บัตเตอร์เบียร์ (Butterbeer) เครื่องดื่มสุดฮิตจากภาพยนตร์ แฮรรี่พอตเตอร์ เป็นเครื่องดื่มที่เหล่าพ่อมด แม่มดจากโลกเวทมนตร์ชื่นชอบกันอย่างมาก และที่สำคัญคือ ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเบียร์ แต่ดื่มแล้วไม่เมาแน่นอน เครื่องดื่มจากโลกเวทมนตร์ ที่หากใครเป็นมักเกิล หรือเป็นพอตเตอร์เฮด จะต้องลิ้มลองสักครั้ง และในวันนี้ เรามีสูตร และวิธีการทำแบบง่ายๆ สำหรับชาวมักเกิลมาฝาก
บัตเตอร์เบียร์ เป็นเครื่องดื่มสุดฮิตในโลกเวทมนตร์ ที่โด่งดังมาจากภาพยนตร์เรื่อง แฮรี่พอตเตอร์ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่เหล่าพ่อมด แม่มดดื่มได้แบบไม่เมา แต่เอลฟ์ประจำบ้าน ดื่มแล้วเมา โดยรสชาติของบัตเตอร์เบียร์ จะมีรสของบัตเตอร์สกอตช์ ที่มีความหวาน ความเลี่ยน
โดยแฮรี่พอตเตอร์ ตัวเอกของเรื่องได้ดื่ม บัตเตอร์เบียร์เป็นครั้งแรก ในตอนที่เขาได้แอบหนีออกจากโรงเรียน ไปที่หมู่บ้านฮอกส์มี้ด (จากแฮรี่พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน) [1] ซึ่งเขาก็ดื่มเข้าไปอึกใหญ่ๆ แล้วคิดว่าบัตเตอร์เบียร์ เป็นของที่อร่อยมากที่สุด เท่าที่เคยได้ลองมา และนับตั้งแต่นั้นมา ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้บัตเตอร์เบียร์ เป็นที่รู้จัก และโด่งดัง
ที่มา : สูตรทำบัตเตอร์เบียร์ [2]
ที่มา : แจกไปเลยบัตเตอร์เบียร์ 3 สูตรลับ! [3]
บัตเตอร์เบียร์ เครื่องดื่มสุดฮิต ที่โด่งดังมาจากภาพยนตร์พ่อมดชื่อดัง แฮรี่พอตเตอร์ กับการสร้างชื่อเสียงเมนูเครื่องดื่มแบบใหม่ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเบียร์ แต่ดื่มแล้วไม่เมา เพราะไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ทำให้บัตเตอร์เบียร์เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก และเริ่มแพร่หลายมากยิ่งขึ้น จากการจัดจำหน่ายแบบลิขสิทธิ์แท้ที่ Universal Studio ซึ่งก็มีการแกะสูตร และมาบอกต่อให้สำหรับมักเกิล ที่อยากลองดื่ม
[1] Muggle-V. (April 14, 2019). บัตเตอร์เบียร์ (Butterbeer). Retrieved from muggle-v
[2] True ID. (December 19, 2021). สูตรทำบัตเตอร์เบียร์. Retrieved from food.trueid
[3] klook. (September 14, 2020). แจกไปเลยบัตเตอร์เบียร์ 3 สูตรลับ!. Retrieved from klook
น้ำลำไย เครื่องดื่มสมุนไพรจากผลไม้ เมนูเครื่องดื่มสร้างอาชีพ ที่นิยมอย่างมากในตอนนี้ ด้วยวิธีการทำที่ง่าย แถมอร่อย และสดชื่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่ม ที่พบเห็นกันได้บ่อยตามท้องตลาด โดยน้ำลำไย ก็มีแบบทั้งที่ทำจากลำไยอบแห้ง และลำไยสดๆ ที่ให้รส และความอร่อยต่างกัน แต่ก็ให้ประโยชน์ได้เช่นกัน วันนี้เรามีสูตร และวิธีการทำมาฝาก
