เกม WobblyLife สนุกกับการทำงานในเมืองอันแสนวุ่นวาย

มิถุนายน 11, 2024

เกม WobblyLife เกมใหม่ที่เปิดให้เล่น Early access ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2020 ซึ่งจะเปิดให้เล่นตัวเต็มหรือเมื่อเกมพัฒนาเสร็จในปีนี้ เป็นเกมการจำลองการใช้ชีวิตในเมืองๆ หนึ่งที่มีอะไรให้ผู้เล่นทำมากมาย ซึ่งนำเสนอภาพออกมาเป็นกราฟิกที่ดูง่ายๆ ไม่มีรายละเอียดมากมาย ซึ่งเกมนี้ก็ยังมีความน่าสนใจทั้งการเล่น และเนื้อเรื่องอีกหลายอย่าง

ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับ เกม WobblyLife

เกมที่พัฒนาจากค่าย Rubber Band Games ที่พัฒนาเกมที่ประสบความสำเร็จไปอย่าง Human Fall Flat และเกมยิงเอเลี่ยนมันๆ อย่าง From Space แต่เกมนี้ในรูปแบบเกมเพลย์ และไอยูการควบคุมต่างๆ จะค่อนไปทางเกม Human Fall Flat มากกว่า โดยเป็นเกมแซนด์บ็อกซ์ฟิสิกส์แบบโอเพ่นเวิลด์ ที่ให้เราออกไปเสาะหากิจกรรมต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในเกม โดยรายละเอียดของมันก็มีดังนี้

ผู้จัดจำหน่าย: RubberBandGames
แฟรนไชส์: Curve Games
วันเปิดให้เล่น: 16 กรกฎาคม 2021
แนวเกม: Open World, and Party และ RPG นิดๆ
ความยากในการเล่น: 2/10
ภาษาที่รองรับ: รองรับ 12 ภาษา ไม่รองรับภาษาไทย
เวลาในการเล่นจบเนื้อเรื่อง: 20-25 ชั่วโมง

ที่มา: Wobbly Life Reviews [1]

เกมเพลย์ และอินเทอร์เฟซการควบคุม

สำหรับในเรื่องของเกมเพลย์ เกมนี้อย่างที่ระบุไปข้างต้นว่ามีเกมเพย์ที่คล้ายๆ กับเกม Human Fall Flat อย่างการเดินที่ดูไร้เรี่ยวแรงสุดๆ และสีสันอย่างการกดจับหรือดึงเพื่อนได้ โดยในเกมนี้ก็จะมีการขับรถเพิ่มเข้ามา และก็มีกิจกรรมให้ทำมากมาย แถมทำซ้ำๆ ได้เพื่อรับผลตอบแทนได้เรื่อยได้ พร้อมกิจกรรมหลายๆ อย่างที่ซ้อนอยู่ทุกซอกมุมของเมืองอันกว้างใหญ่ก็มีกิจกรรมให้ทำมากมาย

โดยปุ่มควบคุมหลักๆ ก็จะมีปุ่มให้วิ่งได้สำหรับกิจกรรมหรืองานที่ต้องรีบ และปุ่มจับที่สามารถจับของทุกอย่างติดมือมาได้แม้กระทั่งเพื่อน หรือ NPC ในเกม และปุ่มพื้นฐานอย่างการกระโดด นั่ง ซึ่งอินเทอร์เฟสต่างๆ ในตัวเกมก็ทำออกมาได้สะอาดตาสุด และเกมนี้ยังเล่นในมือถือได้ด้วย [2]

เนื้อเรื่อง และการนำเสนอภาพ

ในส่วนของเนื้อเรื่อง เริ่มเกมมาผู้เล่นก็จะไปอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง กับคุณแม่ หรือไม่ก็คุณยาย ที่พูดอะไรกับเราสักอย่างก่อนจะไล่ให้เราออกจากบ้าน เพื่อไปหางานทำในเมือง ซึ่งก็มีงานต่างๆ ให้เลือกทำมากมาย อย่างการทำฟาร์ม, เก็บขยะ, ส่งของ และการส่งพิซซ่า รวมไปถึงภารกิจต่างๆ ในเกมที่เป็นการดำเนินเนื้อเรื่อง และภารกิจเสริมที่จะให้ของรางวัลด้วย

