หม่าล่า เป็นอาหารที่นิยมทานกินกับเครื่องดื่มเย็น ๆ เช่นเบียร์ เพราะมันมีรสชาติเผ็ด ชาลิ้น แน่นอนว่าเป็นอาหารที่ได้รับความนิยม เห็นได้ตามร้านข้างทาง หรือร้านอาหารบันเทิง เดินไปทางไหนก็ต้องเจอร้านนี้ หลายท่านติดใจในรสชาติของมัน แต่ที่มาของอาหารประเภทนี้เป็นอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบ
หม่าล่า ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่อาหารอย่างที่หลายท่านเข้าใจ แต่มันเป็นรสชาติของตัวอักษรจีน 2 ตัว ได้แก่คำว่า หม่า ซึ่งแปลว่าการทำให้มีรสชาติชา และคำว่า ล่า ซึ่งแปลว่าทำให้มีรสชาติเผ็ดฉุน เมื่อท่านทานเข้าไปแล้ว จะทำให้ลิ้นของท่านรู้สึกชานั่นเอง
โดยต้นกำเนิดของอาหารรสชาตินี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีต้นกำเนิดมาจากที่ใด มีแหล่งข้อมูลหลาย ๆ แห่งระบุเอาไว้ว่า หม่าล่า มาจากตลาดกลางคืน บริเวณครัวของท่าเรือในนครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19-20
ด้วยเอกลักษณ์ของอาหารประเภทนี้ มีความเข้มข้น เผ็ดร้อน ให้ความรู้สึกอบอุ่นเมื่อได้ทานมันลงไป แถมยังมีชั้นนำมันที่หนา ที่ช่วยถนอมอาหาร รวมถึงช่วยกำจัดกลิ่นคาวที่ไม่พึงประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นคาวของอาหารทะเล ทำให้มีการนำซอส หม่าล่า มาทำกับอาหารทะเลในท่าเรือ
ความเผ็ดร้อนของ หม่าล่า มาจากพริกไทยเสฉวน [1] ที่มีรูปลักษณ์คล้ายพริกไทย และรสชาติคล้ายกับมะแขว่นของไทย ซึ่งจะผสมกับเครื่องเทศหลากหลายชนิด นำมาคั่วกับน้ำมันเดือด ๆ จนกลายมาเป็นซอส และเป็นส่วนผสมที่สำคัญในการประกอบอาหารจีนเสฉวน
ซอสถูกนำมาใช้ในการปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นวิธีการต้ม ผัด ตุ๋น ซุป หม้อไฟ และในมณฑลเสฉวน ยูนนาน จะมีการผลิตเป็นผง หม่าล่า สำหรับการปรุงอาหารประเภทปิ้งย่าง โดยเอาไว้โรยบนอาหารต่าง ๆ เช่นเนื้อหมูย่าง เต้าหู้ย่าง หรือจะเป็นประเภทผัก ก็สามารถโรยผงนี้ได้เช่นกัน
ส่วนผสมที่สำคัญของอาหารประเภทนี้ จะมีทั้งพริกป่น พริกแห้ง ซอสโต้วป้าน กานพลู กระเทียม โป๊ยกั๊ก กระวานดำ ยี่หร่า ขิง อบเชย เกลือ น้ำตาล ทั้งหมดจะถูกนำไปคั่วกับไขกระดูกของวัว และน้ำมันพืช ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาหลายชั่วโมง
สังเกตได้ว่า คนไทยนั้นจะนำผงหม่าล่า ไม่ว่าจะเป็นแบบสำเร็จรูป หรือผลิตขึ้นมาเอง นิยมใช้ทา หรือโรยในอาหารประเภทปิ้งย่าง ตามร้านอาหาร หรือแผงขายข้างทาง เพราะเป็นอาหารที่กินง่าย ราคาไม่แพง แถมยังนิยมทานกินกับเครื่องดื่มเย็น ๆ แน่นอนว่ามันต้องเป็นของคู่กันอยู่แล้ว
ดื่มเบียร์เย็น ๆ ตบด้วย หม่าล่า ปิ้งย่าง ที่เสียบด้วยไม้ ในปัจจุบันนี้ ยังได้รับความนิยม และกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ แถมยังนำมาประยุกต์ให้มีเมนูที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชาบู สุกี้ หม้อไฟ และอาหารจานเดียวประเภทต่าง ๆ
ด้วยความเผ็ดร้อนของอาหารประเภทนี้ หรืออาหารที่โรยด้วยผง มันจะช่วยให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญที่รวดเร็ว และยังให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ซึ่งในปัจจุบันก็มีการเปิดเผยสูตรในการทำ และยังมีผลิตภัณฑ์แบบสำเร็จรูปออกมาวางขาย
[1] KAPOOK!. (June 21, 2023). ความเผ็ดของหม่าล่า มาจากไหน. Retrieved from cooking.kapook