น้ำลำไย แรกเริ่มแล้วจัดว่าเป็นเครื่องดื่ม ที่แปรรูปมาจากผลลำไย ที่เดิมทีแล้วประเทศไทย เป็นประเทศที่มีผลผลิตทางการเกษตร อย่างลูกลำไย ที่จัดจำหน่าย และส่งออก แต่ด้วยความไม่แน่นอนของผลผลิต ทำให้บางครั้ง อาจได้ผลผลิตทางการเกษตร ที่มีปริมาณมากเกินไป หรือล้นตลาด จึงต้องมีการแปรรูปผลผลิตนั้น ให้สามารถเก็บได้นาน หรือเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตได้
ซึ่งการแปรรูปลำไย ก็มีทั้งการทำเป็น ลำไยอบแห้ง การทำลำไยดอง ลำไยแช่อิ่ม ของหวาน หรือรวมถึงการทำน้ำลำไย ซึ่งการแปรรูปเหล่านี้ ก็ได้รับการตอบรับที่ดี จากผู้บริโภคทั้งหลาย อย่างเช่นน้ำลำไย ที่ในปัจจุบันนี้ มีการทำมาขายกัน เป็นจำนวนมาก ทั้งน้ำลำไยอบแห้ง และน้ำลำไยสด
ที่มา : วิธีต้มน้ำลำไยสด [1]
สำหรับใครที่ทำน้ำลำไย จากเนื้อลำไยอบแห้ง ขอแนะนำว่าควรล้างเนื้อลำไยอบแห้ง ก่อนนำมาต้ม ประมาณ 2 รอบ จากนั้นก็นำมาพักเพื่อสะเด็ดน้ำ แล้วสามารถทำตามขั้นตอนที่ 2 ต่อไปได้เลย ซึ่งการใช้เนื้อลำไยอบแห้ง ก็มีทั้งลำไยเนื้อสีทอง และเนื้อสีดำ
ที่มา : น้ำลำไย ดับกระหายคลายร้อน [2]
น้ำลำไย เครื่องดื่มสมุนไพรจากผลไม้ ที่ทั้งอร่อย สดชื่น และมีคุณประโยชน์มากมาย โดยเป็นเมนูเครื่องดื่มสร้างอาชีพ ที่มาแรงอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยวิธีการทำ ที่ไม่ยุ่งยาก และการใช้วัตถุดิบที่หาง่าย จึงเป็นสิ่งที่ทำให้น้ำลำไย เป็นอีกหนึ่งเมนู เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างมาก
[1] KAPOOK. (February 29, 2024). วิธีต้มน้ำลำไยสด. Retrieved from cooking.kapook
[2] True ID. (May 27, 2020). น้ำลำไย ดับกระหายคลายร้อน. Retrieved from food.trueid
คูมิส (Kumis) หรือเหล้านมม้า [1] เป็นน้ำนมจากม้า ที่ถูกนำไปหมักให้มีรสเปรี้ยว จนทำให้เกิดเป็นนมม้ารสเปรี้ยว หรือนมเปรี้ยว ที่มีแอลกอฮอล์ โดยปริมาณแอลกอฮอล์ ที่อยู่ในคูมิส จะมีประมาณ 2 - 4% เป็นเครื่องดื่มที่มาจากมองโกเลีย และในปัจจุบัน ยังเป็นที่นิยมในแถบเอเชียกลาง ซึ่งความน่าสนใจของคูมิส จะมีอะไรบ้าง ต้องติดตาม
คูมิส เป็นเครื่องดื่มนมหมัก ที่นำน้ำนมม้าไปหมักกับยีสต์ และส่วนผสมอื่นๆ เมื่อครบกำหนด ระยะเวลาการหมักแล้ว จะได้เป็นเครื่องดื่มสีขาว รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นนมเปรี้ยว แต่มีปริมาณของแอลกอฮอล์ ในเครื่องดื่มชนิดนี้ด้วย ซึ่งเครื่องดื่มชนิดนี้ ก็มีทั้งประโยชน์ และโทษให้กับผู้ดื่ม
