แมวสายพันธุ์ไทย คือ แมวที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ ประเทศไทย ซึ่งอุปนิสัยส่วนใหญ่ ก็จะเป็นแมวที่ค่อนข้างฉลาด รู้จักประจบเจ้าของ รักบ้าน และเหนือสิ่งอื่นใด คือ รักในความอิสระของตนเอง แมวพวกนี้มักชอบกินอะไรตามใจชอบ ซึ่งถือเป็นหนึ่งบุคลิกที่แตกต่างจาก แมวสายพันธุ์ต่างประเทศ เป็นอย่างมาก
แมวสายพันธุ์ไทย เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์เรามาอย่างยาวนาน และยังเป็นสัตว์ที่ได้รับสิทธิ์ ในการขึ้นไปอาศัยอยู่บนบ้านเรือน ในอดีตหากมีประเพณีขึ้นบ้านใหม่ ผู้คนจะนิยมเอาสัตว์ 2 ชนิด มามอบเป็นของมงคล ให้แก่เจ้าของเรือน ซึ่งสัตว์ 2 ชนิดนี้ ก็คือ ไก่ และ แมว นั่นเอง [1]
คนไทยมีความเชื่อเรื่องของ ลูกกรอกแมว หรือ ซากของลูกแมวที่เสียชีวิตในท้อง หากใครที่ได้มาบูชาจะเกิดผลดี อีกทั้งยังมีความเชื่อในเรื่องของ เพชรตาแมว คือ ลูกตาของแมวที่เป็นต้อ เมื่อแมวเสียชีวิตแล้ว ลูกตาของมันจะแข็งคล้ายกับหิน หากใครที่ได้ครอบครอง จะทำให้ได้รับโชคลาภ ไม่ว่าจะปรารถนาในสิ่งใด ก็จะได้ดังใจหวัง
แมวไทยในปัจจุบัน จะมีทั้งแมวให้โทษ และแมวให้คุณ ซึ่งวันนี้เราก็จะพาไปรู้จักกับ ลักษณะของแมวให้คุณทั้ง 3 ชนิด ได้แก่
แมวเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยง ที่ถูกนำมาใช้ในการทำพิธีกรรมขอฝน ซึ่งเป็นพิธีกรรมของ เกษตรกรชาวไทย จะสามารถพบเห็นได้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ที่แมวถูกนำมาใช้ในการขอฝน เพราะคนไทยในสมัยก่อนเห็นว่า แมว เป็นสัตว์ที่กลัวน้ำ กลัวฝน เมื่อไหร่ที่ฝนตกแมวจะร้อง
คนโบราณจึงถือเป็นเคล็ดว่า ถ้าแมวร้องเมื่อไหร่ คือ สัญญาณบอกว่าฝนใกล้จะตก และแมวที่จะนำมาประกอบพิธีกรรม จะต้องเป็นแมวเพศเมียสายพันธุ์ สีสวาด เท่านั้น เพราะมันมีขนเป็นสีเทาเข้ม คล้ายกับเมฆฝน อีกทั้งยังมีแววตาเป็น สีเหลืองอมเขียว คล้ายกับสีของต้นข้าวในทุ่งนาด้วย [2]
ก่อนที่จะเริ่มเลี้ยงแมว ผู้เลี้ยงจะต้องศึกษาความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับการเลี้ยงแมวก่อน ซึ่งแมวแต่ละตัวก็จะมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของเขา เช่น แมวบ้านที่มีการผสมพันธุ์กับแมวจร หรือแมวป่า ก็จะมีนิสัยที่ระหวาดระแวง และไม่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้า เพราะฉะนั้นผู้เลี้ยงจะต้องศึกษาลักษณะนิสัยของมัน รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของแมวด้วย [3]
อุปกรณ์จำเป็นที่ต้องใช้ในการเลี้ยง น้องแมว ทั้งหมดนี้ สามารถสั่งซื้อได้ง่ายๆ ผ่านทางเว็บไซต์ petnme
สรุป แมวสายพันธุ์ไทย สัตว์เลี้ยงมงคล ที่มาพร้อมกับโชคลาภ ซึ่งแมวสายพันธุ์ไทยส่วนใหญ่ จะเป็นแมวให้คุณ ปัจจุบันผู้คนนิยมเลี้ยงไว้เพื่อนำพาโชคลาภ และใช้ประโยชน์ในการล่าหนู บนบ้านเรือน
[1] wikipedia. (August 31, 2024). แมวไทย. Retrieved from wikipedia
[2] readhowl. (2024). พิธีแห่นางแมว. Retrieved from readhowl
[3] cattrips. (2024). ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเลี้ยงแมว. Retrieved from cattrips
อเมริกันช็อตแฮร์ เจ้าเหมียวขวัญใจทาสแมว ที่มาพร้อมกับความน่ารัก แมวชนิดนี้เป็น แมวสายพันธุ์ต่างประเทศ ที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันดี หรือ อาจจะเคยพบเห็นกันมาแล้วบ้าง มันเป็นแมวล่าเหยื่อที่แท้จริง คนนิยมเลี้ยงไว้เพื่อล่าหนู พวกมันเป็นสัตว์ที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง และมีลักษณะร่างกาย ที่ค่อนข้างสมส่วน
อเมริกัน ช็อตแฮร์ เป็นแมวที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ของชาวอเมริกัน ซึ่งเดิมทีนั้น ผู้คนมักนิยมเลี้ยงไว้ เพื่อคอยล่าหนูบนเรือน ไม่ให้พวกมันมาแย่งอาหาร หรือทำลายข้าวของในบ้าน แต่ในปัจจุบันถูกยก ให้เป็นแมวที่มีความสวยงาม เป็นอันดับต้นๆ ของโลก เนื่องจากมีลวดลาย ที่เป็นเอกลักษณ์ จึงสามารถครองใจผู้คนได้อย่างมากมาย
แมวสายพันธุ์นี้ เป็นแมวที่ขนาดตัวอยู่ที่ ปานกลาง จนถึงขนาดใหญ่ เพราะมันมีโครงสร้าง ของร่างกายที่แข็งแรง ลักษณะรูปร่างค่อนข้างหนากลม และ มีน้ำหนักโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4 - 6 กิโลกรัม สีขนโดยธรรมชาติ จะมีตั้งแต่ สีดำ ขาว น้ำเงิน และครีม ที่มาพร้อมกับลวดลายของแต่ละตัว สีของดวงตาส่วนใหญ่จะเป็น สีน้ำเงิน ส่วนสีหายากจะเป็น สีเขียว ทอง และน้ำตาล
