วโมง
• Ethereum (ETH) เหรียญที่มีเครือข่ายผู้เป็นต้นแบบ และเครือข่ายของ dApp ต่างๆ มากที่สุดในโลก เหรียญอันดับสองที่เอาด้วยกับธีมพลังงานโลกด้วยการใน PoS ในการสร้างเหรียญ โดยเหรียญนี้ในปัจจุบันมีมูลค่าตลาด 375,682 ล้านดอลลาร์ และโวลุ่มการซื้อขายช่วง 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 8,653 ล้านดอลลาร์
• Binance Coin (BNB) อีกหนึ่งเหรียญน่าจับตามอง เจ้าของแพลตฟอร์ม Exchange อันดับ 1 ของโลก ซึ่งเหรียญของตัวเอง หรือ BNB ก็ออกแบบมาเพื่อเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนเป็นเหรียญอื่นๆ ในแอป และกิจกรรมฝากรับดอกเบี้ยต่างๆ ด้วย BNB มีมูลค่าตลาด 85,821 ล้านดอลลาร์ โวลุ่มการซื้อขาย 1,335  ล้านดอลลาร์
• Solana (SOL) เหรียญแบบโอเพ่นซอร์ส ที่มีเป้าหมายแบบเดียวกับ ADA coin ทั้งการปรับขนาด และความเร็วก็เหนือกว่ามาก ด้วยธุรกรรม 710,000 รายการ/วินาที จึงเป็นเหรียญอันดับที่ 5 โดยยังใช้ในโปรเจกต์ Defi และ dApp ต่างๆ โดยมีมูลค่าตลาด 78,309 ล้านดอลลาร์ โวลุ่มการซื้อขาย 2,212  ล้านดอลลาร์

ที่มา: 5 เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ปี 2024 [3]

เปรียบเทียบ เหรียญสายเดียวกัน Cardano VS Ethereum 

อย่างที่กล่าวไปในช่วงต้นของบทความ เหรียญทั้งสองนี้มีทีมงานคนเดียวกัน และใช้เครือข่ายในแบบเดียวกัน ซึ่งก็มีความโดดเด่นในการใช้ Smart contract และระบบฉันทามติแบบเดียวกันคือ Proof of stake แต่ทั้งสองก็มีเป้าหมายที่ต่างกันออกไปอย่างการเป็นเลิศในต้นแบบของแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ และเป็นเลิศในธุรกรรมที่รวดเร็ว ทั้งสองจึงมีความแตกต่างกันหลายส่วน 

• จำนวนธุรกรรมโดยประมาณ ด้วยการย่อขนาดข้อมูล แทนที่จะมัดรวมข้อมูลแล้วส่งเพียงอย่างเดียว ADA จึงทำธุรกรรมได้ 270 ธุรกรรม/วินาที ในขณะที่ ETH ทำได้ 15 ธุรกรรม/วินาที
• ค่าธรรมเนียมโดยเฉลี่ย นอกจากนี้ในเรื่องของค่าธรรมเนียมยังต่างกันมากโดย ETH อยู่ที่ 5 USD ต่อครั้ง ADA ใช้เพียง 0.25 USD ต่อครั้ง
• MAX Supply Cardano มีการจำกัดปริมาณเหรียญไว้ที่ 45,000,000,000 เหรียญ แต่ Ethereum ไม่มีกำหนด (Infinite Supply)
• ความสามารถในการเขียนเงื่อนไขในระบบ Ethereum ยังทำได้หลากหลาย และดีกว่ามาก มันจึงยังสามารถครองแชมป์ บล็อกเชนยอดนิยมในการสร้างแอปการเงินแบบกระจายอำนาจ

ที่มา: Cardano(ADA)คืออะไร? [4]

การนำเหรียญไปใช้งานทั้งในธุรกิจ และการศึกษา

นอกจากนี้ เครือข่ายบล็อกเชนนี้ในไม่กี่ปีผ่านมาในเฟสที่ 3-4 ก็ได้ถูกนำไปใช้งานจริงๆ กับระบบการศึกษาในโรงเรียนกว่า 3,500 แห่งที่เอธิโอเปีย โดยหลักๆ ก็จะเป็นในเรื่องการจัดเก็บข้อมูลของนักเรียน ซึ่งช่วยได้มากสำหรับประเมินผลการศึกษาของนักเรียนกว่า 5 ล้านคน จากโรงเรียน 3 พันกว่าแห่งในประเทศ ซึ่งช่วยย่นระยะเวลา และเข้าตรวจสอบได้เสมอ 

นอกจากนี้ในปี 2022 ส่วนของธุรกิจ Defi ก็มีแฟลตฟอร์มที่ชื่อว่า SundaeSwap DEX แพลตฟอร์มที่สามารถแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัล หรือ Swapและทำการฟาร์มแบบ liquidity pool ได้คล้ายกับ PancakeSwap เลย โปรเจกต์นี้มีคนเข้ามาธุรกรรมสูงถึง 108.3 ล้านดอลลาร์เลย [4]

รายละเอียดราคา และการคาดการณ์ของ เหรียญ Cardano

โดยราคาของเหรียญ ADA ในตอนนี้ ราคา ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2024 อยู่ที่ 0.48 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 17.33 บาท เนื่องจากไม่ใช้เหรียญประเภทรักษามูลค่า จึงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นที่ไม่โดดเด่นเท่าไหร่ โดยจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคของเว็บเทรดคริปโต gate.io ได้มีการคาดการณ์ราคาของเหรียญนี้ เป็นรายปีตั้งแต่  2024 - 2030 

• 2024 โดยมีราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 0.21 สูงสุด 0.69 ดอลลาร์ โดยมีราคาเฉลี่ยที่ 0.48 ขึ้นมา 0 - 2%
• 2025 คาดจะมีราคาขั้นต่ำ 0.25 สูงสุด 0.84 ดอลลาร์ โดยมีราคาเฉลี่ยที่ 0.58 เพิ่มขึ้นมา 21%
• 2030 อาจมีราคาขั้นต่ำที่ 0.07 และอาจเพิ่มไปถึง 1.30 ดอลลาร์ โดยมีราคาเฉลี่ยที่ 1.23 เพิ่มขึ้นมา 153%

อ่านรายละเอียดของการคาดการณ์ราคาเพิ่มเติมที่ GATE.IO

จุดเด่นสำคัญของเหรียญนี้

จุดเด่นอันสำคัญของ เหรียญ Cardano ตัวนี้ จากการเปิดตัวมาในปี 2017 ก็มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียง 5 เฟสในการพัฒนา พร้อมการมาของเทคโนโลยีต่างก็นำร่องให้เหรียญนี้มีความสามารถมากขึ้น ตอบโจทย์เป้าหมายการเป็นเหรียญด้านธุรกรรมได้เป็นอย่างนี้ โดยนี่ก็คือจุดเด่นต่างๆ ของ Cardano Coin 

• ความสามารถในการปรับขนาด ช่วยในการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าเหรียญอื่นๆ มาก
• เหรียญในการประหยัดพลังงาน จากการใช้ระบบฉันทามติอย่าง Proof of Stake ซึ่งหากนับรวมๆ หลายเหรียญพลังงานที่ถูกใช้ภายในเครือข่าย จึงถือว่าน้อยกว่าเครือข่ายบล็อกเชนแบบ  Proof of Work มหาศาล
• หนึ่งในฟังก์ชันที่น่าสนใจอย่าง Smart Contract ภาษาที่ใช้ในการร่างสัญญานั่นคือ Plutus ซึ่งมีความสามารถเฉพาะทางด้านความปลอดภัย
• การรักษามูลค่าตลาดไว้ได้หลายปีที่ อันดับ 8 ใน 3 เดือนที่ผ่านมาแม้จะอยู่ในการพัฒนา ADA ก็ไม่เคยหลุด Top 10 เลยสักครั้ง

สรุป เหรียญ Cardano คริปโตที่มีธุรกรรมรวดเร็วที่สุด

อีกหนึ่งเหรียญน่าลงทุนที่มีการเติบโต และเป็นที่รู้จักกันรวดเร็วมากๆ เพียง 7 ปีแห่งการพัฒนาก็มีโปรเจกต์เกิดขึ้นมากมาย และยังติดอันดับ 8 ไม่เคยหลุดไปไหน แถมมีธุรกรรมเร็วอยู่ในระดับหนึ่งแม้จะเป็นรอง Solana ก็ตาม

อ้างอิง

[1] bitkubacademy. (September 7, 2021). Cardano (ADA) คืออะไร?. Retrieved from bitkubacademy

[2] securities. (March 8, 2024). Investing in Cardano (ADA) - Everything You Need to Know. Retrieved from securities