โดยในอดีต เครื่องดื่มชนิดนี้ เป็นที่นิยมของคนเร่ร่อนในแถบเอเชีย และมองโกเลียอย่างมาก แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน เป็นลายลักษณ์อักษรที่แน่ชัด มีเพียงแค่การพบร่องรอย ของนมม้าที่คีร์กีซสถาน จึงก็ทำให้เป็นจุดเริ่มต้น ของการจดบันทึกคูมิส ลงในประวัติศาสตร์
ที่มา : ดื่มคูมิก่อนหรือหลังอาหาร Kumis [2]
คูมิส หมักโดยใช้วิธีแบบดั้งเดิม ที่จะเป็นการหมักกึ่งต่อเนื่อง โดยจะหมักในถังที่ทำจากไม้ หรือจากหนังสัตว์ แล้วนำคูมิสส่วนที่หมักแล้วมาใส่ในถัง ผสมกับน้ำนมม้า ในปริมาณ 3 - 10 ส่วน ก็จะได้เป็นคูมิสที่มีฟอง และมีรสเปรี้ยว โดยการหมักก็จะใช้อุณหภูมิตั้งแต่ 20 - 32 องศาเซลเซียส หลังจากครบกำหนดการหมัก ก็จะต่อด้วยการบ่มทิ้งไว้ให้ได้รสที่กลมกล่อม ประมาณ 1 วัน หรือรสเข้ม บ่มไว้ 2 - 4 วัน
คูมิส เป็นเครื่องดื่มนมเปรี้ยว ที่มีแอลกอฮอล์ ให้รสเปรี้ยวอมหวาน ซึ่งก็เป็นเครื่องดื่มที่ให้ทั้งประโยชน์ แต่ก็มีทั้งโทษ หรือข้อควรระวังในการดื่มด้วยเช่นกัน และสำหรับใครที่อยากรู้ว่าคูมิส จะมีรสชาติเป็นอย่างไร หรืออยากลองหาดื่มดู ขอแนะนำว่า ควรหาซื้อจากร้านค้า หรือจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน จะมีความปลอดภัยในการบริโภคมากกว่า
[1] วิกิพีเดีย. (November 21, 2023). เหล้านมม้า. Retrieved from wikipedia
[2] b boned. (April 26, 2019). ดื่มคูมิก่อนหรือหลังอาหาร Kumis. Retrieved from boned
น้ำเฉาก๊วย เป็นเครื่องดื่ม และของหวานสีดำ ที่มีรสหวาน สามารถกินด้วยรสดั้งเดิมได้ หรือจะมิกซ์ส่วนผสมอื่นเข้าไป ก็เพิ่มความอร่อยได้ไม่แพ้กัน ซึ่งเฉาก๊วย ก็เป็นพืชต้นหนึ่ง ที่มีประโยชน์ และสรรพคุณมากมาย สำหรับใคร ที่ชื่นชอบน้ำเฉาก๊วย มาทางนี้ได้เลย เราจะมาบอกถึงสรรพคุณ และสูตรเฉาก๊วยรสอื่นๆ
ต้นเฉาก๊วย เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับ สะระแหน่ หรือมิ้นต์ [1] โดยเป็นที่รู้จักกันอย่างดี ในประเทศจีน และแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งในไทย จัดว่าเฉาก๊วย เป็นอาหารหวาน และเครื่องดื่ม ที่หากินได้ง่าย โดยมีสรรพคุณ เป็นอาหารเพื่อสุขภาพได้
น้ำเฉาก๊วย ก็มีวิธีการทำมาจาก การนำต้นเฉาก๊วยไปตากแห้ง และนำต้นแห้งไปต้ม ก็จะได้น้ำเฉาก๊วย ออกมาเป็นสีดำ แต่จะมีลักษณะเป็นแบบเมือก จากนั้นก็นำไปกรอง เพื่อให้ได้ส่วนที่เป็นน้ำมาใช้ ซึ่งก็สามารถนำไปทำต่อเป็นเนื้อเฉาก๊วยได้ โดยการผสมแป้ง แล้วทิ้งไว้ให้เย็น ก็จะได้เป็นเนื้อวุ้นเฉาก๊วยหนึบหนับ แต่หากใครไม่ชอบกินเนื้อเฉาก๊วย ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย
ที่มา : เฉาก๊วย ขนมหวานสีดำ [2]
