Blueberry หรือบลูเบอร์รี เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความนิยมมาก ด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และประโยชน์มหาศาล ที่มีต่อสุขภาพ ด้วยรสชาติที่ลงตัว เปรี้ยวหวาน ทำให้รู้สึกสดชื่นเมื่อทาน และยังเป็นส่วนประกอบ ที่มักจะพบในเมนูอาหารและขนมหวานมากมาย
บลูเบอร์รี เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดในอเมริกาเหนือ มีหลักฐานว่า ถูกใช้โดยชาวพื้นเมืองอเมริกัน เป็นอาหาร และเป็นส่วนหนึ่งของยาสมุนไพร มานานหลายศตวรรษ ก่อนที่จะได้รับความนิยม ในหมู่ผู้ตั้งถิ่นฐานยุโรป ชาวพื้นเมืองใช้บลูเบอร์รี ในการทำอาหารหลากหลาย เช่น การทำเค้กและการหมักเป็นน้ำผลไม้
นอกจากนี้ยังใช้เป็นสีธรรมชาติ สำหรับเสื้อผ้า การเพาะปลูกบลูเบอร์รี เริ่มขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และตั้งแต่นั้นมา บลูเบอร์รีก็ได้รับความนิยม ในระดับสากล เนื่องจากคุณค่าทางโภชนาการ และประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ
บลูเบอร์รี อุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระที่
นอกจากนี้บลูเบอร์รี ยังมีสารประกอบพฤกษเคมี เช่น Anthocyanin ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ [1] ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และสมอง ช่วยในด้านความจำ และลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน และโรคอ้วน
บลูเบอร์รี เป็นผลไม้ที่สามารถนำมาทำเป็นเมนูได้หลายแบบ ทั้งขนมหวาน และเครื่องดื่ม
ในการทานบลูเบอร์รี ควรระวังเรื่อง การล้างให้สะอาด เพื่อลดการปนเปื้อนจากสารเคมี ความเสี่ยงของการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นกับบางคน ควรคำนึงถึงปริมาณการทาน เพราะการทานมากเกินไป อาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะเบาหวาน หรือกำลังควบคุมน้ำหนัก
Blueberry มีหลายสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม แต่ละสายพันธุ์มีลักษณะเฉพาะตัว ที่ทำให้มีรสชาติ ขนาด และสีสันที่แตกต่างกัน สายพันธุ์ที่นิยมมากที่สุด ได้แก่
Blueberry เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยในการต่อต้านการอักเสบ และป้องกันโรคหัวใจ มีทั้งวิตามิน C, K และไฟเบอร์ มีประโยชน์ต่อการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน สุขภาพผิว และระบบย่อยอาหาร สามารถนำบลูเบอร์รี มาทำเป็นเมนูอาหาร และขนมหวานหลากหลาย
[1] paolohospital. (April 19, 2013). ประโยชน์จากผลไม้เบอร์รี. Retrieved from paolohospital