ที่มา : มาทำความรู้จัก แมวอเมริกันช็อตแฮร์ [1]
อเมริกันช็อตแฮร์เป็นแมวที่มี ลักษณะนิสัยขี้อ้อน เลี้ยงง่าย สามารถปรับตัวเข้ากับ คนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีลักษณะนิสัย ที่ค่อนข้างคล้ายคลึง กับแมวสายพันธุ์ สกอตติชโฟลด์ น้องจะชอบอยู่ใกล้กับเจ้าของ หากเมื่อไหร่ที่มันต้องการ ให้เจ้าของสนใจ ก็จะทำการกัดเบาๆ เพื่อให้เราหันไปมอง [2]
อเมริกันช็อตแฮร์เป็นแมวที่ฉลาด หากได้รับการฝึกฝน ซึ่งเราสามารถฝึกให้เขา เรียนรู้ทักษะต่างๆ ได้ เช่น การนั่ง หรือ ขอมือ และให้รางวัลเป็นขนมแมว การฝึกทักษะเหล่านี้จะช่วยกระตุ้น ให้แมวสายพันธุ์ อเมริกัน ช็อตแฮร์ มีสายสัมพันธ์ที่ดี ต่อเจ้าของได้ [3]
แมวสายพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์ โดยทั่วไป จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 6,000 - 7,000 บาท แต่ถ้าหากเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ หรือเป็นแมวที่เป็น แชมป์การประกวด ก็จะมีราคาที่สูงขึ้นอีกหน่อย โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 10,000 บาท หากใครสนใจ สามารถดูรายละเอียด และสั่งซื้อได้ที่ Bann K&T Cattery
สรุป อเมริกันช็อตแฮร์ น้องแมวที่มาพร้อมกับความน่ารัก และนิสัยที่แสนเชื่อง เป็นแมวที่มีขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่ ชอบให้เจ้าของสนใจ และมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ แมวสายพันธุ์นี้ จะมีอยู่มากมายหลากหลายสี โดยแต่ละสี ก็อาจจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ตามความหายากนั่นเอง
[1] weeecat. (2024). มาทำความรู้จักแมวอเมริกันช็อตแฮร์. Retrieved from weeecat
[2] nongpets. (2024). อเมริกัน ช็อตแฮร์. Retrieved from nongpets
[3] glurgang. (2024). อเมริกันช็อตแฮร์เลี้ยงยังไง. Retrieved from glurgang
สกอตติชโฟลด์ น้องคือ แมวสายพันธุ์ต่างประเทศ ที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์สุดเก๋ คือ หูพับ ใบหน้ากลมแป้น และมีขนนุ่มน่ากอด แมวชนิดนี้มาจากสกอตแลนด์ เป็นสายพันธุ์แมว ที่ถูกค้นพบในปี ค.ศ.1961 โดยชายเลี้ยงแกะที่มีชื่อว่า วิลเลียม โรส
สกอตติชโฟลด์ เป็นแมวที่มีภาวะกระดูก เจริญผิดรูป ซึ่งความผิดปกตินี้ ก็ส่งผลต่อร่างกาย ทำให้ใบหูของมันเกิดเป็น ใบหูพับ ชี้ลงมาทางด้านหน้า ซึ่งนับว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียกได้ว่ามีลักษณะที่คล้ายกับ นกฮูก แต่การที่เป็นเช่นนี้ ก็ส่งผลเสียต่อ สวัสดิภาพของแมว เช่นเดียวกัน [1]
สกอตติชโฟลด์เป็นแมวที่ มีลักษณะนิสัยที่ค่อนข้างสุภาพ ว่านอนสอนง่าย อีกทั้งยังเป็นสัตว์ที่ ชอบแสดงว่าความรัก พวกมันมักติดเจ้าของ แต่ก็จะไม่รบกวน หรือสร้างความรำคาญให้ เช่นเดียวกัน กับแมวสายพันธุ์ อเมริกันช็อตแฮร์ ที่มักจะมีนิสัยผูกพันกับคนในครอบครัว [2]
สำหรับการให้อาหาร น้องแมวสกอตติชโฟลด์ ควรให้ตามสัดส่วนที่เหมาะสม กับความต้องการของร่างกาย และกิจกรรมในแต่ละวันของน้อง ซึ่งแคลอรี่เหมาะสมต่อวันก็คือ 60 - 80 แคลอรี่ต่อน้ำหนักตัว หากให้อาหารน้องแมวมากจนเกิดไป อาจจะมีความเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้
สกอตติชโฟลด์เป็นแมว ที่มีขนหนาแน่น จึงต้องหมั่นแปรงขนให้มันเป็นประจำ หรือ 1 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อป้องกันปัญหาขน จับตัวกันเป็นก้อน และควรตัดเล็บให้อย่างน้อย 2 ครั้ง/สัปดาห์ รวมถึงตรวจเช็ก บริเวณใบหูพับเป็นประจำ ดูว่ามีความอับชื้น หรือสิ่งผิดปกติไหม เช่น การระคายเคือง การติดเชื้อ หรือ ไร เป็นต้น [3]
โดยทั่วไป แมวสกอตติชโฟลด์ จะมีราคาค่าตัวเริ่มต้น อยู่ที่หลักหมื่น จนถึงหลักแสน ซึ่งราคาก็จะขึ้นอยู่กับ โครงสร้าง สี สายเลือด ของน้องแมวด้วย ยกตัวอย่าง เช่น
หากใครที่สนใจ อยากลองเลี้ยงน้องไว้สักตัว สามารถสั่งซื้อ หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ผ่านทางเพจ Facebook : FuFu Family Cattery - ฟาร์มแมวสก็อตติช&บริติช by WCF