น้ำเฉาก๊วย เป็นทั้งเครื่องดื่ม และของหวานที่มีสรรพคุณเสริมสุขภาพมากมาย แถมยังมีรสชาติอร่อย หากินง่าย ที่สำคัญยังมีการนำมาปรุงแต่งรสได้อย่างหลากหลายอีกด้วย และสำหรับใครที่อยากกินลองทำเฉาก๊วยกินเอง ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยวัตถุดิบจาก 7-11 ตามที่เราแนะนำได้เลยรับประกัน อร่อยเหมือนซื้อจากร้านแน่นอน
[1] วิกิพีเดีย. (November 11, 2023). เฉาก๊วย. Retrieved from wikipedia
[2] rabbitcare. (July 25, 2023). เฉาก๊วย ขนมหวานสีดำ. Retrieved from rabbitcare
ซังกริอา หรือแซงเกรีย (Sangria) เป็นเครื่องดื่มจากสเปน และโปตุเกส ที่จะประกอบไปด้วยไวน์ ผลไม้ น้ำตาล และบรั่นดี โดยเครื่องดื่มชนิดนี้ เป็นที่นิยมอย่างมาก ในหมู่ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ได้ไปเที่ยวสเปน ซึ่งด้วยส่วนผสม และการทำแบบสำเร็จแล้ว ก็เป็นเครื่องดื่ม ที่มองภายนอกแล้ว ดูดีอย่างมาก ในวันนี้ เรามีวิธีการทำซังกริอามาฝากกัน
ซังกริอา จากคำบอกเล่าในอดีต บอกว่าเครื่องดื่มชนิดนี้ มีมาตั้งแต่โบราณ ในสมัยโรมัน มาพร้อมกันกับวัฒนธรรมการจิบไวน์ในสเปน ซึ่งไวน์ในอดีต ยังมีคุณภาพที่ไม่ค่อยดีมากนัก จึงทำให้รสชาติของไวน์ยังไม่ค่อยเป็นที่ถูกปากสักเท่าไหร่ ผู้คนในสมัยนั้น จึงได้มีการนำสมุนไพร ผลไม้ และสารเพิ่มความหวานต่างๆ มาผสมในไวน์ เพื่อให้รสชาติกลมกล่อม น่าดื่มยิ่งขึ้น
สำหรับ ซังกริอา ในปัจจุบัน ก็ถือเป็นเครื่องดื่มสำหรับจิบ หรือดื่มเพื่อเรียกน้ำย่อย ซึ่งก็ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน และด้วยการใช้วัตถุดิบ และส่วนประกอบ ที่หาได้ง่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือตามท้องตลาด จึงเป็นเรื่องง่าย สำหรับคนที่สนใจ และอยากลองทำด้วยตนเอง
ที่มา : เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “เครื่องดื่มแซงเกรีย” [1]
สำหรับสูตรดั้งเดิมของซังกริอา หรือแซงเกรีย จะมีส่วนผสมของไวน์แดง และบรั่นดีเข้าไป ซึ่งถ้าหากใครอยากลองทำสูตรดั้งเดิม เพียงแค่เติมไวน์แดง และบรั่นดี (ในปริมาณน้อย) ลงไปในขั้นตอนที่ 4 เท่านี้ก็จะได้เป็นซังกริอา สูตรดั้งเดิมแบบของสเปนแล้ว
ซังกริอา เป็นเครื่องดื่มรสชาติดี กลิ่นหอมสดชื่น ชวนเย้ายวน ด้วยการนำผลไม้ มาผสมเข้ากับไวน์แดง และบรั่นดี แล้วหมักไว้ในอุณหภูมิต่ำ ทำให้กลายเป็น เครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย ที่ทำง่าย ซึ่งต้องได้ลิ้มลองกันสักครั้ง ด้วยสูตรที่หลากหลาย และยังทำไปเสิร์ฟได้ในทุกโอกาส เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับใครที่เป็นสายค็อกเทล ต้องลองเครื่องดื่มชนิดนี้ ด้วยสูตรความสดชื่นจากสเปน