[3] ibox2you. 2024). 5 เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ปี 2024. Retrieved from ibox2you

[4] mitrade. (October 17, 2023). Cardano(ADA)คืออะไร?. Retrieved from mitrade

เกม NyanHeroes เกม NFT และมีระบบการแลกเปลี่ยนในบล็อกเชน เกม Multiplayer ที่อาจเป็นคริปโตเกมแรกๆ ที่สามารถเข้าสู่วงการ E-sport ได้ ด้วยเกมออนไลน์ที่มีแนวการเล่นคล้าย Overwatch พร้อมระบบซื้อขายอันไร้ตัวกลาง และมีคอมมูนิตี้ NFT เป็นของตัวเองอีกด้วย โดยใช้ โทเค็น NYAN ที่รันในบล็อกเชนของ Solana แบบเดียวกับ เหรียญ MANA ซึ่งโดดเด่นที่สุดด้านความรวดเร็วของธุรกรรม

เกม NyanHeroes Web3 ที่ระดมทุนกว่า 3 ล้านดอลลาร์ 

เกมแรกของโลก Gamefi ที่ร่วมมือกับอุตสาหกรรมเกมออนไลน์ และก็เป็นเกมแรกของ Epic games ที่นำ Crypto Game เข้ามาเป็นหมวดหมู่ใหม่ ด้วยความแปลกใหม่พร้อมเกมทุนหนาน่าสนใจ โดยเกมนี้ก็ระดมทุนจากหลายๆ บริษัททั้งพาร์ทของบริษัทเกม บริษัทเกี่ยวกับระบบ NFT และ Cryptocurrency หลายแห่ง

• เริ่มจากสตูดิโอผู้พัฒนาเกม และนำเกมเข้าสู่ตลาดเกมออนไลน์ 9 Lives Interactive
• Mechanism Capital บริษัทระดมทุน และส่งเสริมกิจการเกี่ยวกับ NFT และ Dapp ใหม่ๆ 
• Sfermion บริษัทที่ลงทุนในการวิจัยเทคโนโลยีอัจฉริยะเชิงโต้ตอบ ยกตัวอย่าง AI
• 3Commas Capital บริษัทซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับ นวัตกรรม Crypto และโปรเจกต์ Blockchain
• Momentum 6 บริษัทร่วมลงทุน, สร้างธุรกิจ, วิจัย และการตลาด หนึ่งในผู้ถือหุ้น Sandbox และที่เกี่ยวกับ Web3 กว่า 135 แห่ง
• Kosmos Ventures ด้าน สินทรัพย์บนบล็อกเชนผู้สนับสนุน โครงการ Stablecion สำคัญๆ เช่น Algorand, Solana, Polkadot
• Devmons GG บริษัทเกี่ยวกับเกม Web3 gaming และ GameFi 
• และบล็อกเชน CSP DAO

ที่มา: Developer 9 Lives Interactive ระดมทุน 3 ล้านดอลลาร์เพื่อรองรับการเปิดตัวทั่วโลก Web3 ฮีโร่ชูตเตอร์ [1]

ความเป็นมา และแนวเกมเกี่ยวกับเกมนี้

โดยเกมนี้มีพื้นฐานจากเกม NFT บน Solana ซึ่งก็เคยขึ้นไปถึงอันดับที่ 4  ที่มีปริมาณการซื้อขายถึง 279,000 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 ก่อนที่จะพัฒนามาอีกขึ้นเป็นเกมแนว Shooting ในมุมมองบุคคลที่ 3 นี้ ซึ่งข้อแตกต่างของเกมนี้ก็จะเป็นการออกโทเคน Stablecoin ภายในเกม เพื่อลดความผันผวนของสินทรัพย์ผู้เล่นมีค่าคงที่เสมอ จนพัฒนามายังจุดที่เกมเข้าสู่ตลาดเกมออนไลน์ [2]

โดยเกมนี้คือเกมแนว Shooting TPP ที่ให้อารมณ์เกมเพลย์แบบ Overwatch หรือ Fortnite จาก NFT ที่ซื้อตัวไปฟาร์ม กลายเป็นเกมออนไลน์ที่มีระบบการซื้อขายได้ และมีธุรกรรมที่เร็ว และพึ่งฝีมือมากกว่ากำลังทรัพย์ 

รายได้จาก play to earn ช่วยแมวจร 1 ล้านตัวทั่วสหรัฐ

2 ผู้ร่วมก่อตั้งผู้คลั่งไคล้ และหลงรักแมว ก็ได้นำกำไรส่วนหนึ่งที่ได้จากเกมนี้ในช่วงที่ยังเป็นเกม NFT เข้าช่วยแมวจร และ สุนัขเร่ร่อนจำนวนมากที่จะต้องถูกการุณยฆาตตามศูนย์พักพิงต่างๆ ทั่วอเมริกา ด้วยการบริจาคเงินจำนวน 250,000 ดอลลาร์ให้กับองค์กร Best Friends Society 

• เริ่มก่อตั้งโปรเจกต์การกุศลเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมปี 2021
• โดยมีการตั้งเป้าหมายว่าจะช่วยเหลือแมวจรให้ได้กว่า 1 พันล้านตัว จากการบริจาคนี้
• ในระบบของบล็อกเชน ก็ยังมีการจัดตั้งองค์กร Decentralized Autonomous Organizations (DAO) เพื่อระดมทุน และให้ผู้ที่ถือเหรียญมีสิทธิ์ในการโหวต เพื่อการจัดสรรเงินบริจาคต่อไปในโครงการอื่นๆด้วย

ที่มา: Nyan Heroes นำรายได้จากเกม P2E ช่วยแมวจร [2]

รายละเอียดของ เกม NyanHeroes และระบบเหรียญที่ใช้

ระบบการแลกเปลี่ยนของเกมนี้จะต่างจากเกมออนไลน์อื่นๆ เพราะด้วยระบบการแลกเปลี่ยนได้ทำให้ไอเทมในเกมสามารถ ซื้อขายกับผู้ที่ต้องการได้ผ่านในเกมเลย ซึ่งก็จะมีตัวกลางอย่างเหรียญ Nyan เอาไว้แลกเปลี่ยน โดยเกมนี้ก็มีความน่าเล่นอย่างมากจากการเป็นเกม Free to play การออกแบบทั้งแนวการเล่น และระบบตัวละครอันเป็นเอกลักษณ์ และยังสามารถเลืออาวุธใช้ได้ตามความถนัดผู้เล่นด้วย

ระบบและตัวละครในเกม

โดยในหัวข้อนี้ก็เป็นการ พูดถึงจุดเด่นของเกมนี้นั่นก็คือส่วนของตัวละครที่เป็นตัวขับเคลื่อนของเกมในแนว ยิงแบบนี้ ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีความสามารถและทักษะที่ต่างกัน อย่างในโหมดยึดจุดหรือ Zone capture ก็จะมีทั้งตัวที่ถนัดตั้งรับ และถนัดบุกเข้าจากข้างหลังเป็นต้น ตัวละครที่เปิดมาช่วง Beta ก็จะมีดังนี้

Ghost 

ตัวละครที่ดูชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นสายซุ่มโจมตี โดย Ghost จะมีความสามารถในการเทเลพอร์ตสั้นๆ ได้ และระหว่างเทเลพอร์ตก็จะลบร่องรอยตัวเอง (หายตัว)  จึงเหมาะสำหรับการลอบไปด้านหลังคอยจัดการซัพพอร์ตและแทงค์  พร้อมป้อมปืนที่สามารถขัดขวางและป้องกันพื้นที่นั้นๆ ได้

• ความสามารถ สกิล Quantum Leap: เป็นการกระโดดวาร์ปได้สั้นๆ 
• Passive: Double Jump กระโดดกลางอากาศหลังจากกระโดดรอบแรง เพิ่มความคล่องตัว

Seraph

ตัวละครสายสนับสนุนที่ทีมจะขาดไปไม่ได้ ด้วยการ Healing และบัฟต่างๆ ให้กับทีมได้ ไม่ว่าจะอยู่กับ แทงค์ หรือไฟต์เตอร์ ตัวละครนี้ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพให้ตัวนั้นๆ ได้ โดยมักตกเป็นเป้าหมายของมือลอบสังหารบ่อย จึงต้องระวังหลังเป็นพิเศษพร้อมด้วยสกิลล่องหนได้

• ความสามารถ สกิล Dash: เปลี่ยนตำแหน่งตัวเองได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรักษาพันทมิตรได้ด้วย
• Passive: ยิงศัตรูสร้างดาเมจยิงเพื่อนจะเป็นการรักษาแทน 

