เนื่องจาก จื่อหนานเจิน หรือเข็มทิศของทาง ชาวจีนโบราณ ซึ่งได้คาดการณ์ว่ามีประวัติยาวนานมามากกว่า 2,000 ปี โดยรูปร่างคล้ายกับช้อน ซึ่งในสมัยนั้นจะใช้เป็นตัวนำทาง ที่ถือว่ามีความแม่นยำที่สุดในช่วงนั้น ไม่ว่าจะเดินทางบนเรือ หรือ เดินทางในป่าใหญ่ ก็สามารถหาเส้นทางไปต่อได้ เป็นต้น
ซึ่งจะมีการอธิบายที่เกี่ยวกับ จื่อหนานเจิน หรือเรียกว่า ซือหนาน โดยมีหน้าที่ที่เป็นตัวนำทาง เพื่อจะเป็นการนำทางไปสู่เส้นที่ ที่ตนเองอยากไป และทักษะของเข็มทิศนั้นจะสามารถหมุนได้อย่างอิสระ ซึ่งต่อมาก็ถือได้ว่าเข็มทิศรูปแบบ นิยมอย่างมากในกลุ่มคนเดินเรือ [1]
โดยต่อมาจึงส่งผล ให้การเดินเรือนั้นมีความสำคัญอย่างมาก โดยเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สำคัญของเทคนิคด้านการเดินเรือ จึงทำให้เศรษฐกิจการขนส่งทางเรือได้รับการพัฒนาอย่างสูงขึ้น ได้แก่ขนส่ง งาช้างดำ และ อาหารต่างๆ พร้อมกับเหล่านักเดินเรือก็ได้เอาการเดินเรือด้วยเข็มทิศ ไปกระจายแพร่หลาย ในหลายๆ พื้นที่
โดย ประวัติความเป็นมา ของจื่อหนานเจิน หรือ เข็มทิศซือหนาน นั้นจะต้องย้อนกลับไปที่ยาวนานมากกว่า 2,000 ปี ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในยุคของจั้นกว๋อ แต่เป็นที่รู้จักกันเป็นจำนวนมาก ด้วยโคลัมบัสที่เป็นนักเดินเรือ คนแรกที่สามารถแล่นไปทั่วโลก จนพบทวีปอเมริกา
ซึ่งเหล่าผู้คนก็สงสัยว่า เพราะเหตุใดเขาถึงสามารถค้นพบทวีปอเมริกา หรือ เดินทางทั่วโลกได้ ซึ่งก่อนที่โคลัมบัสจะได้เดินทางนั้น ก็มีชาวจีนในราวๆ 70 ก่อนหน้านั้น ได้เป็นเขาผู้นี้ที่มีนามว่า เจิ้งเหอ ซึ่งได้นำเข็มทิศมาใช้กับการ เดินเรือ ในช่วงสงครามตอนนั้นๆ [2]
โดยจื่อหนานเจิน จะประกอบไปด้วยลักษณะที่คล้ายกับ จาน และ ช้อน ซึ่งลักษณะช้อนนั้นจะมีรูปร่างเรียบพร้อมกับความมัน โดยจานที่รองช้อนนั้นจะมีชื่อว่า ตี้ผาน หรือ จานบ่งบอกทิศทาง โดยจะทำขึ้นมาจากทองแดง หรืออาจจะเป็น ไม้ โดยส่วนช้อนนั้น จะสามารถหมุนและ หยุด เพื่อที่บ่งบอกทิศทาง
โดยช้อนที่บ่งบอกทิศจะมีชื่อว่า ซือหนาน หรือ เข็มชี้ทิศใต้ โดยหลังจากนั้นก็ได้มีผู้เชี่ยวชาญด้านเข็มทิศได้เริ่มประดิษฐ์เข็มทิศแบบใหม่ ที่สามารถตั้งขึ้นได้ โดยจะมีชื่อเรียกว่า จื่อหนานกุย (เต่าชี้ทิศ) และ จื่อหนานอี๋ว์ (ปลาชี้ทิศ) สามารถคลิกเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ digitalschool.club
โดยเข็มทิศแบบดั้งเดิม อย่างจื่อหนานเจิน ได้มีการแพร่กระจายไปสู่ทวีปอเมริกา ด้วยนักเดินเรือชาวจีน ที่ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน ซึ่งก็ถือว่าการแพร่กระจายเข็มทิศให้กับชาวยุโรป ก็ได้เริ่มการพัฒนาให้มีความทันสมัยมากขึ้น ด้วย ฝีมือชาวยุโรปที่ได้รับมาจากชาวจีน
โดยเป็นวัดที่ของ จื่อหนานกงไต้หวัน ที่เป็นวัดขอพรสำหรับเทพพระเจ้าโชคลาภแถมคนส่วนใหญ่ยังบอกได้ว่าเป็นวัดที่ ขอเงินขอพรได้ ส่วนใหญ่เหล่าพ่อค้าจะนิยมที่ชอบเข้าไปขอพรเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อกันว่าวัดนี้จะช่วยทำมาค้าขายขึ้น
ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ ประเทศไต้หวัน ในเมืองฮุยชาน บริเวณหัวเมืองน่าน บนถนนอุปทาน ในเลขที่ 40 โดยถือว่าเป็นวัดแห่งหนึ่งที่เป็น 1 ใน 3 ของวัดที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน นอกจากการขอพรแล้วนั้นยังมี การจำหน่ายของที่ระลึกอย่างจื่อหนานเจิน หรือเข็มทิศนั้นเอง [3]
โดย เข็มทิศชนิดนี้นั้น จะมีความพิเศษเรื่องของความทนทาน ที่สามารถทนได้ทุกสภาพอากาศ โดยทักษะพิเศษจะเป็นการบ่งบอกถึงทิศทางที่จะไป ซึ่งจะระบุได้บนช้อนข้างบน เพื่อที่จะรับรู้ทิศทางที่จะเดินไป ซึ่งยังเป็นสิ่งพิเศษสำหรับเข็มทิศชนิดนี้ เป็นต้น
แถมยังได้ถูกพัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อโลกได้ผ่านเวลาไป ซึ่งยังไม่หมดเท่านั้นยังเพิ่มทักษะต่างๆตามเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่พัฒนาเข็มทิศแบบนี้ โดยยังทำให้ขนาดในการพกพาได้เล็กลง เพื่อเพิ่มความสะดวกสะบาย ในการหยิบจับ เอาออกมาใช้ในช่วงต่างๆ
สรุป จื่อหนานเจิน นั้นจะมีการอธิบายเกี่ยวกับเข็มทิศในลักษณะนี้ พร้อมกับบ่งบอกถึงประวัติความเป็นมา และ ลักษณะที่สำคัญอย่างโดดเด่น ซึ่งยังไม่หมดเท่านั้นยังมีการแพร่กระจาย ของเข็มทิศรูปแบบนี้ในหลากหลายทวีป รวมถึงการแนะนำสถานที่ ที่มีจื่อหนานเจิน เป็นต้น
[1] salika. (February 16, 2020). กระดาษ-แท่นพิมพ์-เข็มทิศ. Retrieved from salika
[2] board.postjung. (November 11, 2012). เข็มทิศ. Retrieved from board.postjung
[3] wonderfulpackage. (2024). ขอเงินได้เงิน. Retrieved from wonderfulpackage