[1] BornTvOfficial. (December 27, 2022). เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “เครื่องดื่มแซงเกรีย”. Retrieved from youtube
ลาสซี่ (Lassi) เป็นชื่อของเครื่องดื่มประเภทเนยนม ที่ทำจากโยเกิร์ต โดยมีความนิยมดื่ม หรือบริโภคกันในแถบเอเชียใต้ โดยรสชาติของเครื่องดื่มชนิดนี้ ก็มีทั้งแบบหวาน และเค็ม ซึ่งในบางที่ การทำลาสซี่ก็จะมีการใส่เนื้อผลไม้ผสมลงไปด้วย เพื่อเพิ่มรสชาติ และรสสัมผัสให้มีความอร่อย กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งเมนูเครื่องดื่มดับร้อนแบบอินเดียสไตล์
ลาสซี่ เป็นเครื่องดื่มโยเกิร์ต ที่มีเครื่องเทศเป็นส่วนผสมหลักด้วย [1] ซึ่งโดยทั่วไปของลาสซี่ จะมีรสดั้งเดิมเป็นแบบหวาน และเค็ม แต่ในปัจจุบันก็มีการมิกซ์ส่วนผสมใหม่ๆ เข้าไป เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ ที่ให้ความอร่อยมากยิ่งขึ้น อย่างการใส่ผลไม้ เช่น กล้วย มะม่วงสุก เป็นต้น
ซึ่งความอร่อยของลาสซี่ หรือเครื่องดื่มโยเกิร์ตนี้ของชาวอินเดีย ก็ได้รับความนิยม จนลามมาถึงในประเทศไทย ซึ่งก็ทำให้คนไทยหลายคนรู้จักกับเมนูนี้ และอยากลิ้มลองดูบ้าง วันนี้เรามีวิธีการทำลาสซี่มาบอกต่อ ทำง่ายได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องไปตามหา ที่ร้านอาหารอินเดีย หรือสตรีทฟู้ดอินเดีย ให้เสี่ยงโดนบีบแตรใส่
ที่มา : รวม 4 สูตร ลาสซี่โยเกิร์ต [2]
ลาสซี่จะเป็นสมูทตี้โยเกิร์ตสไตล์อินเดีย ที่จะมีการใช้โยเกิร์ต และเครื่องเทศเป็นส่วนผสมหลักในการทำ ซึ่งสูตรดั้งเดิม จะไม่มีการผสมผลไม้เข้าไป แต่เพื่อให้ดื่มง่าย และเพิ่มความอร่อย ให้มีรสที่กลมกล่อมมากขึ้น หลายที่จึงนิยมใส่ผลไม้เข้าไปด้วย ซึ่งก็ใช้วัตถุดิบคล้ายๆ กับการทำโยเกิร์ตสมูทตี้ของไทย เพียงแต่ว่า สมูทตี้ของไทยจะไม่มีการใส่เครื่องเทศเข้าไปด้วย
ลาสซี่ หรือลัสซี่ (Lassi) เป็นหนึ่งในเครื่องดื่ม ของชาวอินเดีย ที่คนไทยหลายคนรู้จัก และอาจมีความคุ้นเคยกันมาบ้าง ซึ่งก็ให้ทั้งรสชาติที่อร่อย แบบแปลกใหม่สำหรับคนไทย ด้วยเครื่องดื่มโยเกิร์ต ที่มีกลิ่นของเครื่องเทศ และถึงแม้ว่าจะคล้ายกันกับ สมูทตี้โยเกิร์ตของไทย แต่ลาสซี่ของอินเดีย ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ ของเครื่องดื่มโยเกิร์ต ที่มีกลิ่นเครื่องเทศได้เป็นอย่างดี
[1] Happy Mate. (September 3, 2021). Lassi. Retrieved from happymatefood
[2] True ID. (August 25, 2017). รวม 4 สูตร ลาสซี่โยเกิร์ต. Retrieved from women.trueid