ในเรื่องของภารกิจหลักๆ ก็จะเป็นการทำงานเกี่ยวกับการส่งพิซซ่า และตระเวนอัปเกรดงานไปเรื่อยๆ ในงานที่แตกต่าง โดยจะให้เราได้เดินทางไปรอบๆ เมืองเลยจนไปถึงผู้พิทักษ์กฎหมายเลย โดยจะมี NPC คอยบอกเราว่าต้องไปตรงไหนบ้าง
ในเรื่องของงานภาพกราฟิก เกมนี้ก็ทำออกมาเป็นภาพง่ายๆ โดยตัวละครเบื้องต้นก็จะเป็นตัวสีเหลืองๆ กันหมด และจะต่างกันตรงลักษณะการแต่งตัวเท่านั้น และวิวเมืองก็จะเป็นวิวที่มองได้ไกลสุดๆ จึงไม่ต้องใช้การประมวลผลอะไรมากมาย
ส่วนด้านคุณภาพก็ค่อนข้างจะเป็นในส่วนที่เรียกได้ว่าเป็นดินน้ำมันเลย ทั้งก้อนเมฆ ต้นไม้รวมถึงน้ำก็จะมีพื้นผิวที่ไม่ต่างกัน เกมยังเน้นสีที่อยู่ในโทนจัดจ้าน บางสีก็ถึงกับทำเอาแสบตาได้เลย แต่เกมนี้จะค่อนข้างเด่นเรื่องแรง น้ำหนัก หรือเป็นเกมที่ระบบฟิสิกส์ดีมากเกมหนึ่งเลย

ที่มา: รีวิวเกมWobbly Life [2]

รายละเอียดของราคาเกมนี้ ในแพลตฟอร์มต่างๆ

สำหรับเกมนี้วางขายอยู่หลักๆ ใน 2-3 แพลตฟอร์มชั้นนำ อย่างสตีม ของโซนี่ และเอ็กซ์บ็อกซ์ ซึ่งด้วยความเป็นเกม Early access จึงยังไม่มีการวางขายในแพลตฟอร์มที่มากขึ้น และมีราคาที่ค่อนข้างถูกราวๆ หลักร้อย ซึ่งตอนนี้ในเรื่องของราคากำลังมีกิจกรรมลดราคาเกมจากแฟรนไชส์ Curve Games แบบเดียวกับ กิจกรรม GameraGames ที่ลดราคาหลายเกมในเครือ ซึ่งทำให้เกมนี้ลดไปมากกว่า 30%

Steam สำหรับแพลตฟอร์มนี้ด้วยกิจกรรมลดราคา เกมนี้จึงขายในราคาเพียง 279.30 บาทเท่านั้น จากราคาเต็ม 399 บาท ซึ่งจะหมดเขตในวันที่ 20 มิถุนายน 2024 นี้แล้ว
Xbox ส่วนในแพลตฟอร์มที่สามารถเล่นได้ทั้ง พีซีและคอนโซลของตัวเองอย่าง Xbox ก็ขายเกมนี้อยู่ที่ราคาเต็ม และจะแพงกว่าเกือบ 2 เท่าคือ 649 บาท และไม่ได้ร่วมเกมพาสแต่อย่างใด
และใน playstation คอนโซลของทางโซนี่ ซึ่งเล่นได้ทั้ง PS4 และ PS5 เกมนี้ก็จะขายอยู่ในราคาประมาณ 18.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 698.19 บาท ซึ่งแพงที่สุดในบรรดา 3 แพลตฟอร์มที่ขายเกมนี้

สเปคขั้นต่ำในการใช้เล่นเกมนี้

ด้วยเกมที่ใช้กราฟิกง่ายๆ ไม่เน้นรายละเอียดอะไรมากมาย มีเพียงสเกลเมืองที่กว้างเท่านั้น เกมนี้จึงมีการใช้สเปคคอมที่ต่ำมาก เรียกได้ว่าไม่ว่าเครื่องไหนก็สามารถเล่นเกมนี้ได้หมด หากซื้อในช่วง 6-8 ปีมานี้ ส่วนใน Console ก็คงไม่มีปัญหา พร้อมไม่มีเรื่องการกระตุกใดๆ อยู่แล้ว เพราะเกมต้องปรับแต่งให้เล่นได้อย่างลื่นไหลอยู่แล้ว ซึ่งสเปคขั้นแนะนำของ PC จากข้อมูลของ Steam ก็มีดังนี้

ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 แบบ 64 Bit ขึ้นไป
โพรเซสเซอร์: Intel Core i7-6700 หรือเทียบเท่า
หน่วยความจำแรม: เริ่มที่ 8 GB
หน่วยประมวลผลกราฟิก: GeForce GTX 1060 ขึ้นไป หรือเทียบเท่า
DirectX: เวอร์ชัน 11
พื้นที่ว่างพร้อมใช้งาน: ใช้เพียง 2 GB เท่านั้น

ที่มา: ความต้องการระบบ [3]

ระบบเพิ่มเติมที่เป็นจุดเด่นของเกม

หัวข้อที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือระบบการเล่นที่มีความโดดเด่นของเกมนี้ ซึ่งนอกจากจากจะเป็นการมีระบบจับสิ่งของหรือเพื่อนที่มาเล่น Co-op ด้วยกันแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่เกมนี้ทำได้ดี และเป็นระบบเด่นๆ ที่ทำให้เกมมีความน่าเล่นขึ้นมาก

Open-world sandbox แนวเกมที่ให้ผู้เล่นสามารถทำอะไรก็ได้ ไปไหนก่อนก็ได้โดยไม่ต้องสนใจภารกิจหรือเนื้อเรื่องหลัก ซึ่งเกมนี้ยังมีระบบที่ให้อิสระในการย้ายสิ่งของไปมา ในเกมได้อีกด้วยสไตล์เกม sandbox
แฟชั่นกับชุดให้เลือกถึง 250 แบบ ด้วยตัวละครที่เป็นตัวสีเหลืองๆ เหมือนกันหมดการแต่งตัวจึงเป็นสิ่งเดียวที่สามารถระบุตัวตนของผู้เล่นแต่ละคนได้ ซึ่งเกมก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย กว่า 250 รูปแบบให้เลือกใส่ได้อย่างอิสระ
งานต่างๆ ในเมืองกว่า 50 แบบ งานในแผนที่เมืองอันกว้างใหญ่นี้จึงมีงานมากมายเท่าที่นักพัฒนากลุ่มหนึ่งจะคิดขั้นมาได้ งานในเกมจึงมีให้เลือกอย่างหลากหลาย ตั้งแต่งานบริการไปถึงงานออฟฟิศ นั่งเรือไปถึงขับเครื่องบิน
ปริศนาให้สำรวจ และแน่นอนด้วยการที่เป็นเกมในเครือนี้ในบางฉาก หรือบางสถานที่ก็มักจะมีปริศนาซ่อนอยู่ตลอด โดยการแก้ก็ไม่ยาก เพียงหากลไกการเปิดประตู ไม่ก็หาซุงมางัดออกก็ได้ และปริศนาอื่นๆ อีกหลายอย่าง
สายสลิงเชื่อมทั่วเมือง เกมนี้เพื่อความสะดวกในการเดินทางนอกจากรถให้ขับขี่แล้ว ยังมี ซิปไลน์ให้โหนจากตึกหนึ่งไปอีกตึกอยู่ทั่วเมือง การเดินทางจึงไปไหนมาไหนได้รวดเร็ว และไม่น่าเบื่อ

สรุป เกม WobblyLife การอาศัยในเมือง ที่มีงานมากมาย

เกมใหม่จากค่าย Rubber Band Games ที่เปิดให้เล่นระหว่างพัฒนามานานกว่า 4 ปีแล้วซึ่งก็มีการเพิ่มกิจกรรม และไอเทมต่างๆ ในเกมมากขึ้นตลอด และจะเปิดให้เล่นตัวเต็มแล้ว ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในช่วงลดราคา กว่า 9 วันรีบไปซื้อความสนุกและรับความคุ้มค่ากับเกมนี้ในสตีมได้เลย