ข่าวสารจากครอบครัวของ ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ อยากให้แฟนบอลทั่วโลก ได้รู้ว่าในช่วงต้นปี 2024 นี้ สำหรับวงการลูกหนัง ได้สูญเสียนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ ไปอีกรายแล้ว
ซึ่งวันนี้เจาะลึกถึงความสุดยอดของเขา ไม่ว่าจะทั้งสมัยค้าแข้ง หรือก้าวขึ้นมาเป็นโค้ช Main Stand ขอชวนสาวกฟุตบอล ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ มาติดตามเรื่องราว ของเจ้าตัวกันไปพร้อมๆ กันได้เลย
ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ หรือ Franz Beckenbauer [1] ซึ่งเขาลืมดูโลก เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 1945 ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยช่วงเวลาที่เจ้าตัว เกิดและเติบโตขึ้นมา ชาติบ้านเกิดของเขา กำลังอยู่ภายใต้ซาก ปรักหักพัง หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพิ่งจะสิ้นสุดลงได้ไม่นาน
นอกจากนี้เขามีความผูกพัน และเชื่อมโยง กับกีฬาฟุตบอล ตั้งแต่สมัยยังเด็ก โดยริเริ่มจากการเตะลูกบอลกับกำแพง เบคเคนบาวเอร์ ในวัยเด็กทำแบบนี้อยู่เรื่อยๆ จนพาตัวเองก้าวขึ้นมาเป็น นักเตะเยาวชนของทีม เอสเซ ในปี 1906 นั่นเอง
เบคเคนบาวเออร์ เคยทำเอาไว้กับทีมชาติเยอรมนี ในยุคสมัยที่เขานำทัพ 3 สมัย ในฟุตบอลโลก จนทำให้ได้รับฉายาว่า Der Kaiser นั้นไม่ใช่ได้มาง่าย ทั้งนี้ เขาเริ่มต้นการเล่นฟุตบอล ในตำแหน่งกองหลัง และบางครั้ง จะกลายเป็นสวีปเปอร์ ที่คอยเติมเกมอยู่ตลอดเวลา เมื่อทีมต้องการ
สไตล์เล่นของเจ้าตัวนั้น เรียกได้ว่าเป็นฝันร้าย สำหรับคู่ต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประสานงานกับ เกิรด์ มุลเลอร์ ทำให้ทีมชาติเยอรมัน คว้าแชมป์บอลโลก มาครองได้ในปี 1974 นั่นเอง
เหนืออื่นใด เบคเคนบาวเออร์ ยังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ในฐานะผู้จัดการทีม และ นักเตะรายที่สองเช่นเดียวกับ มาริโอ ซากาโล่ เมื่อเขารับบทบาท เป็นกุนซือพาทีม อินทรีเหล็ก คว้าแชมป์ได้ ในปี 1990 อีกด้วย
ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ ได้รับการยอมรับว่า เป็นตำนานลูกหนังที่ดีที่สุด เท่าที่โลกเคยมีมาก่อน และถือว่าเขาเป็นหนึ่ง ในสามคนของประวัติศาสตร์ ของวงการโลกฟุตบอลเลยทีเดียว
[1] วิกิพีเดีย. (February 18, 2024). ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์. Retrieved from th.wikipedia