สาเกญี่ปุ่น (sake) เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประจำประเทศญี่ปุ่น ที่มีการหมักจากข้าว [1] สามารถดื่มได้ทั้งแบบอุ่น และแบบเย็น ซึ่งจะให้รสที่แตกต่างกันตามอุณหภูมิ โดยจะเป็นรสชาติเอกลักษณ์ และมีปริมาณแอลกอฮอล์พอๆ กับไวน์ ประมาณ 13 - 16% ซึ่งคำว่า “สาเก” ในญี่ปุ่นจะหมายถึงเหล้าทั่วไปทุกชนิด แต่เหล้าสาเกที่เรารู้จักกัน คนญี่ปุ่นจะเรียกว่า นิฮอนชู หรือ นิฮงชู
สาเกญี่ปุ่น เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่รู้จักกันมานานกว่า 2,000 ปี ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับเหล้าสาเก ถูกบันทึกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีน สมัยศตวรรษที่ 3 ว่า ชาวญี่ปุ่น ดื่มด่ำ และเพลิดเพลินไปกับเหล้าสาเก และยังมีการนำไปใช้ในพิธีศพ และต่อมาในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น สมัยศตวรรษที่ 8 ก็มีการบันทึกถึงการกลั่นเหล้าสาเก โดยใช้หัวเชื้อจากโคจิ
สาเกญี่ปุ่น เป็นเหล้าที่มีความเกี่ยวข้องกับ การใช้ในพิธีกรรมต่างๆ มาช้านาน ซึ่งก็มีความเกี่ยวข้องกับศาลเจ้าชินโต และวัดต่างๆ ในศาสนาพุทธ โดยนิยมใช้เหล้าสาเก เป็นเครื่องเซ่นไหว้ ภายหลังตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 12 - 15 ศาลเจ้า และวัดต่างๆ ก็เริ่มมีการหมักสาเกเอง และนำไปใช้ในพิธีต่างๆ เป็นต้นมา
ที่มา : เปิดประวัติ สาเก [2]
ที่มา : ไข 5 ข้อสงสัยของ “สาเก” [3]
สาเกญี่ปุ่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของชาวญี่ปุ่น ที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน หนึ่งในเครื่องดื่มสุดฮิตช่วงเทศกาล และพิธีการสำคัญ ด้วยคุณภาพ และวิธีการทำ พร้อมคุณประโยชน์ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ ซึ่งแน่นอนว่า เราได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาบอกแล้วในบทความนี้ สำหรับใครที่ชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่น ต้องได้ลิ้มลองรสชาติอันแท้จริงของเหล้าประจำชาติ
[1] FUN JAPAN. (July 25, 2021). สาเก: คู่มือสู่เครื่องดื่มประจำชาติของญี่ปุ่น. Retrieved from fun-japan
[2] LIQINFO. (January 31, 2023). เปิดประวัติ สาเก. Retrieved from liqinfo
[3] WISHBEER. (June 13, 2017). ไข 5 ข้อสงสัยของ “สาเก”. Retrieved from wishbeer
โมฮิโต หรือ โมจิโต (Mojito) เป็นเครื่องดื่มสุดขึ้นชื่อ จากประเทศคิวบา เครื่องดื่มประเภทค็อกเทล ที่ใช้เหล้ารัม น้ำมะนาว และใบมิ้นต์เป็นหลัก ซึ่งก็สามารถปรับแต่งสูตร รสชาติ ผสมกับน้ำผลไม้ชนิดอื่นๆ ได้ตามชอบ เป็นเมนูเครื่องดื่มสุดฮิตที่ช่วยดับร้อน เพิ่มความสดชื่นได้อย่างมาก สำหรับใครที่กำลังหาเมนูดับกระหาย ในซัมเมอร์นี้ ต้องไม่พลาด