Spartan

ตัวละครร่างบึกบึน สร้างสามารถกดวิ่งชาร์จเข้าใส่ ศัตรูได้ง่ายๆ พร้อมทักษะการกระแทกตัวละมาจากข้างบนได้อย่างรุนแรง เป็นตัวแนวหน้าที่มีทั้งการดูดซับและการจู่โจม

• ความสามารถ สกิล Charge Punch: โจมตีทางอากาศเพื่อสร้างความเสียหาย และทำให้ศัตรูมึนงงได้
• Passive: เคลื่อนที่ได้รวดเร็ว วิ่งไต่กำแพงได้ 

Atlas

นักรบแนวหน้าที่มีโล่ใหญ่คุ้มกันเพื่อนๆ ได้จากกระสุนที่มาจากข้างหน้า เน้นการเข้าไปต่อสู้ประชิด และป้องกันจากระยะกลางไปถึงไกลได้ พร้อมสกิลระยะใกล้ที่ทรงพลัง เพราะสามารถทำให้ศัตรูตรงหน้าล้มได้หลายวินาที

• ความสามารถ สกิล Lionheart: กระโดดเข้าไปตรงหน้าศัตรู สร้างความเสียหายเมื่อกระแทกพร้อมทำให้ศัตรูที่เหลือรอดล้มลง
• Passive:  มีโล่ที่สามารถป้องกันกระสุนจากข้างหน้าได้ เรียกใช้ได้ตลอดเวลา

ที่มา: GUARDIAN HEROES [3]

เกมฟรี กับสินทรัพย์แบบ NFT

 โดยเกมนี้เปิดให้เล่นฟรีๆ ในแพลตฟอร์มของ Epic Games และตามมาด้วย Steam ที่ตอนนี้ยังเป็นรอบ Pre-Alpha อยู่โดยตอนนี้ยังสามารถเล่นได้แค่ใน Epic เข้าไปเล่นได้ทุกตัวละคร และในด้านของเกมก็มีการแจก Airdrop ของเหรียญ Nyan ให้ไปใช้ในเกมได้ด้วย พร้อมของสะสมจากเกมในรูปแบบของ NFT ให้สะสมด้วย

Step การรับแอร์ดรอป Nyan meme coin

• เข้าไปที่ เว็บเพจของ เกม NyanHeroes airdrop page.
• เชื่อมต่อระบบหรือเข้าสู่ระบบด้วย X หรือ Twitter
• กดเข้าได้รับโดยกรอก Code “TeamAirdrops” และทำการสมัคร
• จากนั้นก็จะได้แต้มฟรีจาก  CATNIP.
• ทำภารกิจให้ครบก็จะได้มา 20 CATNIP ของแต่ละภารกิจ
• แต้ม CATNIP ที่ได้สามารถเทิร์นเป็น Nyan ได้เลย และสามารถใช้โทเคนนั้นได้

ที่มา: Step by step guide Nyan Heroes Airdrop [4]

สรุป เกม NyanHeroes เกมคริปโตที่อาจเข้าสู่ Esport ได้

เกมออนไลน์ใหม่จากทีมผู้ผลิต และนักลงทุนจากโปรเจกต์คริปโตต่างๆ โดยมีระบบ และเกมเพลย์ที่น่าสนใจ พร้อมโหมดต่างของเกม ที่เกมเมอร์คุ้นเคย อย่าการยึดจุด เพย์โหลด และยังมีสินทรัพย์ NFT ให้สะสมกันอีกด้วย

อ้างอิง

[1] mpost. (March 14, 2024). Developer 9 Lives Interactive ระดมทุน 3 ล้านดอลลาร์เพื่อรองรับการเปิดตัวทั่วโลก Web3 ฮีโร่ชูตเตอร์. Retrieved from mpost

[2] cryptosiam. (January 8, 2022). Nyan Heroes นำรายได้จากเกม P2E ช่วยแมวจร. Retrieved from cryptosiam

[3] nyanheroes. (2024). GUARDIAN HEROES. Retrieved from nyanheroes

[4] airdropalert. (2017-2024). Step by step guide Nyan Heroes Airdrop. Retrieved from airdropalert

เหรียญ MANA อาจเป็นเหรียญที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันมากนัก หากเทียบกับเหรียญ 10 อันดับต้นๆ ของโลกอย่าง BTC ETH หรือ เหรียญ Binance แต่เหรียญนี้สำคัญมากในการแลกเปลี่ยนในโลกเสมือน GameFi และ NFT ต่างๆ ทั้งเป็นตั้งกลางแลกเปลี่ยนและตัวเทียบมูลค่าของหลายๆ อย่างได้ และดูเหมือนจะทำได้ดีกว่าหลายๆ เหรียญ เราจึงพามาทำความรู้จักเหรียญนี้ และโลกของมันให้มากขึ้น

เหรียญ MANA คืออะไร และมีความเป็นมาอย่างไร?

นี่คือเหรียญ หรืออีกหนึ่งตัวสำคัญในที่ยกระดับขีดความสามารถของมิติเกม Metaverse ให้ไปไกลกว่าเดิม ถึงแม้หลังจากปี 2022 จะกระแสเบาลงไปแล้วก็ตาม โดยเหรียญนี้คือ Utility Token ที่ถูกนำมาใช้ในแพลตฟอร์ม Decentraland ที่ทำงานบนเครือข่ายบล็อกเชน Ethereum ซึ่งสามารถนำไปซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ เพื่อเก็งกำไรจากค่าธรรมเนียมที่จะได้รับในรูปของ MANA Coin 

• โดย MANA Coin เริ่มต้นขึ้นจาก Starup ในปี 2015 จาก 2 ผู้ก่อตั้งชาวอาร์เจนติน่าอย่าง Ariel Meilich และ Esteban Ordano ด้วยมูลค่าของการระดมเงินทุนที่สูงถึง 26 ล้านดอลลาร์
• เปิดตัว  Decentraland อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2017 ภายใต้การดูแลของ Decentraland Foundation ทีมที่มีความเชี่ยวชาญ ในด้าน วิศวกรซอฟต์แวร์ นักออกแบบระบบ ไปจนถึงนักวิเคราะห์ด้านการชำระเงินด้วยบล็อกเชน
• โดยโปรเจกต์นี้รันในบล็อกเชนของ Ethereum (เครือข่ายแม่แบบที่ใช้ในแอป Defi ต่างๆ และใน เมตาเวิร์ส) ซึ่งในโลกเสมือนนี้เราสามารถซื้อขายที่ดินมาจัดสรรออกแบบได้ตามใจ โดยจะซื้อขายกันผ่านสกุลเงิน MANA ถือเป็น Virtual World แห่งแรกที่ตอบโจทย์ การกระจายอำนาจ หรือ Decentralized อย่างสมบูรณ์

ที่มา: MANA Coin คืออะไร Decentraland ทำงานอย่างไร? MANA ดีไหม [1]

 Decentraland เกม Play to earn ในโลกเสมือน

แพลตฟอร์มโลกเสมือนจริง 3 มิติ เกมที่เปลี่ยนจากโลกเดิมที่ใช้หลักการ Pay to win จ่ายเงินซื้อตัวหรือไอเทม เพื่อให้เราเก่งขึ้นมาเป็นแบบ Play to earn การเล่นที่สามารถทำเงินให้เราไปด้วยได้ ผ่านการเก็งกำไร ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน และรูปแบบของดอกเบี้ย ซึ่งโปรเจกต์ใหญ่นี้การได้ร่วมมือกับธุรกิจต่างๆ ในการจัดกิจกรรมในโลก Metaverse ที่ผ่านมา

กิจกรรมใน Metaverse

• การจัดกิจกรรม Music festival บน Metaverse โครงการใหญ่ร่วมกับ The Voice รายการทีวีชื่อดัง 
• Fashion Week บน Decentraland ของ Beauty brand ดังอย่าง CULT LDN 

ข้อดีและจุดเด่น

• จะมีที่ดินในโลกเสมือน ซึ่งสามารถซื้อขาย จับจองกันได้ และเจ้าของที่ดินก็สามารถตกแต่งที่ดินของตนเองได้ตามใจนึก จะทำเป็นเกมให้เล่น เป็นร้านขาย NFT งานอาร์ต ทำคอนเสิร์ต ที่มีสถานที่ให้คนเข้าไปเดินดูได้ ราวกับโลกอีกใบ
• สำหรับผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมที่ดินต่างๆ เหล่านั้นได้ ผ่าน Avatar แทนตัวเองที่สามารถสร้างและตกแต่งได้ตามความต้องการ ซึ่งสามารถซื้อเสื้อผ้าที่มีขายในนี้ได้ด้วย
• โดยแพลตฟอร์มที่เรียกว่า Land จะมีการซื้อขายกันอย่างอิสระ ผ่านระบบ NFT บน Decentraland Marketplace ทั้งเสื้อผ้า งานศิลปะ รวมไปถึงที่ดินในโลกเสมือนด้วย

