Capsaicin สารสำคัญที่พบในพริก ไม่เพียงแต่เป็นตัวการที่ทำให้รู้สึกเผ็ดร้อนเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์มากมาย ต่อสุขภาพในหลายด้าน โดยเฉพาะในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ที่ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรค และการติดเชื้อ รวมถึงการเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ทำให้ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก และลดความอ้วน มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวด ต้านอนุมูลอิสระ [1] ลดคอเลสเตอรอล และความดันโลหิต เรามาทำความรู้จักสารแห่งความเผ็ดนี้ให้มากขึ้นกัน
Capsaicin ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน โดยการกระตุ้นการผลิตสาร Cytokine และ Interferon ในร่างกาย ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีการตอบสนองต่อการติดเชื้อ และการอักเสบ การกระตุ้นนี้ช่วยเพิ่มความสามารถของร่างกาย ในการต่อสู้กับเชื้อโรค นอกจากนี้ แคปไซซินยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันที่สำคัญ เช่น เม็ดเลือดขาว ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น
Capsaicin ช่วยลดน้ำหนัก โดยการเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน ของร่างกาย ซึ่งหมายความว่า ร่างกายจะใช้พลังงาน (calorie) ได้มากขึ้นแม้ในขณะพัก นอกจากนี้ แคปไซซินยังช่วยลดความอยากอาหาร โดยเฉพาะของหวาน และอาหารไขมันสูง ด้วยการลดความอยากอาหาร และเพิ่มการเผาผลาญ ช่วยให้ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น
Capsaicin ทำให้รู้สึกเผ็ด โดยการกระตุ้นเซลล์ประสาท ที่ตอบสนองต่อความร้อน และความเจ็บปวดบนลิ้น และในปาก กระตุ้นตัวรับเฉพาะที่เรียกว่า TRPV1 (Transient Receptor Potential Vanilloid 1) ซึ่งปกติจะตอบสนองต่อความร้อน และความเจ็บปวด การกระตุ้นตัวรับนี้ ส่งสัญญาณไปยังสมอง ว่าร่างกายกำลังสัมผัสกับความร้อน หรือความเจ็บปวด ทำให้เรามีความรู้สึกเผ็ดร้อนในปาก นี่คือเหตุผลที่แคปไซซินทำให้เรารู้สึกเผ็ด
Capsaicin พบได้ในพริกเป็นหลัก ซึ่งรวมถึงพริกหลากหลายชนิด ตั้งแต่พริกหวานไปจนถึงพริกที่มีรสเผ็ดร้อนมาก เช่น พริกชี้ฟ้า, พริกจินดา, และพริกขี้หนู นอกจากนี้ยังพบในผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพริก เช่น ซอสพริก, พริกป่น, และน้ำมันพริก ปริมาณของ แคปไซซินในพริกแต่ละชนิด สามารถแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของพริก และสภาพการเพาะปลูก
ในประเทศไทย พริกมีหลากหลายระดับความเผ็ด ตั้งแต่ไม่เผ็ด จนถึงระดับเผ็ดสุดขีด พริกหวานมีความเผ็ดน้อยนิดหรือไม่มีเลย ในขณะที่พริกชี้ฟ้ามีความเผ็ดปานกลาง พริกจินดามีความเผ็ดสูง พริกขี้หนูสวนมีความเผ็ดที่รุนแรงมาก ความแตกต่างนี้เกิดจากปริมาณของ แคปไซซินที่พบในแต่ละชนิดของพริก ซึ่งเป็นสารที่ให้ความรู้สึกเผ็ดร้อน การใช้พริกในอาหารไทย ไม่เพียงแต่เพิ่มรสชาติ แต่ยังสะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์
การทานอาหารรสเผ็ดมีข้อควรระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่อาจตามมา เช่น คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร หรือลำไส้ อาหารรสเผ็ดอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือแย่ลงได้ นอกจากนี้ คนที่มีความไวต่อ แคปไซซินควรระมัดระวัง เนื่องจากอาจมีอาการแพ้ หรือระคายเคือง การทานอาหารรสเผ็ดมากเกินไป ยังสามารถนำไปสู่อาการไม่สบาย เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย หรือกรดไหลย้อน ดังนั้น การทานอาหารรสเผ็ดควรทำอย่างพอดี และคำนึงถึงสุขภาพ
Capsaicin เป็นสารที่ให้ความรู้สึกเผ็ดร้อน ซึ่งพบในพริก มีประโยชน์หลายอย่างต่อร่างกาย เช่นเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ช่วยในการลดน้ำหนัก บรรเทาอาการปวด และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และอาจช่วยลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรังบางชนิด อย่างไรก็ตาม การทานอาหารเผ็ดควรพิจารณาถึงความทนทานต่อระดับความเผ็ด และมีข้อควรระวังเป็นพิเศษ สำหรับบางคนที่อาจมีปัญหาสุขภาพได้เมื่อทานอาหารรสเผ็ด
[1] scimath. (May 21, 2019). แคปไซซิน ต้านอนุมูลอิสระ. Retrieved from scimath