โมฮิโต เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สุดคลาสสิก จากแถบทะเลแคริบเบียน เมืองฮาวานา ประเทศคิวบา [1] ที่ทำจากเหล้ารัม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งกำเนิดเหล้ารัมของโลก ที่มีความสุดยอด โดยโมฮิโต เป็นเครื่องดื่มดับกระหาย และให้ความสดชื่น จากรสหวานอมเปรี้ยว
โมฮิโต แบบดั้งเดิมจากคิวบา จะใช้ส่วนผสมหลักเพียง 5 อย่าง คือ เหล้ารัม มะนาว น้ำตาล โซดา และใบมิ้นต์ เมื่อนำส่วนผสมมามิกซ์กัน ก็จะได้โมฮิโต ที่มีรสหวานอมเปรี้ยว และสดชื่นจากความซ่า และช่วยดับร้อนจากอากาศร้อนอบอ้าว ของชาวทะเลแคริบเบียนได้ ซึ่งก็เป็นเครื่องดื่ม ที่ชาวคิวบาชื่นชอบอย่างมาก
ที่มา : Mojito เครื่องดื่มคลายเครียด [2]
ที่มา : 6 สูตรโมฮิโต (Mojito) [3]
โมฮิโต เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากในคิวบา และชาวทะเลที่อยู่แถบแคริบเบียน ด้วยสภาพอากาศที่ร้อน การมีเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นได้ เป็นอะไรที่ดีอย่างมาก ซึ่งโมฮิโตก็ตอบโจทย์ได้อย่างดี จนแพร่กระจายไปทั่วโลก และเกิดการมิกซ์เป็นโมฮิโตสูตรต่างๆ สำหรับใครที่อยากลองหาเครื่องดื่มดับร้อน เพิ่มความสดชื่น ต้องลองดื่มโมฮิโต
[1] Sale Here. (April 5, 2023). แจกสูตร ค็อกเทล Mojito. Retrieved from salehere
[2] True ID. (March 25, 2020). Mojito เครื่องดื่มคลายเครียด. Retrieved from food.trueid
[3] รวมสูตรอร่อย. (April 18, 2022). 6 สูตรโมฮิโต (Mojito). Retrieved from gourmetandcuisine
น้ำกระเจี๊ยบ (Roselle juice) เครื่องดื่มสมุนไพรสีแดง ที่มีรสเปรี้ยวหวานตัดกัน อีกหนึ่งเครื่องดื่มสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยดับกระหาย คลายร้อนได้ พร้อมช่วยเพิ่มความสดชื่น หลังการดื่มได้เป็นอย่างดี ในบางที่อาจเรียกน้ำกระเจี๊ยบว่า น้ำดอกกระเจี๊ยบ เพราะเป็นส่วนที่ทำมาจากดอกของกระเจี๊ยบแดง ซึ่งก็มีวิธีการทำที่ง่าย และยังสามารถทำดื่มได้ด้วยตนเอง
น้ำกระเจี๊ยบ หรือ Roselle juice เป็นน้ำสมุนไพรที่ทำมาจาก ดอกกระเจี๊ยบแดง ที่สามารถนำดอกกระเจี๊ยบมาใช้ได้ ทั้งแบบสด และแบบแห้ง ที่เมื่อนำมาทำเป็นน้ำแล้ว จะมีรสเปรี้ยวหวาน ให้ความรู้สึกสดชื่น ดับกระหายได้ ซึ่งก็ยังมีสรรพคุณอีกมากมาย ที่เปรียบเสมือนเป็นยาสมุนไพร อีกอย่างหนึ่งได้เลย
น้ำกระเจี๊ยบ เป็นน้ำสมุนไพรโบราณ ที่สามารถพบเห็นการขาย จำหน่ายได้ทั่วไป ตามตลาด หรือตามร้านน้ำสมุนไพร ซึ่งนอกจากสรรพคุณที่ช่วยดับกระหายได้แล้วนั้น ก็ยังมีสรรพคุณอีกมากมาย ที่จะช่วยบำรุงสุขภาพ และร่างกายให้กับผู้ดื่ม อีกทั้งยังมีวิธีการทำที่ง่ายอย่างมาก
ที่มา : น้ำกระเจี๊ยบสด (เข้มข้นมากกก) [1]
