เหรียญ Chiliz อีกหนึ่งบล็อกเชนที่สร้างขึ้นมาจากพื้นฐานของ Ethereum บล็อกเชน หรือบน ERC20 ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่ต่างจากคริปโตทั่วไป ตรงที่มันเป็นสำหรับโลกของกีฬาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกีฬาระดับโลกอย่างฟุตบอล และอีสปอร์ตในบางทีม บทความนี้จึงเป็นการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประวัติ ฟีเจอร์ และความน่าสนใจของเหรียญดังกล่าว
โดยโปรเจกต์นี้ก็ไม่ได้เป็นตัวใหม่ๆ ในวงการคริปโต ซึ่งมีการเริ่มพัฒนาเหรียญนี้ตั้งแต่ปี 2018 แล้ว จากนักธุรกิจ และผู้พัฒนาตัวหลักหลายๆ คน ก่อนจะสามารถสร้างเชนได้สมบูรณ์ และเป็นรูปเป็นร่างเมื่อปี 2020 ซึ่งโครงการนี้ก็สร้างมาบนความสำเร็จของ 3 ผู้สร้างหลักๆ ดังนี้
ผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปี ผู้ซึ่งมีความสามารถในการระดมทุนต่างๆ มาสร้างธุรกิจ โดยเฉพาะกับเทคโนโลยี Web-based และยังเคยเป็นผู้บุกเบิก การสร้างเว็บไซต์ท่องเที่ยวกับ Webcity ผู้ร่วมก่อตั้ง และถูกซื้อต่อไปในเวลาไม่นาน โดยปัจจุบันเขาเป็น CEO ของ CHZ
มีประสบการณ์เกี่ยวกับการสร้างแอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มในธุรกิจเกม และสื่อดิจิทัลมามากกว่า 17 ปี โดยเคยร่วมพัฒนาซอฟต์แวร์ iGaming สร้างโซลูชันการชำระเงิน B2C, CRM สำหรับธนาคารอีกด้วย ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CTO หรือ Chief Technology Officer ให้กับเชนของชิลิซ
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านงานครีเอทีฟในวงการของแวดวงดิจิทัลมานานกว่า 13 ปี เป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ และยังเป็นผู้กำหนดกลยุทธ์เนื้อหา ให้สำหรับลูกค้าที่เพิ่งเริ่มต้นที่ New Coast Ventures พร้อมเคยออกแบบแนวคิดเชิงพาณิชย์ให้หลายบริษัทอย่าง McDonald’s, Nestle และ Sony (PlayStation) ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Chief Strategy Officer
ที่มา: ทำความรู้จัก Chiliz (CHZ) เหรียญที่จะมารันวงการเชียร์กีฬาทั่วโลก [1]
ชิลิซ เป็นโทเค็นดิจิทัลที่ออกให้กับหลายแพลตฟอร์มของกีฬา ที่เป็นการร่วมมือกับหลายสโมสรกีฬา ให้ผู้ใช้สามารถนำ Fan Token ที่มีอยู่เป็นหลักประกัน เพื่อแลกกับส่วนร่วมในการออกความคิดเห็นพิเศษ ที่ขับเคลื่อนการตัดสินใจของสโมสรได้ นอกจากจะเป็นแค่เหรียญที่ซื้อขายได้บนกระดานเทรดเหมือนคริปโต
ปัจจุบันมีอุปทาน 8.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนหนึ่งก็นำไป Pre Sale ให้กับผู้ที่สนใจสโมสรต่างๆ และมีการตรวจสอบธุรกรรมต่างๆ ผ่านระบบหรือกลไกยอดนิยมอย่าง Proof-of-Stake โดยผู้ตรวจสอบความถูกต้องจะถูกคัดเลือกจากผู้สมัครที่รับประกันความปลอดภัยอีกที่ และเป็นเชนที่ทำงานบน ERC-20 ซึ่งเข้ากันได้กับเชนอื่นด้วย เช่น บล็อกเชน BEP-2, TRC-20 และ Solana [2]
สำหรับคุณสมบัติของเหรียญนี้ ด้วยความเป็นเชนที่ทำงานบนอีเธอเรียมจะมีคุณสมบัติต่างๆ ตามเชนรุ่นใหม่ที่สามารถปรับขนานได้ดี การใช้พลังงานตรงตามโจทย์ของธีมพลังงานโลกได้ และนี่ก็คือคุณสมบัติที่เด่นเป็นหลักของ Chain นี้ซึ่งทำให้เป็นดั่งนวัตกรรมใหม่ๆ ที่กำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมการกีฬา
ที่มา: การเพิ่มขึ้นของ Chiliz Blockchain: ปฏิวัติอุตสาหกรรมกีฬาและความบันเทิง [3]
FanTokenRank โปรเจกต์นี้เปิดตัวมา เพื่อการรักษาความโปร่งใสให้ธุรกรรมของเหรียญตัวนี้ โดยสร้างมาจากแพลตฟอร์มแบบครบวงจร ที่มีทั้งการตรวจสอบราคา แผนภูมิ ปริมาณ สถิติต่างๆ และมูลค่าตลาดโดยรวม ซึ่งวัตถุประสงค์หลักๆ ที่มีเพียงอย่างเดียวของโปรเจกต์นี้คือการปรับปรุงความสามารถในการอ่านข้อมูลที่รวบรวมได้จาก Socios.com
และ FanTokenStats ก็เป็นอีกโครงการหนึ่งที่เป็นเว็บไซต์ รวบรวมนำข้อมูลเกี่ยวกับ Fan Token ได้แบบเรียลไทม์ เว็บไซต์นี้จึงเป็นแหล่งรวมข้อมูลต่างๆตั้งแต่ภาพรวมของมูลค่าตลาด, ผู้ที่ได้รับผลกำไรสูงสุดรายวัน, ไปจนถึงข้อมูลบล็อกเชน สภาพคล่องของคำสั่งซื้อขาย และอุปทานที่ล็อกไว้ในส่วนต่างๆ [2]
โดยเชนนี้ก็มีการสร้างออกมาเป็นแพลตฟอร์ม รวมถึงเว็บไซต์ต่างๆ ที่หลายหลายแบบ และยังเป็นแอปหรือเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ที่เป็นโปรเจกต์ที่เชื่อมต่อสโมสรกีฬาเข้ากับฐานแฟนคลับ และแพลตฟอร์มกระดานเทรดที่ซื้อขายคริปโตได้ทั่วไป และเน้นไปที่ Fan Token ซึ่งก็มีดังนี้
ที่มา: บล็อกเชนแห่งโลกกีฬาและความบันเทิง [4]
สำหรับราคาของเหรียญนี้จากราคา ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2024 ก็อยู่ที่ประมาณ 0.07759 ดอลลาร์ หรือราว 2.86 บาทเท่านั้น แต่ถึงแม้มูลค่าจะน้อย แต่ในเรื่องของมูลค่าการตลาดที่มีแฟนกีฬาต่างๆ เข้ามาใช้บริการจำนวนไม่น้อย จึงทำให้มีมูลค่าตลาดสูง และได้เป็นเหรียญอันดับที่ 98 ของคริปโตทั้งหมด โดยก็มีรายละเอียดอื่นๆ ดังนี้
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ coinmarketcap
เหรียญที่ออกแบบขึ้นมาไม่ได้หวังเรื่องการตรึงมูลค่า แต่เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่สูง และปัญหาระหว่างแฟนกีฬาที่มีมากเกือบครึ่งโลก ซึ่งก็ประสบความสำเร็จจากการมียอดการซื้อขายที่สูงเป็นอันดับ 98 เลย ถึงแม้จะมีราคา ไม่ถึง 1 ดอลลาร์ก็ตาม ซึ่งเป็นเหรียญที่ไม่มีการจำกัด Max Suply และไม่มีการเบิร์นเหรียญออก
[1] bitkub. (2024). ทำความรู้จัก Chiliz (CHZ) เหรียญที่จะมารันวงการเชียร์กีฬาทั่วโลก. Retrieved from bitkub
[2] securities. (September 5, 2023). การลงทุนใน Chiliz (CHZ) - ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้. Retrieved from securities
[3] coinex. (November 11, 2023). การเพิ่มขึ้นของ Chiliz Blockchain: ปฏิวัติอุตสาหกรรมกีฬาและความบันเทิง. Retrieved coinex
[4] finnomena. (August 30, 2023). บล็อกเชนแห่งโลกกีฬาและความบันเทิง. Retrieved finnomena
เหรียญ Kusama เหรียญคริปโตน้องใหม่ที่มีความเกี่ยวข้องกับรุ่นพี่ที่เป็นดั่งศูนย์รวมของบล็อกเชนต่างๆ อย่าง เหรียญ polkadot โดยเหรียญนี้เป็นเหรียญอันดับ 157 ที่สามารถทำธุรกรรมที่เร็วกว่ารุ่นพี่และมีค่าธรรมเนียมถูกกว่าด้วย บทความนี้จึงเป็นการพูดถึงความน่าสนใจของเหรียญนี้ และไปดูว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรกับเหรียญดอท
เหรียญนี้สร้างขึ้นมาในปีเดียวกันกับปรากฏการณ์ Bitcoin Halving หรือในปี 2019 โดยผู้พัฒนาคนเดียวกับเหรียญดอท คือคุณ Gavin Wood พร้อมกับทีมงานอีกหยิบมือ และสร้างมาจากพื้นฐานของโค้ดตัวเดียวกันกับ DOT เหรียญนี้จึงเปรียบเป็นญาติห่างๆ ของเหรียญดอทที่มีนิสัยซุกซน (จากการระบุของคุณ Gavin) หรือในสโลแกน “Polkadot’s wild cousin”
KSM ใช้ฐานรหัสเดียวกัน และโครงสร้างเดียวกัน แต่ทำงานได้เร็วกว่ามันจึงเหมาะกับนักพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่ต้องการความเร็วในการดำเนินธุรกรรมนั่นเอง และในการจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ของเหรียญดอท พวกเขาก็จะมีการทดสอบด้วย Kusama ก่อนว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็จะใส่เข้าไปในเหรียญดอท โดยไม่ต้องทดลองหรือปรับอะไรอีกมากมาย [1]
โดยเหรียญนี้เป็นเหรียญรูปนกที่มีระบบนิเวศแบบ Blockchain ทำงานร่วมกับเชนอื่นได้ ไม่ว่าจะใช้ในการเชื่อมต่อเชน หรือในการสร้างแอปพลิเคชัน dApp ต่างๆ ที่นักพัฒนาสร้างขึ้นเข้ากับเครือข่ายของเหรียญนี้ พร้อมการทำงานกับระบบฉันทามติแบบ PoS ที่สามารถนำเหรียญมา Stake เพื่อแลกกับการเป็น Validators ที่ช่วยยืนยันข้อมูลการทำธุรกรรมบนเครือข่ายเพื่อรับรางวัลเป็นเหรียญ KSM ได้
ที่มา: Kusama (KSM) คืออะไร? [2]
สัญญาอัจฉริยะ หรือ Smart Contract เทคโนโลยีที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอป และโทเค็นต่างๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์เด่นของบล็อกเชนนี้ ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ถูกนำไปใช้ในธุรกรรมแทบจะทุกสิ่ง ในการสร้างสัญญาอัจฉริยะก็จะทำงานในบล็อกเชน และเหรียญในกลุ่มนี้ ได้แก่ Ethereum, Cardano, Polkadot (DOT), เหรียญนี้ และอีกหลายเชนเลย
ที่ระบุว่าเป็นสิ่งที่ถูกนำไปใช้ในธุรกรรมแทบจะทุกสิ่ง ก็เพราะสัญญานี้สามารถสร้างเงินไขที่เรียกได้ว่า WinWin สองฝ่าย และยังแก้ไขไม่ได้ หากตรงไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้แล้วก็จะมีการโอนโดยอัตโนมัติ มันจึงไม่ต้องการตัวกลางที่มีความน่าเชื่อถือ หรือเอกสารสัญญาที่เกี่ยวกับกฎหมายเลย โดยก็มีแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วยสัญญาตัวนี้ที่ได้รับความนิยมอยู่หลายตัวเลย
ที่มา: Smart contract (สัญญาอัจฉริยะ) คืออะไร? [3]
จากที่ระบุไปข้างต้นว่าเชนของ KSM นั้นเป็น Testnet ให้กับเชนหลักอย่างเหรียญดอท พื้นฐานโค้ดของ 2 เครือข่ายนี้จึงต้องเหมือนกันแทบทุกประการ แต่ก็มีจุดที่แตกต่างสำคัญของเครือข่ายเหล่านี้ ซึ่งก็มีความแตกต่างหลักๆ อยู่ 3 ประการดังนี้
ที่มา: ความแตกต่างระหว่าง Kusama และ Polkadot [4]
เครือข่ายนี้จริงๆ แล้วใช้ระบบฉันทามติแบบ Nominated Proof of Stake หรือ NPoS ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ถือเหรียญ KSM สามารถมีสิทธิ์ในการเป็นผู้ตรวจสอบรายการธุรกรรมต่างๆ ให้เชนนี้ได้ แต่จะมีอีกตำแหน่งอย่างผู้เสนอชื่อผู้ตรวจสอบอีกทีเรียกว่า Nominator เพื่อตรวจรายการข้อมูลของผู้ตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งมันทำให้เครือข่ายนี้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกว่า PoS แบบธรรมดา
และเทคโนโลยี Relay Chain และ Parachains โดยเป็นการสร้างลักษณะเฉพาะตัวให้เครือข่ายนี้เกิดความยืดหยุ่นในส่วนของการออกแบบ และสามารถเสริมสร้างความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น ให้มีความสบายใจ กับมีโครงสร้างภายในให้ปรับไปมาได้อย่างง่าย มันจึงดึงดูดผู้ใช้ต่างๆ ให้เข้ามาใช้ระหว่างที่กำลังพัฒนาได้ ให้มีความปลอดภัยที่มากขึ้นตามจำนวนผู้ใช้งาน [2]
สำหรับเหรียญนี้เป็นเหรียญคริปโตเพื่อเป็นค่าธรรมเนียม และการ Staking ที่เด่นในฐานะคริปโตสายสัญญาอัจฉริยะ ที่อยู่อันดับ 157 ในปัจจุบัน โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 23.65 ดอลลาร์ หรือราว 869.74 บาท ราคา ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2024 ซึ่งยังมีรายละเอียดต่างๆ ที่น่าสนใจดังนี้
เข้าไปดูรายละเอียดของเหรียญนี้เพิ่มเติมที่ coinmarketcap
เหรียญน้องใหม่ที่ใช้ระบบพื้นฐานแบบเดียวกับ โพลกาดอท แทบทั้งหมด ซึ่งมีความแตกต่างมานิดหน่อยเท่านั้น และเป็นบล็อกเชนหลักที่ใช้ในการทดลอง หรือทดสอบโปรเจกต์ใหม่ๆ หรือทดลองฟีเจอร์ใหม่ของเชนรุ่นพี่อย่างดอทนั่นเอง
[1] bitkub. (September 8, 2024). Kusama ญาติตัวป่วนของ Polkadot!. Retrieved from bitkub
[2] bitkubacademy. (October 6, 2021). Kusama (KSM) คืออะไร?. Retrieved from bitkubacademy
[3] mitrade. (October 16, 2023). Smart contract (สัญญาอัจฉริยะ) คืออะไร?. Retrieved mitrade
[4] bitkub. (February 18, 2023). ความแตกต่างระหว่าง Kusama และ Polkadot. Retrieved support.bitkub
เหรียญ TON น้องใหม่ในวงการคริปโตที่เป็นเหรียญ เลเยอร์ 1 แบบเดียวกับ Ethereum บล็อกเชน โดยเป็นเหรียญที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม และยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกัน ซึ่งเหรียญนี้ยังเป็นเหรียญ ที่บริการเกี่ยวกับระบบเครือข่าย และพื้นที่เก็บข้อมูลแบบกระจายความเสี่ยง บทความนี้จึงพูดถึงเกี่ยวกับประวัติการก่อตั้งเหรียญนี้ การทำงาน และความน่าสนใจต่างๆ
โปรเจกต์นี้เดิมที่เริ่มก่อตั้งขึ้นมาในปี 2020 สร้างโดยพี่น้องตระกูล Durov ในรัสเซีย ซึ่งช่วงแรกก็มีชื่อว่า Gram เนื่องจากโครงการนี้มีการร่วมกับทีมนักพัฒนาของแอปพลิเคชัน Telegram ที่ต้องการมีเหรียญคริปโตเป็นของตนเอง พร้อมสร้างระบบที่รองรับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์อีกด้วย [1] ซึ่งระหว่างพัฒนาก็มีทั้งอุปสรรค และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมาย
ที่มา: Toncoin (TON) คืออะไร? รู้จักคริปโตน้องใหม่สายพันธุ์รัสเซีย [2]
คือคริปโตในที่ทำงานอยู่บนบล็อกเชนแบบ layer-1 ที่ได้รับการพัฒนาจากแพลตฟอร์มแชตอย่าง Telegram ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เปิดใช้งานธุรกรรมบล็อกเชนที่รวดเร็ว ปรับขนาดได้ โดยทำงานที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย จากการใช้ระบบฉันทามติแบบ Proof of Stake ที่ไม่ต้องใช้เครื่องขุด และใช้พลังงานไฟฟ้าแต่อย่างใด
