Betdog-เว็บตรงบาคาร่า
Betdog-เว็บตรงบาคาร่า

การ์ตูนเอ๊าะ เป็นการ์ตูนที่อ่านกันได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีการมัดรวมมุขขำๆไว้ในแต่ละเล่ม แม้อยู่ในโรงพยาบาลก็ขำกันได้ หันมาอ่านการ์ตูนของเอ๊าะ ข้อดีคือไม่เสียสายตากับการจ้องตัวหนังสือนานๆ แต่ข้อเสียก็มีเช่นเดียวกัน เพราะถ้าอ่านจนจบเล่มแล้ว จะต้องรอเล่มต่อไปอีกหลายวัน

เอ๊าะ คือใคร?

เอ๊าะ คือชื่อเล่นหรือที่เราเรียกกันว่านามปากกา ชื่อจริงของเขาคือคุณ ผดุง ไกรศรี เป็นผู้ชายที่เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2503 เกิด ณ จังหวัดอุบลราชธานี อำเภอเมืองใหม่ เรียนจบจากวิทยาเขต เพาะช่าง กรุงเทพมหานคร เข้าสู่วงการนี้ด้วยการเขียนนิยายภาพ

หลังจากนั้น เขาได้เขียนนิยายภาพของหนังสือรายสัปดาห์ กว่า 10 ปี จากสำนักพิมพ์จินดาสาส์น ต่อด้วยการพัฒนาฝีมือ ไปสู่การเขียนการ์ตูนให้กับ มหาสนุก ขายหัวเราะ นิตยสารสวนเด็ก และหนูจ๋า เบบี้ ใน พ.ศ. 2535 โดย สำนักพิมพ์บรรลือสาส์น

ผลงานรวมของเขา ประกอบไปด้วยการเขียนภาพ สะท้อนชีวิตของเด็กชนบท รวมถึงการ์ตูนเรื่องสั้น เช่น หนูหิ่น อินเตอร์ ที่เป็นการสะท้อนสังคม ของเด็กต่างจังหวัด ที่เข้ามาทำงานเป็นคนใช้ในเมืองกรุง เป็นผลงานที่ตีพิมพ์ใน พ.ศ. 2538 และเขียนต่อมาจนถึงปัจจุบัน

ที่มา: ผดุง ไกรศรี [1]

เอ๊าะ กับผลงานชิ้นเอก

จริงอยู่ว่าคุณ เอ๊าะ จะมีความถนัด ในด้านการวาดภาพ และมีพรสวรรค์ ในการสร้างเรื่องราวสุดหรรษา แต่ก็ใช่ว่าผลงานทุกชิ้น จะได้รับการจดจำหรือมีความโดดเด่น และการอ่านการ์ตูน จะเป็นความสนใจเฉพาะกลุ่ม ซึ่งมีเพียงแฟนพันธุ์เท่านั้น ที่จะเก็บสะสมหนังสือครบทุกเล่ม

การ์ตูนเอ๊าะ ที่โดดเด่นและทำให้คุณเอ๊าะ กลายเป็นคุณเอ๊าะ ในทุกวันนี้ คือการ์ตูนเรื่อง หนูหิ่น อินเตอร์ ที่ได้รับความนิยม จนถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ ในปี พ.ศ. 2549  เป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียง และหนูหิ่นยังคงถูกบรรยายออกมา ให้เห็นจนกระทั่งทุกวันนี้

ตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์ใน การ์ตูนเอ๊าะ

คุณเอ๊าะ สร้างผลงานการ์ตูนออกมาหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้น เรื่องต่อ และมุขขำๆ ในแต่ละเล่มจะมีตัวละครที่แตกต่างกัน แต่หากเป็นมุขขำๆ มักจะมีการนำตัวละคร มาผสมผสานกัน เพื่อให้ได้มุขใหม่ๆ ซึ่งตัวละครที่มีความโดดเด่น มีดังนี้

ที่มา: ผดุง ไกรศรี [2]

คุณเอ๊าะเคยบอกว่า ผลงานที่วาดออกมาบางส่วน มาจากความชอบส่วนตัว อย่างที่เราเห็นตัวละครที่ชื่อ 'มิลค์' ที่ถูกนำมาใช้เป็นภาพประกอบ มากกว่า 'หนูหิ่น' ผู้ซึ่งเคยเป็นตัวละครหลัก

ทำไมจึงมี การ์ตูนเอ๊าะ อยู่ในปัจจุบัน

การ์ตูนเอ๊าะ

การ์ตูนเอ๊าะ ขายดีในทุกวันนี้เพราะว่า คุณเอ๊าะยึดมั่น ในการบริหารคนอย่างเข้าใจ และมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทันสถานการณ์โลก และสามารถนำความฮาออกมาได้ โดยมีผู้บริหารรุ่นแรก ชื่อวิธิต อุตสาหจิต และผู้บริหารรุ่นสอง ชื่อพิมพ์พิชา อุตสาหจิต [3] ซึ่งมีผลงานดังนี้

ผลงานจาก การ์ตูนเอ๊าะ

แม้ว่าจะเป็นบริษัท ที่มีจุดเชื่อมต่อระหว่างผู้บริหารทั้ง 2 ท่าน แต่ความมุ่งมานะ และความพยายามที่จะสร้างผลงานออกมา สู่สายตานักอ่านนั้น ไม่น้อยลงเลย เราจึงได้เห็นผลงาน ที่ผลิตออกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 ถึงปัจจุบัน ดังนี้

ซื้อ การ์ตูนเอ๊าะ ที่ไหนดี?

การ์ตูนเอ๊าะ มีให้เลือกซื้อได้จากหลายช่องทาง เช่น ห้างดัง และร้านหนังสือในชลบุรี กรุงเทพ เชียงราย แต่จำเป็นที่คุณ จะต้องอาศัยอยู่ในตัวเมือง หากต้องการความสะดวก การซื้อหนังสือออนไลน์ ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ โดยสามารถซื้อได้ ผ่านช่องทางต่อไปนี้

1. Lazada: จำหน่ายหนูหิ่น อินเตอร์ ในราคาเล่มละ 50 บาท สามารถดูรายละเอียดและหนังสือตอนอื่นได้ที่ Lazada

2. Shoppee: จำหน่ายหนูหิ่น อินเตอร์ ในราคาเล่มละ 50 บาท สามารถดูรายละเอียดและหนังสือตอนอื่นได้ที่ Shoppee

3. biggo: เว็บไซต์ของคนรักการอ่าน ที่สามารถนำหนังสือ ที่อ่านแล้วมาส่งต่อได้ มีราคาเริ่มต้นที่ 8 -1,200 บาท สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ biggo

สรุป การ์ตูนเอ๊าะ

การ์ตูนเอ๊าะ เป็นการ์ตูนที่สร้างเสียงหัวเราะ ให้คนไทยมาช้านาน แม้ว่าคุณเอ๊าะจะมีอายุที่มากขึ้น แต่การบริหารงาน ก็ยังคงมีประสิทธิภาพไม่ต่างจากเดิม แถมยังมีราคาถูก เข้าถึงง่าย เสริมสร้างความสุขให้ผู้อ่านได้เป็นอย่างดี

อ้างอิง

[1] Hmong. ผดุง ไกรศรี. Retrieved from hmong

[2] TH.wikipedia. (February 22, 2022). ผดุง ไกรศรี. Retrieved from th.wikipedia

[3] Capitalread. (2022 - 2024). คุยกับทีมงานเบื้องหลัง. Retrieved from capitalread

ไม้พันธุ์เล็ก มีทั้งไม้ยืนต้น ไม้เลื้อย ให้ได้เลือกนำไปปลูก แม้แต่ไม้ยืนต้นที่มีขนาดใหญ่ก็ถูกนำมาดัดแปลงให้มีขนาดที่เล็กลงได้ ด้วยความคิดและการออกแบบของคนรุ่นใหม่ เพื่อนำไปสู่อาชีพที่น้อยคนจะทำได้ และการเพาะเก็บไว้เองเพื่อความสวยงาม

ทำไมต้อง ไม้พันธุ์เล็ก

ไม้พันธุ์เล็ก มีความน่ารัก ดูสบายตา ไม่สิ้นเปลืองพื้นที่เยอะ ที่สำคัญคือเป็นความนิยมของคนรักต้นไม้ ไม้ประเภทนี้สามารถซื้อมาสะสมได้ถ้ามีความรู้ในการดูแลต้นไม้ที่ดี จะต่อยอดสู่ราคาที่สูงขึ้น ถึงแม้ว่าในอนาคตจะไม่มีราคาที่สูงขึ้น แต่ความสวยงามที่ได้มองในแต่ละวันนั้นก็ถือว่าคุ้มค่าพอแล้ว

ตัวอย่าง ไม้พันธุ์เล็ก

ไม้พันธุ์เล็ก นิยมนำมาปลูกเพื่อความสวยงาม ตกแต่งโต๊ะ เพื่อความร่มรื่น และเพื่อเป็นของสะสม นอกจากนี้ยังมีต้นไม้หลายชนิดที่มีเรื่องของความเชื่อเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งไม้พันธุ์เล็กที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีดังนี้

1. ต้นกระบองเพชร (แคคตัส)

ต้นกระบองเพชรเป็นต้นไม้ขนาดเล็กที่มีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกปลูก มีรูปทรงต่างๆที่แตกต่างกันออกไป ไม่ต้องการน้ำในปริมาณที่เยอะ ชอบแดด แต่ก็ไม่ควรวางไว้กลางแจ้งในอากาศที่ร้อนจัด ช่วงนี้จะนิยมปลูกยิมโนคาไลเซียม ซึ่งมีทั้งสีด่าง สีแดง และสีส้ม เป็นต้น [1]

2. คลาสซูล่า

คลาสซูล่าสามารถปรับตัวได้ดี ในทุกสภาพอากาศ มีถิ่นกำเนิดจากแอฟริกา ไม่ต้องการน้ำมาก รดน้ำเพียง 1 ครั้งใน 1-2 สัปดาห์ เป็นไม้อวบน้ำที่ปลูกลงดินทั่วไปได้ นิยมปลูกภายในบ้าน หรือตั้งไว้บนโต๊ะทำงาน เชื่อกันว่าเป็นไม้ที่นำความโชคดีเข้าบ้าน [1]

3. บอนไซ

บอนไซเป็นต้นไม้ที่มีความสวยงาม ยิ่งมีอายุที่มากขึ้นจะมีราคาที่สูงขึ้น จำเป็นต้องปลูกหลายปี ถึงจะได้ไม้ที่ใหญ่ขึ้น การปลูกโดยใช้ดินสำเร็จรูปจะทำให้ต้นไม้โตเร็วกว่าการปลูกในดินทั่วไป เป็นพืชที่ต้องการความชุ่มชื้น ควรรดน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

สามารถสอบถามรายละเอียด ราคาต้นไม้ชนิดอื่นๆ ได้ที่ Nanagarden

ตัวอย่าง ไม้พันธุ์เล็ก ฟอกอากาศ

นอกจากต้น ไม้พันธุ์เล็ก จะมีความสวยงามแล้ว บางสายพันธุ์ยังสามารถฟอกอากาศได้อีกด้วย เป็นไม้ที่หาซื้อได้ทุกจังหวัด เช่น ตาก ชลบุรี เชียงใหม่ และในระบบออนไลน์ ซึ่งไม้ฟอกอากาศที่นิยมปลูกในบ้านมีดังนี้