สรุป สกอตติชโฟลด์ เป็นแมวที่มาพร้อมความน่ารัก และเอกลักษณ์สุดเก๋ น้องแมวหูพับ ที่มีขนนุ่ม น่ากอด และใบหน้ากลมแป้น น้องแมวสายพันธุ์นี้ จะมีลักษณะนิสัยที่เข้ากับคนได้ง่าย และ ติดเจ้าของเป็นอย่างมาก เป็นแมวขนาดกลาง ที่อยู่มากมายหลายสี และมีน้ำหนักอยู่ที่ 5.8 กิโลกรัม
[1] wikipedia. (August 24, 2024). สกอตติช โฟลด์. Retrieved from wikipedia
[2] baanlaesuan. (October 12, 2021). สกอตติช โฟลด์ (Scottish Fold). Retrieved from baanlaesuan
[3] kapook. (July 31, 2023). แมวสก็อตติช โฟลด์. Retrieved from kapook
วิลาศ หนึ่งใน แมวสายพันธุ์ไทย ที่ทั้งตัวเป็นสีดำ ยกเว้นใบหู ปากล่าง ยาวลงมาจนถึงหน้าอก และปลายเท้าทั้งสี่ แมวชนิดนี้มีขนเรียบ รูปร่างสวยงาม และเป็นแมวที่ถูกค้นพบอีกครั้งในปี พ.ศ.2554 ซึ่งพบเพียงแค่ 10 ตัว ในประเทศเท่านั้น และในจำนวน 10 ตัวนี้ ทำหมันไปแล้ว 8 ตัว
แมววิลาศ ที่ถูกค้นพบทั้ง 10 ตัวนั้น ไม่ใช่ วิลาศ แท้สักทีเดียว เพราะยังเป็นแมว ที่ขาดลักษณะเด่น อยู่หลายอย่าง ซึ่งแมววิลาศเหล่านั้น มีความเหมือนอยู่เพียงแค่ 50% เท่านั้น อาจจะเป็นเพราะว่า แมววิลาศแท้นั้น สูญพันธุ์ไปหมดแล้วก็ได้ [1]
คนไทยเชื่อว่าหากใครที่ได้เลี้ยงแมววิลาศ จะมีบุญวาสนา ได้เป็นเจ้าคน นายคน มีเงินทองมากมาย ศัตรูที่คิดร้าย ก็จะไม่มากล้ำกรายในชีวิต มีทรัพย์สินที่สมบูรณ์ แน่นอนว่าหากใคร ที่มีโอกาสได้เลี้ยง แมวชนิดนี้ไว้ ก็จะได้รับแต่ผลดี วิลาส จึงเป็นแมวมงคล เช่นเดียวกับแมว ศุภลักษณ์ เลย
แมว ถูกนำมาเป็นตั้งเลี้ยงตั้งแต่ในสมัยสุโขทัย ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเลี้ยงไว้เพื่อ จับหนู เดิมทีแมวมีชื่อเรียกว่า ชมา แต่กลับไม่เป็นที่นิยม ต่อมาในสมัยอยุธยา แมวก็ได้กลายมาเป็น สัตว์เลี้ยงชนชั้นสูง ที่ได้รับความนิยมในหมู่ขุนนาง อีกทั้งยังมีความเชื่อว่า หากเลี้ยงแมวที่มีลักษณะมงคล ก็จะช่วยเสริมสร้างยศถาบรรดาศักดิ์ ให้สูงขึ้นด้วย [3]
การสำรวจของ ชาวอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยบริสตอสในปี ค.ศ. 2010 พบว่าผู้ที่เลี้ยงแมวนั้น มีระดับการศึกษา ในมหาวิทยาลัย ที่มากกว่าผู้ที่เลี้ยงสุนัข และในปี 2014 ทางมหาลัยคาโรล ยังเผยอีกว่า ผู้ที่เลี้ยงแมวมีไหวพริบ ที่มากกว่าผู้ที่เลี้ยงสุนัข ซึ่งนักจิตวิทยาเชื่อว่า ผู้ที่เลี้ยงแมวนั้นมักจะสนใจสิ่งรอบข้างมากกว่า ซึ่งเหมือนกับนิสัยของแมว
และทั้งหมดนี้ ก็คือ วิธีการฝึกให้น้องแมวของเราเชื่อง ถึงแม้ว่าแมววิลาศ จะสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ในปัจจุบันก็ยังมีแมวสายพันธุ์อื่นๆ อีกมากมาย หากใครที่สนใจอยากลองเป็น พ่อแม่แมวมือใหม่ สามารถคลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม และสั่งซื้อได้ผ่านทางเว็บไซต์ pecgo
สรุป วิลาศ หนึ่งในสัตว์เลี้ยงมงคล ที่จะช่วยเสริมสร้างบารมี และเงินทอง ให้กับผู้เลี้ยง แต่ในปัจจุบันแมวชนิดนี้ ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสให้พบเห็นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่แมววิลาสแท้ 100%
[1] catofsiam. (May 16, 2017). แมววิลาศตัวจริง ไม่ได้มีแต่ในตำนาน. Retrieved from catofsiam
[2] catsofthailand. (2024). แมววิลาศ. Retrieved from catsofthailand
[3] nlt. (2024). หอสมุดแห่งชาติ. Retrieved from nlt
ศุภลักษณ์ หรือที่ใครหลายคนมักรู้จักกันในชื่อ แมวทองแดง เป็นหนึ่งใน แมวสายพันธุ์ไทย ที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน และอยู่คู่กับคนไทย มาตั้งแต่สมัยโบราณ ในประวัติศาสตร์ แมวสายพันธุ์นี้ ถูกนับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงของชนชั้นสูง ปัจจุบันเป็นแมวที่หาได้ยาก เพราะใกล้จะสูญพันธุ์แล้วนั่นเอง
คนส่วนใหญ่มีความเชื่อว่า หากเลี้ยงแมว ศุภลักษณ์ แล้วจะช่วยส่งเสริมด้านโชคลาภ และ ยศถาบรรดาศักดิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมว ที่เหมาะกับคนที่ทำธุรกิจ และงานที่ต้องการเจรจา หรือการค้าขาย ซึ่งการเลี้ยงแมวศุภลักษณ์ อาจจะช่วยเสริมในด้านนี้ได้เป็นอย่างดี [1] และนอกจากนี้ก็ยังมีแมว วิลาศ ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มแมวมงคลตามตำราอีกด้วย
แมวศุภลักษณ์ จะมีรูปร่างลักษณะที่ ผอมเพรียว ดวงตากลมโต สีเหลืองอำพัน อุ้งเท้าโค้งมน หนวดของมันเป็นสีทองเงา ราวกับลวดทองแดง มีหางยาวปานกลาง ลำตัวขนาดกลาง และมีโครงสร้างของกระดูกที่ แข็งแรงมาก มีการพัฒนาการของ กล้ามเนื้อที่ดี ขนสีน้ำตาล และมีนิสัยที่ขี้เล่น ร่าเริง แสนรู้ และมันยังชอบ คลอเคลียเจ้าของอีกด้วย