ที่มา: Decentraland (MANA) คืออะไร [2]

ตัวอย่างเกมจาก Decentraland เมตาเวิร์สที่เริ่มขึ้นจริงแล้ว

โดยโลกเสมือนที่เปรียบได้ดั่งโลกอีกใบที่ว่า ก็มีหลายโปรเจกต์ดัง ที่เกิดขึ้นจริง แถมได้กระแสตอบรับดีมากๆ หลายบริษัทน้อยใหญ่แย่งกันจับจองที่ดินกันจนหมดอย่างรวดเร็ว แถมมีการใช้งาน และสร้างโลกเสมือนต่างๆ ขึ้นมาให้คนเข้าไปเยี่ยมชมแล้ว จากโครงการดังๆ และมีคนให้ความสนใจ ก็มีดังนี้

The Sandbox

เกมบริหารที่ดินบนโลกของ NFT ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าซื้อ เพื่อเป็นเจ้าของที่ดินได้ โดยมีเหรียญ SAND เป็นสกุลเงินหลักของการแลกเปลี่ยนต่างๆ ซึ่ง SCB 10X บริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ของไทย ก็ได้ซื้อที่ดินในนี่ และตั้งสำนักงานในนั้นด้วย

• โทเคน: Sandbox (SAND)
• บล็อกเชน: Binance, Uniswap (V2), Gate.io และ LATOKEN

Alien Worlds

เป็นเกมแนวออกสำรวจ และขุดค้นหาทรัพยากรจากต่างดาว โดยผู้เล่นต้องทำตามภารกิจในเกม และมีรายได้จากการปล่อยเช่าที่ดินให้กับผู้เล่นคนอื่น และทรัพยากรที่ได้ก็สามารถนำไปขาย หรืออัปเกรดยานอวกาศ และที่ดินของเราได้ด้วย

• โทเคน: Trilium (TLM)
• บล็อกเชน: Binance, Ethereum และ WAX

ที่มา: GameFi คืออะไร เล่นเกมแล้วได้เงินจริงหรือ เข้าใจง่ายใน 5 นาที [3]

ราคา และรายละเอียดเกี่ยวกับ เหรียญ MANA 

โดยราคาของ MANA ตอนนี้จะอยู่ราวๆ 14.42 บาท ต่อ 1 เหรียญ โดยแนวโน้มการฟื้นตัวของเหรียญนี้ก็จะขึ้นอยู่กับการกลับมาของกระแส Metaverse และนับวันก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ซึ่งเหรียญอันดับ 1 ของโลกเสมือนอย่างเหรียญนี้ ก็จะเป็นเหรียญแรกๆ ที่จะมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน 

ซึ่งก็มีหลายแหล่งข้อมูลคาดการณ์ราคาของเหรียญในปี 2025 - 2030 อาจมีราคาที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 4.66 ดอลลาร์ ไปถึง 35.81 ดอลลาร์ในราคาสูงสุด และต่ำสุดที่ตั้งแต่ 2.39 ถึง 22.20 ดอลลาร์เลย [4]

4 เรื่องควรรู้สำหรับโปรเจกต์นี้

โดยหัวข้อนี้เป็นการรวมข้อความรู้เกี่ยวกับเหรียญ MANA ตั้งแต่การมาของกระแส Metaverse ช่วงปลายปี 2564 ซึ่งทำให้เหรียญนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และอาจกลับมาพร้อมกระแสเมตาเวิร์สอีกครั้งเร็วๆ นี้

1. MANA เป็นเหรียญที่ไม่มี Max Supply ที่จะจำกัดปริมาณ เพื่อทำมูลค่าของตัวมันเอง อย่าง BTC หรือ ETH ทำให้ตอนนี้มีเหรียญในระบบทะลุ 2.20 พันล้านเหรียญแล้ว
2. สำหรับโปรเจกต์นี้ มีที่ดินเสมือนจริงอยู่ภายในเกมมากถึง 90,000 ผืน และมีการวางขายที่ดินในขนาดน้อยหรือต่ำสุดอยู่ที่ 4,688 Mana หรือประมาณ 68,614.68 บาท ซึ่งเคยไปแตะราคาสูงสุดกว่า 430,827 บาทเลยในปี 2022
3. ทาง Samsung บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกนี้ ก็ได้เข้าสู่ Decentraland และมีการสร้างร้านค้าเสมือนที่มีชื่อว่า Samsung 837X ด้วย
4. Mana เคยทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือ All Time High ไว้ที่ 5.9 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมา 6,949 % หรือ 69.48 เท่า

เข้าไปอ่านเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ MANA เพิ่มเติมได้ที่ moneybuffalo

เทคโนโลยีหลักๆ ที่ใช้ใน Decentraland

Decentraland ก็คือแพลตฟอร์มในโลกเสมือนที่มีระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ พร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงที่เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์ และออกแบบได้อย่างอิสระ เป็นเจ้าของสินทรัพย์ต่างๆ ได้ผู้เดียว โดยไม่มีใครสามารถแอบอ้าง หรือก๊อบปี้ได้ ภายใต้นวัตกรรมบล็อกเชน Ethereum ที่สามารถจัดเก็บข้อมูล และรักษาความเป็นเจ้าของ และการแลกเปลี่ยนได้โดยฟีเจอร์หลักดังต่อไปนี้

• ระบบธุรกรรมออนไลน์บนเครือข่ายของ Ethereum การทำธุรกรรมที่มาแรงที่สุดสำหรับแนวคิดแบบ Difi การแลกเปลี่ยนบนความเชื่อใจของระบบที่เชื่อถือได้ของ Ethereum ที่ตรวจสอบผ่านระบบสัญญาอัจฉริยะ หรือ Smart Contract แถมมีความปลอดภัยสูงมาก ซึ่งเรียกกันว่า Peer-to-Peer
• Web3 โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของจักรวาล Metaverse เทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นมา เพื่อการทำธุรกรรมได้อย่างโปร่งใส ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถือเป็นวิวัฒนาการของการเชื่อมต่อที่ไร้พรมแดนจาก web2 ที่ไร้ตัวกลาง
• ระบบความเป็นเจ้าของแบบ NFT สินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบหนึ่งที่นำจุดเด่นของ Blockchain มาโดยผู้ซื้อสามารถแสดงความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ในรูปแบบนี้ได้แบบตรวจสอบได้ของที่มาที่ไป จากการบันทึกธุรกรรมและแชร์ไปกว่าล้านๆ Node ล้านๆ User ยากที่จะแอบอ้างหรือแก้ไขได้

ที่มา: MANA Coin คืออะไร Decentraland ทำงานอย่างไร? MANA ดีไหม [1]

สรุป เหรียญ MANA เหรียญอันดับ 1 แห่งโลกเสมือน

เหรียญที่เป็นราชาแห่งการแลกเปลี่ยนใน Decentraland โลกเสมือนที่เป็น GameFi และมี NFT ที่ดินเสมือน รวมถึงงานศิลปะ และเพลงต่างๆ ไว้ที่เดียว โดยราคาของเหรียญนี้ก็ขึ้นอยู่กับการมาของ Metaverse โดยสามารถใช้ทั้งแลกเปลี่ยนของ Farm รับดอกเบี้ย และเก็งกำไรได้

อ้างอิง

[1] mitrade. (January 26, 2024). MANA Coin คืออะไร Decentraland ทำงานอย่างไร? MANA ดีไหม. Retrieved from mitrade

[2] orbixtrade. (March 13, 2024). Decentraland (MANA) คืออะไร. Retrieved from orbixtrade

[3] แสนสิริ. (February 29, 2024). GameFi คืออะไร เล่นเกมแล้วได้เงินจริงหรือ เข้าใจง่ายๆ ใน 5 นาที. Retrieved from sansiri

[4] beincrypto. (May 15, 2023). วิเคราะห์ อนาคต เหรียญ MANA ปี 2023 คาดการณ์ราคา Decentraland. Retrieved from beincrypto

เหรียญ USDT เป็นเหรียญที่ถูกใช้แลกเปลี่ยนไปมาในโลกคริปโตมากที่สุด โดยผู้ลงทุนมักจะแลกเงินกับ USDT ก่อน และจากนั้นก็แลกเป็นเหรียญที่ต้องการได้ ในการขายกลับก็เช่นกัน โดยเป็น เหรียญ Stablecoin ที่จะคงมูลค่าไว้ได้ บทความนี้จึงมาพูดถึงต้นกำเนิดของเหรียญตัวนี้ ประโยชน์ต่างๆ ในการใช้งาน รวมถึงความเสี่ยงต่างๆ ในการถือครองนานๆ ด้วย