1. ต้นเดหลี

ต้นเดลีเป็นไม้ฟอกอากาศ ที่มีดอกสวยงาม แตกสายพันธุ์ออกทั้งหมด 40 สายพันธุ์ ใบของลำต้นจะเป็นสีเขียวอ่อน และสีเขียวเข้มสลับกันไป ดอกเป็นใบกาบที่คล้ายรูปหัวใจ มีความยาวประมาณ 8 - 12 เซนติเมตร จะออกดอกในช่วงฤดูร้อน และดูดซับสารพิษได้หลายประเภท [2]

2. มอนสเตอร่า

มอนสเตอร่า เป็นไม้ฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมสูง ยิ่งเป็นไม้ด่างราคาจะพุ่งแรงมาก หากเป็นสายพันธุ์ที่หายาก จะมีราคาถึงหลักล้าน มักจะนำมาเพาะเลี้ยงในกระถาง เพื่อปลูกรอบบ้านและตกแต่งห้อง สามารถดูดซับสารพิษได้หลายชนิด ช่วยบริเวณบ้านมีความสดชื่นมากขึ้น

3. ต้นเบญจมาศ

ต้นเบญจมาศ เป็นไม้ที่ช่วยให้บ้านเกิดความชุ่มชื้น มีชีวิตชีวา ตัวเกสรจะเป็นสีชมพู ส่วนดอกจะมีสีแดง สีม่วง สีเหลือง และสีลาเวนเดอร์ เป็นต้นไม้ที่ถูกยกให้เป็นไม้ขนาดเล็ก ที่ฟอกอากาศได้ดี บริเวณที่เหมาะสมแก่การปลูกคือ รอบบ้าน ห้องนอน ในบ้าน [2]

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ไม้พันธุ์เล็ก

ไม้พันธุ์เล็ก

การปลูก ไม้พันธุ์เล็ก ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ว่าใครก็สามารถปลูกเองได้ เพราะใช้หลักการปลูกต้นไม้พื้นฐานเกือบทุกชนิด เว้นแต่ว่าต้นไม้บางชนิดที่มีความพิเศษ เช่น กระบองเพชร ก่อนที่คุณจะปลูกต้นไม้ ลองมาดูกันว่าไม้ประเภทนี้มีดีอะไรบ้าง

ข้อดีของการปลูกต้นไม้ใกล้บ้าน

อากาศในบ้านเราร้อนขึ้นทุกวัน การปลูกต้นไม้ใกล้บ้านเป็นอีก 1 ทางเลือกที่ช่วยให้บริเวณบ้าน มีอากาศที่สดใสและน่าอยู่มากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกต้นไม้ และสภาพแวดล้อม ที่คุณอาศัยอยู่เป็นองค์ประกอบร่วมด้วย การปลูกต้นไม้ใกล้บ้านมีข้อดีดังนี้

1. กระตุ้นพลังงานในร่างกาย

การปลูกแก้วกาญจนาที่มีขอบสีแดงจะช่วยเพิ่มความอยากอาหาร เนื่องจากสีแดงเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นในการอยากอาหาร แถมยังสร้างบรรยากาศให้รู้สึกดีในตอนเช้า เมื่อได้สัมผัสกับออกซิเจนที่ต้นไม้คายออกมาในทุกๆเช้า

2. เพิ่มความชื้นภายในบ้าน

ต้นไม้หลายชนิดถือเป็นแหล่งรวมความชื้น เช่น ต้นหมากเหลือง ต้นเฟิร์น เดหลี และไซคลาเมน ต้นไม้เหล่านี้มีหน้าที่ในการเพิ่มความชื้นให้บริเวณโดยรอบ ให้มีความชื้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม ลดอากาศแห้งที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ดูดซับสารพิษ พร้อมการฟอกอากาศให้สะอาด

3. ลดภาวะความเครียด

ภาวะเครียดที่เกิดจากความอ่อนล้า จากการทำงาน ภาวะเครียดสะสมจากปัญหารอบด้าน สามารถบรรเทาลงได้ด้วยการปลูกต้นดอกหน้าวัวไว้ในบ้าน ตามหลักจิตวิทยา พบว่าการปลูกดอกหน้าวัวไว้ในบ้าน ช่วยให้เจ้าของบ้านเกิดความผ่อนคลายได้

4. คลายความล้าของดวงตา

การจ้องหน้าคอ ดูโทรศัพท์ และดูโทรทัศน์เป็นเวลานานจะทำให้ดวงตาเกิดความอ่อนล้าขึ้นมาได้ ต้นไม้สีเขียวที่ปลูกไว้บริเวณบ้านจะช่วยคลายอาการอ่อนล้าของดวงตา เพิ่มระยะการมองเห็นให้ชัดขึ้น และป้องกันการเกิดต้อกระจกและต้อหินได้

ที่มา: 10 เหตุผลดีๆ ที่จะทำให้รู้ว่า การปลูกต้นไม้ในบ้าน มันดีต่อใจจริงๆ [3]

ปลูก ไม้พันธุ์เล็ก ชนิดไหนง่ายที่สุด

สำหรับมือใหม่ ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ ในการปลูกต้นไม้มาก่อน แนะนำให้ลองปลูกต้นกระบองเพชรดูก่อน เพราะต้นไม้ชนิดนี้ ทนต่อสภาพอากาศ และไม่ค่อยต้องการน้ำมาก จึงยากที่จะเลี้ยงไม่รอด เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน และไม่มีเวลาดูแลต้นไม้มากนัก

ส่วนคนที่มีประสบการณ์ ในการปลูกต้นไม้อยู่แล้ว แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะปลูกต้นไม้ชนิดไหนดี แนะนำให้ลองปลูกคลาสซูล่า เพราะเป็นต้นไม้ที่มีขนาดเล็กและน่ารัก เก็บสะสมน้ำไว้ตามใบ รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ไม่ควรให้น้ำมากเกินไป และนำมาตกแต่งโต๊ะทำงานได้

สรุป ไม้พันธุ์เล็ก

ไม้พันธุ์เล็ก เหมาะที่จะปลูกไว้เพื่อตกแต่งบ้านและฟอกอากาศ มีราคาตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักแสน การเลือกซื้อต้นไม้ขึ้นอยู่กับความชอบและต้นทุนของแต่ละคน มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย คุ้มค่าเกินราคาจ่าย

อ้างอิง

[1] Makesend. (2018 - 2024). 10 ต้นไม้ยอดฮิตติดกระแส. Retrieved from makesend

[2] Ananda. (January 15, 2022). 21 ต้นไม้ฟอกอากาศ ในห้องนอน. Retrieved from ananda

[3] พีดีเฮ้าส์. (2014 - 2024). 10 เหตุผลดีๆ ที่จะทำให้รู้ว่า การปลูกต้นไม้ในบ้าน มันดีต่อใจจริงๆ. Retrieved from พีดีเฮ้าส์

นาฬิกา ถือได้ว่าเป็นเครื่องประดับอีกชนิดหนึ่ง ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และทำให้ข้อมือจุดดึงดูดมากยิ่งขึ้น หากพูดถึงแบรนด์นาฬิกาชั้นนำ ที่เป็นกระแสโด่งดังในหมู่ผู้ชาย ต้องยกให้ แบรนด์นาฬิกา Casio ที่ใครๆ ต่างชื่นชอบ วันนี้เราจะพาทุกท่าน ไปส่องประวัติความเป็นมา และรีวิวนาฬิกาสำหรับผู้ชาย มีข้อมูลดังนี้

ประวัติผู้ก่อตั้ง Casio ก่อนที่จะมาเป็นแบรนด์นาฬิกา

Casio เป็นแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลก ซึ่งประวัติความเป็นมานั้น เกิดขึ้นจาก Tadao Kashio เขาเกิดในครอบครัวธรรมดาทั่วไป และต้องเผชิญภัยพิบัติแผ่นดินไหว จึงทำให้พ่อของเขาเป็นเสาหลักในการดูแลครอบครัว ทาดาโอะตั้งในเล่าเรียน และได้มีโอกาสฝึกงานที่โรงงาน Enomoto ตำแหน่งผู้ช่วยช่างกลึงเหล็ก

เขาเป็นคนที่รักชาติบ้านเกิดของตนเอง จึงมีความมุ่งมั่น ที่จะใช้ทักษะในด้านการประดิษฐ์เครื่องยนต์ มาผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินขนาดเล็ก และทำขายออกมาให้กับกองทัพ ต่อมาในปี 1946 เมื่อเขาอายุได้ 29 ปี ก็เปิดบริษัทชื่อว่า Kashio Seisakujo เป็นบริษัทผลิตเครื่องจักร และชิ้นส่วนกลไกต่างๆ [1]

เป็นที่น่าตกใจ สิ่งประดิษฐ์ของบริษัทชิ้นแรก ไม่มีความใกล้เคียงกับเครื่องยนต์กลไกเลย พวกเขาประดิษฐ์แหวน โดยให้ชื่อสิ่งประดิษฐ์นี้ว่า Yubiwa เป็นแหวนที่สามารถเสียบกับก้นบุหรี่แค่นั้น แต่กลับเป็นสินค้าที่มียอดขายในทางที่ดี เพราะเนื่องจากมีราคาที่จับต้องได้ง่าย

จุดเริ่มต้นของชื่อ Casio ที่ไม่ใช่ชื่อรุ่นของนาฬิกา

ปี 1949 Tadao และน้องชายของเขา ร่วมมือกันประดิษฐ์เครื่องคิดเลข พวกเขาพัฒนาระบบจนถึงปี 1957 ก็สามารถปล่อยผลงานเครื่องคิดเลขรุ่นแรกได้ โดยใช้ชื่อรุ่นว่า Casio 14-A เป็นเครื่องคิดเลขอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีฟังก์ชันหน่วยความจำเครื่องแรกของโลก และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ผู้คนต่างรู้จักชื่อแบรนด์

เส้นทางในธุรกิจนาฬิกาข้อมือ Casio

ทาดาโอะได้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ในอุตสาหกรรมนาฬิกาข้อมือ เพราะในช่วงเวลานั้น เกิดเหตุวิกฤตนาฬิกาใส่ถ่าน เขาจึงไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป และได้ทำการบุกตลาด พร้อมทั้งเปิดตัวนาฬิกาดิจิทัลรุ่นแรกCasiotron ซึ่งพัฒนามาจากเทคโนโลยีของเครื่องคิดเลข

เป็นนาฬิกาที่มีจุดขายชัดเจน ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แถมยังมีราคาที่ไม่แพง และนาฬิกาของแบรนด์ไม่เพียงแค่ผลิตนาฬิกาดิจิทัลธรรมดาเท่านั้น แต่เขาได้สร้างนาฬิกาเรือนแรกของโลก ที่มีฟังก์ชันปฏิทินอัตโนมัติแบบดิจิทัล ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องรีเซ็ต จึงเป็นแม่แบบของนาฬิการุ่นต่อไป

