Betdog-เว็บตรงบาคาร่า
Betdog-เว็บตรงบาคาร่า

ช็อคโกแลตฮิลส์ มีรูปลักษณ์ที่แปลกตา รวมถึงกระบวนการ ทางธรณีวิทยาที่ซับซ้อน ซึ่งก่อให้เกิดเนินเขาขึ้นมา และที่นี่ยังมีเรื่องเล่าถึงตำนานของยักษ์อีกด้วย

ช็อคโกแลตฮิลส์ ตั้งอยู่บนเกาะโบโฮล

ช็อคโกแลตฮิลส์ หนึ่งในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ นับว่าที่สุดของโลก ตั้งอยู่บนเกาะโบโฮล ประเทศฟิลิปปินส์ เนินเขากว่าพันลูก เรียงรายกันเป็นระเบียบ ราวกับถูกวางมือ สร้างขึ้นมาเอง โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง พืชพรรณบนเนินเขา จะเปลี่ยนสีเป็นน้ำตาลคล้ายช็อกโกแลต ทำให้เกิดภาพที่สวยงาม ตราตรึงใจ เมื่อได้ไปเที่ยวชม [1]

ลักษณะที่พบเห็น ในช็อคโกแลตฮิลส์

ตำนานและความเชื่อ จากช็อกโกแลตฮิลส์

ตำนานยักษ์สองตน หนึ่งในตำนาน ที่เล่าขานกันมากที่สุด เกี่ยวกับช็อกโกแลตฮิลส์ คือเรื่องราวของยักษ์สองตน ที่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง พวกเขาทะเลาะกัน ด้วยการขว้างดินใส่กันไปมา จนในที่สุดก็เบื่อหน่าย และปรับความเข้าใจกัน แต่กองดินที่ขว้างใส่กันอยู่นั้น ก็กลายเป็นเนินเขา เรียงรายกันดังที่เห็นในปัจจุบัน [2]

ช็อคโกแลตฮิลส์ ทฤษฎีการก่อตัวขึ้น

ถึงแม้ว่ายัง ไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด เกี่ยวกับการก่อตัว ของช็อกโกแลตฮิลส์ แต่ก็มีทฤษฎี ที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุด อยู่ 4 ทฤษฎี ได้แก่

  1. การสะสมของตะกอน : ในอดีตเมื่อหลายล้านปีก่อน บริเวณที่เป็นช็อกโกแลตฮิลส์ ในปัจจุบัน เคยเป็นทะเลมาก่อน ซากของสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น ปะการัง หอย และสัตว์ทะเลอื่นๆ ตายลงและทับถม กันเป็นชั้นๆ เมื่อเวลาผ่านไป ซากพวกนี้ จะแข็งตัวกลายเป็นหินปูน
  2. การยกตัวของเปลือกโลก : เนื่องจากการเคลื่อนที่ ของแผ่นเปลือกโลก ทำให้บริเวณ ที่เคยเป็นทะเล เกิดการยกตัวขึ้น เหนือระดับน้ำทะเล ทำให้ชั้นหินปูนที่ทับถมอยู่ กลายเป็นแผ่นดิน
  3. การกัดเซาะ : หลังจากที่หินปูน โผล่พ้นน้ำทะเลแล้ว ธรรมชาติก็เริ่มทำหน้าที่ กัดเซาะหินปูน โดยน้ำฝน ที่ผสมกับคาร์บอนไดออกไซด์ จะกลายเป็นกรดคาร์บอนิก เมื่อไหลผ่าน รอยแตกของหินปูน ก็จะละลายหินปูน ทำให้เกิดโพรง และร่องต่างๆ ขึ้นมา
  4. การก่อตัวของเนินเขา : การกัดเซาะที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หินปูนค่อยๆ ถูกกัดเซาะ เป็นรูปทรงต่างๆ จนในที่สุดก็ก่อตัวเป็นเนินเขา ที่มีลักษณะคล้ายกรวยคว่ำ จำนวนมากเรียงรายกัน

เหตุใดช็อกโกแลตฮิลส์ ถึงมีสีน้ำตาลในช่วงฤดูแล้ง ?

ปกติแล้ว ช็อกโกแลตฮิลส์จะมีพืชพันธุ์ จำพวกหญ้าสีเขียว ขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วไป แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูแล้ง ซึ่งเป็นช่วงที่มีฝนตกน้อย ปริมาณน้ำในดิน ก็จะลดลง ทำให้พืชพรรณ เกิดการเหี่ยวเฉาได้

และเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลในที่สุด เมื่อมองจากระยะไกล เนินเขาที่เคยเขียวขจี ก็จะกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม คล้ายช็อกโกแลต จึงเป็นที่มาของชื่อช็อกโกแลตฮิลส์ นั่นเอง

ที่มา: Chocolate Hills ภูเขาช็อกโกแลต [3]

สิ่งที่น่าสนใจในรอบๆ ภูเขาช็อกโกแลตฮิลส์

ช็อคโกแลตฮิลส์

สรุป ช็อกโกแลตฮิลส์

สรุป ช็อกโกแลตฮิลส์ เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ ทางธรรมชาติ ที่คุณไม่ควรพลาด หากมีโอกาสได้ไปเยือนฟิลิปปินส์ อย่าลืมแวะไปชมความสวยงาม ของหุบเขาแห่งนี้ให้ได้

อ้างอิง

[1] wikipedia. (July 16, 2024). Chocolate Hills. Retrieved from wikipedia

[2] patourlogy. (June 3, 2024). ช็อคโกแลตฮิลส์ เนินเขาธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ในฟิลิปปินส์. Retrieved from patourlogy

[3] realmetro. (December 24, 2021). Chocolate Hills ภูเขาช็อกโกแลต. Retrieved from realmetro

หาดสีแดง หรือ Red Beach แห่งเมืองผานจิ่น มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน อีก 1 ที่ ที่มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่สร้างขึ้นมาเอง และหาชมจากไหนไม่ได้ นอกจากที่นี่

หาดสีแดง มีที่มาอย่างไร ?