จุดเด่นที่สำคัญของเหรียญนี้คือ ความสามารถในการประมวลผล หรือมีการตรวจสอบธุรกรรมได้รวดเร็วระดับวินาที ซึ่งเครือข่ายนี้เคยทำลายสถิติในด้านของการประมวลธุรกรรมในปี 2021 ด้วยความเร็วกว่า 55,000 ธุรกรรมต่อวินาที ซึ่งในปัจจุบันอาจสามารถไปถึงหลักแสน หรือเป็นล้านได้สบายๆ [2]
แอปพลิเคชันที่มีจุดเด่นในเรื่องของความเร็ว และความปลอดภัยสูง พร้อม Secret Chat ที่ทุกบทสนทนาภายในห้องลับนี้ กลายเป็นข้อมูลลับสุดยอด แถมไม่มีใครสามารถนำออกจากห้องนั้นได้ ซึ่งเป็นฟีเจอร์เด็ดที่นักธุรกิจทั่วโลกวางใจ และนิยมใช้กัน อีกทั้งการสร้าง Group Chat 1 กลุ่มก็สามารถดึงสมาชิกได้สูงสุดกว่าแสนคน และการใช้งานได้ทั้งแบบ วิดีโอคอล การทำโพล ไปจนถึงการทำ Bot ได้
ที่มา: Telegram คืออะไร? ทำไมนักธุรกิจนิยมใช้ มาหาคำตอบกันครับ [3]
ในด้านคุณสมบัติของเหรียญนี้ หลักๆ จะมีความสามารถในการ sharding ที่มีการทำงานของบล็อกเชนในบล็อกใหญ่อีกที่ ซึ่งทำให้ธุรกรรมจำนวนมากมีการทำงานทั้งในบล็อกหลัก และในบล็อกเชนรองได้หากเชนหลักมีความจุมากเกินไป โดย shard chain ก็จะทำหน้าที่เป็นห่วงโซ่ย่อยของเชนหลักอีกที พร้อมคุณสมบัติอื่นๆ ที่โดดเด่น
คุณสมบัติหลัก
บริการต่างๆ
ที่มา: Toncoin (TON) คืออะไร? รู้จักคริปโตน้องใหม่สายพันธุ์รัสเซีย [2]
เหรียญดังกล่าวนี้ ใช้ระบบการขุด หรือระบบฉันทามติแบบ Proof-of-Stake ที่เป็นการให้ผู้ใช้งานหรือมีเหรียญนี้อยู่แล้วสามารถฝากเข้ามาในเครือข่ายเชนหลักได้ เพื่อขอการตรวจสอบธุรกรรม ซึ่งหลักการตรวจสอบสำเร็จก็จะได้รางวัลหรือผลตอบแทนเป็นเหรียญเพิ่มเติม โดยสิทธิ์การตรวจสอบก็จะมีการสุ่มอีกที
โดยระบบนี้ก็ลดการใช้พลังงานจากไฟฟ้าแบบการขุดเหรียญเก่าๆ อย่างระบบ Proof of work ที่ต้องแข่งกันประมวลผล และมีค่าใช้จ่ายที่สูง แถมระบบนี้ยังทำให้โครงข่ายของเชนนี้สามารถขยายตัว และน่าเชื่อถือ พร้อมจุดเด่นในด้านการให้บริการด้านการเงินที่มีค่าธรรมเนียมถูกมาก และแน่นอนว่ารวดเร็วสุดๆ [1]
เหรียญที่เติบโตขึ้นมาเป็นอันดับ 8 อย่างรวดเร็วในด้านของมูลค่าตลาดโดยรวม และในด้านของแอปพลิเคชันก็มีผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 2020 ซึ่งราคาของเหรียญนี้ ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2024 ก็อยู่ราวๆ 7.41 ดอลลาร์หรือประมาณ 272.37 บาท ซึ่งก็มีรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเหรียญนี้อีกมากมายดังนี้
เข้าไปดูรายละเอียดของ Toncoin เพิ่มเติมที่ coinmarketcap
เหรียญจากแอปที่เป็นเจ้าของเดียวกับ vk อย่างแอปพลิเคชันแชต Telegram ที่เริ่มเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก และมีหลายบริษัท หลายสำนักงาน รวมไปถึงนักธุรกิจใช้กัน โดยมีการสร้างเครือข่ายคริปโตขึ้นมาในเลเยอร์ 1 และได้เป็นเหรียญที่ขึ้นมาเป็นอันดับ 8 ของโลกคริปโตแล้วในตอนนี้
[1] coinex. (November 13, 2023). Toncoin คืออะไร และจะซื้อ TON ได้อย่างไร?. Retrieved from coinex
[2] siambitcoin. (March 23, 2024). Toncoin (TON) คืออะไร? รู้จักคริปโตน้องใหม่สายพันธุ์รัสเซีย. Retrieved from siambitcoin
[3] thegenc. (March 27, 2022). Telegram คืออะไร? ทำไมนักธุรกิจนิยมใช้ มาหาคำตอบกันครับ. Retrieved ananda
เหรียญ LTC หรือ Litecoin คือสกุลเงินดิจิทัลอีกตัวที่มีความน่าสนใจ และมีการใช้งานโดยจ่ายชำระค่าบริการต่างๆ ได้ในหลายที่ของยุโรป และอเมริกาเหนือ เหรียญที่มีแนวคิดและการผลิตคล้ายกับบิตคอยน์ แต่จะมีความเบากว่าสมชื่อทั้งมูลค่า และสภาพคล่องการใช้จ่ายที่เร็วกว่า ในขณะที่ BTC เปรียบเป็นทอง LTC ก็เปรียบเป็นเงินแห่งวงการคริปโตนั่นเอง
เหรียญนี้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2011 จาก Charlie Lee ที่มีจุดประสงค์เพื่ออิสรภาพของการใช้เงิน โดย Charlie เขาเคยทำงานให้กับ Google และ Coinbase มาก่อน เขาจบการศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์จาก Massachusetts Institute of Technology และเริ่มสร้างเหรียญนี้จากการรู้จักบิตคอยน์ไม่นาน และเห็นประสิทธิภาพของเงินแบบกระจายอำนาจนี้
โดยในเดือนตุลาคม 2011 เหรียญนี้ก็ได้กำเนิดออกมาโดยให้โครงสร้างของเหรียญตัวนี้กินพื้นที่ให้น้อยกว่า Bitcoin พร้อมการสร้างบล็อกที่เร็วกว่าถึง 4 เท่า ด้วย เหรียญนี้จึงมีความสามารถเป็นตัวกลางสำหรับการส่งผ่านมูลค่า ที่ใช้ชำระสำหรับการชำระสินค้าหรือบริการในชีวิตประจำวันมากกว่าซื้อเพื่อกักเก็บมูลค่า หรือความมั่งคั่งไว้แบบบิตคอยน์ [1]
Litecoin สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อให้มีการชำระเงินแบบไม่ต้องการธนาคาร หรืออำนาจจากส่วนกลางมายืนยันธุรกรรมให้ ธุรกรรมยังมีความปลอดภัยสูงผ่านการเข้ารหัสและตรวจสอบผ่านหลายล้านยูสเซอร์ในบล็อกเชน ไลท์คอยน์ยังมีการจำกัดเหรียญ และยังมีกลไก Halving แบบบิตคอยน์ เพื่อควบคุมมูลค่าของเหรียญได้ ซึ่งการขุดก็ทำแบบเดียวกับ BTC แต่ก็ไม่เหมือน 100%
สำหรับจุดเด่นของเหรียญดังกล่าวนอกจากจะเปรียบเป็นเงิน และมีการใช้งานพร้อมเปิดให้ซื้ออย่างเสรีในยุโรป และอเมริกาในปัจจุบันแล้ว เหรียญนี้ก็ยังมีจุดเด่นอีก 3 จุดเด่น ที่แตกต่างจากเหรียญต้นแบบ หรือลูกพี่ของเหรียญนี้อย่างบิตคอยน์ด้วย และยังมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้กับเหรียญนี้ด้วย
จุดเด่นของเหรียญ
เทคโนโลยีน่าสนใจ
ที่มา: Litecoin (LTC) คืออะไร? [3]
อีกหนึ่งสิ่งที่เหรียญนี้ที่สร้างเมื่อปี 2011 ก็คือเงื่อนไขในการผลิตเหรียญที่ถูกใส่เข้าไปในโค้ด โดยทุกๆ 4 ปี ก็จะมีวัฏจักรแบบเดียวกับ BTC ก็คือการลดจำนวนรางวัลของไลท์คอยน์ ที่จะได้ต่อการตรวจสอบ หรือการ Halving นั่นเอง ซึ่งนี่เป็นการรักษามูลค่าอีกแบบหนึ่งเพื่อควบคุมอุปทานของเหรียญให้ไม่เฟ้อในระบบเกินไป ซึ่งก็มีการเกิดไปแล้วถึง 3 ครั้ง
ที่มา: Litecoin halving: what you need to know [4]
โดยราคาของเหรียญไลท์คอยน์นี้ ปัจจุบันอยู่ที่ 73.83 ดอลลาร์หรือราว 2,707.23 บาท (ราคา ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2024) โดยเป็นเหรียญอันดับ 20 ที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 5.51 พันล้านดอลลาร์ และเคยมีประวัติสถิติสูงสุด หรือ All time high หลัง บิตคอยน์ ฟื้นตัว โดยไปแตะ 410.26 ดอลลาร์ต่อเหรียญเลย ซึ่งรายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มีดังนี้