แบรนด์ดัง Casio ให้กำเนิดนาฬิกาที่มีความทนทาน

หลังจากที่เปิดตัวนาฬิกาเรือนแรก มาจนถึงความคิดในการสร้างนาฬิกา ที่มีความทนทาน เกิดขึ้นเมื่อในปี 1978 วิศวกรหนุ่มในบริษัท Casio ชื่อว่า คิคุโอะ อิเบะ เขาได้ทำนาฬิกาของพ่อหล่นตกพื้น จึงเกิดแรงบันดาลใจในการคิดค้น และผลิตนาฬิกาที่ทนต่อทุกสภาพ

โดยมีชื่อรุ่น G-SHOCK จะต้องเป็นนาฬิกาที่รับการกระแทก จากที่สูงได้ถึง 10 เมตร ป้องกันแรงดันน้ำที่ความลึก 100 เมตร และแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 10 ปี อิเบะได้ใช้เวลานานกว่า 2 ปี และทดลองสร้างต้นแบบกว่า 200 แบบ จนได้ถือกำเนิด DW-5000C [2] และกลายเป็นจุดขายของ G-SHOCK

รีวิว นาฬิกา Casio ที่เหมาะสำหรับคุณผู้ชาย

เป็นการรีวิว 5 จาก 10 นาฬิกา ที่เหล่าคุณผู้ชายให้ความสนใจ เป็นการรีวิวแบบเจาะจง ว่านาฬิการุ่นไหนมีความพิเศษอย่างไร สามารถรับชมได้ในข้อมูลส่วนถัดไป แต่ถ้าหากต้องการทราบข้อมูล ของนาฬิการุ่นอื่นๆ สามารถกดเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ CASIO ได้ทันที

  1. รุ่น EDIFICE EQS-920PB-1AV : ตัวนาฬิกาดีไซน์สีดำด้าน ตัดกับสีแดงได้อย่างลงตัว มาพร้อมกับหน้าปัด 3 เข็ม และหน้าปัดย่อย 3 หน้า สามารถกันน้ำลึกได้ 100 เมตร ซึ่งมีราคาซื้อขายประมาณ 3,590 บาท
  2. รุ่น G-SHOCK GA700SK-1A : เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อผู้ชายมาโดยเฉพาะ ตัวเคสเป็นวัสดุเรซินโปร่งใส ดีไซน์ย้อนยุค 80s ยังผสมผสานความทันสมัย ด้วยสีเมทัลลิค สามารถกันน้ำได้ 200 เมตร มีราคาซื้อขายอยู่ประมาณ 4,420 บาท
  3. รุ่น CASIO GST-B100-1A : นาฬิกาที่มาพร้อมกับคงามคลาสสิกแบบอะนาล็อก ตัวเรือนและกรอบที่ทำจากสเตนเลสสตีล ซึ่งตัวกรอบมี 2 ชั้น ภายในหน้าปัดยังมีโรตารี่ดิสก์ตรงตำแหน่ง 9 นาฬิกา ที่ออกแบบจากใบพัดเครื่องยนต์ไอพ่น กันน้ำได้ที่ความลึก 200 เมตร ในราคา 12,665 บาท
  4. รุ่น G-SHOCK GMDB800-4 : รุ่นนี้ทำออกมาเพื่อเอาใจผู้ชายสปอร์ต ดีไซน์สีชมพูนู้ด ตัวเรือนเล็กกว่ารุ่นทั่วไป หน้าปัดจะเป็นกระจกมิเนอรัล มีไฟ LED อัตโนมัติ ที่จะช่วยให้มองเห็นในเวลากลางคืน กันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร มีราคาซื้อขายประมาณ 2,640 บาท
  5. รุ่น G-SHOCK GA2000 SERIES : เป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก GA100 ซึ่งจุดเด่นที่มีการเพิ่มสี ทำให้สะดุดตามากยิ่งขึ้น เป็นการผสมผสานระหว่างระบบอะนาล็อก หน้าปัดนาฬิกาแบบเข็ม กับการแสดงผลตัวเลขจับเวลา และวันแบบดิจิตอล กันน้ำได้ 200 เมตร โดยมีราคาประมาณ 3,790 บาท

ที่มา: นาฬิกา Casio ผู้ชาย รุ่นไหนดี [3]

รีวิว 5 นาฬิกา Casio สำหรับคุณผู้หญิง

  1. W-218H : เป็นรุ่นคลาสสิก แถมยังมีราคาที่ประหยัดที่สุด ของแบรนด์เลยก็ว่าได้ หน้าจอดิจิทัล และตัวเรือทำมาจากเรซิน สามารถกันน้ำได้ โดยมีราคาซื้อขายประมาณ 569 บาท
  2. B640WC : เป็นนาฬิการุ่น Casio Vintage Classicที่มีทั้งความสวยงาม และมีประสิทธิภาพมากที่สุด มาในโทนสีโรสโกลด์ กันน้ำ 50 เมตร มีราคาซื้อขายประมาณ 1,490 บาท
  3. LTP-E151L : นาฬิกาที่สวยงามและมีดีไซน์ทันสมัย ไม่เหมือนใคร หน้าปัดสเตนเลสสตีลสีน้ำเงิน รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความทนทานสูง ตัวนาฬิกาเป็นระบบแอนาล็อกแบบดั้งเดิม มีราคาประมาณ 2,160 บาท
  4. LTP-E141L : นาฬิกาข้อมือผู้หญิง หน้าปัดสีทอง เสริมลุคโดยทำให้ดูทันสมัยมากขึ้น สายหนังแท้สีน้ำเงิน ตัวนาฬิกาเป็นระบบแอนาล็อก เหมาะสำหรับคุณผู้หญิง ที่ชื่นชอบความหรูหรา โดยมีราคาซื้อขายประมาณ 2,500 บาท
  5. SHE-3049SPG-7A : นาฬิกาที่มีความสวยงาม ตัวเรือนออกแบบให้มีความทันสมัย ตัวนาฬิกามีหน้าปัดเป็นสเตนเลส ส่วนสายข้อมือจะเป็นเหล็ก มีราคาซื้อขายประมาณ 2,900 บาท

ที่มา: รีวิว นาฬิกา Casio ผู้หญิง [4]

สรุป Casio แบรนด์นาฬิการะดับโลก

แบรนด์นาฬิกาชั้นนำ Casio ถือเป็นแบรนด์เครื่องประดับ ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจ อีกทั้งยังสามารถเก็บเป็นของสะสม ที่จะเพิ่มมูลค่าให้แก่ตัวเจ้าของในอนาคต หากคุณเลือกนาฬิกาที่มีราคาตลาด จะไม่มีคำว่าขาดทุนอย่างแน่นอน

อ้างอิง

[1] Blue O’Clock. (October 14, 2018). ประวัติ Tadao Kashio ผู้ก่อตั้ง CASIO. Retrieved from blueoclock

[2] AUCTION HOUSE. (September 23, 2021). กำเนิด G-SHOCK. Retrieved from auctionhouse

[3] PLUS AROUND. (2024). นาฬิกา Casio ผู้ชาย รุ่นไหนดี. Retrieved from plusaround

[4] Best Review. (April 20, 2023). รีวิว นาฬิกา Casio ผู้หญิง. Retrieved from bestreview

หากพูดถึงแบรนด์ที่เหมาะสำหรับสตรี ต้องยกให้ แบรนด์ Dior เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีความต้องการ ในกลุ่มผู้คนที่ใช้สินค้าแบรนด์เนม ด้วยการออกแบบสไตล์ femininity ผ่านสินค้าหลากหลายประเภท เราจะพาทุกท่าน ไปทำความรู้จักประวัติการก่อตั้ง จนถึงการแนะนำสินค้ายอดฮิต มีรายละเอียดดังนี้

ประวัติผู้ก่อตั้ง แบรนด์ Dior สู่จุดพลิกผันในช่วงชีวิต

จุดเริ่มต้นของแบรนด์เนมสำหรับผู้หญิง เกิดจาก คริสติย็อง ดิยอร์ เป็นนักออกแบบชาวฝรั่งเศส เกิดที่เมืองกร็องวีล เมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1905 [1] เขามีความหลงใหลในเรื่องการออกแบบตั้งแต่วัยเด็ก ถึงแม้จะไม่เคยได้เรียนทางด้านศิลปะ หรือสายแฟชั่นมาก่อน แต่เขาก็หารายได้จากการวาดรูป

ชีวิตมาถึงจุดพลิกผัน เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาถูกเรียกตัวไปให้รับใช้ชาติกว่า 2 ปี เมื่อปลดประจำการออกมา ครอบครัวกลับล้มละลาย และเขายังป่วยเป็นวัณโรค ซึ่งในตอนนั้นเขามีสภาพเป็นคนไร้บ้าน จนได้เข้าไปพักตัวที่บ้านเพื่อนของเขา Jacques Ozenne ซึ่งเป็นนักวาดภาพ เขาจึงเริ่มศึกษาเทคนิคต่างๆ

จนกลายเป็นดีไซน์เนอร์อย่างเต็มตัว เขาออกแบบหมวกให้ชนชั้นสูง ด้วยฝีมือเป็นเลิศของเขา ทำให้กลายเป็นที่รู้จักในกลุ่มชนชั้นสูงเป็นอย่างมาก ชนได้ก่อตั้งแบรนด์สินค้าของตนเอง ชื่อว่า แบรนด์ Dior ตอนที่เขาอายุ 42 ปี ชื่อแบรนด์มาจากนามสกุลของเขานั่นเอง

จุดปลี่ยน แบรนด์ Dior ที่ทำให้ผู้คนรู้จัก

เขามีความกล้าที่จะเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ ของวงการแฟชั่นในยุคนั้น จึงได้ทำการออกแบบเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิง ในคอลเลคชั่น New Look จนกลายเป็นเทรนด์การแต่งกาย ของหญิงสาวในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีความันสมัย กับสไตล์เสื้อแบบไหล่แคบ กระโปรงสั้น ซึ่งไม่มีใครกล้าทำมาก่อน

แบรนด์ Dior กลายเป็นที่รู้จักของผู้คนไปทั่วโลก ในช่วงเวลาที่เขาควบคุมกิจการเพียง 10 ปี ก็ได้เสียชีวิตลง ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์แฟชั่นในตำนาน ที่มีการสู้ชีวิตได้อย่างน่ายกย่องอย่างแท้จริง [2]

กระแสตอบรับ แบรนด์ Dior สู่แฟชั่นที่มีมูลค่า

ในช่วงยุค 90 คู่แข่งของแบรนด์ดิออร์ ก็คือ Chanel ช่วงนั้นเจ้าฟ้าชายชาลส์ และเจ้าหญิงไดอาน่า เกิดความระหองระแหงกัน จึงส่งผลให้เจ้าหญิง เลิกใช้สินค้าแบรนด์ CC โอกาสของดิออร์มาถึง เขาได้ถวายกระเป๋ารุ่น Lady Dior ให้แก่เจ้าหญิงไดอาน่า ส่งผลให้แบรนด์ ได้รับกระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยมไปอีกขั้น

ในปัจจุบัน ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ไฮเอนที่ได้รับความนิยม และยังเป็นผู้นำแฟชั่นหลายด้าน ได้แก่ เครื่องสำอาง และน้ำหอม เป็นแบรนด์ที่มีมูลค่ามากถึง 2.2 ล้านล้านบาท หากต้องการดูข้อมูลของสินค้าต่างๆ ของแบรนด์ สามารถเข้าไปรับชมได้ที่ DIOR