สีแดงสดของหาดนั้น เกิดจากสาหร่าย ทะเลชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่า Suaeda salsa หรือ ที่คนจีนเรียกว่า "หญ้าทะเลแดง" (Sueda) สาหร่ายชนิดนี้ เจริญเติบโตได้ดี ในดินเค็ม และสภาพแวดล้อม ที่เป็นเอกลักษณ์ ของบริเวณสามเหลี่ยม แม่น้ำเหลียวเหอ (Liaohe)

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เมื่ออุณหภูมิเริ่มลดลง สาหร่าย Sueda จะเปลี่ยนสี จากสีเขียว เป็นสีแดงสด ซึ่งเป็นกลไกอย่างหนึ่ง ในการป้องกันตัวเอง จากสภาพอากาศที่หนาวเย็น จึงทำให้เปรียบเป็นความเหมือน ของภูมิศาสตร์ ทะเลสาบเนตรอน

ที่มา: ‘แนวหาดสีแดง’ ธรรมชาติแปลกตาในเหลียวหนิง [1]

ที่นี่ ประหนึ่งแหล่งของนกหายาก

นอกจากความสวยงาม ของหาดทรายสีแดงแล้ว ยังเป็นที่อยู่อาศัย ของนกหายากหลายชนิด เช่น นกกระเรียนนางพญา และนกนางนวลสีดำ [2] ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักดูนก และนักธรรมชาติวิทยา เดินทางมาเยือนกันอย่างมาก ทำให้ในแต่ละปี มีคนเข้าชมมากกว่าปีละ 2,000,000 คน

ทำไมหาดสีแดง เป็นสวรรค์ของนก

ประกาศ หาดสีแดง พื้นที่คุ้มครองของรัฐ

ทางการจีนได้ประกาศให้ หาดสีแดงเป็นพื้นที่ คุ้มครองของรัฐ ตั้งแต่ปี 1988 นับเป็นการตัดสินใจ ที่ชาญฉลาด และมีวิสัยทัศน์อย่างยิ่ง เพราะเป็นก้าวสำคัญในการอนุรักษ์ และฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง ที่เปราะบางแห่งนี้ [3]

ส่งผลดีต่อหาดสีแดง  

  1. การคุ้มครอง ช่วยรักษาความสมดุล ของระบบนิเวศชายฝั่งทะเล ซึ่งเป็นแหล่งอาศัย ของนกหายาก และสัตว์ป่าอื่นๆ
  2. การประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครอง จะช่วยลดกิจกรรม ที่อาจทำลายหาด เช่น การท่องเที่ยวที่ไม่ควบคุม การสร้างสิ่งก่อสร้าง การปล่อยมลพิษ
  3. การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ สาหร่ายทะเลสีแดง และระบบนิเวศโดยรอบ จะได้รับการสนับสนุนมากขึ้น ทำให้เราเข้าใจธรรมชาติ ของหาดสีแดงได้ดียิ่งขึ้น

สิ่งที่ต้องทราบ ก่อนมาเที่ยวชม

หาดสีแดง

สรุป หาดสีแดง

สรุป หาดสีแดง เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจ ทั้งหาดจะรายล้อม ไปด้วยสีแดงสด และมีนกหลายชนิด ที่อาจจะพบเห็นได้ยาก แต่ที่นี่นั้นมีให้นักท่องเที่ยวได้ชม

อ้างอิง

[1] xinhuathai. (October 26, 2022). ยล ‘แนวหาดสีแดง’ ธรรมชาติแปลกตาในเหลียวหนิง. Retrieved from xinhuathai

[2] greenlandholidaytour. (January 23, 2020). RED BEACH สถานที่ท่องเที่ยวมหัศจรรย์ แห่งเมืองผานจิ่น ประเทศจีน. Retrieved from greenlandholidaytour

[3] blockdit. (April 6, 2019). หาดสีแดงหรือเรดบีช ที่ ประเทศจีน. Retrieved from blockdit

ทะเลสาบอินเล มักจะเล่าถึงวิถีชีวิตของผู้คน ที่อาศัยอยู่แถวๆ ริมทะเลสาบนี้ ซึ่งพวกเขาอาศัยมานาน กว่า 100 ปี แต่มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ลองติดตามชมในบทความ

ข้อมูล ทะเลสาบอินเล และลักษณะทั่วไป

ทะเลสาบอินเลตั้งอยู่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา (พม่า) ห่างจากเมืองตองจี ประมาณ 25 กิโลเมตร เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ เป็นอันดับสองของพม่า มีพื้นที่ประมาณ 116 ตารางกิโลเมตร [1] มีความโดดเด่น ด้วยหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งคล้ายๆ กับทะเลสาบน้ำจืดของ ลากูนาเดบัย

วิถีชีวิตของชาวอินทา ที่มีต่อทะเลสาบอินเล

ชาวอินทา เป็นชนกลุ่มน้อย ที่มีวิถีชีวิต อันเป็นเอกลักษณ์ อาศัยอยู่ริมทะเลสาบอินเล ชีวิตของพวกเขา มีความผูกพันที่แน่นหนา ซึ่งมีการปรับตัว ให้เข้ากับสภาพแวดล้อม โดยสร้างบ้านเรือนบนเสา ที่ปักลงไปในน้ำ ทำให้บ้านเรือน ลอยตัวอยู่เหนือน้ำ [2]

