กำแพงเมืองจีน มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นสถานที่น่าสนใจอีกแห่ง ที่ไปประเทศจีน แล้วต้องแวะไปเยือน บอกเลยว่ามีเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากมาย
กำแพงเมืองจีนเป็นกำแพง ที่มีป้อมคั่นเป็นช่วงๆ ของจีนสมัยโบราณ กำแพงส่วนใหญ่ ที่ปรากฏในปัจจุบัน สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการรุกราน จากชาวฮันหรือซุงหนู [1]
กำแพงเมืองจีนได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในเจ็ด สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง และเป็นโครงสร้างที่ยาวที่สุด ที่มนุษย์สร้างขึ้น เมื่อกว่า 2,500 ปีก่อน [2]
และดำเนินต่อมาหลายศตวรรษ ด้วยแรงงานนับล้าน ว่ากันว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10 ล้านคน ในการก่อสร้างกำแพง ส่วนใหญ่สร้างด้วยดินอัด แต่บางส่วนก็ใช้หิน อิฐ และไม้ [3]
กำแพงเมืองจีนยาวกว่า 21,196 กิโลเมตร และทอดยาวผ่านภูมิประเทศ ที่หลากหลาย รวมถึงภูเขา ทะเลทราย และทุ่งหญ้า มีป้อมคั่นเป็นช่วงๆ ตลอดแนวความยาว และด่านสำคัญหลายแห่ง กำแพงเมืองจีนสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 5 ถึง 16 เมตร และกว้างถึง 9 เมตร
กำแพงเมืองจีนถูกสร้างขึ้น เพื่อป้องกันจักรวรรดิจีน จากผู้รุกรานจากทางเหนือ ยังใช้เป็นเส้นทางสื่อสาร และการค้าอีกด้วย หอสังเกตการณ์ ตลอดความยาวของกำแพง ช่วยให้ทหารสามารถแจ้งเตือน การโจมตีได้อย่างรวดเร็ว และประตูต่างๆ อนุญาตให้พ่อค้า และนักเดินทางผ่านไปได้
การก่อสร้างกำแพงเมืองจีนเต็มไปด้วยอุปสรรค ทั้งสภาพอากาศที่โหดร้าย ภูมิประเทศที่ทุรกันดาร และศัตรูที่คุกคาม แต่ด้วยความมุ่งมั่น และ ความสามัคคี ของชาวจีน พวกเขาจึงสามารถ เอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ และสร้างกำแพงเมืองจีนให้สำเร็จสมบูรณ์ [4]
กำแพงเมืองจีนเป็นหนึ่ง ในสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยม มีนักท่องเที่ยว หลายล้านคนมาเยือนทุกปี มีหลายส่วนของกำแพง ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม แต่ส่วนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ ด่านปาต๋าหลิ่ง จิ่วเป่ยหลิ่ง และซานไห่กวาน
สามารถจองที่พักผ่านเว็บไซต์ Trip.com ได้ทันที
กำแพงเมืองจีนเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ และการผจญภัย
[1] trueid. (March 16, 2022). กำแพงเมืองจีนจากฝีมือมนุษย์. Retrieved from trueid
[2] wikipedia. (September 21, 2023) กำแพงเมืองจีน. Retrieved from wikipedia
[3] gistda. (April 11, 2021). “กำแพงเมืองจีน”. Retrieved from gistda
[4] sanookholidays. (June 14, 2023). กำแพงเมืองจีน สิ่งมหัศจรรย์ของโลก. Retrieved from sanookholidays