เหตุผลว่าทำไม แบรนด์ Dior ถึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก

แบรนด์แฟชั่นฝรั่งเศส ที่มีความเก่าแก่ ซึ่งแบรนด์ดิออร์ ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก มีร้านค้าประมาณ 5,556 แห่งทั่วโลก จุดเด่นคือความคลาสสิก สินค้าหรูมีคุณภาพ ซึ่งเหตุผลว่าทำไมแบรนด์นี้ จึงเป็นที่ต้องการ และได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

 4 เหตุผล ที่ทำให้แบรนด์มีผู้คนหลงรักในตัวสินค้า

  1. Dior’s beginning story : มีเรื่องราวที่น่าสนใจ การก่อตั้งชื่อแบรนด์นั้น มาจากนามสกุลของเขาเอง เพื่อเยียวยาผู้หญิง จากความน่ากลัวของสงครามโลกครั้งที่ 2 ออกแบบเสื้อผ้าหรูหรา ที่ไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน
  2. Dior’s luxurious craftmanship : คอลเลคชั่นที่มีความน่าดึงดูดผ่านการปักที่ประณีต ใช้ผ้าที่มีคุณภาพสูง ทำให้กลุ่มชนชั้นสูงให้ความเชื่อใจในตัวสินค้า ได้รับเชิญจากราชวงศ์อังกฤษ ให้ออกแบบคอลเลคชั่นส่วนตัว
  3. Face of Dior : ดิออร์ได้ใช้การโฆษณาหลากหลายช่องทาง เช่น นิตยสารแฟชั่น Vogue และ Marie-Claire โฆษณาทางโทรทัศน์ และการแสดงแฟชั่นโชว์ โดยการโฆษณานั้น ทำให้สินค้าดูสง่างาม และมีความซับซ้อนอยู่เสมอ
  4. World of Dior : ถึงแม้ช่วงแรกจะเป็นแบรนด์สำหรับผู้หญิง แบรนด์ Dior ได้ขยายรสนิยมให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ได้แก่ คอลเลคชั่นสำหรับผู้ชาย Dior Homme หรือคอลเลคชั่นสำหรับเด็ก Baby Dior เครื่องสำอางและสกินแคร์ DiorSkin J’dore Dior และน้ำหอมอื่นๆ อีกมากมาย

ที่มา: Dior ทำอะไร? น่าดึงดูดไหม? [3]

รีวิว 3 กระเป๋ายอดฮิต แบรนด์ Dior

  1. Lady Dior : เปิดตัวมาในช่วงปี 1995 ซึ่งเป็นรุ่นที่โด่งดัง เปิดตัวคู่กับเจ้าหญิงไดอาน่า เป็นจากหนังเย็บ ห้อยด้วยสัญลักษณ์ Dior ปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 195,000 บาท
  2. Dior Book Tote : กระเป๋าทรงสี่เหลี่ยม ที่สามารถบรรจุของได้เยอะมากๆ มีการตกแต่งด้วยแถบชื่อ Christian Dior ในปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 110,000 บาท
  3. Dior Caro : คอลเลกชั่น Dior Cruise 2021 ผลงานการออกแบบโดย Maria Grazia Chiuri มีสีให้เลือกทั้ง สีดำ, สีเทา, สีเบจ, สีครีม มีราคาในปัจจุบันอยู่ที่ 160,000 บาท

ที่มา: กระเป๋ารุ่นสุดฮิตของ Christian Dior [4]

สรุป แบรนด์ Dior

กระเป๋าที่ช่วยเพิ่มระดับความหรูหรา กับคอลเลคชั่นสายแฟชั่นใหม่ๆ ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มชนชั้นสูง ประวัติความเป็นมาของแบรนด์ ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ สู่แบรนด์แฟชั่นระดับโลก หลายท่านจึงให้ความสนใจในสินค้านี้เป็นอย่างมากในปัจจุบัน

อ้างอิง

[1] วิกิพีเดีย. (October 11, 2022). คริสตีย็อง ดียอร์. Retrieved from th.wikipedia

[2] Sale Here. (June 27, 2023). จุดเปลี่ยนที่ทำให้แบรนด์ Dior กลายเป็นที่รู้จัก. Retrieved from salehere

[3] Finnomena. (June 12, 2022). Dior ทำอะไร? น่าดึงดูดไหม?. Retrieved from finnomena

[4] MONEY BUFFALO. (October 5, 2023). กระเป๋ารุ่นสุดฮิตของ Christian Dior. Retrieved from moneybuffalo

หากพูดถึงแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก ที่ทำจากวัสดุสุดพรีเมียม หลายท่านจะต้องนึกถึง แบรนด์ Hermes อย่างแน่นอน แต่ก็มีหลายท่าน ที่ยังไม่รู้ประวัติความเป็นมา หรือใครเป็นคนก่อตั้ง รวมไปถึงการแนะนำ สินค้าที่มาราคา และน่าสะสมมากที่สุด ภายในเนื้อหาต่อไปนี้

ประวัติของ แบรนด์ Hermes ที่เริ่มต้นผลิตอานม้ามาก่อน

เริ่มต้นจาก Thierry Hermès เขาได้ย้ายไปทางตอนเหนือของกรุงปารีส ในปี ค.ศ. 1828 ซึ่งเป็นยุคที่ผู้คนนิยมเดินทางด้วยม้า เขาจึงปรับใช้เทคนิคงานฝีมือสำหรับอานม้า ทั้งบังเหียน สายคล้อง รวมถึงการแลกเปลี่ยนไปใช้หนัง เพื่อนำมาเป็นวัสดุสำคัญ เป็นงานที่มีความละเอียด แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

การผลิตอานม้า แบรนด์ Hermes ได้ยกระดับขึ้นในปี 1837 เขาได้เปิดร้านแฮร์เมสเวิร์กช็อปแห่งแรก ในกรุงปารีส ช่วงแรกสินค้ามีเพียงแค่เครื่องหนัง และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขี่ม้า เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับชนชั้นสูง ที่มีความต้องการซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ ในระดับที่เหนือกว่าผู้อื่น

เมื่อกิจการได้ 2 ลูกชายเข้ามาช่วย จนเกิดการแผ่ขยายสินค้า สินค้าอานม้าได้ถูกส่งไปที่ยุโรป เอเชีย อเมริกา เป็นจุดเริ่มต้นของ แบรนด์ Hermes กำลังเป็นที่นิยมในระดับโลก ต่อมาจึงเกิดการสร้างกระเป๋า เพื่อใช้แบกสัมภาระไปกับการเดินทางบนหลังม้า และเป็นจุดเริ่มต้นของการผลิตกระเป๋าหลายรุ่น [1]

แฟชั่นกระเป๋ารุ่นแรกของ แบรนด์ Hermes

หลังจากที่ผลิตกระเป๋าสำหรับเดินทาง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ก่อให้เกิดกระเป๋าหลายรุ่น ซึ่งคอลเลคชั่นแรกของแบรนด์ ถูกสร้างขึ้นโดย เอมีล โมรีส ซึ่งมีความต้องการทำให้คนรักของเขา ในช่วงเวลาเดียวกันนั่นเอง [2] และมีการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่าง ผ้าพันคอ, เสื้อผ้า ทำให้เป็นสินค้าที่สร้างชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

กำเนิดกระเป๋าแฟชั่นรุ่นแรก ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

Hermès Birkin และ Hermès Kelly เป็นกระเป๋าแฟชั่นรุ่นแรกที่โด่งดัง แถมยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน เป็นรุ่นที่ผลิตขึ้นจาก Jean-Louis Dumas และ Jane Birkin เป็นการตั้งชื่อรุ่นของกระเป๋า ตามชื่อเจ้าหญิงแห่งโมนาโก เป็นกระเป๋าที่ใช้ปิดบังการตั้งครรภ์ และเป็นกระเป๋าที่ผู้หญิงยุคนั้นต้องการมากที่สุด

4 ข้อมูลของ แบรนด์ Hermes ที่หลายท่านยังไม่รู้

ในปัจจุบัน แบรนด์กระเป๋าแฟชั่นชั้นนำระดับโลกนี้ ประสบความสำเร็จ และขึ้นแท่นเป็นแบรนด์หรูที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่ 3 ของโลก ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 930,000 ล้านบาท ตลอดความสำเร็จ 182 ปีของแบรนด์ สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ เกิดจาก 4 ข้อที่สำคัญ ดังนี้

  1. ความมั่นใจในตัวเอง : ซึ่งสินค้าของ แบรนด์ Hermes ที่จริงแล้วไม่มีฝ่ายการตลาด เพราะว่าไม่ต้องเสียเวลาหาสิ่งที่ลูกค้าชอบ เพราะมีความเชื่อ และมั่นใจในตัวสินค้า “ให้แบรนด์ขายตัวมันเอง”
  2. ใช้วิธีการขายงานฝีมือของแบรนด์ : ซึ่งสินค้าของแบรนด์ จะใช้ช่างฝีมือ 1 คน และจะต้องทำด้วยมือทั้งใบ โดยใช้เวลาในการทำกว่า 15 ชั่วโมง ที่จะได้กระเป๋า 1 ใบ
  3. ทำให้สินค้าที่ไม่ใช่ว่าใครจะซื้อก็ได้ : มีการผลิตสินค้าจำนวนจำกัด เพราะมองว่าการผลิตกระเป๋าที่ดีที่สุด จะสามารถผลิตได้กี่ใบ และไม่สนใจว่าลูกค้ามีความต้องการกระเป๋ากี่คน เป็นแนวคิดที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น
  4. วิธีการซื้อที่ไม่เหมือนแบรนด์อื่น : หากลูกค้าต้องการสินค้าของ แบรนด์ Hermes จะต้องเข้าใจรายละเอียดของตัวสินค้า และจะต้องซื้อสินค้าอย่างอื่น เพื่อให้พนักงานจำคุณได้ ก่อนที่จะซื้อสินค้าที่คุณต้องการ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณมีความรู้เกี่ยวกับแบรนด์ มากหรือน้อยแค่ไหน

ที่มา: ทำไม Hermès ถึงไม่มีฝ่ายการตลาด [3]

รีวิว 6 กระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน

เป็นการรีวิวกระเป๋ารุ่น Brikin 6 รุ่นที่หายาก และมีราคาแพงที่สุด ของทางแบรนด์แฮเมส ที่ทำเอาเหล่านักสะสมต่างซื้อมาไว้ครอบครอง มีรายละเอียดข้อมูลดังต่อไปนี้ หรือหากท่านต้องการเลือกซื้อ หรือดูรายละเอียดสินค้ารุ่นอื่นๆ สามารถกดเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ HERMES