ชาวอินทาส่วนมาก ทำอาชีพอะไร

อยากรู้ไหมว่า ชาวอินทามีอาชีพอะไรบ้าง? พวกเขาไม่ได้มีเพียงอาชีพเดียว แต่มีหลากหลายอาชีพ ที่น่าสนใจ ซึ่งล้วนแล้วแต่ สะท้อนให้เห็น ถึงความสามารถ และภูมิปัญญาของชาวอินทา ในการดำรงชีวิตอย่างผาสุก ในสภาพแวดล้อม ที่อาจจะไม่เป็นใจ แต่ก็ทำให้ที่นี่ มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

ความน่าสนใจใน ทะเลสาบอินเล

ทะเลสาบอินเล

นักท่องเที่ยวสามารถ ล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวอินทา เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จะได้สัมผัสวิถีชีวิต ของชาวอินทา อย่างใกล้ชิด ต่อมา เยี่ยมชมโรงงานทำผ้าไหม เนื่องจากชิวอินทา

มีฝีมือในการทอผ้าไหม ที่มีชื่อเสียง สามารถเข้าชม โรงงานทำผ้าไหม และเรียนรู้ขั้นตอนการผลิต และยังเดินป่าชมธรรมชาติ รอบทะเลสาบอินเล มีเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ อย่างเต็มปอด

ที่มา: Inle Lake' วิถีแปลงเกษตรลอยน้ำฉบับเมียนมาร์ [3]

ช่วงเวลาไหน เหมาะที่จะเดินทาง

ช่วงเวลาที่เหมาะสม ในการเดินทางมาเที่ยว ทะเลสาบอินเลคือ ช่วงเดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว อากาศเย็นสบาย ไม่ทำให้ร้อนจนหงุดหงิด เป็นฤดูแห่งการท่องเที่ยว ที่ใครต่อใคร มักจะมาในช่วงนี้ แต่หากไม่อยากเจอผู้คนมากมาย แนะนำมาช่วงฤดูร้อนก็ได้

เดินทางด้วยวิธีใดได้บ้าง

สรุป ทะเลสาบอินเล

สรุป ทะเลสาบอินเล สถานที่แห่งนี้ จะเกี่ยวเนื่องมาจาก วัฒนธรรมของชาวอินทา ที่จะอนุรักษ์ความเป็นตัวเองเอาไว้ ทำให้ที่นี่เป็นจุดเด่นในการท่องเที่ยว ของประเทศเมียนมา (พม่า)

อ้างอิง

[1] wikipedia. (December 29, 2022). ทะเลสาบอี้นเล่. Retrieved from wikipedia

[2] blockdit. (August 3, 2021). วิถีชีวิตแบบชาวบ้าน Inle Lake'. Retrieved from blockdit

[3] urbancreature. (July 1, 2020). Inle Lake' วิถีแปลงเกษตรลอยน้ำฉบับเมียนมาร์. Retrieved from urbancreature

ทะเลสาบติติกากา นับว่าเป็นอีกหนึ่ง สถานที่สำคัญของโลก ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขา มีความสนใจอย่างหลากหลาย แล้วยังเกี่ยวเนื่องในการทำพิธีกรรมต่างๆ ของขนเผ่ากลุ่มหนึ่ง

ทะเลสาบติติกากา ถูกเปรียบเป็นมรกต

ทะเลสาบติติกากา (Lake Titicaca) เป็นมากกว่า แค่ทะเลสาบธรรมดา เพราะมันคือมรกตอันยิ่งใหญ่ ที่ประดับอยู่บนยอด เทือกเขาแอนดีส อยู่บนความสูง เหนือระดับน้ำทะเล ประมาณ 3.8 กิโลเมตร เป็นทั้งทะเลสาบน้ำจืด ที่ใหญ่ที่สุด ในทวีปอเมริกาใต้อีกด้วย [1]

ความสูง ที่สร้างความพิเศษ

ความสำคัญทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์

ที่มา: Lake Titicaca [2]

ความเชื่อของชาวอินคา  ที่มีต่อทะเลสาบติติกากา

ทะเลสาบติติกากา

แหล่งกำเนิด ของอารยธรรมอินคา ตำนานเล่าขานว่า พระเจ้าอินติ เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ ได้ส่งมนุษย์คู่แรกคือ มานโก คาปัก (Manco Cápac) และ มามา อ็อกโย (Mama Ocllo) ลงมายังโลก ที่เกาะแห่งพระอาทิตย์

ในทะเลสาบติติกากา เพื่อก่อตั้งอาณาจักรอินคา อันยิ่งใหญ่ ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นจุดเริ่มต้น ของอารยธรรม อันเจริญรุ่งเรือง ในคราหนึ่งของเมือง มาชูปิกชู ที่ผู้คนภายนอก ได้ลืมกันไปแล้ว

ที่มา: จักรวรรดิอินคา [3]

ปัจจุบัน อาณาจักรอินคา ล่มสลายไปแล้ว

แม้ว่าอาณาจักรอินคา จะล่มสลายไปแล้ว แต่ความเชื่อ เกี่ยวกับทะเลสาบติติกากา ยังคงอยู่ และสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ชุมชนท้องถิ่น โดยรอบทะเลสาบ ยังคงปฏิบัติ ตามพิธีกรรมดั้งเดิม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะมีความน่าสนใจในวัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง และประวัติศาสตร์ของชาวอินคา ที่มีการเล่าขาน ส่งต่อตำนานหลายๆ พื้นที่

ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ในทะเลสาบติติกากา

สรุป ทะเลสาบติติกากา

สรุป ทะเลสาบติติกากา เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่น่าสนใจ และมีความเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง หากคุณเป็นคนรักธรรมชาติและวัฒนธรรม การเดินทางไปยังทะเลสาบแห่งนี้ เป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าเพิกเฉย