ดูรายละเอียดของ Litecoin เพิ่มเติมที่ coinmarketcap
ไลท์คอยน์มีรหัสสาธารณะเพื่อส่งและรับการชำระเงินด้วย Wallet กับร้านค้าและบริการต่างๆ โดยรหัสสาธารณะหรือ public key ก็ทำหน้าที่เหมือนหมายเลขบัญชีธนาคาร ซึ่งทำงานร่วมกันกับคีย์ส่วนตัวเสมือนการเข้ารหัสแบบ PIN และจะถูกส่งไปยังเครือข่าย peer-to-peer ให้ชำระเงินได้แบบไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางใดๆ แถมโอนได้ในเวลาไม่กี่นาที และทำได้กี่บาทก็ได้ [2]
ซึ่งในอเมริกาเหนือ และบางพื้นที่ในยุโรปยังสามารถซื้อเหรียญนี้ได้ผ่านตู้กดเงินอย่าง ATM ได้เลย และยังมีร้านขายสินค้า และธุรกิจเกี่ยวกับการบริการต่างๆ กว่า 20,000 แห่งรับชำระเงินแบบใช้ LTC ด้วย ให้หลายคนสามารถชำระเงินได้แบบง่าย และรวดเร็วค่าธรรมเนียมต่ำกว่าบิตคอยน์ และการจ่ายในหลายๆ แบบ
เหรียญที่รับอิทธิพลของบิตคอยน์มาเต็ม โดยมีหลักการและการสร้างเหรียญในแบบ PoW แบบเดียวกัน ซึ่งต่างกันที่ขั้นตอน กับจุดประสงค์นิดหน่อย เหรียญนี้จึงเหมาะเป็นเหรียญเพื่อส่งต่อมูลค่ามากกว่า จะเป็นการซื้อเก็บไว้ ซึ่งก็มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ในอเมริกาและยุโรป
[1] finnomena. (March 7, 2023). Litecoin: แร่เงินแห่งโลกคริปโตเคอร์เรนซี. Retrieved from finnomena
[2] cryptosiam. (August 2, 2023). Litecoin คืออะไร และทำงานอย่างไร?. Retrieved from cryptosiam
[3] bitkubacademy. (September 7, 2021). Litecoin (LTC) คืออะไร?. Retrieved from bitkubacademy
[4] skilling. (March 28, 2024). Litecoin halving: what you need to know. Retrieved from skilling
เหรียญ PYUSD สกุลเงินดิจิทัลใหม่ล่าสุดในวงการคริปโต ของบริษัทการชำระเงินออนไลน์ระดับโลกอย่าง Paypal ที่ถึงแม้จะเป็นมือใหม่ในโลกของคริปโต แต่พื้นฐานของบริษัทนี้ก็มีระบบ Payment ที่ดีมากๆ และมีประสบการณ์ด้านนี้มาอย่างยาวนาน บทความนี้จึงพามาส่องข้อมูลเกี่ยวกับกิจการนี้ และเหรียญตัวใหม่ว่ามีความน่าสนใจขนาดไหน
กิจการนี้ก่อตั้งขึ้นมาจากเป้าหมายในการสร้างเงินสกุลสากล ที่เป็นอิสระจากองค์กรต่างๆ หรือที่เรียกว่าการแลกเปลี่ยนแบบ P2P บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นมาในชื่อ Confinity ในปี 1998 นำโดย Max Levchin และเพื่อนๆ ของเขาที่จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันอย่าง University of Illinois ดำเนินกิจการหลักเกี่ยวกับการชำระเงินแบบออนไลน์ในสหรัฐฯ ซึ่งก็มีผู้ให้ความสนใจ และเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย
ที่มา: ผู้ก่อตั้ง PayPal [1]
หลังจากให้บริการการชำระด้วย Bitcoin ได้กิจการนี้ก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าเดิม และนักลงทุนใหม่ๆ หลายด้าน และได้สนใจสร้างเหรียญของตัวเองขึ้นมาในรูปแบบของ Stablecoin แบบใช้ USD มาค้ำ ซึ่งก่อนหน้านั้นบริษัทนี้ก็มีโมเดลการธุรกิจอย่างฟินเทค หรือบริษัททางการเงิน และแพลตฟอร์มชำระเงินที่แก้ปัญหาด้วยแนวคิดคล้ายคริปโต ในด้านของการโอนเงินระหว่างประเทศนั่นเอง
โดยนำเสนอโซลูชั่นการเงินที่ช่วยให้การทำธุรกรรมระหว่างประเทศที่น่าปวดหัว กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นสุดๆจากการเป็นตัวกลางเองแทนธนาคาร ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ยังถูกกว่ามากๆ และจากการที่เปิดให้บริการในกว่า 200 ประเทศ และมีผู้ใช้ในส่วนของแพลตฟอร์มชำระเงินมากที่สุดในโลก [2] จึงเป็นเรื่องที่ดีที่จะสร้างเหรียญดิจิทัลเป็นของตัวเอง เพื่อเข้าสู่วงการคริปโตต่อไป
เหรียญ Stable ตัวนี้ เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์คล้ายกับบริษัทผู้สร้าง คือการมีไว้สำหรับการชำระเงินและโอนเงินและเป็นตัวกลางของคริปโตและธุรกิจใหม่ๆ โดยเริ่มโครงการเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2023 ที่ผ่านมานี้เอง โดยรันอยู่ใน Ethereum บล็อกเชน ที่ออกให้โดยบริษัทเดียวกับที่เคยออกเหรียญให้ BUSD อย่าง Paxos Trust Company
ที่มา: เปิดตัว PYUSD เหรียญ stablecoin ของตัวเอง บนบล็อกเชน Ethereum ตรึงมูลค่าเท่าดอลลาร์สหรัฐ [3]
สำหรับราคาของเหรียญนี้ด้วยความที่อิงตามมูลค่าสินทรัพย์ที่ค้ำไว้อย่างสกุลเงินดอลลาร์ จึงมีมูลค่าอยู่ที่ราวๆ บวกลบ 1 ดอลลาร์หรือประมาณ 36.68 บาทตามค่าเงินในปัจจุบัน โดยในด้านของประโยชน์เหรียญนี้ยังสามารถทำได้หลายด้านที่น่าสนใจสำหรับ การแลกเปลี่ยนจากเงิน Fiat ไปยัง Digital currency ได้อย่างสบายๆ ผ่านวอลเลทเดียวกันเลย
ที่มา: PYUSD Stablecoin น้องใหม่จาก PayPal [4]
หลักการทำงานของเหรียญนี้ คือเป็นเหรียญ Stable แบบที่ใช้สินทรัพย์เป็นดอลลาร์ไปค้ำมูลค่าของเหรียญไว้ จากการใช้เงินฝากเป็นดอลลาร์สหรัฐ พันธบัตรรัฐบาล และทรัพย์สินอื่นๆ เทียบเท่าเงินดอลลาร์แบบด้วยกับเหรียญ BUSD หรือ USDT เลย มันจึงทำให้มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1 ดอลลาร์ และรันอยู่บนบล็อกเชน Ethereum [3]
โดยเหรียญดังกล่าว แม้จะรันบนเชนที่มีความกระจายศูนย์ แต่เหรียญนี้ในด้านของ Coding นั้นตัวเหรียญมีเงื่อนไขที่สามารถโดน Frozen ได้ตลอดเวลาโดยทีมงาน ซึ่งก็มีไว้เมื่อ Protocol โดน Hack ขึ้นมาก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ซึ่งก็ถือว่ามีความตรงข้ามคือรวมศูนย์ Centralized ซึ่งข้อดีของการใช้เชนอีเธอเรียมก็คือการที่สามารถตรวจสอบ และเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้นั่นเอง
ในการใช้งานในส่วนของผู้ใช้งาน ลูกค้าของร้านค้าต่างๆ ก็มีข้อดีในหลายๆ ด้าน แต่ในด้านของผู้ลงทุนและ บรรดานักพัฒนาแอปพลิเคชัน Defi ต่างๆ ก็อาจมีเงื่อนไขบางอย่างที่อาจเป็นข้อจำกัด และมีบริการแค่บางสถานที่เท่านั้น ในข้อดีข้อเสียจึงมีดังนี้
ข้อดี
ข้อเสีย
-ที่มา: PYUSD Stablecoin น้องใหม่จาก PayPal [4]
เหรียญน้องใหม่น่าสนใจที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2023 นี้ และยังเป็นโปรเจกต์ที่ต้องมีการพัฒนาอีกมาก โดยเป็นเหรียญจากแพลตฟอร์มชื่อดังที่มีความสนใจ ในโลกของคริปโตฯ มานาน และเป็น Crypto ประเภท Stablecoin ที่มีการรองรับแบบใช้เงินดอลลาร์มาค้ำให้มูลค่าอยู่ที่ราว 1 ดอลลาร์ตลอดเวลา