  1. The Ghillies Birkin : เป็นอีกหนึ่งกระเป๋าแบรนด์ที่หายาก ซึ่งเปิดตัวในปี 2012 เป็นผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าของผู้ชาย มีราคาซื้อขายประมาณ 484,000 บาท
  2. The Cargo Birkin : กระเป๋าแฟชั่น แบรนด์ Hermes ที่เปิดตัวในปี 2020 เป็นอีกหนึ่งสินค้าสุดลิมิเต็ด ผลิตจากผ้าแคนวาส มีน้ำหนักที่เบา กระเป๋าด้านนอก 5 ช่อง มีราคาซื้อขายประมาณ 964,000 บาท
  3. The Sunrise Rainbow Birkin : กระเป๋าที่มีสีสันสดใสแบบคัลเลอร์บล็อก ผลิตขึ้นในปี 2020 ด้วยเทคนิคการตัดเย็บแบบพิเศษ ทำให้รูปร่างกระเป๋ามีรายละเอียดคมชัด ซึ่งมีราคาซื้อขายประมาณ 1 ล้านบาท
  4. The Touch Birkin : สินค้าที่วางขายในปี 2017 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหล่านักสะสมมีความต้องการ เพราะมีการใช้วัสดุที่ไม่เหมือนใคร โทนสีอัญมณี โดดเด่นด้วยหนังจระเข้ตรงฝาปิด เป็นกระเป๋าที่ได้รับการประมูลไปที่ราคา 1.09 ล้านบาท
  5. The Shadow Birkin : เปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 จากการออกแบบของ ดีไซน์เนอร์ชาวฝรั่งเศส ทำให้กระเป๋ามีความแปลกใหม่ มีรอยนูนบนกระเป๋า มีการผลิตออกมาจำนวนไม่มาก ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 600,000-800,000 บาท ต่อมาได้มีการประมูลไปในราคา 1.93 ล้านบาท
  6. The Faubourg Birkin : เป็นหนึ่งในกระเป๋า Holy Grail ของ แบรนด์ Hermes เปิดตัวในช่วงปลายปี 2019 เดิมทีมี 2 สี คือสีน้ำตาลและน้ำเงิน รูปแบบกระเป๋าที่ถูกจำลองแฟล็กชิป มาพร้อมกับกันสาดสีส้ม ที่เป็นสีเอกลักษณ์ของแบรนด์ มีการปิดประมูลไปที่ 10.2 ล้านบาท

ที่มา: 6 Hermès Birkin ลิมิเต็ดเอดิชัน [4]

นำตำแหน่งสาขา แบรนด์ Hermes ในประเทศไทย

กรุงเทพและปริมณฑล

ภาคใต้

ที่มา: รวมสาขา Hermes [5]

สรุป แบรนด์ Hermes

ตลาดความต้องการกระเป๋าแฟชั่น แบรนด์ Hermes สินค้าที่เพิ่มความสวยหรูให้แก่ตัวเจ้าของ หรือผู้ที่ต้องการครอบครอง จะต้องแลกมาด้วยกับการศึกษาข้อมูลตัวสินค้า และไม่ใช่ว่าใครจะเป็นเจ้าของสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกนี้ได้ง่ายๆ

อ้างอิง

[1] VOGUE. (April 18, 2023). เปิดประวัติแบรนด์ Hermès จากร้านทำอานม้า. Retrieved from vogue

[2] Brandname Exchange. (January 17, 2023). คอลเลคชันแรกของแบรนด์. Retrieved from brandnameexchange

[3] Innosense. (February 9, 2023). ทำไม Hermès ถึงไม่มีฝ่ายการตลาด. Retrieved from innosense

[4] THE STANDARD. (January 15, 2022). 6 Hermès Birkin ลิมิเต็ดเอดิชัน. Retrieved from thestandard

[5] Sale Here. (2018-2024). รวมสาขา Hermes. Retrieved from salehere

กระแสรองเท้าผ้าใบ หรือ สนีกเกอร์ ซึ่งเป็นรองเท้าที่เหล่านักสะสมชื่นชอบ ด้วยรูปที่แปลกใหม่ มีความสวยงาม หากสะสมรุ่นที่หายาก จะสามารถสร้างผลกำไรให้กับนักสะสมได้อย่างแน่นอน วันนี้เราจะพาทุกท่าน ไปทำความรู้จักสองแบรนด์รองเท้าผ้าใบชื่อดัง ได้แก่ Nike และ Adidas

ข้อมูล สนีกเกอร์ จากแบรนด์ดังอย่าง Nike ที่ท่านควรรู้

แบรนด์รองเท้าชื่อดังอย่างไนกี้ ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ สนีกเกอร์ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ประวัติการก่อตั้งของแบรนด์นี้ เกิดจาก Bill Bowerman เขาเป็นโค้ชกีฬาของมหาวิทยาลัยโอเรกอน และลูกศิษย์ของเขา Phil Knight ชื่อแรกของบริษัท Ribbon Sports เกิดขึ้นในปี 1964-1978 โดยมีสำนักงานใหญ่ที่บีเวอร์ตัน [1]

หนึ่งในความสำเร็จของไนกี้ ก็คือการนำเอาเหล่านักกีฬาชื่อดัง ได้แก่ Mia Hamm, Roger Federer, Tiger Woods และนักบาสชื่อดังอย่าง Michael Jordan มาเป็นพรีเซนเตอร์ และได้นำชื่อนักกีฬามาทำเป็นชื่อรุ่นของรองเท้า เช่น Nike Air Jordan โดยเป็นชื่อของนักบาส NBA ระดับตำนาน

ไนกี้มีรายได้จากการขายรองเท้า สนีกเกอร์ มากกว่า 39.3 พันล้านเหรียญ และอยู่ในอันดับที่ 9 ของโลก เกิดจากการจัดอันดับแบรนด์ที่มีมูลค่าสูง ประจำปี 2023 จากเว็บไซต์ Interbrand ซึ่งท่านสามารถเข้าไปเช็กสถิติการจัดอันดับได้ที่เว็บไซต์ได้ทันที

ที่มาของโลโก้ไนกี้ แบรนด์ สนีกเกอร์ ชื่อดัง

โดยโลโก้ของแบรนด์รองเท้าชื่อดัง Nike ที่มีอีกชื่อว่า Swoosh เกิดจากการออกแบบของนักศึกษาออกแบบกราฟิก Carolyn Davidson จากมหาวิทยาลัย Portland State University ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากปีกของเทพธิดาของกรีก สัญลักษณ์แห่งชัยชนะ และความแข็งแกร่ง [2] มาเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์

รีวิว 5 รุ่นรองเท้า สนีกเกอร์ ของไนกี้

  1. Jordan 1 Retro High Dior : เป็นรุ่นที่มีกระแสตอบรับ ในแวดวงของนักสะสมรองเท้า เพราะเป็นการทำงานร่วมกับแบรนด์ Dior ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยม โดยทางไนกี้ ได้ผลิตรองเท้ารุ่นนี้ออกมาเพียง 8,500 คู่เท่านั้น ราคาซื้อขายในปัจจุบัน ประมาณ 190,000-350,000 บาท
  2. Nike MAG Back to the Future : เป็นรองเท้า สนีกเกอร์ ที่ทำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ในปี ค.ศ. 1985 เป็นรองเท้าที่มีความล้ำสมัย สามารถเปิดไฟ และผูกเชือกรองเท้าเองได้ มีราคาซื้อขายประมาณ 300,000-350,000 บาท
  3. Nike Air Yeezy 2 Red October : เป็นอีกรุ่นที่นักสะสมควรต้องมีเก็บไว้ เป็นรุ่นที่ คานเย เวสต์ นักร้องชื่อดัง ทำกับค่ายไนกี้ โดยมีราคาซื้อขายในปัจจุบัน ประมาณ 100,000-150,000 บาท
  4. Nike X Off-White The Ten: Air Jordan 1 Off-White Chicago : เป็นรุ่นที่มีความพิเศษ เพราะโลโก้จะทำการเย็บติดกับตัวรองเท้า ด้วยเส้นด้ายสีน้ำเงิน และพิมพ์คำว่า Air ไว้ที่ใต้รองเท้าอีกด้วย โดยราคาซื้อขายในปัจจุบัน ประมาณ 95,000-150,000 บาท
  5. Air Jordan 1 High OG TS SP Travis Scott : เป็นการทำงานร่วมกับแร็ปเปอร์ชื่อดัง ทราวิส สก็อตต์ เป็นการดีไซน์โลโก้ให้กลับหน้ากลับหลัง เพื่อเพิ่มความเท่ให้กับตัวรองเท้า และมีความแตกต่างจากไนกี้รุ่นอื่นๆ มีราคาซื้อขายในปัจจุบัน ประมาณ 50,000-55,000 บาท

ที่มา: ‘สนีกเกอร์’ ของสะสมคนรุ่นใหม่ [3]

ทำความรู้จัก Adidas แบรนด์ สนีกเกอร์ สุดคลาสสิก

ประวัติการกำเนิดแบรนด์อาดิดาส เกิดจากสองพี่น้อง รูดอล์ฟ ดาสเลอร์ และ แอดดิ ดาสเลอร์ ที่ช่วยกันผลิตรองเท้ากีฬา โดยมีชื่อแบรนด์ว่า Dassler มาจากนามสกุลของทั้งสองคน โดยเปิดกิจการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1924 และมีการใช้ชื่อให้การเปิดกิจการว่า Dassler Brothers Shoe Factory [4]

มาจึงจุดแตกหักของสองพี่น้อง เมื่อกิจการถูกแทรกแซงโดยทหาร และถูกสั่งให้ผลิตรองเท้าให้กับทหาร ตัวพี่ชายถูกเรียกให้ไปประจำการที่กองทัพจนถึงปี ค.ศ. 1948 เมื่อสงครามสงบลง ทางพี่ชายได้แยกออกมาทำแบรนด์ของตนเอง โดยใช้ชื่อว่า Puma

ส่วนตัวของน้องชาย ได้ทำการเปลี่ยนชื่อแบรนด์จาก Dassler เป็น Adidas แทน กิจการของทั้งสองพี่น้อง มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมานานกว่า 60 ปี จนกระทั่งปี 2009 ทั้งสองแบรนด์ได้หันกลับมาจับมือกันอีกครั้ง การตลาด สนีกเกอร์ ของแบรนด์อาดิดาส เป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก

การเปลี่ยนแปลงโลโก้อาดิดาส

นอกจากจะมีรองเท้า สนีกเกอร์ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โลโก้ของแบรนด์ก็เป็นที่น่าจดจำเช่นกัน เดิมทีโลโก้สามขีด Three Stripes เป็นของ Karhu Sports แต่ทางนักออกแบบของแบรนด์ อดอล์ฟ ดาสเลอร์ ได้ซื้อโลโก้นี้มาในราคา 1,600 ยูโร ทางอาดิดาสจึงได้ใช้สัญลักษณ์ 3 ขีด อย่างเป็นทางการนั่นเอง