อ้างอิง

[1] blockdit. (May 10, 2021). ทะเลสาบที่สูงที่สุดในโลก ติติกากา Retrieved from blockdit

[2] wikipedia. (February 15, 2022). Lake Titicaca. Retrieved from wikipedia

[3] wikipedia. (February 27, 2024). จักรวรรดิอินคา. Retrieved from wikipedia

ภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย ที่มีริ้วรอยสีสันสลับซับซ้อน ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่น่าประทับใจ ซึ่งมีความสวยงาม ดั่งภาพในฝัน ที่ไม่คิดว่าจะมีจริงๆ

ภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย ข้อมูลที่ชัดเจน

ภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย Zhangye Danxia Landform ตั้งอยู่ที่เมืองจางเย่ (Zhangye) มณฑลกานซู่ (Gansu) ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ภูเขามีความยาวประมาณ 30 กิโลเมตร และกว้างประมาณ 5 กิโลเมตร ประกอบด้วยชั้นหินหลากสีสัน มากกว่า 30 ชั้น และองค์ประกอบแร่ธาตุ ที่แตกต่างกันในหิน [1]

รายละเอียดองค์ประกอบ การเกิดสายรุ้งบนภูเขา

ที่มา: หัศจรรย์สีสัน “ภูเขาสายรุ้ง” มรดกโลกแดนมังกร [2]

ชั้นหินมีสีมากกว่า 30 ชั้น ขึ้นอยู่กับแร่ธาตุ

ชั้นหินของภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย มีสีสันที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ แร่ธาตุที่พบในหิน ตัวอย่างเช่น

ภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย สวยจนคิดว่า ภาพตัดต่อ

ขึ้นชื่อเรื่องความงดงาม ที่แปลกตาจนหลายคนคิดว่า เป็นภาพตัดต่อ ภูมิประเทศที่เป็นริ้วสีสันสดใส เกิดจากการกัดเซาะ ของลมและฝน ที่ทับถมหินทราย และแร่ธาตุต่างๆ นานหลายล้านปี ผลลัพธ์ที่ได้คือ คล้ายภาพวาดธรรมชาติ เช่นเดียวกับ ภูเขาบินิกุนกา

เมื่อลองจินตนาการ ถึงการเดินท่องไปบนเส้นทางชมวิว ชมยอดเขาสูงตระหง่าน ที่ทอดยาวสลับชั้นไปมา ในเฉดสีต่างๆ ตั้งแต่สีเหลืองอ่อน สีส้ม สีแดง ไปจนถึงสีม่วง แสงแดดที่สาดส่อง กระทบกับหินสีสันต่างๆ ยิ่งเพิ่มความงดงามราวกับภาพฝัน ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมหลายคน ถึงยกให้ที่นี่เป็นหนึ่ง ในมรดกทางธรรมชาติ ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม สักครั้งในชีวิต

ภูเขาแห่งนี้ มีความสำคัญทางธรณีวิทยา

ภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย

นอกจากความสวยงาม ที่ยากจะบรรยายแล้ว ภูเขาจางเย่ตันเซี๋ยยังมีความสำคัญ ทางธรณีวิทยาอย่างมาก ชั้นหินที่นี่ เปรียบเสมือนบันทึกเหตุการณ์ ทางธรณีวิทยาที่ยาวนานหลายล้านปี [3] นักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษา การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และเปลือกโลกในอดีต ได้จากชั้นหินเหล่านี้ เรียกว่า เป็นความเจ๋งเฉพาะตัวเลยก็ว่าได้

สถานที่เที่ยวใกล้เคียง กับภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย

  1. อุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติเทียนซาน : ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ของเมืองจางเย่ เป็นที่รู้จักกันดี ในเรื่องทิวทัศน์ภูเขาหิมะ ทุ่งหญ้า และทะเลสาบ
  2. เมืองโบราณจางเย่ : เมืองโบราณที่มีอายุกว่า 2,000 ปี มีกำแพงเมือง ประตูเมือง และวัดวาอารามมากมาย
  3. ถ้ำ Binggou : ถ้ำหินปูนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อย ที่สวยงาม จนแปลกตา

สรุป ภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย

สรุป ภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย การเรียงตัวกันเป็นชั้นของหิน ที่มีสีสันหลากหลายนี้ ทำให้ภูเขานั้นเด่น มีความสวยงาม ยังกับภาพวาด หรือภาพตัดต่อ จึงเป็นตัวอย่างพลังธรรมชาติ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่สวยงามไม่เหมือนใคร

อ้างอิง

[1] panda. (November 23, 2023). อุทยานภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ยแห่งเมืองจางเย่”. Retrieved from panda

[2] mgronline. (August 9, 2021). มหัศจรรย์สีสัน “ภูเขาสายรุ้ง” มรดกโลกแดนมังกร. Retrieved from mgronline

[3] merrylandtravel. (December 20, 2023). พระแม่ลักษมี กำเนิดอันศักดิ์สิทธิ์. Retrieved from merrylandtravel

เยลโลว์สโตน สถานที่ท่องเที่ยว แห่งความท้าทาย เหมาะกับนักผจญภัย หรือผู้ต้องการแลกเปลี่ยน สิ่งแปลกใหม่ ให้กับตนเอง อุทยานที่มีน้ำพุร้อน กระจายกว่าหมื่นแห่ง

เยลโลว์สโตน เขตติดต่อ 3 รัฐ

เยลโลว์สโตน ตั้งอยู่ในเขตติดต่อ 3 รัฐ ได้แก่ ไวโอมิง มอนแทนา และไอดาโฮ มีชื่อเสียงในฐานะ อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของโลก เป็นที่รู้จักกันดีจากน้ำพุร้อน บ่อโคลน และไกเซอร์ รวมถึงสัตว์ป่าที่หลากหลาย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1872 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 8,992 ตารางกิโลเมตร หรือ 5,620,000 ไร่ [1]