[1] tuemaster. (July 31, 20). ผู้ก่อตั้ง PayPal. Retrieved from tuemaster
[2] bangkokbiznews. (November 8, 2021). ส่องโมเดลธุรกิจ "Paypal" มีรายได้หลักจากไหนบ้าง. Retrieved from bangkokbiznews
[3] thairath. (August 8, 2023). เปิดตัว PYUSD เหรียญ stablecoin ของตัวเอง บนบล็อกเชน Ethereum ตรึงมูลค่าเท่าดอลลาร์สหรัฐ. Retrieved from thairath
[4] cryptomind. (August 10, 2023). PYUSD Stablecoin น้องใหม่จาก PayPal. Retrieved from cryptomind
เหรียญ DOGE คริปโตที่สร้างมาจากมีมสุนัขชิบะอินุ เช่นเดียวกับเหรียญ เหรียญ PlayDoge ซึ่งมันสร้างสีสันให้กับวงการคริปโตเป็นอย่างมาก ก่อนจุเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในปี 2021 หลังเกิด Bitcoin halving ไม่นาน ซึ่งก็กลายเป็นเหรียญ Top 10 ของโลก และเป็นลูกรักของ อีลอน มัสก์ ที่ได้ทวีตถึงเหรียญนี่บ่อย ซึ่งส่งผลต่อราคา dogecoin เป็นอย่างมากดั่งเป็นการปั่นราคา
ในจุดเริ่มต้นของเหรียญนี้ที่สร้างจากมีมดังในปี 2013 โดยเป็นเว็บไซต์เว็บหนึ่งของ Jackson Palmer ที่มีโดเมนจดทะเบียนในชื่อ dogecoin.com โดยมีคอนเทนต์เพื่อล้อเลียนกระแสคริปโตเคอร์เรนซีต่างๆ ก่อนที่ Billy Markus นักพัฒนาซอฟต์แวร์ของบริษัท IBM ที่ต้องการสร้างคริปโตอยู่แล้วได้ติดต่อไปยังเว็บของ Jackson Palmer
ซึ่งหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ร่วมกันสร้างเหรียญนี้ขึ้นมาจริงๆ กลายเป็นสีสันให้กับวงการคริปโต ณ ขณะนั้น มันจึงเป็นเหรียญที่น่ารัก และเข้าถึงได้ง่ายๆ ซึ่งจากการพูดถึงในโลกออนไลน์ และมีมในเว็บที่ดังอยู่แล้วและเกิดเหรียญนี้จริงๆ ขึ้นมา หลังจากที่เปิดตัวในวันที่ 6 ตุลาคม 2013 มันจึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจนราคาพุ่งขึ้นแทบจะทันที [1]
เหรียญที่มีต้นแบบเป็นบิตคอยน์ doge จึงมีพื้นฐานมาจากเครือข่าย fork ของ Litecoin ซึ่งก็มีวิธีการขุด การให้ความสำคัญไปที่การกระจายศูนย์ที่เหมือนกับ BTC เลย โดยหัวข้อนี้ก็จะอธิบายถึง Blockchain ของเหรียญนี้ และการขุด Dogecoin
ที่มา: Dogecoin (DOGE) คืออะไร มีความเป็นมาอย่างไร ? [2]
สกุลเงินนี้ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อล้อเลียน Bitcoin และสกุลเงินคริปโตอื่นๆ และให้คนทั่วๆ ไปเห็นว่าการทำเงินดิจิทัลแบบ BTC ไม่ใช่เรื่องยาก และยังเป็นสกุลเงินที่ดูตลก สนุกสนาน และเป็นมิตร ลบภาพจำเกี่ยวกับการใช้คริปโตในการฟอกเงินหรือสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ กลายเป็นเหรียญที่ทุกคนเข้าถึงง่าย เพื่อการลงทุน ซึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของเหรียญนี้ก็อยู่ในปี 2019 ที่ Dogecoin เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก
ที่มา: สรุป Dogecoin สกุลเงินดิจิทัล สุนัขชิบะ ที่ราคาพุ่งขึ้น 800% ใน 2 วัน [3]
จุดเด่นหลักๆ คือจำนวนเหรียญ Dogecoin นั้นเพิ่มขึ้นได้ตลอดเวลา เหรียญประเภทนี้จึงเป็นสินทรัพย์การใช้จ่ายมากกว่า การซื้อเพื่อเก็บรักษามูลค่าไว้ และเหมาะกับการเป็นสกุลเงินสำหรับการทำธุรกรรมมากที่สุด เพราะมันสามารถประมวลผลธุรกรรมได้ดีกว่าตัวอื่น เนื่องจากใช้เวลาในการสร้างบล็อกเพียง 1 นาทีต่อบล็อกเท่านั้น ไม่นานเป็น 10 นาทีเหมือน Btc
และอีกจุดเด่นหนึ่งที่เป็นของดีของผู้ใช้งาน คือค่าธรรมเนียมที่ต่ำของ Dogecoin ซึ่งอยู่ที่ 0.65 ดอลลาร์หรือราว 20 บาทต่อครั้ง ขณะที่การทำธุรกรรมของ Bitcoin จะมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่ามากคือ 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 500 บาทต่อครั้งเลย [1]
เหรียญที่ ณ เวลานี้มูลค่าของมันก็อยู่ที่อันดับต้นๆ ของบรรดาเหรียญคริปโตทั้งหมด โดยเป็นเหรียญที่มีราคาน้อย แต่ก็มีมูลค่าหรือ Volume ที่ทำให้เหรียญนี้อยู่ในอันดับ 8 ได้ ซึ่งรายละเอียดของเหรียญนี้ก็อ้างอิงมาจากเว็บ Coinmarketcap ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2024
ดูรายละเอียดของ dogecoin เพิ่มเติมที่ Coinmarketcap
ล่าสุดตลาดของ Dogecoin ได้เกิดคำถามเกี่ยวกับศักยภาพในการเข้าไปลงทุนเหรียญนี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ท่ามกลางราคา และเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน Doge มีราคาซื้อ-ขายอยู่ที่ 0.1298 ดอลลาร์ ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.69% ในช่วงต้นปี ส่วนภาพรวมขณะที่ในเดือนมีนาคมมีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 50%
ซึ่งไม่นานมานี้ก็มี Dogecoin20 เปิดตัวมาใหม่นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Stake-to-Earn ที่ให้ผู้ใช้สามารถฝากเหรียญเพื่อรับรางวัล พร้อมประกันความปลอดภัยและเสถียรภาพของระบบได้ด้วย ซึ่งเปิดตัวบนเชนของ ETH และมีการขุดแบบ Proof of stake และยังอยู่ในช่วงพรีเซลอยู่ด้วย [4]
เหรียญมีมที่สร้างขึ้นมาเพื่อล้อเลียนเหรียญคริปโตดังอย่าง Bitcoin ก่อนจะได้รับความ สนใจทั้งจากนักลงทุนรายย่อย และวาฬ จนกลายเป็นเหรียญที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดเป็นอันดับ 8 ของโลกในปัจจุบัน พร้อมจุดเด่นที่เหมาะกับการทำธุรกรรมอย่างมาก
[1] bitkubacademy. (October 22, 2021). Dogecoin (DOGE) คืออะไร?. Retrieved from bitkubacademy
[2] miningpro. (November 3, 2022). Dogecoin (DOGE) คืออะไร มีความเป็นมาอย่างไร ?. Retrieved from miningpro
[3] longtunman. (January 29, 2021). สรุป Dogecoin สกุลเงินดิจิทัล สุนัขชิบะ ที่ราคาพุ่งขึ้น 800% ใน 2 วัน. Retrieved from longtunman
[4] siamblockchain. (March 27, 2024). เปิดมุมมองราคา Dogecoin ในอนาคตพร้อมจับตา Dogecoin20 เหรียญมีมสุดน่ารักตัวใหม่. Retrieved from siamblockchain
Avalanche บล็อกเชน เครือข่ายที่มีความสามารถที่โดดเด่น และทำได้ดีกว่า Ethereum บล็อกเชน มากสุดก็ตอนนี้จนกว่าการอัปเกรดครั้งใหญ่ของอีเธอเรียมมา ก็ต้องมาดูกันอีกทีว่าใครจะเก่งกว่ากัน โดยบทความนี้จะพามารู้จักกับ เครือข่ายของอวาลองซ์ที่เป็นอีกตัวเลือกในการทำธุรกรรมสำหรับคนที่ต้องการความเร็ว โดยจะพูดถึงความเป็นมา การทำงาน ก่อนจะนำไปเทียบกับ Ethereum