รีวิว 5 รองเท้าของอาดิดาส ที่ได้รับความนิยม

  1. SUPERSTAR : เป็นรองเท้า สนีกเกอร์ สุดคลาสสิก ที่ทำจากหนัง Full Grain ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทาน ทำความสะอาดง่าย มาในโทนสีพื้นเรียบ มีราคาซื้อขายในปัจจุบัน ประมาณ 3,590 บาท
  2. NMD R1 : รองเท้าที่สาวกอาดิดาสควรมีไว้ครอบครอง มีความโดดเด่นที่รูปทรงทันสมัย สไตล์โมเดิร์น เข้ากับการแต่งตัวหลากหลายรูปแบบ สวมใส่ได้ทั้งชายและหญิง โดยมีราคาซื้อขายในปัจจุบัน ประมาณ 5,000 บาท
  3. STAN SMITH : รุ่นของรองเท้าที่สะท้อนความคลาสสิกได้ดี ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายโอกาส ดีไซน์ที่เรียบหรู วัตถุที่ใช้เป็นหนังเกรดพรีเมี่ยม โดยมีราคาซื้อขายในปัจจุบัน ประมาณ 3,500 บาท
  4. SUPERSTAR SLIP ON : เป็นรองเท้า สนีกเกอร์ ที่ได้รับความนิยม ด้วยรูปทรงที่ทันสมัย ซึ่งพัฒนามาจากรุ่น SUPERSTAR เมื่อสวมใส่จะทำให้เท้าดูเรียว มีสายยางรัดเสริม ซึ่งราคาซื้อขายในปัจจุบัน ประมาณ 4,990 บาท
  5. PUREBOOST : เป็นรองเท้าสำหรับวิ่ง เพื่อรองรับข้อเท้า ขา และเข่าโดยเฉพาะ กันน้ำได้จากการวิ่งทุกจังหวะ ด้านนอกถักด้วยเส้นใยเสริมความยืดหยุ่น มีน้ำหนักที่เบา โดยมีราคาซื้อขายในปัจจุบัน ประมาณ 2,400 บาท

ที่มา: รองเท้าadidasยอดนิยม [5]

สรุป สนีกเกอร์

ในปัจจุบัน ตลาดของวงการรองเท้า สนีกเกอร์ ยังเป็นกระแสนิยมเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำเอาเหล่านักสะสม ต่างหารองเท้าที่หายาก เพราะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าดีอีกด้วย ซึ่งทั้งแบรนด์ Nike และ Adidas ต่างเป็นแบรนด์รองเท้าที่ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจมากที่สุด

อ้างอิง

[1] Popticles. (September 9, 2020). รู้จักต้นกำเนิด Nike แบรนด์รองเท้ากีฬา. Retrieved from popticles

[2] ปันโปร. (October 11, 2023). Nike จากจุดเริ่มต้นหลักพัน. Retrieved from punpro

[3] THE STANDARD. (April 4, 2021). ‘สนีกเกอร์’ ของสะสมคนรุ่นใหม่. Retrieved from thestandard

[4] THANAplus. (October 6, 2021). ประวัติ Adidas อาดิดาส. Retrieved from thanaplus

[5] Lemon8. (October 18, 2022). รองเท้าadidasยอดนิยม. Retrieved from lemon8-app

ซุปเปอร์คาร์ เป็นรถยนต์ที่มีความเท่ ดีไซน์ที่ออกแบบเพื่อสาวกนักซิ่ง และความหลงใหล ที่ตามหาโมเดลรถในฝัน เป็นของสะสมที่เพิ่มมูลค่า เราจะพาทุกท่านไปรู้จักหนึ่งในแบรนด์ดังระดับโลกและแนะนำการเริ่มต้นสะสมโมเดลรถยนต์ สำหรับมือใหม่

ประวัติ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ซุปเปอร์คาร์ ชื่อดัง Lamborghini

จุดเริ่มต้นของการสร้าง ซุปเปอร์คาร์ คันแรกของโลก เกิดขึ้นจากฝีมือของ Ferruccio Lamborghini ชายที่มีความหลงใหลในการประดิษฐ์ และออกแบบรถยนต์ เขาเกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2459 อดีตเขาเคยเป็นทหารตำแหน่งช่างเครื่อง และเป็นนักธุรกิจชาวอิตาลี ที่ก่อตั้งแบรนด์ Lamborghini ขึ้นมา [1]

ที่มาของสัญลักษณ์รูปกระทิงหน้ารถ เขาอิงมาจากรูปร่างและนิสัยของตัวเอง ที่เป็นคนที่มีรูปร่างสันทัด ชอบพูดเสียงดัง และมีความมุ่งมั่นสูง จึงเปรียบกับกระทิงในวัยหนุ่ม ในช่วงแรก เขาไม่ได้ตั้งใจสร้าง ซุปเปอร์คาร์ ให้เป็นที่ต้องการของผู้คนในยุคนั้น เขาตั้งใจที่จะสร้างรถแทรกเตอร์ที่ดีที่สุดในยุโรป

เขาคิดว่ารถยนต์สปอร์ต Ferrari ที่ซื้อมาขับเองนั้น มีความห่างไกลความสมบูรณ์แบบ เขาจึงใช้ความสามารถ ในการสร้างรถสปอร์ตที่เหนือกว่า จะต้องมีรูปร่างที่สวยงาม เพราะมีความคิดที่จะเอาชนะคู่แข่งให้ได้ ในช่วงเวลาผลิตรถยนต์ของเขา ยังไม่ส่งผลกระทบ ต่อแบรนด์ร่วมสัญชาติ มากสักเท่าไหร่

ซุปเปอร์คาร์ คันแรกของแบรนด์กระทิงดุ

ในปี 1963 Ferruccio ได้ปล่อยรถแบรนด์แลมโบกินีคันแรก เป็นรถสปอร์ตรุ่น 350GT แบบสองที่นั่ง ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่ยังไม่ค่อยลงตัว และมีกำลังม้าที่ไม่สามารถแซงรถ Ferrari เนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ V12 ขนาด 3.5 ลิตร จึงทำให้มีอัตราการเร่งความเร็วไม่มาก [2]

แต่เขามีความเชื่อว่า รถ ซุปเปอร์คาร์ แบรนด์แลมโบกินีของเขา จะต้องได้รับความนิยม และจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เขาได้จัดหาทุน ในการออกแบบรถสปอร์ตรุ่นใหม่ รวมถึงทีมช่างฝีมือมากประสบการณ์อย่าง Giotto Bizzarrini, Gian Paolo Dallara และ Paolo Stanzani จึงได้รถรุ่น P400

รถสปอร์ตสองที่นั่ง P400 ของแบรนด์แลมโบกินี ใช้เครื่องยยนต์ V12 แต่ขยายความจุให้ใหญ่ขึ้น เครื่องยนต์ที่ติดตั้งในแนวขวาง และใช้โลหะยึดให้แน่นหนา ในช่วงปี 1965 รถสปอร์ตรุ่นนี้ ได้ถูกนำไปจัดแสดงบนบูธของแลมโบกินี ในงาน Turin Motor Show กลายเป็นรถสปอร์ตที่ได้รับความสนใจมากที่สุด

รีวิว 3 ซุปเปอร์คาร์ ที่โด่งดังของแลมโบกินี

  1. Lamborghini Gallardo : เป็นรถสปอร์ตที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ ซึ่งมียอดจำหน่ายทั้งหมด 14,022 คัน เริ่มอวดโฉมเครื่องยนต์ครั้งแรก ในปี 2003 และประกาศยกเลิกการผลิตในปี 2013 เป็นรถสปอร์ตสองที่นั่ง สองประตู ใช้เครื่องยนต์ V10 ที่ได้พัฒนาจากเครื่องยนต์ V8 ของ Audi
  2. Lamborghini Aventador : รถสปอร์ตที่มีสมรรถนะสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ และใช้เครื่องยนต์ V12 ชื่อของรถรุ่นนี้ ได้มาจากชื่อของกระทิงที่ชนะการต่อสู้ ในปี 1993 ซึ่งมีการเปิดตัวครั้งแรกที่งานเจนนิวามอเตอร์โชว์ ปี 2011 มีอัตราเร่ง 0-100 ในเวลา 2.9 วินาที
  3. Lamborghini Huracán : ฮูราแคน เป็นรถสปอร์ตที่มาแทน กัลป์ลาร์โด เปิดตัวมาด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม จนคว้ารางวัล ซุปเปอร์คาร์ ออฟเดอะเยียร์ 2014 เป็นรถสองประตู เครื่องยนต์วางท้าย และขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบเกียร์ดูโอคลัช 7 จังหวะ เป็นรุ่นที่ฮิต และเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง

ที่มา: ห้ามพลาด! 3 ซูเปอร์คาร์รุ่นโด่งดังที่สุดของ Lamborghini [3]

ความนิยมในตัวรถ ซุปเปอร์คาร์ กลายมาเป็นโมเดลรถจำลอง

ความชื่นชอบของผู้ชาย ที่อยากได้รถสปอร์ตสุดเท่มาไว้ครอบครอง แต่ยังไม่มีกำลังทรัพย์ที่มากพอ ที่จะซื้อรถในฝันได้ หลายท่านต่างเลือกที่จะสะสมโมเดลจำลองแทน หนึ่งในนั้นคือโมเดลรถ ซุปเปอร์คาร์ ของแบรนด์รถสปอร์ตชื่อดังอย่าง แลมโบกินี ซึ่งมีข่าวการจำลองโมเดลที่ราคาแพงที่สุดในโลก มีข้อมูลดังนี้

โมเดลรถสปอร์ตแบบจำลอง ที่แพงกว่าของจริง

โมเดลจำลองแลมโบกินี รุ่น Aventador LP700-4 ถูกออกแบบโดย Rubert Gulpen เขาเป็นอดีตวิศวกรช่างยนต์ ซึ่งผลิตโมเดลขนาด 1:18 ตัวถังทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์แท้ทั้งคัน ภายในตัวรถนั้น ประกอบไปด้วยเบาะนั่งที่ติดเพชร รวมถึงไฟหน้า และพวงมาลัย ที่ทำจากเพชรแท้ทั้งหมด

ซึ่งเขาใช้เวลาในการผลิตโมเดล ซุปเปอร์คาร์ 500 ชั่วโมง และลงทุนการผลิตไป 1.7 ล้าน ได้นำออกมาประมูลด้วยราคาเริ่มต้น 3 ล้านปอนด์ แต่สำหรับสาวกที่ชื่นชอบ ต่างยอมจ่ายเงินประมูล 4.3 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 213 ล้านบาท [4] ซึ่งราคาของรถต้นแบบของจริง มีราคาที่ 8.9 ล้านบาทเท่านั้นเอง

แนะนำ 5 โมเดลแลมโบกินี สำหรับมือใหม่

  1. Aventador LP750 : โมเดลจำลองรถ ซุปเปอร์คาร์ ขนาด 1:32 ประตูและฝากระโปง สามารถเปิดได้ มีราคาซื้อขายเริ่มต้นประมาณ 264 บาท
  2. Urus Bison mansory SUV : โมเดลจำลองรถแลมโบสีเหลือง ขนาด 1:24 มีไฟและเสียง เหมาะสำหรับเด็ก ราคาเริ่มต้นประมาณ 758 บาท
  3. Veneno : เป็นโมเดลรถจำลองแบบพิเศษ เมื่อดึงรถไปข้างหลัง จะพุ่งไปข้างหน้าเองได้ เหมาะสำหรับเป็นของขวัญให้กับเด็ก มีราคาประมาณ 821 บาท
  4. Sian FKP37 : โมเดลรถแลมโบสีทองเหลือบดำ ขนาด 1:18 สวยงาม และได้รับความนิยมในการสะสมมากที่สุด มีราคาซื้อขายประมาณ 1,440 บาท
  5. SUV Diecast : เป็นโมเดลที่ทำขึ้นจากโลหะ สามารถจองลองเสียงได้ มีขนาดอยู่ที่ 1:24 ราคาซื้อขายประมาณ 503 บาท