น้ำพุร้อนประทุ ที่เยลโลว์สโตน นับหมื่นแห่ง

อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน มีน้ำพุร้อนมากกว่าหมื่นแห่ง ถือว่าเป็นแหล่งรวมน้ำพุร้อน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และน้ำพุร้อน ขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นระยะๆ ทุก 33 ถึง 93 นาที มาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี สามารถอ่านข้อมูลต่อได้ที่ bluebirdbooking

ประเภทของน้ำพุร้อน

ที่มา: THE GRAND PRISMATIC SPRING, YELLOWSTONE [2]

เยลโลว์สโตน ป่าแห่งสัตว์หลายสายพันธุ์

เยลโลว์สโตน ไม่ได้มีแต่น้ำพุร้อนเท่านั้น แต่ยังเป็นที่รู้จักกันในเรื่อง ความหลากหลายของสัตว์ป่า ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มากกว่า 300 ชนิด รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ซึ่งพบได้ยากในสถานที่อื่นๆ

ตัวอย่าง สัตว์ป่าที่พบได้ในเยลโลว์สโตน

เยลโลว์สโตน

ที่มา: อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน [3]

ข้อปฏิบัติ เมื่อเข้าอุทยานเยลโลว์สโตน

  1. ตรวจสอบสภาพอากาศ และเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสม อุณหภูมิในอุทยาน อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
  2. ไม่ก่อกวนสัตว์ป่า รักษาไว้ระยะห่างอย่างน้อย 25 หลา จากกวางเอลค์ บิโซน และสัตว์ป่าขนาดใหญ่ ห้ามให้อาหารสัตว์ป่าใดๆ
  3. เก็บอาหารและขยะไว้ในภาชนะ ที่ปิดสนิท เพื่อป้องกันไม่ให้หมี หรือสัตว์ป่าอื่นเข้าถึง
  4. ห้ามว่ายน้ำในบ่อน้ำพุร้อน หรือแหล่งน้ำอื่นๆ ที่ไม่ได้กำหนดไว้
  5. จุดไฟได้เฉพาะในบริเวณที่กำหนดไว้ และดับไฟให้สนิทก่อนจากไป

กรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยาน หากคุณต้องการความช่วยเหลือ มีหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินอยู่ในแผนที่อุทยาน และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เกี่ยวกับสถานที่ตั้งของคุณ ประเภทของการฉุกเฉิน และข้อมูลติดต่อของคุณ

สรุป เยลโลว์สโตน

สรุป เยลโลว์สโตน ไม่ได้มีดีแค่ธรรมชาติที่แปลก แต่ยังมีกิจกรรมมากมาย รอให้คุณมาลอง ไม่ว่าจะเป็น การเดินป่า การตั้งแคมป์ การตกปลา การล่องแพ การเที่ยวชมน้ำตก หรือแม้แต่การแช่น้ำพุร้อนธรรมชาติ

อ้างอิง

[1] artsandculture. อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน. Retrieved from artsandculture

[2] dayinus. (April 10, 2024). THE GRAND PRISMATIC SPRING, YELLOWSTONE. Retrieved from dayinus

[3] wikipedia. (December 23, 2023). อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน. Retrieved from wikipedia

ชาโมนิกซ์ หรือ ชามอนี-มง-บล็อง (Chamonix-Mont-Blanc) ไม่ได้เป็นเพียงแค่ เมืองท่องเที่ยวยอดนิยม แต่ยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และน่าสนใจร่วมด้วย

ชาโมนิกซ์ อยู่ที่ไหน

เมืองชาโมนิกซ์ โดยทั่วไปเรียกสั้นๆ ว่า ชามอนี เป็นเทศบาลในจังหวัดโอต-ซาวัว แคว้นโอแวร์ญ-โรนาลป์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของประเทศฝรั่งเศส อยู่เชิงเขาแอลป์หลัก มองเห็นยอดเขา Mont Blanc ที่สูงที่สุดในยุโรป พรมแดนติดกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ อิตาลี เคยเป็นสถานที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งแรกในปี 1924 [1]

ชาโมนิกซ์ก่อตั้ง ในยุคหินเก่า

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ บ่งชี้ว่า มีผู้คนอาศัยอยู่ในพื้นที่ชาโมนิกซ์ มาตั้งแต่ยุคหินเก่า หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดคือ ร่องรอยของการตั้งถิ่นฐาน จากยุคสำริด ในช่วงยุคกลาง หมู่บ้านชาโมนิกซ์ เริ่มพัฒนาเป็นศูนย์กลางการเกษตร และการค้า  เอกสารที่เก่าแก่ที่สุด ที่กล่าวถึงชาโมนิกซ์ มีอายุย้อนหลังไปถึงปี ค.ศ. 1091

ยอดเขามงบลองค์ ถูกพิชิตสำเร็จ

ในปี ค.ศ. 1786 ยอดเขามงบลองค์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ในเทือกเขาแอลป์ ถูกพิชิตเป็นครั้งแรก สำเร็จเมื่อปี พ.ศ. 2329 โดย Jacques Balmat และ Michel Paccard ชาวท้องถิ่น เหตุการณ์นี้ทำให้ชาโมนิกซ์ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ผู้คนนิยมปักหมุดมาที่นี่ [2]