แมวศุภลักษณ์ จะชอบเรียนรู้ และสำรวจสิ่งต่างๆ เช่น เข้าไปในตู้ หรือตามซอก เพราะฉะนั้นแนะนำให้ ผู้เลี้ยงป้องกันพื้นที่ต่างๆ ที่ไม่ต้องการให้น้องเข้าไปยุ่มย่ามให้ดี และอีกความน่ารักของ แมวชนิดนี้ คือ มันเชื่อใจคนง่าย จึงเข้ากับสิ่งต่างๆ รอบข้างได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้า หรือแขกที่มาเยี่ยมบ้านของคุณ
แมวชนิดนี้ เป็นแมวขนสั้น และมีขนาดตัว ที่ไม่ใหญ่มาก จึงทำให้เรื่องการดูแลความสะอาด เป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย เพราะมันจะสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ โดยการเลียขน หากผู้เลี้ยงต้องการที่ จะอาบน้ำให้ แนะนำให้ควรอาบเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น และ การดูแลในส่วนอื่นๆ เช่น เช็ดหู ตัดเล็บ แปรงขน ควรทำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง [2]
แมวศุภลักษณ์ ในปัจจุบัน ค่อนข้างเป็นพันธุ์แมวที่หาได้ยาก มีอยู่ไม่ถึง 70 ตัวในประเทศไทย ซึ่งราคาค่าตัวของน้อง ก็จะอยู่ที่ประมาณ 15,000 - 100,000 บาท ตามสภาพร่างกาย และความแข็งแรง ซึ่งถ้าหากใครที่สนใจอยากได้น้องมาเลี้ยง สามารถคลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มได้ ที่เว็บไซต์ แมวไทย
ที่มา: แมวศุภลักษณ์ [3]
สรุป ศุภลักษณ์ แมวสายพันธุ์ไทยแท้ ที่กำลังจะสูญพันธุ์ เป็นหนึ่งในแมวมงคล ที่คนเชื่อกันว่า หากเลี้ยงแล้วจะช่วยส่งเสริมโชคลาภ และยศถาบรรดาศักดิ์ แมวชนิดนี้มีนิสัยที่น่ารัก มักขี้เล่น และที่สำคัญยังชอบ คลอเคลียเจ้าของอีกด้วย
[1] pethipster. (June 8, 2023). แมวไทยโบราณ กับความเชื่อเรื่องมงคล. Retrieved from pethipster
[2] petplease. (March 06, 2023). แมวศุภลักษณ์. Retrieved from petplease
[3] meowbarn. (January 18, 2022). แมวศุภลักษณ์. Retrieved from meowbarn
เนื่องจาก แมวบริติชช็อตแฮร์ สาระสำคัญ ที่เป็นบทความกล่าวถึงหลักสำคัญสำหรับ แมวสายพันธุ์นี้ ซึ่งจะมีการอธิบายเกี่ยวกับแมวสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น ด้านลักษณะ หรือจะเป็น สิ่งที่ควรรู้ก่อนที่จะนำมาเลี้ยง โดยจะสามารถศึกษาสายพันธุ์นี้ได้ ตามข้อมูลที่เราจะกล่าวต่อไปนี้
โดย แมวบริติชช็อตแฮร์ นั้นจะเป็นสายพันธุ์ ที่ทำให้เหล่าผู้ที่ชื่นชอบเลี้ยง แมวสัตว์เลี้ยง ตกหลุมรักกันเป็นอย่างมาก เพราะด้วย ใบหน้าที่มีความอวบอ้วน และ ลักษณะขนที่มีความอ่อนนุ่ม แถมยังถือได้ว่าเป็นแมวที่มีนิสัยดีมาก ซึ่งจะไม่ค่อยส่งเสียง เป็นต้น
ซึ่ง แมวบริติชช็อตแฮร์ นั้นจะมีนิสัยที่โดดเด่นในเรื่อง ความน่ารัก พร้อมกับเป็นแมวที่ชอบความสงบ โดยมีน้ำหนักที่โตเต็มวัยอยู่ที่ประมาณ 3.1-7.7 กิโลกรัม ซึ่งตัวผู้นั้นจะมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าสายพันธุ์เดียวกันในเพศตัวเมีย ซึ่งความยาวจากปลายจมูกจรดก้น จะมีความยาวได้ประมาณ 22-25 นิ้ว
ซึ่งลักษณะขน นั้นจะมีความแน่น พร้อมกับเป็นสายพันธุ์ที่มีความหลากหลายของสีลำตัว โดยจะได้แก่สีขาว, สีบลู, สีเทา, สีครีม และสีดำ แถมยังเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยมีลวดลาย โดยทั้งตัวจะเป็นสีเดียวกัน ซึ่งจะมีสีดวงตาที่ขึ้นอยู่กับสีขน ได้แก่ สีบลู, สีทอง, สีทองแดง, สีเขียว, สีน้ำตาล และสีเขียวอมฟ้า [1]
เนื่องจาก อุปนิสัยของแมวบริติชช็อตแฮร์ นั้นจะมีนิสัยที่แสดงถึง ความน่ารัก และมีความเรียบร้อย ซึ่งสามารถเข้ากับผู้อื่นๆได้ง่าย แถมยังเป็นมิตรที่ดีอย่างมากต่อครอบครัวของผู้เลี้ยง และมีนิสัยที่ชอบเดินตามผู้เลี้ยง พร้อมกับเข้าเป็นเล่นกับผู้เลี้ยง
ซึ่งเป็นสายพันธุ์แมวที่มีนิสัยค่อนข้างสงบเสงี่ยม โดยจะไม่ค่อยส่งเสียงดัง หรือ ร้องเรียกในสิ่งที่ต้องการ ซึ่งจะชื่นชอบที่ให้ผู้เลี้ยงเกาคางให้ในเมื่อได้เดินเข้าไปใกล้ผู้เลี้ยง แถมเป็นแมวสายพันธุ์ที่พึงพอใจเพียงแค่โดนลูบหัวเท่านั้น ก็รู้สึกดีเป็นมากอีกด้วย
โดยสิ่งที่ควรรู้จะเป็นเรื่อง ของขนตามลำตัวที่มีความหนาแน่น ซึ่งจะมีรูปลักษณ์ที่มีความหรูหรา ซึ่งเส้นขนจะมีปริมาณหนาแน่นที่มีมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ แต่ก็มีผลเสียที่ขนหนาอาจจะส่งผลเสียทำให้แมวสายพันธุ์นี้อาจร้อนได้ จึงอาจจะทำให้แมวสายพันธุ์นี้ไม่ชอบที่ถูกกอดสักเท่าไร