หรือถ้าหากท่านมีความต้องการ จะเลือกซื้อโมเดลรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆ นอกเหนือจากที่เราได้นำมารีวิว สามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ AliExpress เพราะมีรายละเอียดโมเดลทั้งหมด

สรุป ซุปเปอร์คาร์

ซุปเปอร์คาร์ ของแบรนด์รถสปอร์ตชื่อดังอย่าง แลมโบกินี ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยม ทั้งประวัติการก่อตั้ง ไปจนถึงความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะคู่แข่ง จนสร้างรถที่มีเอกลักษณ์ จนทำให้ผู้บริโภคหลายท่าน ต่างสะสมรถรุ่นนี้ รวมไปถึงการสะสมโมเดลรถจิ๋ว ที่สามารถเพิ่มมูลค่าสูงในภายภาคหน้าได้

อ้างอิง

[1] WIKIPEDIA. (April 6, 2024). Ferruccio Lamborghini. Retrieved from en.wikipedia

[2] ไทยรัฐออนไลน์. (November 3, 2023). ย้อนรอยประวัติศาสตร์ซุปเปอร์คาร์คันแรกของโลก. Retrieved from thairath

[3] CARSOME. (September 8, 2021). ห้ามพลาด! 3 ซูเปอร์คาร์รุ่นโด่งดังที่สุด. Retrieved from carsome

[4] Sanook. (March 1, 2016). อึ้ง! รถโมเดล Lamborghini. Retrieved from sanook

เจาะลึกเบื้องหลังความเป็นมา แบรนด์ Supreme ไม่ใช่แค่แบรนด์ที่ขายเสื้อผ้าแฟชันอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีการออกแบบคอลเลคชันสุดแปลก ที่ทำเอาลูกค้าอึ้ง มีสินค้าวางขายทุกประเภท วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักแบรนด์เสื้อผ้าแฟชันระดับโลก ก่อนที่จะได้รับความนิยม และการเปิดตัวสินค้าใหม่ร่วมกับไทย

ประวัติความเป็นมา แบรนด์ Supreme เอาใจเหล่านักสเก็ต

จุดเริ่มต้นของ แบรนด์ Supreme สินค้าชื่อดังระดับโลก เริ่มต้นจาก James Jebbia [1] เขาใช้ชีวิตและโตในประเทศอังกฤษ จนย้ายกลับไปบ้านเกิดของเขาที่อเมริกา ตอนอายุครบ 20 ปี เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นพนักงานร้านเสื้อผ้า แต่ก็เปิดแผงขายเสื้อผ้าวินเทจ ตามตลาดขายของเก่าเช่นกัน

ถัดมาในปี 1989 เขาตัดสินใจลาออกจากงาน เพื่อมาเปิดร้านเสื้อผ้าของตนเอง และได้นำเสื้อผ้าจากแบรนด์ Stussy วางขายในร้านของตนเองในยุคนั้น จนกระทั่งได้ขายกิจการ และไปร่วมงานกับทาง Stussy อย่างเต็มตัว เขายังมีส่วนช่วยขยายกิจการของร้านที่ NYC อีกด้วย

เขาได้คลุกคลีกับเหล่านักสเก็ต และมีความคิดที่จะทำสินค้าสำหรับนักสเก็ตขึ้นมา เพราะในช่วงเวลานั้น ยังไม่มีแบรนด์สินค้าสำหรับนักสเก็ต ทั้งในเรื่องของคุณภาพ และวัสดุที่ใช้ การออกแบบที่ไม่มีเอกลักษณ์ จึงมีความคิดที่จะผลิตสินค้าเพื่อเอาใจนักสเก็ตโดยตรง

จุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิด แบรนด์ Supreme

เมื่อในปี 1994 James Jebbia ได้สถานที่ทำเลดี ซึ่งเป็นตึกบนถนน Lafayette เพราะในยุคนั้น บนท้องถนนยังไม่ค่อยมีผู้คนสัญจร เป็นที่ที่เหมาะสำหรับเหล่านักสเก็ต จึงได้ใช้เงินลงทุน 12,000 เหรียญ เพื่อเช่าพื้นที่ และได้สร้างแบรนด์สินค้าของตนเองขึ้นมา ชื่อว่า Supreme ที่แปลว่า ความสำคัญ หรือผู้มีอำนาจสูงสุด

ซึ่งเริ่มแรก แบรนด์ Supreme ได้ผลิตสินค้าเสื้อยืด 3 ลวดลาย ได้แก่ Afro Skater, Box Logo, Travis Bickle สำหรับโลโก้ของแบรนด์ จะใช้ฟ้อนต์ Futura Heavy Oblique ตัวหนังสือสีขาว ที่อยู่บนพื้นสี่เหลี่ยมสีแดง ซึ่งเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานศิลปะ propaganda art ของ Barbara Kruger

เริ่มแรก ผลิตสินค้าเพื่อเอาใจนักสเก็ตบอร์ดโดยเฉพาะ สังเกตได้จากหน้าร้านของแบรนด์ ที่มีพื้นที่โล่ง ซึ่งทำให้เหล่านักสเก็ต สามารถไถสเก็ตเข้ามาช้อปสินค้าภายในร้านได้ แม้กระทั่งพนักงานขาย ก็เป็นนักสเก็ตชื่อดังรุ่นใหญ่ Gio Estevez และ Aaron Bondaroff เป็นกลุ่มพนักงานกลุ่มแรกอีกด้วย

การฟ้องร้อง แบรนด์ Supreme จนเป็นกระแส

ในยุคที่ยังไม่มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้กระแสของแบรนด์นี้พูดถึงกัน จากปากต่อปาก แต่มีเหตุการณ์ที่ถูกฟ้องร้องจาก Calvin Klein เพราะซูพรีมได้โปรโมทเสริมด้วยสติกเกอร์ Box Logo ที่แจกฟรีให้กับลูกค้า และพนักงานก็นำไปติดที่สเก็ตบอร์ด ป้าย และสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงนิวยอร์ก [2]

แต่มีมือดี นำสติกเกอร์ไปติดที่ป้ายโฆษณาของ Calvin Klein จึงเป็นเรื่องราวการฟ้องร้องที่ใหญ่โต แต่ไม่มีหลักฐานว่าใครเป็นคนทำ จึงทำให้ซูพรีมรอดพ้นคดีนี้ และเป็นเรื่องราวที่ทำให้ แบรนด์ Supreme มีผู้คนพูดถึงมากยิ่งขึ้น และถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

แบรนด์ Supreme ถูกผลักดันจากศิลปินชื่อดังระดับโลก

ต่อมาในปี 2006 ในช่วงเวลานั้น ซูพรีมได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง [3] และยังได้มีโอกาสร่วมงานกับสินค้าชื่อดัง ได้แก่ Nike, Clarks, Vans แต่จุดที่ทำให้วงการแฟชันก้าวไปสู่จุดที่สูงกว่าเดิม เพราะการออกคอลเลคชันใหม่จากทาง Supreme จนทำให้คนดังหลายท่านจับจองสินค้า

Kanye West ศิลปิน และนักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ชื่อดังระดับโลก เขาได้สวมใส่รองเท้า Supreme Blazer SB ซึ่งเป็นงานร่วมทำกับ Nike เขาสวมรองเท้าที่มีป้ายราคาติดไว้แค่ 150 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น แต่เพราะเขาเป็นคนดัง ทำให้ความนิยมของรองเท้าเพิ่มขึ้น และมีราคาสูงขึ้นไปถึง 800 ดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

หลังจากนั้น ความนิยมสินค้าพุ่งสูงขึ้นในปี 2007 และได้รับงานทำร่วมกับแบรนด์ดังหลากหลายเจ้า 7 ปีต่อมา ก็มีแบรนด์สินค้าของไมเคิล จอร์แดน ที่ขอมาทำงานร่วมกับซูพรีม จึงทำให้เกิดคอลเลคชันใหม่ออกมาแทบทุกเดือน หรือสามารถดูรายละเอียดสินค้าต่าง ๆ ได้ที่เว็บไซต์ Supreme ได้เลย

3 วิธีทำการตลาดของ แบรนด์ Supreme

  1. ให้ประสบการณ์ที่ลูกค้าคาดไม่ถึง : ย้อนไปในช่วงที่เริ่มทำแบรนด์สินค้า ที่เอาใจเหล่านักสเก็ตบอร์ด ถึงแม้ว่าเขาเล่นสเก็ตไม่เป็น แต่ก็เข้าใจความต้องการของลูกค้า และทำหน้าร้านให้กว้าง ออกแบบบริเวณพื้นที่กลางร้าน เป็นลานโล่งให้นักสเก็ต สามารถเข้ามาไถสเก็ตในร้านได้
  2. ผลิตสินค้าใหม่ ที่ใครก็อยากครอบครอง : ซูพรีมจะเปิดคอลลเลคชันใหม่ปีละ 2 คอลเลคชันเท่านั้น ก่อนที่จะวางขายสินค้า จะมีการเรียกแขกด้วยการโชว์สินค้าผ่านทางเว็บไซต์ และช่องทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ โดยมีช่วงเวลา 11 โมงเช้าของวันพฤหัสบดีทุกรอบ
  3. สร้างความแปลกใหม่ตลอดเวลา : ไม่ใช่แบรนด์ที่ผลิตเสื้อผ้าแฟชันอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีงานร่วมทำกับแบรนด์ดังอีกมากมาย รวมไปถึงการนำคารักเตอร์ของตุ๊กตา Chucky จากภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง Child’s Play มาเปลี่ยนลุคให้กลายเป็นตุ๊กตาสุดชิกอีกด้วย

ที่มา: กรณีศึกษา กลยุทธ์การตลาดของ Supreme [4]

รีวิว แบรนด์ Supreme คอลเลคชันร่วมกับไทย

เป็นที่ฮือฮาในวงการแฟชัน และวงการพระเครื่องเลยทีเดียว มีแฟนเพจ Soul4Street ได้มีการโพสต์รูปและระบุข้อความว่า Supreme X หลวงพ่อคูณ เตรียมวางออกจำหน่ายในคอลเล็กชั่นSS21 [5] เป็นการเซอร์ไพรส์ลูกค้าคนไทยมาก ๆ เพราะซูพรีมได้ออกแบบคอลเลคชันเสื้อเซิ้ตลายหลวงพ่อคูณ พร้อมยันต์บนตัวเสื้อ

เป็นการดิลที่ลงตัว เมื่อทางคณะกรรมการวัดบ้านไร่ มีข้อตกลงให้ใช้ภาพวาดหลวงพ่อคูณและยันต์ ลงบนตัวเสื้อได้ โดยงานคอลเลคชันนี้ จะมีการผลิตออกมาแค่ 1,000 ตัวแบบคละสี 3 สีเท่านั้น มีราคาประมาณ 4,900 บาท [6] และทางซูพรีมยังถวายปัจจัย ให้แก่ทางวัดกว่า 780,000 บาท

สรุป แบรนด์ Supreme

เรียกได้ว่า เป็นแบรนด์สินค้าที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว แถมยังมีงานร่วมกับแบรนด์ชื่อดังมากมาย จนทำให้กระแสการจับจองเป็นเจ้าของพุ่งขึ้นสูง รวมไปถึงการร่วมกับไทย ก็สร้างความฮือฮาสะเทือนวงการแฟชันเป็นอย่างมาก