ชาโมนิกซ์ กลายเป็นเมืองที่โด่งดัง

ก่อนหน้านั้น ยอดเขามงบลองค์ ถูกปกคลุมไปด้วยความลึกลับ ผู้คนต่างหวาดกลัว อันตรายจากสภาพอากาศ ที่โหดร้าย และสัตว์ป่าร้าย การพิชิตยอดเขาสำเร็จของ Balmat และ Paccard ได้สร้างแรงบันดาลใจ ให้ผู้คนเริ่มมองเห็นความท้าทาย และความงามของยอดเขาแห่งนี้

นับตั้งแต่นั้นมา ชาโมนิกซ์ ก็กลายเป็นเมือง ที่โด่งดังในฐานะนักปีนเขา นักสกี และนักผจญภัย ผู้คนมากมายต่างใฝ่ฝัน ที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ บนยอดเขาที่สูงที่สุด ในเทือกเขาแอลป์แห่งนี้

ที่มา: ยอดเขามงบลอง (Mont Blanc) [3]

ผลพวงของการ พิชิตยอดเขามงบลองค์

  1. การท่องเที่ยว : ชาโมนิกซ์กลายเป็นเมืองท่องเที่ยว อย่างเต็มตัว มีนักท่องเที่ยว หลั่งไหลมาเยือน เพื่อปีนเขา ชมวิวธรรมชาติ และทำกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ
  2. เศรษฐกิจ : เศรษฐกิจของชาโมนิกซ์ ได้รับการส่งเสริมอย่างมาก จากการท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักต่างๆ ต่างก็ได้รับประโยชน์ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
  3. การพัฒนา : เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น ถนน โรงแรม และระบบขนส่ง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
  4. การอนุรักษ์ : เกิดการตระหนักรู้ ถึงความสำคัญ ของการอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในเทือกเขาแอลป์

ที่พักชาโมนิกซ์ แลนด์มาร์คสำคัญ

ชาโมนิกซ์
  1. Chalet Hotel Les Campanules  โรงแรมมีบรรยากาศ แบบแชเล่ต์ดั้งเดิม ให้ความรู้สึกอบอุ่น และเชิญชวนเข้ามาพัก ราคาต่อคืน เริ่มต้น 3,702 บาท
  2. Chamonix Lodge ตั้งอยู่ในทำเลที่เงียบสงบ ห่างจากใจกลางเมืองชาโมนิกซ์ ประมาณ 4.2 กม. ราคาต่อคืน เริ่มต้น 3,433 บาท
  3. Auberge de Jeunesse HI Chamonix ตั้งอยู่ใกล้กับเชิงเขา Bossons Glacier มองเห็นยอดเขา Aiguille du Midi ราคาต่อคืน เริ่มต้น 3,245 บาท

หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับที่พัก หรือต้องการจองที่พักอื่นๆ สามารถดูต่อได้ที่ Agoda

สรุป ชาโมนิกซ์

สรุป ชาโมนิกซ์ หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่โอบล้อม ด้วยธรรมชาติอันงดงาม ผสมผสานเสน่ห์ ของประวัติศาสตร์ และความทันสมัย เข้าถึงง่าย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย

อ้างอิง

[1] wikipedia. (July 1, 2023). ชามอนี. Retrieved from wikipedia

[2] thairath. (May 30, 2023). 70 ปีการพิชิตเอเวอเรสต์ กับหลากหลายปัญหาที่รอการแก้ไข. Retrieved from thairath

[3] taloneurope. (April 2, 2020). ยอดเขามงบลอง (Mont Blanc). Retrieved from taloneurope

มะละกา เมืองท่าเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่บนช่องแคบมะละกา ดั่งไข่มุกแห่งคาบสมุทรมลายู มาเลเซีย เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐ รองจากจอร์จทาวน์

ความเป็นมา มะละกา ศูนย์กลางการค้า

มะละกาก่อตั้งขึ้น ในศตวรรษที่ 15 โดยสุลต่านมะหะมัด ชาห์ ชาวมะละกา เมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางการค้า ที่สำคัญในภูมิภาค และดึงดูดพ่อค้าจากทั่วทุกมุมโลก ในปี ค.ศ. 1511 เมืองนี้ถูกโปรตุเกสยึดครอง และยังคงอยู่ภายใต้การปกครอง ของโปรตุเกส เป็นเวลา 130 ปี [1]

ต่อมาหลังจากนั้น

ต่อมาในปี ค.ศ. 1641 ชาวดัตช์ได้ยึดมะละกา และปกครองต่อมาอีก 150 ปี ในปี ค.ศ. 1824 ชาวดัตช์ได้ขายมะละกา ให้กับบริษัทอีสต์อินเดีย ของอังกฤษ และยังคงอยู่ภายใต้ การปกครองของอังกฤษ จนถึงปี ค.ศ. 1957 เมื่อได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักร

วัฒนธรรมมะละกา มีความผสมผสาน

วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของมะละกานั้น ส่อให้เห็นถึงสถาปัตยกรรม อาหาร และผู้คนของเมือง เมืองนี้ เป็นที่ตั้งของโบสถ์คริสต์ วัด และศาลเจ้าหลายแห่ง

อาหารท้องถิ่นของมะละกา เป็นการผสมผสาน ระหว่างอาหารมาเลย์ จีน และอินเดีย ประชากรของมะละกา มาจากหลายเชื้อชาติ รวมถึงชาวมาเลย์ จีน อินเดีย และยุโรป

ที่มา: มะละกา (เมือง) [2]

แนะนำสถานที่เที่ยวแปลก ในมะละกา

มะละกา เมืองมรดกโลก ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอาย ของบ้านเมือง ผสมผสานหลายวัฒนธรรม จึงมีสถานที่เที่ยวแปลกๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ทำให้มาเมืองนี้ แล้วรู้สึกตื่นตัวตลอดเวลา ลองมาดูกันว่า มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง หรืออาจจะเป็นสิ่งที่คุณ อาจผ่านหูผ่านตา กันมาชั่วขณะนึง