ความเป็นมา หรือจุดกำเนิดของ เหรียญ USDT

เหรียญจากฮ่องกง ที่เริ่มโปรเจกต์ขึ้นตั้งแต่ปี 2014 โดยเป็นเหรียญดิจิทัลในนามของบริษัท Tether Limited ช่วงแรกๆ ที่เริ่มเหรียญ Stablecoin นี้มีชื่อว่า Realcoin และได้เปลี่ยนไปเป็น USDT หลังจากผ่านไปไม่กี่เดือน ซึ่งจุดประสงค์ของเหรียญนี้ก็ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อตรึงราคาของเหรียญไว้ให้อยู่ที่ 1 ดอลลาร์ หรือให้ใกล้เคียงมากที่สุด ไม่ว่าจะมากหรือน้อยกว่าก็จะปรับราคาตามกลไกของมัน [1]

ด้วยมูลค่าที่คงที่ตามชื่อ Stable จึงไม่ใช่เหรียญที่เอาไว้สำหรับการเก็งกำไร แต่เหรียญนี้ก็ได้ขึ้นแท่น Stablecoin ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวันที่ 10 มิถุนายน 2021 Market Cap ของ USDT ก็พุ่งสูงเป็นอันดับ 3 ที่ 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ [2] โดยการรักษามูลค่าของดอลลาร์ไว้ 1:1 จึงเปรียบเป็นเหรียญแทนเงินสดได้ดี ซึ่งจะมีหลักการทำงานที่ไม่ได้ยุ่งยากอะไร

การทำงานของเหรียญ Stable ตัวนี้

หลักการทำงานก็มีจุดประสงค์เดียว คือระบบที่จะต้องพยายามรักษามูลค่าไว้ที่ 1 ดอลลาร์เสมอการผูกราคาสินทรัพย์เข้ากับราคาดอลลาร์ ราคาของมันจึงไม่มีความผันผวนแบบแน่นอน โดยระบบของมันก็จะถูกรันในบล็อกเชน โดยใช้ในหลายๆ ที่มาก ตั้งแต่ Bitcoin blockchain, เจ้าพ่อเครือข่ายอย่าง Ethereum, EOS, Tron, Algorand และอีกมากมาย โดยจะมีวิธีรักษามูลค่าดังนี้

• อ้างอิงจากเงินดอลลาร์ ด้วยวิธีการผลิตเหรียญแบบ Proof of Resercves ที่จะใส่ดอลลาร์เข้าไปในระบบให้เท่ากับจำนวนเหรียญ หมายความว่า USDT มีมากเท่าไหร่ ก็จะมีเงินดอลลาร์ในระบบมากเท่านั้น [1]

• โดยปกติของเหรียญคริปโตแล้ว ในวัฏจักรหนึ่งในนั้นก็จะมีกรรมวิธีเบิร์นเหรียญ หรือเผาเหรียญเพื่อลดซัพพลายลง ไม่ให้เกิดอัตราเฟ้อในระบบมากเกินไป แต่กับ USDT ไม่เคยมีการเผานับตั้งแต่ผลิตมา ซึ่งบริษัทอาจใช้การกำจัดเหรียญแบบอื่นที่ง่ายกว่าอย่างการย้ายไปเก็บนอกคลัง
• จนกระทั่งเดือนมิถุนาในปี 2023 ก็มีการเผากว่า 3.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการรักษาเสถียรภาพ พร้อมบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ล้นตลาดของ Stable coin [3]

ประโยชน์จากการชำระเงินด้วย USDT

ด้วยการสร้างกลไกที่ยอดเยี่ยม การใช้งานของ Stablecoins มีผลอย่างมากทั้งด้านการชำระเงิน จากการที่สามารถแทนมูลค่าดอลลาร์ได้ใกล้เคียง และการเป็นเหรียญยอดนิยมในการ convert เหรียญต่างๆ ซึ่งก็ยังมีประโยชน์อื่นๆ ที่เหรียญนี้สามารถทำได้ด้วย

• เสถียรภาพของมูลค่า

ด้วยความสามารถในการคงมูลค่าไว้ได้ที่ 1 USD ได้  ทำให้มีการใช้งานง่าย และหลากหลายขึ้น โดยองค์กรจำนวนมากที่เริ่มยอมรับ Crypto เป็นการชำระเงิน เพราะค่าธรรมเนียมต่ำกว่า แต่คริปโตก็มีเรื่องความผันผวนเป็นที่สุด  ดังนั้นการชำระเงินด้วย Stablecoin หรือ USDT จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดในเรื่องความเสถียร

• เวลาแลกเปลี่ยน

ในการถอนเงินจากคลิปโตมาเป็น USD หรือสกุลเงินอื่นๆ ก็มักจะใช้เวลา 1-4 วันทำการ แต่การแลกเปลี่ยนของ Tether เกิดขึ้นในไม่กี่นาที เท่านั้น สิ่งนี้มีความสำคัญสำหรับ cryptocurrency ที่ใช้เวลาดำเนินการในไม่กี่นาที ในจำนวนที่มากด้วย

• ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน

นอกจากมีความรวดเร็วแล้ว ค่าใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยนการซื้อขายก็ใช้น้อยเป็นอย่างมาก อาจสูงเป็นพิเศษ โดยอัตราแลกเปลี่ยน Tether จะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยนเท่ากับศูนย์ระหว่างกระเป๋าเงิน เท่านี้ก็ไม่ต้องรอนานและในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างทั้งใน และต่างประเทศยังไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมด้วย

• การชำระเงินทั่วโลก

เป็นธรรมดาที่การโอนเงินผ่านธนาคารเป็นสิ่งที่ยุ่งยากและมีค่าธรรมเนียมสูง การใช้เหรียญนี้ในระบบการเงินนอกเหนือจาก cryptocurrency ก็ยังมีประโยชน์ เช่นประเทศที่มีการเงินที่มูลค่าต่างกันเกินไป Stablecoins จึงเป็นตัวช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงการโอนง่ายๆ ในระบบ DeFi ได้อย่างง่ายๆ

ที่มา: ประโยชน์ของวิธีการชำระเงิน USDT [4]

เป็นทั้งที่หลบภัย และมีความเสี่ยงในการถือ

ด้วยความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่ใช่เหรียญที่เพิ่มมูลค่าได้ แต่เป็นการรักษามูลค่าไว้ได้คงเดิมที่ 1 ดอลลาร์ หรือให้ใกล้เคียงที่สุด ในโลกคริปโตจึงมักใช้เหรียญนี้ โดยการแลกเหรียญที่คาดว่าจะมีความผันผวนมาเป็น USDT แล้วถือไว้จนกว่าจะมีสัญญาณดีขึ้น แต่ในการเก็บไว้ก็อาจมีความเสี่ยงเมื่อเวลาที่ Tether ถูกตรวจสอบ หรือถูกแฮก, การถูกสแกม ฯลฯ 

ความสามารถในการรักษามูลค่าไว้ยามตลาดผันผวน

เป็นที่รู้กันดีว่าเหรียญประเภทนี้ทั้งหลายล้วนมีคุณสมบัติในการเป็นเหมือน sefe haven ที่ให้ผู้ถือเหรียญต่างๆ ที่มีความเสี่ยง และความผันผวนสูง สามารถโยกย้ายมาเกมไว้ในสกุลเงิน USDT ได้อย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนเป็นเงินสดให้ยุ่งยาก พร้อมย้ายเข้าได้เมื่อต้องการ เปรียบเสมือนเงินดอลลาร์ที่พร้อมซื้อคริปโตก่อนใคร 

• การล่มสลายของ Terra Blockchain หรือเหรียญ Luna เมื่อปี 2022
• เหตุการณ์การโจมตีมูลค่าของเหรียญ UST หนึ่งในเหรียญ Stablecoin ที่ได้รับความนิยม
• Tether ยังมีช่วงหนึ่งที่เคยถูกสงสัยว่า มีสินทรัพย์อื่นๆ ร่วมค้ำประกันมูลค่าด้วยนอกจากดอลลาร์ ซึ่งบริษัทก็ได้พิสูจน์จากหน้าธุรกรรมประจำวัน Transparency ว่าไม่เป็นจริง

ที่มา: Tether (USDT) คืออะไร ทำไมถึงเป็น Stablecoin ที่ดังสุด [5]

ความเสี่ยงในการถือครองเหรียญ USDT

ถึงแม้ USDT จะเป็น Stablecoin ที่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของราคาหรือมูลค่าไปมากกว่า 1 ดอลลาร์ แต่มันก็ไม่ได้ปลอดภัยไปซะทีเดียว เพราะเหรียญนี้เคยถูกตรวจสอบ และแช่แข็งเหรียญไว้ไม่ให้มีการนำไปใช้อะไรได้ระหว่างที่ตรวจสอบ ว่าด้วยเรื่องการสงสัยเงินทุนสำรอง 