เครือข่าย หรือบล็อกเชนนี้ถูกสร้างขึ้นเร็วๆ นี้เองในปี 2018 จากการร่วมของ Emin Gün Sirer, Kevin Sekniqi, และ Maofan “Ted” Yin ให้มาเป็น Ava Labs พร้อมการระดมทุนจากแนวคิดที่ว่า Avalanche จะเป็นเครือข่ายที่ทำงานได้เร็ว แถมมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ พร้อมการมีความปลอดภัย ที่สำคัญคือคงความ Decentralization คือกระจายอำนาจ [1]
Emin Gün Sirer หนึ่งในผู้ก่อตั้งเขายังเป็นคนได้ออกแบบพิมพ์เขียวของระบบ Proof of work ในปี 2001 ก่อนบิตคอยน์จะเกิดถึง 6 ปี และยังเป็นรองศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ Cornell University เป็นเวลา 14 ปีก่อนจะมาก่อตั้ง Labs นี้ [2] Avalanche มันจึงเป็น เครือข่ายที่แก้ไขปัญหาการปรับขนาด โดยไม่กระทบกับความเร็วและการกระจายอำนาจเลย จาก 3 ตัวประกอบหลักๆ ที่เป็นบล็อกเชน
แน่นอนว่าจุดเด่นของเชนนี้ก็คือความเร็วในการทำธุรกรรม จากความสามารถในการปรับขนาดได้ แต่นอกจากความเร็วแล้วเครือข่ายนี้ก็ยังมีความสามารถทำได้หลายอย่างด้วยกัน ซึ่งก็จัดอยู่ในเชนเดียวกันกับ Ethereum, Polkadot, Polygon หรือ Solana แต่จุดเด่นที่ทำให้บล็อกเชนนี้แตกต่างออกไปก็คือ
จากข้อมูลข้างต้นที่ว่าเป็นเครือข่ายที่แก้ไขปัญหาการปรับขนาด ซึ่งไม่กระทบความเร็วจาก 3 ตัวประกอบหลักๆ โดย 3 บล็อกเชนนี้ก็เป็นบล็อกเชนที่จะถูกตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบบนเครือข่ายของ Avalanche อีกทีหนึ่ง
ที่มา: Avalanche: Smart Contract Blockchain รูปแบบใหม่? [3]
Consensus Algorithm ที่ได้ระบุไปข้างต้นนั้น ระบบนี้ก็มีการทำงานคล้ายกับโครงสร้างของกลไก Proof-of-Stake ที่ผู้ใช้สามารถเป็น Validator หรือผู้ตรวจสอบได้ผ่านการล็อกเหรียญไว้ ซึ่งกลไกแบบ Snowman ที่พูดถึงไปข้างต้น ก็จะเป็นการสุ่ม Validator ในการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ Directed Acyclic Graph ที่จะสุ่มอย่างนี้ซ้ำๆ จนแน่ใจว่าธุรกรรมนี้ถูกต้อง จากผู้ที่เห็นตรงกันถึง 99%
โดยค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ใช้เหรียญ AVAX ก็จะถูกเผาอยู่เสมอ เพื่อสร้างระบบนิเวศของเชนนี้ มีความแข็งแกร่ง และยังสามารถคุมการเฟ้อจากการผลิตเหรียญที่เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งเป็นหลักการรักษามูลค่าเหรียญของหลายๆ บล็อกเชน [1]
ก่อนที่การอัปเกรด Ethereum จะมาถึงที่เชื่อว่าจะเป็นเชนที่ทำธุรกรรมได้เร็วที่สุดในโลก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ในตอนนี้จึงมีคู่แข่งในด้านการปรับขนาน ให้ธุรกรรมสามารถทำพร้อมๆ กันได้ทีละมากๆ ซึ่งหนึ่งในคู่แข่งขันตัวฉกาจก็คือ Avalanche เชน โดยหัวข้อนี้ก็จะมาเปรียบเทียมการทำงานและความสามารถต่างๆ ของสองเหรียญนี้
ที่มา: Avalanche Vs. Ethereum – What’s the Difference? [4]
สำหรับราคาเหรียญนี้ในปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 31.58 ดอลลาร์ หรือราว 1,159.79 บาท ลดลงมาจาก 1196 บาท ในช่วง 1 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าตลาดที่ 456.16 พันล้าน ปริมาณซื้อขาย 14.58 พันล้านบาท ซึ่งมีจำนวน Supply สูงสุดที่ 715.75 ล้าน AVAX ขณะนี้ยังมีเกือบครึ่งหนึ่ง
และจากการคาดการณ์ราคา ก็ยังเป็นหัวข้อที่มุมมองมีความแตกต่างกันมาก ตามการคาดการณ์ราคาจากข้อมูลในอดีตและการวิเคราะห์ทางเทคนิค มีการสันนิษฐานว่าราคา AVAX อาจสูงถึง $55 ในสิ้นปีนี้ อาจแตะ 90 ดอลลาร์ใน 2026 จากการใช้งานและการรักษามูลค่าจากการเบิร์น ที่ยิ่งมีการใช้งานก็ยิ่งส่งผลดีของราคา [2]
บล็อกเชนที่เป็นคู่แข่งกับเชนหลายๆ ตัว ซึ่งมีจุดเด่นที่ดีกว่าครึ่งๆ กลางๆ ดีกว่าหลายเชน และก็ด้อยกว่าหลายๆ เชนในด้านอื่นเช่นกัน แต่ก็ถึงว่าเป็นตัวเลือกที่สำคัญสำหรับ การทำ dApp ที่มีการทำธุรกรรมที่เร็วกว่า แถม App จาก Ethereum ยังสามารถรันบนเชนนี้ได้ด้วย
[1] bitkubacademy. (February 1, 2022). Avalanche (AVAX) คืออะไร?. Retrieved from bitkubacademy
[2] mitrade. (September 26, 2023). Avalanche (AVAX Coin) คืออะไร？น่าลงทุนไหมในปี 2023?. Retrieved from mitrade
[3] finnomena. (August 9, 2022). Avalanche: Smart Contract Blockchain รูปแบบใหม่?. Retrieved from finnomena
[4] securities.io. (February 8, 2024). Avalanche Vs. Ethereum – What’s the Difference?. Retrieved from securities.io
เหรียญ PlayDoge อีกโทเคน หรือเหรียญมีมน้องใหม่ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยเรียกอีกอย่างว่า $PLAY เป็นโทเคนที่สามารถนำไปใช้กับเกม เลี้ยงสัตว์คล้าย Tamagotchi หรือทามาก็อตที่คนวัย 25-40 คุ้นเคยกัน บทความนี้จึงพามารู้จักกับเหรียญใหม่นี้ ถึงรายละเอียด ละการเติบโตอันน่าสนใจ
เป็นเกมมือถือใหม่ ที่มีระบบโทเคนมาเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน แถมยังเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมจากการพรีเซลอย่างล้นหลาม ซึ่งยังเป็นโทเคนรูปแบบของ Meme coin ผสมผสานการเล่นแบบทามาก็อตจิ ที่ให้เราดูแลสุนัขของเราให้กินดีอยู่ดี และอารมณ์ดี ซึ่งจะส่งผลต่อการทำภารกิจต่างๆ ในเกม และก็จะได้รับ Token $PLAY เป็นรางวัล
ที่มา: ‘PlayDoge’ เหรียญมีม P2E มาใหม่ พร้อมชน Floki Inu ระดมทุนพรีเซลไปแล้วกว่า $200,000 [1]
จากการคาดการณ์ของ MarketsandMarkets ระบุว่าการเล่นเกมบล็อกเชนอาจมีมูลค่า 65 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 ซึ่งแน่นอนว่าส่วนมากไม่ได้มาเพื่อเล่นแต่เป็นการลงทุน มันจึงทำให้เกม Play to earn นี้ ระดมทุนได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 2 วันหลังปล่อยพรีเซลครั้งแรก กับเหรียญกว่า 50% ที่มีอยู่ในระบบกว่า 23.8 ล้านเหรียญ ซึ่งก็มีเม็ดเงินเข้าสู่โปรเจกต์กว่า 532,000 ดอลลาร์แล้ว [2]
โดยราคาของเหรียญนี้อยู่ที่ราวๆ 0.00505 ดอลลาร์ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง ก็สามารถทำเงินได้อย่างหน้าประทับใจอย่างมากประมาณ 250,000 ดอลลาร์ ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าโมเดล P2E นี้กำลังจะได้รับความนิยมอย่างมากในปีนี้แน่นอน
รูปแบบในการเล่นของเกมนี้ ก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือหลักๆ คือที่เป็นในส่วนของการดูแลน้องหมาของเรา ที่มีระบบทักอย่างแบบทามาก็อต ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปให้อาหารเป็นเวลา เล่นด้วย พาไปวิ่ง (ในเกม) รวมไปถึงการส่งเข้านอนให้เป็นเวลาด้วย เปรียบเสมือนเราไปเลี้ยงสัตว์ 1 ตัว และยังเป็นการนำเกมเก่าที่โด่งดังในช่วง ช่วงทศวรรษ 1990-2000 ต้นๆ และอีกส่วนคือมินิเกมที่หลากหลาย