โดยข้อควรระวังนั้นจะมีอยู่ถึง 2 อย่าง ในด้านการเลี้ยงในบ้าน หรือระวังโรคเหงือก ซึ่งการเลี้ยงในบ้านนั้นอาจจะส่งผลเสียในเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ เพราะด้วยแมวนั้นจะมีเล็บที่คมอาจจะส่งผลเสียต่อเฟอร์นิเจอร์ได้ แต่ก็จะมีผลดีอย่างเช่นกัน
ด้วยการเลี้ยงในบ้านนั้นจะ สามารถป้องกันจากแมวจรนอกบ้านได้ แถมยังช่วยหลีกเลี่ยงโรคต่างๆนอกบ้านได้ โดยถ้าเป็นการระวังโรคเหงือกนั้นจะก่อให้เกิดเหงือกอักเสบ เพราะด้วยเป็นอาการที่ระคายเคืองไปทั่วเหงือกที่ตรงโคนฟัน แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่รุนแรง สามารถคลิกเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ royalcanin
โดยหลักโภชนาการ ที่สำคัญของเหล่าแมวบริติชช็อตแฮร์ตามช่วงอายุ ซึ่งทางเราจะมาแนะนำอาหารเม็ดที่ มีทั้ง วัยเด็ก และ วัยโตเต็มวัย ตามดังนี้
อาหารเม็ดสำหรับลูกแมว (Royal Canin Kitten British Shorthair)
ที่มา: Royal Canin Kitten British Shorthair [2]
อาหารเม็ดสำหรับช่วงโตเต็มวัย (Royal Canin British Shorthair Adult)
ที่มา: Royal Canin British Shorthair Adult [3]
สรุป แมวบริติชช็อตแฮร์ โดยจะเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะ และก็บอกถึงอุปนิสัย ซึ่งทางเราก็ได้กล่าวถึงสิ่งที่ควรรู้สำหรับแมวสายพันธุ์บริติชช็อตแฮร์ ซึ่งยังไม่หมดเท่านั้นยังมีการอธิบายเกี่ยวกับข้อควรระวังสำหรับแมว พร้อมกับแนะนำอาหารเม็ดสำหรับสายพันธุ์นี้อีกด้วย
[1] pets.baanlaesuan. (February 12, 2024). แมวบริติชช็อตแฮร์. Retrieved from pets.baanlaesuan
[2] d2petshop. (2024). Royal Canin Kitten British Shorthair. Retrieved from d2petshop
[3] petclub. (2016-2024). Royal Canin British Shorthair Adult. Retrieved from petclub
เนื่องจาก สัตว์เลี้ยงในบ้าน เกร็ดความรู้ ที่ต้องรู้ก่อนจะนำสัตว์ประเภทนั้นๆเข้าบ้าน ซึ่งจะต้องคำนึงถึง ปัจจัยหลักในสถานที่ที่จะเลี้ยง พร้อมกับยังบ่งบอกถึงสปีชีย์ที่ควรระวังอย่างมากสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยจะเป็นทางเราที่พร้อมจะให้ข้อมูล พร้อมกับแนะนำประเภทสัตว์เลี้ยงในครัวเรือนอีกด้วย
โดย สัตว์เลี้ยงในบ้าน นั้นถือได้ว่าเป็น เพื่อนที่ดีต่อมนุษย์ พร้อมกับต้องมีข้อมูลหลักสำหรับโภชนาการของสัตว์หลากหลายประเภท ซึ่งจะต้องศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ที่จะเลี้ยง เพราะจะช่วยให้สัตว์เหล่านั้น เลี้ยงได้ง่ายมากขึ้น พร้อมกับสามารถทำให้สัตว์เหล่านั้นมีวินัยมากขึ้น เป็นต้น
โดยคำว่า สัตว์เลี้ยง นั้นจะเริ่มต้นมาจาก สุนัขในสายพันธุ์แรกที่นำมาเป็นสัตว์เลี้ยง โดยจะเริ่มเมื่อประมาณ 2 หมื่นปีมาแล้ว ซึ่งได้นำสุนัขป่าเพศเมียมาเลี้ยงในตัวบ้าน เพื่อที่จะนำมาเลี้ยงในฐานะสุนัขล่าเนื้อ โดยเริ่มครั้งแรกในแถบยูเรเซีย จรดถึงเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ จนได้เริ่มนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงมากขึ้นต่อมา
โดย การจะนำสัตว์เลี้ยง เข้ามาเลี้ยงในตัวบ้านนั้น จึงควรคำนึงถึงสถานที่ที่อยู่ของสัตว์ ภายในตัวบ้าน ว่าจะให้อยู่ตรงไหน และ ต้องมีพื้นที่ที่มากน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้นจึงควรที่จะคิดให้รอบคอบ และวางรากฐานให้ดีตั้งแต่ต้น ซึ่งจะช่วยให้การเป็นอยู่มีความสะดวกสบายต่อสัตว์เลี้ยง และผู้เลี้ยงได้ดีมากขึ้น
โดยจะต้องมีปัจจัยหลักที่สำคัญได้แก่ การคำนึงถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม, ต้องมีแผ่นกันเสียงรบกวนของสัตว์, ควรที่จะมีช่องระบายอากาศตรงที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยง พร้อมกับต้องมีระบบไฟฟ้าให้อยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย และเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องเน้นวัสดุที่มีความทนทาน [1]
โดยสปีชีย์ ที่จะเจอได้บ่อยที่สุดในสัตว์เลี้ยงอย่าง สุนัข และ แมว นั้นส่วนใหญ่จะเป็น สปีชีย์ที่มีชื่อว่า เห็บ จะเกาะตามตัวสัตว์เพื่อที่จะกินเลือดสัตว์ตัวที่เกาะอยู่ ซึ่งจะทำให้สัตว์ที่ถูกเกาะเกิดอาการคันตามลำตัว จนไปถึงขั้นที่มีบาดแผลอีกด้วย เพราะด้วยอาการคัน อาจจะทำให้สุนัขเกาจนเริ่มมีบาดแผลได้