ที่เที่ยว เปิดประสบการณ์

  1. พิพิธภัณฑ์ Baba & Nyonya : พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ตั้งอยู่ในคฤหาสน์ แบบจีนเปอรานากัน ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2375 แสดงให้เห็นถึงชีวิต ความเป็นอยู่ ซึ่งเป็นชาวจีนผู้อพยพ ที่ตั้งรกราก ในมะละกาเป็นเวลาหลายศตวรรษ
  2. A Famosa : ป้อมปราการเก่าแก่ ที่สร้างโดยโปรตุเกส ปัจจุบันเหลือเพียงประตูทางเข้า และกำแพงบางส่วน นักท่องเที่ยวสามารถ เดินขึ้นไปบนยอดประตู เพื่อชมวิวเมืองมะละกาได้
  3. St Paul's Hill : ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมะละกา และเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซนต์ปอล หนึ่งในโบสถ์คริสต์ที่เก่าแก่ ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนินเขานี้ ยังเป็นจุดชมวิวที่ตระการตาได้อีก
  4. Melaka River Cruise : การล่องเรือชมสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมือง ซึ่งจะได้เห็นพื้นเพบ้านเมืองอย่างชัดเจน รวมถึงล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน และล่องเรืออาหารเย็น

ที่มา: สถานที่ท่องเที่ยวมะละกา [3]

การเดินทางไปมะละกา ด้วยวิธีที่แสนจะง่าย

มะละกา

สิ่งที่แอบกระซิบบอก

สรุป มะละกา

สรุป มะละกา เดินทางสะดวก มีสถานที่เที่ยว เชิงวัฒนธรรมมากมาย เพราะที่นี่คือ แหล่งรวมเชื้อชาติ สิ่งที่แปลกตาแปลกใจ อีกหนึ่งที่เที่ยว ที่ต้องไปดู

อ้างอิง

[1] wikipedia. (July 19, 2024). รัฐมะละกา. Retrieved from wikipedia

[2] wikipedia. (March 30, 2023). มะละกา (เมือง). Retrieved from wikipedia

[3] tripadvisor. (2024). สถานที่ท่องเที่ยวมะละกา. Retrieved from tripadvisor

ชายหาดแก้ว ราวกับเพชรที่ระยิบระยับ เป็นชายหาดที่ไม่เหมือนใคร ที่ใครต่อใคร ก็มักจะพูดไปแนวทางเดียวกัน ด้วยความที่ความเป็นมา มาจากขยะที่ถูกถมทิ้งที่นี่

ชายหาดแก้ว หรือ Glass Beach

Glass Beach หรือหาดแก้ว ตั้งอยู่ในอุทยาน รัฐแมคเคอร์ริเชอร์ (MacKerricher State Park) รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ต่างจากชายหาดทั่วไป ที่ปกคลุมด้วยทรายขาว แต่ที่นี่กลับเต็มไปด้วย เศษแก้วหลากสีสัน แวววาวระยับกระแทกเข้าตา [1]

ตำนานตามเล่าขาน

ตำนานเก่าแก่ของชาวพื้นเมืองเล่าว่า ในอดีตมีหมู่บ้านชาวประมง ตั้งอยู่ริมชายฝั่ง ทะเลแห่งนี้ ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้าย คลื่นลมแรง มักมีชาวประมงสูญหาย ในทะเลบ่อยครั้ง ครอบครัวที่สูญเสียคน

อันเป็นที่รัก ต่างโศกเศร้าเสียใจ ร้องไห้คร่ำครวญด้วยความทุกข์ น้ำตาลูกหลาน ที่ไหลร่วงลงสู่ทะเล กลายเป็นแก้วสีสันสดใส นางเงือกผู้เมตตา เก็บแก้วเหล่านั้นไว้บนผมสีทองของเธอ และนำมาปล่อยลงทะเล บรรเทาความโศกเศร้า ของชาวประมง

ที่มา: กลาส บีช หาดทรายแก้วแห่งแคลิฟอร์เนีย [2]

ความเป็นจริงของชายหาดแก้ว

ในความเป็นจริงแล้ว ชายหาดแก้วไม่ได้เกิดจากน้ำตาของนางเงือก แต่เกิดจากเศษแก้ว และขยะที่มนุษย์ทิ้งลงทะเล ชายหาดแก้วเคยเป็นที่ทิ้งขยะ ของเมืองฟอร์ทแบ็ก เป็นเวลานานหลายสิบปี ขยะกองมหึมา รวมไปถึงขวดแก้ว กระจก กองโตบนชายหาด

กาลเวลาผ่านไป คลื่นซัดสาด กัดเซาะ ขยะเหล่านั้น เศษแก้วถูกธรรมชาติบดขยี้ จนคมหาย กลมมน  กลายเป็นหินแก้ว สีสันสวยงาม เกลื่อนกลาดบนชายหาด ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1960 มีการทำความสะอาดชายหาด เก็บกวาดขยะออกไป คงเหลือไว้เพียงเศษแก้วสีสันสดใส อ่านต่อได้ที่ komchadluek

ชายหาดแก้ว กลับกลายเป็นเสน่ห์ดึงดูด

ชายหาดแก้ว

ชายหาดแห่งนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีของปรากฏการณ์ ทางธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลง สิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรม ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จากที่เคยเป็นที่ทิ้งขยะขนาดใหญ่ กลายเป็นชายหาด สุดมหัศจรรย์ ปกคลุมด้วย หินแก้ว

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ชายหาดแก้วจะสวยงาม แต่ก็ยังมีเศษแก้วบางส่วนที่ยังแหลมคม นักท่องเที่ยวที่มาเยือน จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำ อย่างเคร่งครัด [3]