มีนักวิเคราะห์หลายคนที่ได้ออกมาคาดการณ์เกี่ยวกับการมาของเหรียญโทเคนนี้ ที่อาจเติบโตไปถึง 400-500% หลังจากสิ้นสุดพรีเซลไปอีกไม่กี่เดือน จากช่วง Hype หนักๆ ของกลุ่มผู้เล่น และนักลงทุนที่วัดผลจากการซื้อที่หนักหน่วงถึง 5 แสนดอลลาร์ในเวลา 2 วันเท่านั้น ถึงแม้ว่าการขึ้น 1 ดอลลาร์ในระยะสั้นยังจะดูเป็นเรื่องยาก แต่เกมนี้ก็เป็นโครงการที่ได้ผลตอบรับมากที่สุดในภาค P2E แล้ว [2]
อีกทั้งการเป็นหนึ่งในโครงการที่รันบนบล็อกเชนของ BNB แถมได้รับการตอบรับขนาดนี้ โทเคนนี้จึงมีโอกาสที่จะขึ้นลิสต์โครงการน่าสนใจในฟีเจอร์ Launch ของแพลตฟอร์ม binance เพื่อเพิ่มจำนวนนักลงทุนได้อีกด้วย
หากมีความสนใจในเหรียญนี้ หรืออยากจะเข้าไปเล่นเกมทามาก็อต และมินิเกมสุดคลาสสิกต่างๆ เวลานี้เหรียญโทเคนดังกล่าวก็กำลังเปิดให้มีการแลกเปลี่ยนอยู่ด้วยวิธีการหลัก 3 แบบ ผ่านหน้าเว็บของ playdoge.io ทั้งการเชื่อมต่อ wallet และแลกผ่านเงินดอลลาร์ก็ได้
ที่มา: เกม Crypto P2E ใหม่ PlayDoge เปิดตัว ICO ด้วยเงิน 250,000 ดอลลาร์ใน 24 ชั่วโมง [3]
ตลาดคริปโตที่สามารถแตกแขนงออกไปได้หลายรูปแบบ และยังเป็นเทคโนโลยีที่ไม่เคยหลับใหล จึงมีโปรเจกต์ใหม่ๆ ทั้งเหรียญใหม่ ธุรกิจเกี่ยวกับคริปโต เกม และแพลตฟอร์มชำระเงินข้ามประเทศ มีการเปิดตัวขึ้นอย่างไม่มีท่าทีหยุด แต่ก็ไม่ใช่ทุกโปรเจกต์ที่จะประสบความสำเร็จได้ ซึ่งในหัวข้อนี้จึงมาแนะนำโปรเจกต์ใหม่ใน 2024 ที่รันในบล็อกเชนต่างๆ นอกจาก PlayDoge
ที่มา: แนะนำ! เหรียญคริปโตใหม่ๆ ที่น่าลงทุนในปี 2024 [4]
เหรียญใหม่ที่มีความน่าสนใจจากแนวคิดการนำเกมในยุค 2000 มานำเสนออีกครั้งทั้งแบบเกมเลี้ยงสัตว์ที่เป็นหลัก และเกม Arcade หลายๆ เกมให้หวนกลับไปมีชีวิตชีวาอีกครั้ง แถมยังมีการตอบรับที่ดีจากการพรีเซล 2 วันแรกอีกด้วย เข้าไปเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ ด้วยราคา ไม่ถึง 1 บาทในตอนนี้
[1] siamblockchain. (May 31, 2024). ‘PlayDoge’ เหรียญมีม P2E มาใหม่ พร้อมชน Floki Inu ระดมทุนพรีเซลไปแล้วกว่า $200,000. Retrieved from siamblockchain
[2] cryptodnes. (May 31, 2024). PlayDoge เกม P2E ระดมทุนได้ 532,000 ดอลลาร์ ในเวลาไม่ถึงสองวันราคาก็พุ่งสูงขึ้น. Retrieved from cryptodnes
[3] cryptodnes. (May 29, 2024). เกม Crypto P2E ใหม่ PlayDoge เปิดตัว ICO ด้วยเงิน 250,000 ดอลลาร์ใน 24 ชั่วโมง. Retrieved from cryptodnes
[4] readwrite. (June 7, 2024). แนะนำ! เหรียญคริปโตใหม่ๆ ที่น่าลงทุนในปี 2024. Retrieved from readwrite
บล็อกเชน เร็วที่สุด ในปัจจุบันก็มีอยู่หลายเชน และหลายๆ เหรียญ ซึ่งก็เร็วขึ้นได้เรื่อยๆ ตามจุดประสงค์ของผู้พัฒนา ซึ่งในบรรดาเหรียญเหล่านั้นที่เป็นตัวกลางยอดนิยมต่างๆ ก็มีประเภทของมันระบุไว้ด้วย เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของเชนนั้นๆ อย่างเชนที่ต้องการกำลังซื้อจำนวนมาก และต้องการคนร่วมโปรเจกต์ก็มักจะเป็นประเภทเชนสาธารณะ และเชนที่เน้นบางอย่างก็อาจไปใช้แบบอื่นๆ แทน
เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ การเก็บข้อมูลแบบกระจายอำนาจ ที่แต่ละบล็อกจะถูกเข้ารหัส ทำให้บล็อกนั้นๆ มีข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมที่เกิดขึ้นในระบบ แถมเชื่อมโยงกับบล็อกก่อนหน้าอีกด้วย คุณสมบัตินี้จึงยากต่อการแก้ไขข้อมูล ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยหลังจากกระแสของ BTC ใน 2020 ก็ทำให้เทคโนโลยีนี้เป็นที่สนใจมากขึ้น [1]
เทคโนโลยียังเป็นเบื้องหลังของการทำธุรกรรมแบบ Smart Contracts และเกิดเชนต่างๆ ขึ้นมาอย่าง Ethereum ที่เป็นบล็อกเชนพื้นฐานในการที่นักพัฒนาสามารถมารันโค้ดต่างๆ ได้ ส่งผลให้กลายเป็นเชนหลักๆ ที่บริการแอปพลิเคชันเกี่ยวกับโลกกระจายอำนาจ หรือ dApp ต่างๆ และภายหลังก็เริ่มมีบล็อกเชนใหม่ ที่เป็นเครือข่ายของตัวเอง พร้อมจุดประสงค์เพิ่มความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ
จากรายละเอียดของบล็อกเชนข้างต้นจะเห็นได้ว่าเชนที่ Programable หรือที่ให้นักสร้างเข้ามาเขียนโค้ดที่ซับซ้อนได้ จึงทำให้มีธุรกิจขนาดใหญ่ๆ หลายเจ้า เริ่มหันให้ความสนใจใน Blockchain เพื่อดำเนินงาน ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ได้เฉพาะอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เท่านั้น มันยังมีความสามารถในการปรับใช้กับธุรกิจเล็กๆ ไปถึงกลางได้ด้วย ซึ่งนี่ก็คือตัวอย่างจากการนำมาปรับใช้
ที่มา: ทำความรู้จัก Blockchain และทิศทางที่ส่งผลต่อธุรกิจในอนาคต [1]
โดยบล็อกเชนที่หลายคนเคยได้ยินได้เห็นบ่อย มันยังมีประเภทของมันด้วย และด้วยการที่มีหลายเชนเกิดขึ้นใหม่ตลอด มันจึงแยกออกไปถึง 3 ประเภทตามลักษณะของแต่ละเชน ซึ่งก็จะมีจุดเด่นที่ต่างกัน พร้อมกับตัวอย่างการนำไปใช้งานเบื้องต้นในอุตสาหกรรมต่างๆ ดังนี้
ที่มา: ทำความรู้จัก blockchain มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร [2]
ความเร็วในการทำธุรกรรมในตอนนี้ กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยหลัก ในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ยิ่งเครือข่ายที่มีความเร็วธุรกรรมที่สูงกว่าเจ้าอื่นๆ ก็ย่อมส่งผลให้สกุลเงินนั้นๆ มีความนิยมและยิ่งเป็นประโยชน์กับธุรกิจนั้นๆ เพราะยิ่งความเร็วในการทำธุรกรรมสูงเท่าไหร่ ความสามารถในการถ่ายโอนก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น
ในหัวข้อนี้จึงเป็นการเปรียบเทียบ ให้ดูสองประเภทบล็อกเชน ที่มีความเร็วต่างกันมาก แต่ในบล็อกเชนที่ช้ากว่าก็ยังเป็นเชนที่เคยเร็ว ซึ่งในตอนนี้บางบริษัทอาจไม่จำเป็นต้องเร็วขนาดนั้น และอีกอย่างคือเชนเหล่านี้ยังเป็นเครือข่ายคุณภาพ และมีมูลค่าสูงด้วย กลับกันกับบล็อกเชนที่ทำธุรกรรมได้เร็ว ก็มีหลายบริษัทที่ต้องการความเร็ว ส่วนมากเป็นบริษัทใหม่ๆ ที่มีตัวเลือกเยอะกว่าแต่ก่อน
โดยในประเภทนี้ก็มีหลายตัวที่รู้จักกันเป็นอย่างดี จากการเป็นเหรียญ และบล็อกเชนอันดับต้นๆ ของโลก และเป็นผู้บุกเบิกในวงการนี้ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดสูง และให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมได้ อย่าง 2 เหรียญนี้