ซึ่งโรคภัยไข้เจ็บที่จะเจอได้ในสัตว์เลี้ยงในบ้าน นั้นจะมีจำนวนมากอย่างยิ่ง แต่ก็ด้วยทางเราได้ยกโรคภัยที่จะพบบ่อยในสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น สุนัข, แมว, นก และปลา ก็จะสามารถเจอกับโรคที่มีผลเสียต่ออวัยวะภายในได้
ซึ่งจะมีโรคที่จะเจอได้ตามหลากหลายโรค โดยจะได้แก่ โรคท้องเสีย, โรคพิษสุนัขบ้า, โรคติดเชื้อพยาธิ, โรคติดเชื้อราของสัตว์, โรคทอกโซพลาสโมซิส, โรคซิตาโคซิส และ โรคฉี่หนู โดยจะต้องทดแทนด้วยการให้อาหารเสริมสำหรับสัตว์ประเภทนั้นๆ สามารถคลิกเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ rama.mahidol
เนื่องจากทางเรา ได้รวบรวมประเภทสัตว์ ที่จะจัดให้อยู่ในประเภทสัตว์เลี้ยงในบ้าน ซึ่งจะมีมากถึง 4 ประเภท ที่เหมาะสมต่อการ เลี้ยงไว้ในบ้าน ตามดังนี้
ตลาดสวนจตุจักร
ที่มา: ตลาดนัดสวนจตุจักร [2]
ตลาดไท
ที่มา: ตลาดไท [3]
สรุป สัตว์เลี้ยงในบ้าน จะมีหลากหลายประเภท โดยแต่ละประเภทก็ถือว่าเหมาะสมกับการนำมาเลี้ยงในบ้าน เพราะด้วยเป็นสัตว์ที่จัดให้อยู่ขนาดเล็ก โดยยังไม่หมดเท่านั้นทางเรายังได้บ่งบอกถึงโรคภัยไข้เจ็บ พร้อมกับแนะนำตลาดที่จำหน่ายสัตว์เลี้ยงในบ้าน ตามที่เรากล่าวไปข้างต้น
[1] hba-th. (April 21, 2023). 7 แนวทางออกแบบบ้านเพื่อสัตว์เลี้ยงอยู่สบาย. Retrieved from hba-th
[2] thai.tourismthailand. (2003-2025). ตลาดนัดสวนจตุจักร. Retrieved from thai.tourismthailand
[3] thai.tourismthailand. (2003-2025). ตลาดไท. Retrieved from thai.tourismthailand
เนื่องจาก แมวสก็อตติชโฟลด์ พันธุ์สุดน่ารัก นั้นเป็นแมวที่มีการจัดไว้เป็น แมวสัตว์เลี้ยง ที่ยอดนิยมพร้อมกับความน่ารัก ขี้อ้อน และเป็นสัตว์ที่จะเข้าหามนุษย์เหมือนกับเป็นสัตว์ที่สามารถสัมผัส ความรู้สึกของผู้เลี้ยงได้ แต่ก็อาจจะมีอารมณ์ที่ก้าวร้าวเป็นบางครั้ง เป็นต้น
โดย แมวสก็อตติช โฟลด์ (Scottish fold) จะจัดให้เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในการนำมาเลี้ยง ไม่แพ้แมวสายพันธุ์อื่นๆเช่นกัน เพราะด้วยจุดเด่นที่จะมี หูขนาดเล็กพับลงเป็นเอกลักษณ์ของแมวสายพันธุ์นี้ แถมยังมีหน้าที่มีทรงกลม พร้อมขนที่นุ่มน่ากอดอีกด้วย
โดยลักษณะทางกายภาพของ แมวสายพันธุ์สก็อตติชโฟลด์ จะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 11-14 ปี พร้อมกับความสูงที่เฉลี่ยได้ประมาณ 10-12 นิ้ว และมีรูปลักษณ์ที่สังเกตได้ง่ายด้วย ลักษณะหูที่เล็กและพับลง พร้อมกับใบหน้านั้นจะมีความคล้าย นกฮูก เพราะด้วยใบหน้าที่มีรูปทรงกลม
ซึ่ง ตัวเมียและตัวผู้นั้น จะมีลักษณะ และ ขนาด หรือนิสัยที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งยิ่งเป็นลูกของสายพันธุ์แมวสก็อตติชโฟลด์ นั้นจะมีรูปลักษณ์ที่เหมือนแมวทั่วไป แต่ถ้าได้ผ่านไปประมาณ 3 สัปดาห์เท่านั้น แมวสายพันธุ์นี้จะมีเอกลักษณ์ที่เด่นชัดขึ้นมา ด้วยใบหูที่พับลง สามารถคลิกเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ purina
ซึ่งสายพันธุ์แมวสก็อตติชโฟลด์ นั้นจะมีเป็นสายพันธุ์ที่มีนิสัยที่คล้ายกับ สุภาพบุรุษ พร้อมกับความฉลาดที่มีนิสัยในการรับคำสั่งได้เพียง 1-2 ครั้ง ก็ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่แสนรู้อย่างยิ่ง จนถือได้ว่าเป็นสายพันธุ์สุดฉลาดอย่างยิ่ง โดยยังไม่หมดเท่านั้น ยังเป็นสัตว์ที่มีทักษะในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันสั้น
ซึ่งถ้ามองถึงการเข้าสังคม ของแมวสายพันธุ์นี้นั้น จะถือว่าดีอย่างมาก สำหรับการเด็กๆ ซึ่งครอบครัวในที่มีเด็กอ่อน แมวตัวนี้ก็จะพยายามทำหน้าที่ ที่จะเป็นเหมือนกับพี่เลี้ยง เพราะตัวทักษะพิเศษในการปรับตัว ที่สามารถเข้ากับเด็กได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหมือนกับว่าแมวนั้นรู้ว่าเด็กคนนี้เป็น พี่น้องกับตัวมัน
สำหรับแมวสายพันธุ์นี้นั้น จะมีการดูแลหลักๆ 2 ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านร่างกายในการพาไปออกกำลังกาย และ ด้านหลักโภชนาการเรื่องของอาหาร โดยจะมีรายละเอียดที่ทางเรานำมาให้เหล่าผู้ที่เลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้ ได้นำไปปรับใช้กัน ซึ่งจะมีรายละเอียด ตามดังนี้
