ลองเยียร์เบียน อยู่ท่ามกลางหิมะขาวโพลน สูดอากาศบริสุทธิ์ที่ปราศจากมลพิษ ชมแสงเหนือที่เต้นระบำบนท้องฟ้าสีดำสนิท และเรื่องราวประวัติศาสตร์อันยาวนาน ของการทำเหมืองถ่านหิน
ลองเยียร์เบียน (Longyearbyen) เมืองที่ตั้งอยู่บนเกาะสฟาลบาร์ (Svalbard) ของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนแห่งนี้ สถานที่แห่งนี้ เป็นจุดที่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด [1] มีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยธรรมชาติที่งดงาม และวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างการใช้ชีวิต แบบเรียบง่าย และการผจญภัยบนน้ำแข็ง
ลองเยียร์เบียนถูกค้นพบ โดยนักสำรวจ ชาวอเมริกันชื่อ จอห์น มงโร ลองเยียร์ ในปี 1906 และต่อมาได้มีการตั้งชื่อเมืองตามเขา ด้วยศักยภาพด้านถ่านหิน ที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้เมืองนี้ กลายเป็นศูนย์กลาง การทำเหมืองถ่านหิน ที่สำคัญในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ลองเยียร์เบียนกลายเป็นเมือง ที่คึกคักไปด้วยคนงานเหมือง จากหลายประเทศ พวกเขามาตั้งรกราก และสร้างครอบครัวที่นี่ ทำให้เมืองมีการเติบโต อย่างรวดเร็ว และมีการสร้าง สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ขึ้นมา เพื่อรองรับชีวิต ความเป็นอยู่ของคนงาน [2]
แม้ว่าอุตสาหกรรม เหมืองถ่านหิน จะเคยเป็นหัวใจสำคัญ ของลองเยียร์เบียน แต่ปัจจุบันการทำเหมืองถ่านหิน ได้ลดลงอย่างมาก เนื่องจากปัจจัยหลายประการ เช่น ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และความตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แต่ในยุคปัจจุบัน ลองเยียร์เบียนได้ปรับตัว เข้าสู่ยุคใหม่ โดยเน้นการท่องเที่ยว และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เป็นหลัก ทำให้นักท่องเที่ยว ที่สนใจในด้านนี้ หรือ อยากรับการผจญภัยกับธรรมชาติ ในรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะทำกิจกรรม การชมแสงเหนือ การเดินป่า และการล่องเรือชมวาฬ
ที่ลองเยียร์เบียน มีกฎหมายห้ามตายในเมือง เพราะที่นี่อุณหภูมิต่ำตลอดทั้งปี ทำให้ดินแดนส่วนใหญ่ เป็นดินเยือกแข็ง การฝังศพในสภาพแวดล้อมแบบนี้ จะทำให้ศพไม่สามารถย่อยสลาย ได้ตามธรรมชาติ
และอาจก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยะยาว เช่น การปนเปื้อนของดินและน้ำ หากผู้ที่มีอาการป่วยหนัก หรือใกล้จะเสียชีวิต จะต้องถูกส่งตัวไปรักษา ในโรงพยาบาล ที่อยู่ไกลออกไป หรือไม่ก็ต้องเตรียมตัว ที่จะจากโลกนี้ไปในที่เมืองอื่น
ที่มา: รู้หรือไม่ว่าเมืองลองเยียร์เบียน (Longyearbyen) [3]
เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในบริเวณขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ ซึ่งเป็นผลมาจาก การเอียงของแกนโลก การโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้พื้นที่บริเวณขั้วโลก ได้รับแสงอาทิตย์ในปริมาณ ที่แตกต่างกันไปตลอดทั้งปี ทำให้สถานที่นี่ ขึ้นชื่อว่าเป็น ที่เที่ยวเมืองแปลก
แถมยังเห็นปรากฏการณ์อื่นๆ ในช่วงกลางคืนขั้วโลก เราอาจได้เห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ (Aurora Borealis) ซึ่งเป็นแสงสีสวยงาม ที่เกิดจากการชนกันของอนุภาค ที่มีประจุไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์ กับสนามแม่เหล็กโลก
สรุป ลองเยียร์เบียน ล้อมรอบไปด้วยธารน้ำแข็งขนาดใหญ่หลายแห่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างแดน ที่ต้องการสัมผัสความเย็นยะเยือก
[1] wikipedia. (June 22, 2023). Longyearbyen. Retrieved from wikipedia
[2] wikipedia. (June 22, 2023). สฟาลบาร์. Retrieved from wikipedia
[3] facebook. (May 27, 2020). รู้หรือไม่ว่าเมืองลองเยียร์เบียน (Longyearbyen). Retrieved from facebook