ที่มา : 7 ประโยชน์สุดว้าวจากน้ำกระเจี๊ยบ [2]
น้ำกระเจี๊ยบ ถึงแม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำสมุนไพร แต่รสชาติของน้ำกระเจี๊ยบนั้น ไม่ใช่น้ำสมุนไพรเลย ด้วยรสเปรี้ยวหวาน ที่ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวย อีกทั้งเมื่อได้รู้ถึงสรรพคุณต่างๆ ของน้ำกระเจี๊ยบแล้ว เชื่อว่าต้องทำให้หลายคน อยากดื่มน้ำกระเจี๊ยบกันทุกวันอย่างแน่นอน
[1] cookpad. (October 26, 2021). น้ำกระเจี๊ยบสด (เข้มข้นมากกก). Retrieved from cookpad
[2] Big C. (November 6, 2020). 7 ประโยชน์สุดว้าวจากน้ำกระเจี๊ยบ. Retrieved from bigc
น้ำเก๊กฮวย เครื่องดื่มสมุนไพรสีเหลือง กลิ่นหอม ช่วยคลายร้อน เป็นน้ำสมุนไพรสุดฮิต ในช่วงซัมเมอร์ ของชาวไทย ด้วยกลิ่นที่หอม และรสชาติอันแสนหวาน แต่รู้กันหรือไม่ว่า น้ำเก๊กฮวยนอกจากจะช่วยดับกระหาย คลายร้อนได้แล้ว ยังมีสรรพคุณอีกมากมาย ที่มีฤทธิ์คล้ายกับยาบำรุง ที่จะทำให้ผู้ที่ชอบน้ำสมุนไพร ได้ประโยชน์จากน้ำเก๊กฮวย
น้ำเก๊กฮวย หรือ Chrysanthemum Juice เป็นเครื่องดื่มที่ทำมาจาก “ดอก” ของเก๊กฮวย หรือที่รู้จักกันคือ ดอกเบญจมาศสวน [1] ที่ผ่านการตากแห้งมา แล้วนำไปต้มกับน้ำตาล เพื่อให้มีรสที่หวาน โดยสามารถดื่มได้ทั้งแบบร้อน และแบบเย็น ซึ่งช่วยเพิ่มความสดชื่น และแก้กระหายได้อย่างมาก ในช่วงอากาศร้อน
น้ำเก๊กฮวยมีวิธีการทำที่ง่ายมาก เพียงนำดอกเก๊กฮวย ที่ตากแห้งแล้ว ไปต้มกับน้ำประมาณ 5 นาที หรือจนได้ที่ จากนั้นก็แยกดอกออก แล้วเติมน้ำตาลลงไป เพื่อเพิ่มรสหวาน และสามารถเพิ่มความหอมได้ โดยใช้ใบเตย หรือใบชา ต้มไปพร้อมกับน้ำตาล เมื่อน้ำตาลละลาย ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้น ในขั้นตอนการทำน้ำเก๊กฮวย
ที่มา : ประโยชน์ของ เก๊กฮวย สมุนไพรคลายร้อน [2]
ที่มา : เก๊กฮวย สรรพคุณไม่ธรรมดา [3]
น้ำเก๊กฮวย น้ำสมุนไพรสีเหลือง ที่มีกลิ่นหอม รสหวาน ดื่มแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น ดับกระหาย คลายร้อน เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่แนะนำอย่างมาก ในช่วงซัมเมอร์แบบนี้ ดื่มในช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าว ช่วยคลายร้อนได้อย่างมาก ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มสมุนไพร ที่กินง่าย และได้ประโยชน์มาก
[1] วิกิพีเดีย. (June 2, 2024). น้ำเก๊กฮวย. Retrieved from wikipedia
[2] True ID. (January 26, 2024). ประโยชน์ของ เก๊กฮวย สมุนไพรคลายร้อน. Retrieved from food.trueid
[3] KAPOOK. (September 13, 2021). เก๊กฮวย สรรพคุณไม่ธรรมดา. Retrieved from health.kapook