ซึ่งโรคประจำตัว ของแมวสายพันธุ์สก็อตติชโฟลด์ นั้นจะโรคที่เสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับแมวสายพันธุ์นี้ได้มากถึง 6 อย่าง ได้แก่ โรคผิวหนัง, โรคระบบประสาท, โรคระบบหมุนเวียนโลหิต, โรคระบบโครงกระดูกข้อต่อ, โรคระบบทางเดินหายใจ และ โรคระบบทางเดินปัสสาวะและไต
ซึ่งแต่ละโรคนั้นจะ เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ และ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ในแมวสายพันธุ์นี้ เพราะด้วยจะส่งผลให้เกิด การติดเชื้อที่หูได้ และภาวะอื่นๆที่ส่งผลต่อภายในอวัยวะ พร้อมกับผลเสียที่เกิดขึ้นกับกระดูกส่วนข้อต่อ โดยควรที่จะให้กิน อาหารเสริมในรูปแบบต่างๆ ก็อาจจะช่วยได้เช่นกัน เป็นต้น [1]
อาหารแมว ยี่ห้อคานิว่า (Kaniva)
ที่มา: Kaniva(คานิว่า) [2]
อาหารแมว สูตรเท็นเดอร์ ซีเล็กซ์ (PURINA ONE TENDER SELECTS BLEND)
ที่มา: PURINA ONE [3]
สรุป แมวสก็อตติชโฟลด์ นั้นเป็นแมวที่มีความเหมาะสมในการนำ มาเลี้ยงในบ้าน โดยยังมีการบ่งบอกถึงลักษณะ พร้อมกับบอกถึงลักษณะนิสัย โดยจะมีการดูแลที่ทางเราได้แนะนำไปข้างต้น พร้อมกับโรคที่ควรระวัง และแนะนำอาหารสำหรับแมวให้ขนมีสีสวยมากขึ้น
[1] pets.baanlaesuan. (2024). สกอตติช โฟลด์ (Scottish Fold). Retrieved from pets.baanlaesuan
[2] connectasiapetshop. (2020-2024). Kaniva(คานิว่า). Retrieved from connectasiapetshop
[3] petclub. (2016-2024). PURINA ONE. Retrieved from petclub
โดย แมวศุภลักษณ์ แมวพันธุ์ไทย นั้นจะเป็นแมวที่ยังไม่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย แต่ก็คาดการณ์ไว้ว่า แมวสายพันธุ์นี้จะพบครั้งแรกใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถมยังได้รับการพัฒนาอย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
ซึ่ง แมวศุภลักษณ์ นั้นจะถือได้ว่ามีลักษณะที่คล้ายกับ แมวไทยทั่วไป แต่ก็จะมีจุดเด่นในเรื่องของ ขนที่มันวาว ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของแมวสายพันธุ์นี้ โดยจากการที่ได้รับการพัฒนามาอย่างมากจึงจะแตกย่อย สายพันธุ์นี้ออกไป เพราะด้วยสีและความมันวาวที่ลดลงของลูกหลานในสายพันธุ์นี้
โดยประวัติความเป็นมา ของแมวศุภลักษณ์ นั้นจะเป็นแมวที่ได้รับการพัฒนามาจาก ดอกเตอร์ โจเซฟ ทอมป์สัน (Dr.Joseph Thompson) โดยเป็นหมอประจำเรือของเหล่าทหารเรือในชาวอเมริกา โดยส่วนใหญ่จะชื่นชอบที่จะนำมาเป็น แมวสัตว์เลี้ยง ที่เอาไว้บนเรือเป็นอย่างมาก เพราะด้วยจะช่วยในการกำจัดหนูเพื่อป้องกันสินค้าไม่ให้เสียหายได้
ซึ่งเมื่อเข้าสู่ในปี 1930 ได้มีนักท่องเที่ยวได้ค้นพบเป็นครั้งแรกในประเทศพม่า ซึ่งครั้งแรกที่พบได้ในฐานะแมวจรจัด แต่ด้วยเป็นแมวที่มีสีสันสีน้ำตาลเข้ม และหลังจากนั้นก็ได้นำเข้าประเทศอเมริกา พร้อมกับตั้งชื่อที่เรียกว่า วงแมว หรือวงเมา (Wong Mau) จากนั้นก็เริ่มค้นหาข้อมูล และพัฒนาสายพันธุ์นี้ไปพร้อมกัน [1]
เนื่องจาก ลักษณะทั่วไป ของแมวสายพันธุ์นี้นั้น จะมีเอกลักษณ์ในเรื่องของสีที่เป็น สีน้ำตาลเข้ม ทั้งตัว โดยนอกจากนั้นขน จะมีความคล้ายกับลวดลายทองแดงอีกด้วย โดยแมวสายพันธุ์นี้จัดให้เป็น แมวขนาดกลาง พร้อมกับดวงตาที่มีสีเหลือง หรือ สีอำพัน สามารถคลิกเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ petplease
ซึ่งจุดเด่นของ แมวสายพันธุ์ศุภลักษณ์ นั้นจะมีจุดเด่นที่สามารถสังเกตได้อย่างเด่นชัดมากถึง 4 ข้อ โดยจะมีการอธิบายเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของสายพันธุ์นี้ ตามดังนี้
ซึ่งแมวสายพันธุ์ศุภลักษณ์ นั้นจะมีหลักโภชนาการที่ง่าย สามารถกินอาหารได้หลากหลายรูปแบบ แต่การที่จะให้แมวสายพันธุ์นี้ สามารถแสดงถึงเอกลักษณ์ของตนเองให้ได้เด่นชัดมากขึ้น ซึ่งทางเราจะมาแนะนำอาหารเม็ดที่สามารถใช้ได้กับแมวสายพันธุ์อื่นๆ ตามดังนี้
อาหารแมวยี่ห้อโคลเวอร์ (Clover)
ที่มา: Clover โคลเวอร์ [2]
อาหารแมวยี่ห้อเมี้ยวมี (Mew Me)
ที่มา: Mew Me(เมี้ยวมี) [3]
โดยการเลี้ยง ศุภลักษณ์ นั้นจะต้องดูแลในเรื่องของ การดูแลขน และ การดูแลอาหารการกิน พร้อมกับควรที่ต้องดูแลสุขอนามัยที่อย่างเข้มงวด พร้อมกับต้องมีความเอาใจใส่ในเรื่องการเล่นกับแมวสายพันธุ์นี้ให้มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ แถมยังต้องพาไปตรวจสุขภาพให้บ่อยครั้ง