ข้อควรปฏิบัติ

อีกหนึ่งสถานที่ ที่เที่ยวเชิงอนุรักษ์

สรุป ชายหาดแก้ว

สรุป ชายหาดแก้ว สถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นทั้งบทเรียน และแรงบันดาลใจ  เตือนใจให้เราตระหนักถึง ผลกระทบของขยะต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกับเป็นตัวอย่าง ของพลังธรรมชาติ ที่สามารถเปลี่ยนขยะ ให้กลายเป็นสมบัติล้ำค่า

อ้างอิง

[1] trueid. (March 22, 2022). ที่เที่ยวอเมริกา Glass Beach แคลิฟอร์เนีย ชายหาดแก้ว สุด Unseen. Retrieved from trueid

[2] blockdit. (August 8, 2020). กลาส บีช หาดทรายแก้วแห่งแคลิฟอร์เนีย. Retrieved from blockdit

[3] Facebook. (January 9, 2023). ชายหาดแก้ว (Glass Beach California USA). Retrieved from Facebook

ชายหาดสีชมพู เกิดจากสาเหตุใด จึงทำให้สถานที่นี้ มีสีสันหวาน ยิ่งกว่าน้ำตาลหยด แล้วที่เที่ยวแห่งนี้ ยังมีคู่รักจับมือกันมาฮันนีมูนเยอะที่สุด เพราะอะไรบ้าง ติดตามชมในบทความ

ชายหาดสีชมพู ตั้งอยู่บน เกาะฮาร์เบอร์

ชายหาดสีชมพูมีชื่อเสียงที่สุด ในบาฮามาส ตั้งอยู่บน เกาะฮาร์เบอร์ เรียกกันว่า หาดพิงค์แซนด์ (Pink Sands Beach) ชาวบ้านเรียกที่นี่ ก็จะเรียกอีกชื่อว่า Briland และนิตยสาร Forbes เคยยกให้หาดนี้เป็น ชายหาดที่สวยที่สุดในโลก เลยทีเดียว [1]

ความมหัศจรรย์ของหาดสีชมพู

สีชมพูหวานๆ ของหาดนี้ เกิดจาก Foraminifera สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ประเภทแพลงก์ตอน ที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการัง และบนพื้นมหาสมุทร เมื่อพวกมันตาย เปลือกสีชมพูจะแตกละเอียด เป็นเม็ดเล็กๆ ถูกคลื่นพัดพา มาปนกับทรายสีขาว กลายเป็นชายหาดสีชมพู สุดโรแมนติก [2]

สาเหตุที่เกิดสีชมพู บนชายหาด เกิดได้หลายสาเหตุ

คลิกอ่านข้อมูล เพิ่มเติมที่ patourlogy

คู่รักให้ความสนใจกับ ชายหาดสีชมพู

หาดทรายสีชมพู ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม ที่ยากจะบรรยาย แต่ยังมีสิ่ง ที่ทำให้คู่รักหลายๆ คู่ ให้ความสนใจกันอย่างมาก เนื่องจาก มีหาดทรายสีชมพู ดั่งปุยฝ้ายนุ่มนวล ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใส ท้องฟ้าสีคราม และพระอาทิตย์ ตกดินสีทอง

สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติก เหมาะกับการถ่ายรูปคู่ เก็บโมเมนต์ประทับใจ และหาดนี้ อยู่ห่างไกล จากความวุ่นวาย เหมาะกับการพักผ่อน ใช้เวลาร่วมกัน โดยไม่ต้องกังวล เรื่องเสียงรบกวน

วางแพลน ก่อนออกเดินทาง

ที่มา: คู่มือการเดินทางฉบับสมบูรณ์ของบาฮามาส [3]

เลือกช่วงเที่ยวชายหาดสีชมพู เดือนไหนดี

ชายหาดสีชมพู

เดือนธันวาคม - เมษายน ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูแล้ง อากาศอบอุ่น และมีแดดจัด ฝนน้อย หากคุณต้องการ ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การว่ายน้ำ อาบแดด และเล่นวอลเลย์บอลชายหาด เดือนนี้แหละ เหมาะเจาะที่สุด

สรุป ชายหาดสีชมพู

สรุป ชายหาดสีชมพู จะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ เต็มไปด้วยความประทับใจ และความสวยงามของธรรมชาติ ลองไปสัมผัสประสบการณ์บนหาดสีชมพู ด้วยตัวเองสักครั้ง

อ้างอิง

[1] facebook. (May 27, 2020) หาดทรายสีชมพู” บนเกาะฮาร์เบอร์. Retrieved from facebook

[2] anywheremagazine. Pink Sand Beach. Retrieved from anywheremagazine

[3] etichotels. (2024). คู่มือการเดินทางฉบับสมบูรณ์ของบาฮามาส. Retrieved from etichotels

คาสิโนออนไลน์
SEXY BACCARAT
SA GAMING
WM CASINO
PG SLOT
JOKER GAME
โปรโมชั่น
สมาชิกใหม่รับโบนัส
แตกแจกเพิ่ม
ฝากแรกของวัน
กงล้อลุ้นโชค
ขาประจำ
ติดต่อเรา
LINE OA
TELEGRAM
แจ้งปัญหา
Betdog-LogoLINE ID : @bdog9Betdog-line
Betdog-bank
Copyright © 2023 Supported by BETDOG
Logo-BetdogLINE ID : @bdog9Betdog-lineBetdog-bankCopyright © 2023 Supported by BETDOG
Betdog-Homeหน้าหลักBetdog-Promotionโปรโมชั่นBetdogBetdog-RegisterสมัครสมาชิกBetdog-eventกิจกรรม
line-Betdog