ซึ่งนอกจากจะโดนแช่แข็งแล้วช่วงนั้นราคาก็หลุด Peg ไปช่วงหนึ่ง โดยราคาก็ลงไปอยู่ที่ 0.80 ดอลลาร์ แต่ก็กลับมาตรึงราคา 1 ดอลลาร์ได้สำเร็จอีกครั้งหลังจากนั้นไม่นาน [5]

สรุป เหรียญ USDT กับผู้ครองตลาดเกม และอีคอมเมิร์ซ

เหรียญที่คงมูลค่าไว้ที่ 1 ดอลลาร์เสมอโดยในเงินดอลลาร์มาค้ำประกันการออกเหรียญไว้ และยังเป็นเหรียญยอดนิยม ที่มีการใช้งานในระบบเชนต่างๆ มากมาย และมีประโยชน์ข้อดีต่างๆ มากมาย โดยก็ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ก็ในกรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก

อ้างอิง

[1] mitrade. (July 6, 2023). USDT(Tether) คืออะไร? เหรียญ USDT ดีไหมและปลอดภัยไหม?. Retrieved from mitrade

[2] finnomena. (May 20, 2022). Uมารู้จัก VSDT คืออะไร ต่างจาก USDC อย่างไร มีความเสี่ยงก่อนลงทุนอะไรที่ควรรู้. Retrieved from finnomena

[3] siamblockchain. (June 22, 2023). Tether เผาเหรียญ USDT กว่า 3.1 พันล้านดอลลาร์ สิ่งนี้บ่งบอกอะไร. Retrieved from siamblockchain

[4] unipayment. (October 24, 2022). ประโยชน์ของวิธีการชำระเงิน USDT. Retrieved from unipayment

[5] beincrypto. (December 13, 2023). Tether (USDT) คืออะไร ทำไมถึงเป็น Stablecoin ที่ดังสุด. Retrieved from beincrypto

Ethereum บล็อกเชน หนึ่งในระบบ และเป็นเหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตลาดเป็นอันดับ 2 ของโลกคริปโต ซึ่งเป็นที่พูดถึงมากในฐานะ Chain เริ่มต้นของคริปโตเลเยอร์สอง และแพลตฟอร์ม Defi ต่างๆ จุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ ที่ตอบโจทย์เรื่องพลังงาน ซึ่งบทความนี้ก็จะมาทำความรู้จักกับอีเธอเรียมให้มากขึ้น

จุดเริ่มต้นของ Ethereum บล็อกเชน 

เป็นแพลตฟอร์มบริการบล็อกเชนที่สร้างเครือข่ายแบบ Peer-to-Peer คือตรวจสอบรหัสแอปพลิเคชันอย่างปลอดภัย ที่เรียกว่าสัญญาอัจฉริยะ “Smart contract” ซึ่งสามารถทำธุรกรรมด้วยกันได้โดยไม่ต้องมีหน่วยงานกลางที่เชื่อถือได้ จึงเป็นอีก Chain หรือเครือข่ายหนึ่ง ที่มีระบบกระจายศูนย์กลางในการประมวลผลเหมือน Bitcoin Blockchain [1] โดยมีความเป็นมาดังนี้

• โปรเจกต์นี้ถูกร่างขึ้นโดย Vitalik Buterin ตั้งแต่ปี 2013 ก่อนจะถูกนำมาใช้งานจริงเมื่อปี 2015 และไม่นานในปี 2016 Ethereum Blockchain เคยถูกแฮ็กระบบซึ่งเป็นที่มาที่ทำให้เกิดความสูญเสียมูลค่ากว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
• หลังจากนั้นไม่นานมีการ Hard Fork หรือการงอกเครือข่ายของ Blockchain ใหม่ ที่คล้าย Terra ในปี 2020 ทำให้เกิดเหรียญคู่ขนานที่ยังอยู่ใน Ethereum เดิมที่เรียกว่า Ethereum Classic หรือ ETC ที่ใช้ทุกวันนี้
• จุดแตกต่างหลักก็คือการเป็น Programmable Blockchain ว่าง่ายๆ ก็คือความสามารถในการเขียนโค้ดที่ซับซ้อนลงไปในระบบได้ อย่างการใส่ Smart contract เข้าไปรันใน Blockchain มันจึงเป็นต้นแบบของแอป Defi ของหลายๆ เจ้าดัง

ที่มา: Ethereum คืออะไร? รู้จักต้นกำเนิดเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ในโลกคริปโตฯ [2]

ฟังก์ชันต่างๆ ของ Ethereum Blockchain

จุดแข็งของ Ethereum ก็คือการใช้งานที่หลากหลาย หรือความสามารถในการเขียนโค้ดที่ซับซ้อนลงไปได้ตามที่ระบุไปก่อนหน้านี้ ซึ่งมีตัว เหรียญ Binance เคยใช้เชนนี้ก่อนจะมาสร้างของตนเอง และมีการใช้งานโปรเจกต์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทุกปี โดยฟังก์ชันที่เครือข่ายนี้ทำได้ก็จะมีดังนี้  

• สัญญาอัจฉริยะ: คำสั่งที่ดำเนินการด้วยตนเอง ผ่านโค้ดในเครือข่าย Ethereum ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางอย่างธนาคารต่างๆ ซึ่งแลกเปลี่ยนโดยที่ไม่ต้องรู้ตัวตน แต่มีความปลอดภัยจากการบันทึกและแชร์ธุรกรรมได้กว่าล้านๆ node จึงยากต่อการเปลี่ยนแปลงและแทรกแซงได้
• DApps: แอปพลิเคชันคอมพิวเตอร์ ที่ทำงานแบบกระจายอำนาจ ซึ่งบล็อกเชนของอีเธอเรียมก็เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการปรับใช้ dApp โดยมีกว่า 100 รายการ
• NFT: เหรียญที่เป็น Token สามารถแสดงความเป็นเจ้าของเฉพาะได้ และใช้กับสิ่งต่างๆได้ตั้งแต่ งานศิลปะ ของสะสม ไอเท็มในเกม และเคยนำไปใช้กับที่ดินด้วย ซึ่งพื้นฐานระบบ NFT ก็ใช้บนฐานของ Ethereum

ที่มา: การคาดการณ์ราคา Ethereum (ETH) ปี 2024-2040 [3]

การอัปเกรดเป็น 2.0 ระบบใหม่ที่ Save energy

ด้วยธีมโลกในการลดการใช้พลังงาน และท่ามกลางกระแสโจมตีกลับที่กล่าวว่า การขุดเหรียญ ETH นั้นใช้พลังงานสูงมากจากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ใช้ พร้อมแนวคิดที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาด้วย จึงเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของ อีเธอเรียม

• การเปลี่ยน Algorithm ในการขุดเหรียญ จากเดิมที่เป็นแบบ Bitcoin หรือที่เรียกว่า Proof-of-Work ให้เป็น Proof-of-Stake ซึ่งใช้เหรียญ ETH ในการเข้ามาค้ำเพื่อแลกสิทธิ์ในการตรวจสอบธุรกรรมและรับเหรียญเป็นรางวัล จากเดิมที่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ประมวลผลเพื่อแก้สมการในแต่ละธุรกรรม และต้องเปิดไว้ตลอดเวลา
• โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่า ตอบโจทย์ทั้งการเป็นนวัตกรรมของเทคโนโลยีใหม่ๆ และธีมโลกในการประหยัดพลังงาน
• เมื่อ Ethereum 2.0 แล้วเสร็จสมบูรณ์ สิ่งที่อยู่บนระบบเดิมรวมถึงเหรียญ ETH จึงจะถูกย้ายไปสู่ระบบใหม่โดยอัตโนมัติ ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2020 และได้พัฒนาเสร็จใน 2022

Recap ภาพรวม Ethereum 2024 และแนวโน้มในอนาคต

แม้จะผ่านอะไรมาเยอะ บล็อกเชนนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะถึงจะเป็นรอง Bitcoin แต่ระบบการขุดที่ตอบโจทย์ธีมโลกสีเขียว และการเป็นระบบพื้นฐานของ NFT การเป็นระบบตั้งต้นของโลกการเงินแบบกระจายอำนาจ (Defi) ที่ไม่ว่าเจ้าไหนๆ ก็ต้องใช้ระบบของอีเธอเรียม ไม่นานระบบนี้ก็อาจจะสามารถตามตูด จนหายใจรดต้นคอ BTC เลยก็ได้