สรุป แมวศุภลักษณ์ นั้นจะถือได้ว่าเป็น สาระที่สำคัญของแมวสายพันธุ์นี้ ซึ่งยังไม่หมดเท่านั้นทางเรายังได้บ่งบอกถึงลักษณะ พร้อมกับบ่งบอกถึงจุดเด่น และกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของแมวสายพันธุ์นี้ ซึ่งยังไม่หมดเท่านั้น ทางเรายังได้แนะนำอาหารที่เหมาะสมกับแมวสายพันธุ์นี้อีกด้วย เป็นต้น
[1] Wikipedia. (August 21, 2024). แมวเบอร์มีส. Retrieved from Wikipedia
[2] petnme. (2024). Clover โคลเวอร์. Retrieved from petnme
[3] mallmerry. (2024). Mew Me(เมี้ยวมี). Retrieved from mallmerry
เนื่องจาก แมวอเมริกันเคิร์ล แมวพันธุ์น่ารู้ นั้นเป็นสายพันธุ์ที่ถือได้ว่าน่าเลี้ยงอย่างยิ่ง ซึ่งยังไม่หมดเท่านั้น ยังมีการอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่น่ารู้ของแมวสายพันธุ์นี้ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะ หรือ การดูแลเอาใจใส่สำหรับแมวสายพันธุ์นี้ พร้อมกับการตรวจสุขภาพของแมวสายพันธุ์นี้
เนื่องจาก แมวอเมริกันเคิร์ล นั้นถือได้ว่าเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในกลุ่ม แมวสัตว์เลี้ยง ที่ถูกเรียกว่า แมวบ้าน ซึ่งจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่แมวสายพันธุ์นี้ปรากฏตัวขึ้นมาในฐานะ แมวจรจัด ซึ่งจะมีจุดเด่นของหูที่มีความเล็กน่ารัก แถมยังเป็นแมวของตระกูลรูกัส ซึ่งมีความสามารถที่จะเข้าถึงผู้คนได้อย่างง่าย
เนื่องจาก แมวอเมริกันเคิร์ล นั้นจะจัดให้เป็นแมวขนาดกลาง ที่มีน้ำหนักมากถึง 2.3-4.5 กิโลกรัม เมื่อโตเต็มวัยอยู่ที่ 2-3 ปี ซึ่งถ้าเป็นเพศเมียจะมีน้ำหนักที่จัดให้อยู่ในระหว่าง 2.3-3.6 กิโลกรัม โดยเพศผู้นั้นจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 3.2-4.5 กิโลกรัม
ซึ่งถ้าจะมีสีตาของแมวสายพันธุ์นี้มากมาย โดยจะได้แก่ ตาสีอำพัน, สีฟ้าทะเล, สีทองแดง, สีเขียวทอง และ สีตาที่เป็นสองสี ซึ่งจะมีอายุยืนยาวเฉลี่ยที่ 9-13 ปีเต็มที่ ซึ่งสีของแมวสายพันธุ์นี้จะมีทั้ง สีขาว, สีฟ้า, สีครีม, สีม่วงกลีบบัว โดยขนนั้นจะมีความนุ่ม เรียบและตรง สามารถคลิกเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ hills
ซึ่ง แมวสายพันธุ์อเมริกันเคิร์ล นั้นจะเป็นแมวที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้รัฐแคลิฟอร์เนีย ในเมืองเลควูด เมื่อปี 2524 ได้มีแมวสายพันธุ์นี้ ได้ให้กำเนิดลูกออกมาหลากหลายจำนวน พร้อมกับหลากหลายสี จนได้เริ่มมีคนรู้จักเป็นจำนวนมากขึ้น
หลังจากนั้นในปี 2539 แมวในครอกนี้ก็ได้แจ้งให้เป็นบรรพบุรุษของอเมริกันเคิร์ล ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้เริ่มมีผู้สนใจ ได้นำมาจัดแสดงแมวสายพันธุ์นี้เป็นครั้งแรก จนได้มีคนรู้จักเป็นจำนวนมากขึ้น ในหลากหลายประเทศ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้เข้าสู่ในปี 2535 ที่ได้รับให้เป็น ผู้ชนะเลิศจากรายการสมาคมแมนนานาชาติ [1]
โดยการดูแลของอเมริกันเคิร์ล นั้นจะเป็นแมวที่ได้รับการชื่นชมในแง่ของสุขภาพ ด้วยด้านสุขภาพที่แข็งแกร่ง และความสามารถที่สามารถปรับตัวได้ ในทุกสภาพอากาศ และอื่นๆ ซึ่งควรที่จะนำแมวสายพันธุ์นี้ไปฉีดภูมิคุ้มกันโรค เพราะจะช่วยให้หลีกเลี่ยงโรคภัยต่างๆที่ติดมากับสายพันธุ์นี้
เนื่องจาก เมื่อได้นำมาเลี้ยง ในการดูแลของตนเองแล้วนั้น ควรที่จะตรวจสุขภาพให้ดีก่อนที่จะนำเข้าบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียได้ ซึ่งจะมีการสังเกตได้จากอวัยวะภายนอก ซึ่งจะได้แก่ ดวงตา, ก้น, ช่องปาก และ ขน โดยจะมีการสังเกตตามดังนี้
อาหารแมวสำหรับวัยโตเต็มที่ (Orijen Cat & Kitten)
ที่มา: Orijen Cat & Kitten [2]
อาหารแมวสำหรับลูกแมว (Orijen Kitten)
ที่มา: Orijen Kitten [3]
สรุป แมวอเมริกันเคิร์ล นั้นจะมีลักษณะ และ ประวัติความเป็นมาของสายพันธุ์อเมริกันเคิร์ล พร้อมกับบ่งบอกถึงหลักสำคัญในการดูแล แถมยังมีการตรวจสุขภาพ ก่อนที่จะนำมาเลี้ยงในบ้าน ซึ่งยังไม่หมดเท่านั้น ยังมีการแนะนำอาหารตามช่วงอายุอีกด้วย
[1] Wikipedia. (April 16, 2024). อเมริกันเคิร์ล. Retrieved from Wikipedia
[2] ikspet. (2024). Orijen Cat & Kitten. Retrieved from ikspet
[3] petclub. (2016-2024). Orijen Kitten. Retrieved from petclub