มะละกา เมืองท่าเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่บนช่องแคบมะละกา ดั่งไข่มุกแห่งคาบสมุทรมลายู มาเลเซีย เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐ รองจากจอร์จทาวน์
มะละกาก่อตั้งขึ้น ในศตวรรษที่ 15 โดยสุลต่านมะหะมัด ชาห์ ชาวมะละกา เมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางการค้า ที่สำคัญในภูมิภาค และดึงดูดพ่อค้าจากทั่วทุกมุมโลก ในปี ค.ศ. 1511 เมืองนี้ถูกโปรตุเกสยึดครอง และยังคงอยู่ภายใต้การปกครอง ของโปรตุเกส เป็นเวลา 130 ปี [1]
ต่อมาในปี ค.ศ. 1641 ชาวดัตช์ได้ยึดมะละกา และปกครองต่อมาอีก 150 ปี ในปี ค.ศ. 1824 ชาวดัตช์ได้ขายมะละกา ให้กับบริษัทอีสต์อินเดีย ของอังกฤษ และยังคงอยู่ภายใต้ การปกครองของอังกฤษ จนถึงปี ค.ศ. 1957 เมื่อได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักร
วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของมะละกานั้น ส่อให้เห็นถึงสถาปัตยกรรม อาหาร และผู้คนของเมือง เมืองนี้ เป็นที่ตั้งของโบสถ์คริสต์ วัด และศาลเจ้าหลายแห่ง
อาหารท้องถิ่นของมะละกา เป็นการผสมผสาน ระหว่างอาหารมาเลย์ จีน และอินเดีย ประชากรของมะละกา มาจากหลายเชื้อชาติ รวมถึงชาวมาเลย์ จีน อินเดีย และยุโรป
ที่มา: มะละกา (เมือง) [2]
มะละกา เมืองมรดกโลก ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอาย ของบ้านเมือง ผสมผสานหลายวัฒนธรรม จึงมีสถานที่เที่ยวแปลกๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ทำให้มาเมืองนี้ แล้วรู้สึกตื่นตัวตลอดเวลา ลองมาดูกันว่า มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง หรืออาจจะเป็นสิ่งที่คุณ อาจผ่านหูผ่านตา กันมาชั่วขณะนึง
ที่มา: สถานที่ท่องเที่ยวมะละกา [3]
สิ่งที่แอบกระซิบบอก
สรุป มะละกา เดินทางสะดวก มีสถานที่เที่ยว เชิงวัฒนธรรมมากมาย เพราะที่นี่คือ แหล่งรวมเชื้อชาติ สิ่งที่แปลกตาแปลกใจ อีกหนึ่งที่เที่ยว ที่ต้องไปดู
[1] wikipedia. (July 19, 2024). รัฐมะละกา. Retrieved from wikipedia
[2] wikipedia. (March 30, 2023). มะละกา (เมือง). Retrieved from wikipedia
[3] tripadvisor. (2024). สถานที่ท่องเที่ยวมะละกา. Retrieved from tripadvisor