3 ปัจจัยพื้นฐาน อีเธอเรียม ลุ้นพุ่งทะยาน

โดยในหัวข้อนี้จะเป็นการพูดถึง ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ระบบนี้ มีการเติบโตขึ้นไปอีก ซึ่งรวมทั้งปัจจัยเดิม และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน และอาจเป็นการจุดชนวนเริ่มต้นของตลาดที่ทำให้ Ethereum พุ่งสูงมากกว่า 3,000 ดอลลาร์ 

• การถอนอีเธอเรียมออกจาก Exchange โดยจากข้อมูลของ CryptoQuant การไหลออกของอีเธอเรียมจากกระดานแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มเป็นลบ ซึ่งก็หมายความว่ามีการนำเหรียญนี้ไปเก็บรักษาไว้ด้วยตนเองมากกว่าจะเอาไว้ในกระดาน ถือเป็นสัญญาณสะท้อนความเชื่อมั่นระยะยาวของเหรียญนี้
• การอัปเกรด Dencun อีกปัจจัยที่จะทำให้อีเธอเรียมมีราคาที่สูงขึ้น ซึ่งการอัปเกรดครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพ,  ความสามารถในการปรับขนาด และยกระดับความปลอดภัยไปอีกขึ้นด้วย ช่วยลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล
• จากการอนุมัติกองทุน Spot Bitcoin ETF ที่ผ่านมา ก็สร้างความสนใจอย่างมาก และเป็นไปได้มากที่ Ethereum ETF จะได้รับการอนุมัติ ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงคริปโตได้โดยไม่ต้องซื้อเอง ใช้แค่เงิน ซึ่งแน่นอนว่าจะดึงดูดเม็ดเงินมหาศาลจากกองทุนที่จะเข้ามาซื้อ ETH กันด้วย

ที่มา: 4 เหตุผลเด็ด? ทำไมราคา Ethereum (ETH) ถึงมีลุ้นพุ่งทะยานในอนาคต [4]

คาดการณ์แนวโน้มราคา อีเธอเรียม 2024-2030

โดยที่ผ่านมา อีเธอเรียมมีราคาสูงขึ้นอย่างมากในปี 2021 จนสามารถทำ All time High หรือมีราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 4,840 ดอลลาร์ ก่อนที่ราคาเหรียญจะตกลงเรื่อยๆ โดยแนวโน้มราคา Ethereum จะพุ่งกลับขึ้นมาอีกครั้งในอนาคตด้วยปัจจัยข้างต้น และการมาของ Bitcoin Halving ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ดังนี้

• ในช่วงสิ้นปี 2024 แพลตฟอร์มที่มีความมั่นคงสามารถรองรับธุรกรรมที่มากขึ้น ETH อาจสามารถลดค่าแก๊สลงได้ จนมีการยอมรับในวงกว้าง นี่จึงช่วยให้ ETH สามารถสร้าง All Time High ใหม่ได้ทะลุ 5,000 ดอลลาร์
• สิ้นปี 2025 จากผลพวงโดมิโนการลดลงค่าแก๊ส สามารถกระตุ้นการเติบโตของเหรียญนี้ได้อีก ซึ่งนักวิเคราะห์ก็คาดการณ์ว่า ETH จะสามารถไปแตะจุดสูงสุดที่ 6,800 - 7,000 ดอลลาร์
• และข้ามไปสิ้นปี 2030 ในการทำงานร่วมกันของเครือข่ายนี้ที่อาจมีโปรเจกต์หลากหลายเข้ามา ทั้งความเร็ว และความปลอดภัยที่มากขึ้นจากการอัปเกรดที่จะมีมากกว่า Dencun แน่นอน ซึ่งจะยิ่งสร้างความมั่นใจให้หมู่ผู้ใช้ในระยะยาว ดังนั้น ETH อาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 40,000 ดอลลาร์

ที่มา: คาดการณ์แนวโน้มราคา ethereum 2024 – 2025 [5]

สรุป Ethereum บล็อกเชน ที่เป็นต้นแบบธุรกิจ Defi

Ethereum บล็อกเชน เทคโนโลยีที่ก้าวไปไกลที่สุดในโลกคริปโต อาจกำลังตามบิตคอยน์อีกไกลด้วยตำแหน่งอันดับ 2 แต่ก็มีหลายอย่างที่สามารถทำได้มากกว่าบิตคอยน์ อย่างการเป็นบล็อกเชน Programmable จนกำเนิดการแลกเปลี่ยนแบบใหม่ และการขุดแบบที่ไม่ต้องใช้พลังงานมากมาย ซึ่งในอนาคตการตระหนักของภาวะโลกร้อนที่เข้มข้นขึ้น และปัจจัยต่างๆ มากมายอาจทำให้ ETH ตามบิตคอยน์ได้ใกล้ขึ้น

อ้างอิง

[1] Amazon. (2023-2024). Ethereum คืออะไร. Retrieved from amazon

[2] Finnomena. (September 9, 2022). Ethereum คืออะไร? รู้จักต้นกำเนิดเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ในโลกคริปโตฯ. Retrieved from finnomena

[3] Changelly Blog. (January 26, 2024). การคาดการณ์ราคา Ethereum (ETH) ปี 2024-2040. Retrieved from changelly

[4] siamblockchain. (February 2, 2024). 4 เหตุผลเด็ด? ทำไมราคา Ethereum (ETH) ถึงมีลุ้นพุ่งทะยานในอนาคต. Retrieved from siamblockchain

[5] business2community. (April 22, 2024). คาดการณ์แนวโน้มราคา ethereum 2024 – 2025. Retrieved from business2community

เหรียญ Binance อีกหนึ่งเหรียญที่นักเทรด หรือผู้ที่ถือครองคริปโตต้องรู้จักเป็นอย่างดี กับเหรียญอนาคตไกลนี้ ซึ่งเป็นเหรียญจากแพลตฟอร์มซื้อขาย Crypto อันดับ 1 ของโลก ที่มีเครือข่ายเป็นของตัวเอง บทความนี้จึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมาของเหรียญ การทำงาน ประโยชน์ของมัน รวมไปถึงแนวโน้มการพุ่งทะยานในปี 2024 นี้ด้วย 

เหรียญ Binance หรือ BNB คืออะไร

BNB หรือ Binance Coin คือสกุลเงินหนึ่งในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ที่ออกโดย Binance เมื่อปี 2017 โดยเริ่มได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วง Bitcoin halving ในปี 2020 ไปจนถึง 2021 แต่เดิมเหรียญนี้ทำงานบน Blockchian ของ ETH ก่อนจะพัฒนามาใช้เชนของตนเองคือ Binance Chain หรือ BEP2 [1] โดยลักษณะเด่นของเหรียญดังกล่าวก็มีดังนี้

• ระบบฉันทามติแบบ Proof of Staked Authority (PoSA) คือใช้เหรียญไปค้ำไว้เพื่อแลกสิทธิ์ในการตรวจสอบการบันทึกธุรกรรมเหรียญใหม่ โดยได้รางวัลเป็น เหรียญนั่นเอง
• เหรียญนี้มีระบบ กำจัดเหรียญแบบอัตโนมัติ หรือ Auto-Burn เพื่อคุมปริมาณของเหรียญไม่ให้มีมากเกินไปจนมูลค่าลดลง
• เนื่องจากเป็นเหรียญของ แพลตฟอร์ม Exchange คริปโตระดับโลก ในการใช้งานแพลตฟอร์มจึงมีสิทธิพิเศษต่างๆ อย่างเช่น การใช้เป็นค่า Gas (ส่วนลดค่าธรรมเนียม) ในธุระกรรมต่างๆ การนำไปฝาก Steak เพื่อรับเหรียญเพิ่ม และวางในมาร์จิ้น เพื่อปล่อยกู้ก็ได้

ที่มา: Binance Coin (BNB) คืออะไร? [1]

คนนิยมใช้เหรียญ Binance ทำอะไรบ้าง

หัวข้อนี้จะเป็นส่วนของคุณประโยชน์ที่ เหรียญ Binance สามารถทำได้ และคนนิยมที่จะนำไปใช้กันอยู่แล้ว ทั้งในแพลตฟอร์มของ Binance เอง และในแพลตฟอร์ม Defi อื่นๆ โดยนี่ก็เป็น 5 ข้อที่คัดมาจากกิจกรรมต่างๆ ที่เหรียญ BNB สามารถทำได้ในโลกคริปโต