ที่มา: บล็อกเชนสกุลเงินดิจิทัลที่คุณรู้จักทำธุรกรรมได้เร็วแค่ไหน? [3]
คริปโตเฉพาะกลุ่มที่บางเชนก็สร้างเหรียญที่มีมูลค่าอยู่ใน Top 10 ในแง่ของมูลค่าตลาดได้ ซึ่งส่วนมากก็ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อรักษามูลค่าเท่าไหร่ แต่จะเป็นการเน้นในเรื่องความเร็วของธุรกรรมให้เป็น และค่าธรรมเนียมแทน ประเภทนี้จึงมีความเร็วเป็นจุดเด่นเลย
ที่มา: บล็อกเชนสกุลเงินดิจิทัลที่คุณรู้จักทำธุรกรรมได้เร็วแค่ไหน? [3]
ระบบการเงิน และเทคโนโลยีการโอนย้ายข้อมูลของโลก ซึ่งปัจจุบันก็มีเชนที่มีความโดดเด่นเรื่องความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ จากการพัฒนาความสามารถในการสร้างบล็อก และประสิทธิภาพในการปรับขนาดนั่นเอง ซึ่งอาจเห็นได้เร็วกว่านี้ในอนาคต
[1] kasikornbank. (February 5, 2021). ทำความรู้จัก Blockchain และทิศทางที่ส่งผลต่อธุรกิจในอนาคต. Retrieved from kasikornbank
[2] kubix. (April 19, 2023). ทำความรู้จัก blockchain มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร. Retrieved from kubix
[3] efinancethai. (January 27, 2023). บล็อกเชนสกุลเงินดิจิทัลที่คุณรู้จักทำธุรกรรมได้เร็วแค่ไหน?. Retrieved from efinancethai
Green Crypto กลุ่มเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ที่ได้รับการยอมรับแล้วว่าเป็น เหรียญที่ใช้พลังงานในการผลิต และพลังงานในการทำงานที่น้อยที่สุดในบรรดาเหรียญคริปโตทั้งหลายอย่าง เหรียญ Cardano หรือ ALGO จึงเป็นการดึงดูดนักลงทุนหลายคน ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย บทความนี้จึงมาอธิบายเทรนด์ที่มีคนสนใจนี้ และลิสต์เหรียญที่น่าสนใจทั้งหลายด้วย
หลังจากที่คริปโตเริ่มมีคนให้ความสนใจมากขึ้นทั้งนักลงทุน และผู้ผลิตโปรเจกต์ใหม่ๆ การผลิตของเหรียญต่างๆ ก็ยังต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการขุดที่มหาศาล รวมถึงความต้องการของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อย่างการ์ดหน้าจอก็มีเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้มุมมองคริปโตในวงการ ESG ไม่ปลื้มสักเท่าไหร่ ภายหลังจึงมีบางเหรียญเปลี่ยนไปใช้การผลิตเหรียญด้วยระบบฉันทามติแบบใหม่
โดยวิธี Proof of stake แทนการผลิตแบบเดิมที่เป็น of work แบบที่ Bitcoin ใช้ ซึ่งก็สามารถลดการใช้พลังงานในการขุดเหรียญไม่มหาศาลและทำให้คริปโตเหล่านั้นกลับมาดึงดูดนักลงทุนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งจากการคาดการณ์มูลค่ารวมของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ ESG คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 [1]
PoS อีกหนึ่ง Algorithm ที่นิยมใช้สร้างเหรียญ หรือที่เรียกว่าการตรวจสอบธุรกรรมแบบฉันทามติ จากการที่ต้องมาแข่งกันแก้ไขสมการด้วยการประมวลผลของการ์ดประมวลผล ซึ่งต้องใช้พลังงานมาก ก็เปลี่ยนมาเป็นการนำเหรียญนั้นๆ ไปค้ำไว้เพื่อแลกสิทธิ์ในการตรวจสอบธุรกรรม และรับผลตอบแทนเป็นเหรียญนั้นๆ คืนคล้ายกับดอกเบี้ยนั่นเอง
ที่มา: Proof of Stake และ Proof of Work แตกต่างกันยังไง ? [2]
หลังจากที่ได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานแบบฟอสซิล หรือที่เรียกว่าพลังงานดั้งเดิมในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม เช่นปิโตรเลียม, ถ่านหิน หรือก๊าซธรรมชาติ สิ่งของพวกนี้ก็ได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ออกมา และเป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อน ซึ่งจากปัญหานี้ จึงได้มีธีมการลงทุน Clean Energy จนเป็น Mega Trend จนเรียกได้ว่าใน 2030 หากมีธุรกิจใหม่ที่ไม่พูดว่า ESG ก็จะไม่มีทางเติบโตเลยทีเดียว
แรงผลักดันที่สำคัญจาก 4 ด้าน ในหลายปีก่อน
ที่มา: “พลังงานสะอาด”...จุดเริ่มต้นของ ‘Mega Trend’ พลังงานยุคใหม่ของโลก !!! [3]
เหรียญคริปโตท็อป 3 ในเรื่องของความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และนับเป็นเหรียญที่ออกตัวเรื่องนี้ได้จริงจัง และโดดเด่นที่สุดก็ว่าได้ จากการลงทุนได้เช่าบิลบอร์ดบริเวณไทม์สแควร์ของนิวยอร์ก เพื่อประกาศว่าเป็นบล็อกเชนที่มีการปล่อยคาร์บอนเป็นลบกว่า 20 ป้าย
ที่มา: เจาะลึกเบื้องหลังการทำงานที่ทำให้ Algorand เป็นบล็อกเชนที่มีความเร็วในลำดับต้นๆ [4]
โดยราคาของ Algo ในตอนนี้ก็อยู่ที่ 0.19 ดอลลาร์หรือราว 6.90 บาท ซึ่งเคยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดหรือ All time high ที่ 3.27 ดอลลาร์ เหรียญ Algo มีอุปทานสูงสุดกำหนดไว้ที่ 10 พันล้านเหรียญ ซึ่งตอนนี้ผลิตมาแล้วที่ 8.1 พันล้านเหรียญ และด้วยปริมาณซื้อขายที่ 35.30 ล้านดอลลาร์ เหรียญนี้จึงอยู่ในอันดับที่ 65 ในบรรดาเหรียญทั้งหมด
อย่างไรก็ตามนอกจาก Algorand ก็ยังคงมี Crypto ที่นับเป็น Green อย่างเหรียญอื่นๆ ที่มีการใช้ระบบ PoS ในการขุดเหรียญ ซึ่งก็ลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาบอนได้เช่นกัน ซึ่งก็ได้รับการจัดอันดับว่ามีส่วนร่วมในด้านของการลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย ซึ่งก็มีเหรียญดังนี้
ที่มา: ทำความรู้จัก ‘Green Crypto’ ที่ไม่ใช่เหรียญ แต่ร่วมเปลี่ยนโลกให้ยั่งยืน [1]
เหรียญคริปโตกับเทรนด์การอนุรักษ์โลก สองเทรนด์ที่ขับเคลื่อนไปคู่กัน และหลายๆ ธุรกิจต้องพูดถึง ทั้งเหรียญคริปโต และการลดการใช้พลังงานที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนออกมา ซึ่งก็ยังมีเหรียญที่ยังปล่อยก๊าซอยู่ และที่เปลี่ยนมาตามธีม
[1] thestandard. (November 19, 2022). ทำความรู้จัก ‘Green Crypto’ ที่ไม่ใช่เหรียญ แต่ร่วมเปลี่ยนโลกให้ยั่งยืน. Retrieved from thestandard
[2] moneybuffalo. (July 5, 2021). Proof of Stake และ Proof of Work แตกต่างกันยังไง ?. Retrieved from moneybuffalo
[3] principal. (2024). พลังงานสะอาด”...จุดเริ่มต้นของ ‘Mega Trend’ พลังงานยุคใหม่ของโลก !!!. Retrieved from principal
[4] bitkubacademy. (August 29, 2023). เจาะลึกเบื้องหลังการทำงานที่ทำให้ Algorand เป็นบล็อกเชนที่มีความเร็วในลำดับต้นๆ. Retrieved from bitkubacademy
LINE ID : @bdog9
LINE ID : @bdog9Copyright © 2023 Supported by BETDOG