1. ใช้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมใน Binance เอง ซึ่งจะได้รับส่วนลดในการจ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ ฉะนั้นนักเทรดส่วนมากในแพลตฟอร์มนี้จึงมักซื้อ BNB ติดบัญชีไว้ตลอด ซึ่งสามารถลดค่าธรรมเนียมได้ และเก็งกำไรได้ด้วย
2. สามารถนำไปชำระค่าบัตรเครดิตกับผู้ให้บริการที่รองรับได้ แถมยังสามารถชำระค่าสินค้าต่างๆ ได้ หลายที่เริ่มรับเหรียญ BNB แล้ว
3. สามารถนำไปเพิ่มเหรียญได้ง่ายๆ ใน Binance Saving การฝากเหรียญเพื่อกินดอกเบี้ย ซึ่งได้เยอะกว่าดอกเบี้ยในธนาคารอีกด้วย มีทั้งแบบถอนไม่ได้ และสามารถถอนออกมาได้ตลอดเวลา
4. สามารถนำไป Staking ได้ผ่านฟีเจอร์ Locked Staking ใน Binance ซึ่งเป็นการนำเหรียญไปค้ำเพื่อทำฉันทามติแบบ proof fo stake เพื่อรับเหรียญเพิ่มได้
5. ฝากใน Launchpool คือการใช้เหรียญ BNB ไปฝากกับโครงการของเหรียญ หรือ Token ใหม่ โดยผู้ฝากก็จะได้รับค่าตอบแทนเป็นเหรียญใหม่นั้นๆ กลับมาพร้อมกับเหรียญ BNB ที่จำนวนเท่าเดิม และอาจได้สิทธิในการซื้อเหรียญโปรเจกต์ใหม่ๆ  ด้วยเหรียญ BNB  

ที่มา: รู้จัก "BNB" หรือ "Binance Coin" เหรียญสกุลดัง พร้อมเหตุผลที่ควรจับตามอง! [2]

การเผาเหรียญ หรือ Auto-Burn เพื่อลดปริมาณ

การเบิร์นเหรียญนับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับโลกคริปโตใหม่ โดยเฉพาะเหรียญเลเยอร์ 2 ต่างๆ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อไม่ให้เหรียญนั้นๆ มีมากเกินไปในระบบนิเวศเหรียญ ซึ่งจะพบบ่อยมากใน เหรียญ Stablecoin โดยอาจเป็นการเขียนโค้ดให้ทำการเผาเมื่อมูลค่าเกิน หรืออาจจะตั้งเวลาเผาทุกๆ ปี หรือเดือน โดยการ Auto-Burn นั้นจะมีหลักการทำงานดังต่อไปนี้

• การเผาอย่างแรกก็คือการใช้เหรียญนี้ ในการจ่ายค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมต่างๆ ในแอป Binance การเผาแบบเนียนๆ จากผู้ใช้งานในแอปที่มีรายการแลกเปลี่ยนเยอะที่สุดในโลก
• การเผาเหรียญที่ถูกพัฒนารูปแบบใหม่มาเป็น Auto-Burn ซึ่งเป็นการเผาเหรียญในทุกๆ ไตรมาส วิธีการนี้สามารถตรวจสอบความโปร่งใสได้ด้วย โดยวิธีนี้ก็เป็นวิธีหลักของเหรียญนี้
• โดยการเผาก็จะทำโดยการที่ Binance จะนำกำไร 20% ของบริษัทออกมาซื้อเหรียญคืน เพื่อทำการเผาเหรียญให้สูญหายไปจากระบบ และไม่สามารถกลับมาหมุนเวียนในระบบได้อย่างถาวร
• ทางไบแนนซ์มีอุปทานเหรียญทั้งหมด 200 ล้านเหรียญ โดยการเผาคือการลดเหรียญให้เหลือ 50% กล่าวคือในอนาคตหากขุดครบ BNB ก็จะเหลือ 100 เหรียญ ในขณะที่อุปสงค์อาจมากขึ้น หรือเท่าเดิม ซึ่งจะส่งผลต่อมูลค่าเหรียญให้สูงขึ้นอัตโนมัติ

ที่มา: BNB Coin (BNB) คืออะไร? แนวโน้มเหรียญ BNB น่าลงทุนไหมในปี 2023 [3]

ภาพรวม และแนวโน้มการพุ่งตัวของ เหรียญ Binance 

ขณะที่ Btc ทำลายสถิติตัวเองด้วยการขึ้นแตะ All time high อย่างต่อเนื่อง เหรียญทางเลือกอื่นจึงฟื้นตัวกลับมาจากช่วงขาลงใน 2022-2023 ที่ผ่านมา Binance Coin เองก็ทำผลงานโดดเด่น โดยไปแตะจุดสูงสุดเดิมที่ 690.93 ดอลลาร์ จากการเปลี่ยนแปลงวันที่ 20 มีนาคม ที่ได้ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุด 500 ดอลลาร์ ไปสู่ 539 ดอลลาร์

BNB ใกล้ขึ้นสู่ All time high ใหม่อีกครั้ง

ซึ่งการคาดการของบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า Captain Faibik ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 84,000 คน ก็บอกว่า เหรียญนี้จะทำ ATH ใหม่อีกครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ซึ่งก็เหลืออีกไม่ถึง 10% เท่านั้นที่เหรียญนี้จะกลับไปจุดสูงสุดที่เคยทำไว้คือ 690.93 ดอลลาร์ เมื่อปี 2021 [4] โดยมีเหตุการณ์สำคัญจากช่วงที่ผ่านมาดังนี้

• Solana (SOL) เหรียญอันดับ 5 ที่ไล่หลัง BNB มาติดๆ โดยในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ราคาก็บวกไปกว่า 10% ทำให้พลิกแซงก่อนจะถูก BNB แซงกลับอีกครั้ง
• ขณะที่ราคาของบิตคอยน์พุ่งเหนือระดับ 73,000 ดอลลาร์  BNB เองก็เดินพุ่งไปสู่ ATH ขึ้นทุกที โดยสะท้อนจากดัชนี Crypto Fear & Greed ก็พุ่งทะยานขึ้นมาแตะ 88 ในวันที่ 14 มีนาที่ผ่านมา

ที่มา: BNB ใกล้แตะจุดสูงสุดตลอดกาล, Ethereum อัปเกรด Dencun ฉลุย [4]

3 ปัจจัยที่ทำให้ราคา Binance coin พุ่งสูง

แนวโน้มที่เกิดขึ้นจากหัวข้อก่อนหน้านี้ เป็นการกระตุ้นให้เหล่านักเทรดจำนวนมาก ลุ้นราคาว่าจะกลับไปแตะ ATH อีกครั้งหรือไม่ โดยหัวข้อนี้จะเป็นการนำเอาปัจจัยต่างๆ ที่อาจทำให้การลุ้นนี้เป็นจริง ซึ่งก็มี 3 ปัจจัยดังนี้

• Binance เป็นตลาดซื้อขายคริปโตที่มีปริมาณการซื้อขายมากเป็น อันดับ 1 ของโลก ด้วยการใช้งาน และการซื้อขายคริปโตเคอเรนซี มากกว่า 40% ติดต่อกัน 4 เดือน
• Binance Smart Chain มีปริมาณการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีปริมาณการทำธุรกรรมถึง 7.07 ล้านรายการในช่วงเดือนมีนาที่ผ่านมา
• BNB ใกล้แตะจุดสูงสุด โดยในวันที่ 20 มีนาคม โดยมีราคาห่างจาก All Time High เพียง 21% (550 ดอลลาร์) เท่านั้น และ ณ วันที่เขียนเหรียญดังกล่าวก็มีราคาอยู่ที่ 581.62 ดอลลาร์ อ้างอิงจาก Binance

สรุป เหรียญ Binance การกลับมาพร้อมตลาดที่ฟื้นตัว

เหรียญที่มาแรงในปีนี้ และได้รับความสนใจตั้งแต่การถูกตั้งคำถาม เกี่ยวกับการฟอกเงินจนทาง Binance กอบกู้ชื่อเสียงกลับมาได้ เหรียญนี้ก็ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง เข้าใกล้จุดสูงสุดที่เคยทำไว้เมื่อ 2021 พร้อมบรรดานักลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน

อ้างอิง

[1] bitkubacademy. (September 7, 2021). Binance Coin (BNB) คืออะไร?. Retrieved from bitkubacademy

[2] กรุงเทพธุรกิจ. (December 15, 2021). รู้จัก "BNB" หรือ "Binance Coin" เหรียญสกุลดัง พร้อมเหตุผลที่ควรจับตามอง!. Retrieved from bangkokbiznews

[3] mitrade. (September 14, 2023). BNB Coin (BNB) คืออะไร? แนวโน้มเหรียญ BNB น่าลงทุนไหมในปี 2023. Retrieved from mitrade

[4] efinancethai. (March 14, 2024). BNB ใกล้แตะจุดสูงสุดตลอดกาล, Ethereum อัปเกรด Dencun ฉลุย. Retrieved from efinancethai