อ้างอิง

[1] WIKIPEDIA. (January 18, 2024). James Jebbia. Retrieved from en.wikipedia

[2] THANA plus. (September 28, 2021). เรื่องพีคๆ ที่ทำให้ Supreme เป็นกระแส. Retrieved from thanaplus

[3] ไทยรัฐออนไลน์. (February 28, 2021). คานเย เวสต์ ผู้ผลักดันความไฮป์. Retrieved from thairath

[4] MARKET THINK. (February 16, 2021). กรณีศึกษา กลยุทธ์การตลาดของ Supreme. Retrieved from marketthink

[5] MGR ONLINE. (February 16, 2021). รุ่นนี้สุดขลัง! Supreme เปิดคอลเลกชันใหม่. Retrieved from mgronline

[6] GQ. (May 12, 2021). ดีลลงตัว! วัดบ้านไร่อนุญาต. Retrieved from gqthailand

แฟนคลับอนิเมะชื่อดัง One Piece ซึ่งหลายท่านรักในการ์ตูนเรื่องนี้ เพราะมีเรื่องราวการเดินทางที่เข้มข้น ตัวละครที่มีพลังวิเศษจากผลปีศาจ และความเท่ของตัวละคร จึงมีการทำ โมเดลวันพีช ออกมาให้แฟนคลับสะสม ซึ่งบางตัวมีราคาสูง ก่อนจะไปทำความรู้จักกับโมเดลที่มีราคา มาเจาะลึกเบื้องหลังอนิเมะกันก่อน

ก่อนที่จะมี โมเดลวันพีช มังงะที่ผ่านปลายปากกาผู้สร้างชื่อดัง

วันพีซ [1] เป็นการ์ตูนจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเขียนจากปลายปากกาของอาจารย์โอดะเรื่องราวเริ่มต้นจากการตามหาสมบัติสุดล้ำค่า ที่ราชาโจรสลัดได้ครอบครองเอาไว้ เริ่มมีการตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2540 นับแต่นั้นมา ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และถูกนำมาทำเป็นการ์ตูนอนิเนะ รวมไปถึง โมเดลวันพีช

การ์ตูนเรื่องนี้ ถือว่าได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก โดยมีการตีพิมพ์มากกว่า 320 ล้านเล่ม ในช่วงปี พ.ศ. 2540-2557 ด้วยจุดเด่นของลายเส้น และเรื่องราวที่ผู้วาดได้สร้างสรรค์ขึ้นมา ทำไมมีแฟนคลับที่หลงรักการ์ตูนเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก สนุกสนานไปกับการตามหามหาสมบัติอันล้ำค่า กับกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง

ปัจจุบัน การ์ตูน One Piece ทำยอดขายไปทั้งหมด 540 ล้านเล่ม ซึ่งมีจำนวนตอนทั้งหมด 1,089 ตอนสำหรับอนิเมะ และ 1,101 ตอนสำหรับหนังสือการ์ตูน แถมยังมีการทำภาคแยก ซึ่งทำออกมาฉบับเดอะมูฟวี่ กว่า 15 ตอน ซึ่งภาคล่าสุด One Piece Film RED ทำรายได้ในประเทศญี่ปุ่น 9,281 ล้านเยน [2]

วิธีการดู โมเดลวันพีช ของจริงของแท้เป็นยังไง?

ด้วยผลงานอนิเมะยอดฮิต จึงทำให้มีการผลิต โมเดลวันพีช ขึ้นมาหลากหลายบริษัท แต่วันนี้เราจะพาทุกท่านไปร่วมสังเกต ว่าอันไหนเป็นโมเดลของแท้ ตามรายละเอียดข้อมูลดังต่อไปนี้

  1. จะต้องมีสติกเกอร์แมวที่กล่องโมเดล : เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าโมเดลนั้น ได้รับอนุญาตผลิตอย่างเป็นทางการ จากบริษัท Toei Animation
  2. จำแนกโซนจำหน่ายโมเดล : ในประเทศญี่ปุ่น โมเดลวันพีช ส่วนใหญ่จะมีสติกเกอร์แมวทอง และบางรุ่นเป็นแมวสีอื่น ๆ ตัวอักษรจะต้องเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น และในเอเชีย จะเป็นสติกเกอร์แมวสีเงิน (Hong Kong) และสติกเกอร์แมวสีขาว (Thailand) ตัวอักษรจะต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
  3. พิจารณาตามรุ่นโมเดล : ร้อยละ 90% โมเดลวันพีช จะมีสติกเกอร์แมวบนกล่อง ส่วน 10% ที่ไม่มีสติกเกอร์บนกล่อง จะเป็นรุ่น Box Set, กล่องสุ่ม, กล่องรวม และ 1% ที่ไม่มีสติกเกอร์แมวแต่เป็นของแท้ จะมีรุ่น Ichiban Kuji, งานจับฉลากรุ่น The Last One หรืองาน Limited บางรุ่นเท่านั้น

ที่มา : วิธีการดูโมเดลวันพีชของแท้ [3]

รีวิว 5 โมเดลวันพีช ที่คู่ควรสำหรับนักสะสมมือใหม่

  1. WCF : เป็นผลงานที่โมเดลมีขนาดเล็ก สูงประมาณ 8 เซนติเมตร และทำออกมาเป็นเซ็ต ได้แก่ กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง, กลุ่มทหารเรือ จุดเด่นคือมีรายละเอียดตัวละครที่หลากหลาย ซึ่งราคาเริ่มต้น 200 บาท ไปจนถึง 1,000 บาท
  2. BWFC : เป็น โมเดลวันพีช ที่เน้นไปในท่าทางแอคชั่น มีสีสันสวยงาม ความสูงของโมเดล 15 เซนติเมตร ซึ่งมีราคาซื้อขายเริ่มต้น 500 บาทขึ้นไป
  3. KING OF ART (KOA) : เป็นผลงานที่เน้นทำตัวโมเดลขนาดใหญ่ สูงประมาณ 18 เซนติเมตร โดยมีราคาเริ่มต้น 500 บาท และส่วนใหญ่จะซื้อขายกันในราคา 750 บาทแล้วแต่ความชื่นชอบ
  4. Grandista : โมเดลที่ทำให้ตัวละครมีท่าทางการยืนสุดเท่ เน้นทำให้ตัวละครสูงใหญ่ ประมาณ 20 เซนติเมตร เหมาะสำหรับนักสะสมของเล่นชิ้นใหญ่ โดยมีราคาซื้อขายเริ่มต้น 600 บาทขึ้นไป
  5. ichiban kuji : เป็นงานจับฉลาก หรือสามารถตามหาได้ในการนำมาปล่อยขายเอง ซึ่งเป็นโมเดลจับฉลากจากร้าน Yumeya เป็นของสะสมที่ค่อนข้างหายาก และมีราคาที่ค่อนข้างแพง เริ่มต้น 1,000 บาทขึ้นไป

ที่มา : เริ่มสะสมงานโมเดลวันพีช มีสายไหนให้เก็บบ้าง [4]

สรุป โมเดลวันพีช

หากใครเป็นแฟนตัวยง อนิเมะการ์ตูนชื่อดังนี้ และอยากที่จะเริ่มสะสม โมเดลวันพีช ขอแนะนำให้เริ่มจากโมเดลที่มีราคาไม่แพง หรือบางคนจะทุ่มทุนซื้อโมเดลหลักหมื่น เพื่อมาเกร็งกำไรในอนาคต ก็แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละท่าน

อ้างอิง

[1] วิกิพีเดีย. (March 30, 2024). วันพีซ. Retrieved from th.wikipedia

[2] THESTANDARD. (August 25, 2022). 10 อันดับรายได้ในญี่ปุ่นของ One Piece. Retrieved from thestandard

[3] Lnw SHOP. (2024). วิธีการดูโมเดลวันพีชของแท้. Retrieved from fujishops

[4] TrueID. (May 5, 2021). เริ่มสะสมงานโมเดลวันพีช มีสายไหนให้เก็บบ้าง. Retrieved from entertainment.trueid

หากพูดถึงของเล่น หรือของสะสมตั้งแต่วัยเด็ก จะต้องมีการพูดถึงเครื่องเลี้ยงสัตว์ ทามาก็อตจิ กันอย่างแน่นอน ซึ่งในยุคที่ระบบอินเทอร์เน็ตยังไม่ค่อยมีบทบาท หลายท่านจะต้องพกเครื่องเล่นนี้ ติดกระเป๋ากันอย่างแน่นอน ก่อนจะกลายมาเป็นเครื่องเลี้ยงสัตว์ยอดฮิต จะต้องผ่านอะไรมาบ้าง เรามีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

ความเป็นมา ทามาก็อตจิ เครื่องเลี้ยงไข่ของใครหลายคน

ซึ่งจุดกำเนิดของเครื่องเล่นยอดฮิต ทามาก็อตจิ  (Tamagotchi) [1] ที่ผู้เล่นจะต้องฟักไข่ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงเติบโต ซึ่งก่อนที่จะมีการผลิตเครื่องเล่นนี้ อากิฮิโระ โยโคอิ ประธานบริษัท Wiz เป็นบริษัทที่ออกแบบของเล่นรายใหญ่ ร่วมมือกับ อากิ มาอิตะ นักการตลาดของบริษัท Bandai

เป็นแนวความคิด ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการทำของเล่นพกพา เห็นผ่านทางโฆษณาทางโทรทัศน์ เป็นการพบเจอเรื่องราวของเด็กชาย ที่ไม่สามารถพกพาน้องเต่า สัตว์เลี้ยงสุดรักของเขา ออกไปท่องเที่ยวเล่นด้วยกันได้ อีกทั้ง อากิฮิโระ ยังเป็นคนรักสัตว์อีกด้วย

จึงมีการสร้างเครื่องเลี้ยงสัตว์แบบพกพา ดูแลให้อาหารแบบเรียลไทม์ และสัตว์เลี้ยงภายในเครื่องจะนอนในเวลากลางคืนอีกด้วย และมีการทำพฤติกรรมหลาย ๆ อย่าง จึงก่อให้เกิดชื่อ ทามาก็อตจิ ซึ่งแปลว่า นาฬิกาข้อมือฟักไข่ ต่อมาได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นพวงกุญแจพกพา

เปิดตัว ทามาก็อตจิ รุ่นใหม่ มีกล้องถ่ายรูปในตัว

ของเล่นยอดฮิตในยุค 90 ได้มีการพัฒนาให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ทามาก็อตจิ ได้กลับมาทำการตลาดอีกครั้ง และมีการปรับเปลี่ยนสินค้า จากหน้าจอขาวดำ กลายมาเป็นจอสี แต่ก็ยังคงเน้นรูปทรงให้เหมือนไข่แบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเครื่องฟักไข่นี้

และล่าสุด ทามาก็อตจิ ได้เปิดตัวสินค้าแบบฝังกล้องภายในเครื่อง และยังเปลี่ยนปุ่มสัมผัส หรือ Touch Button หลายปุ่ม ซึ่งเดินตามรอยอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน ในอนาคตจะมีการเพิ่มฟังกชั่นโทรศัพท์เข้ามา ซึ่งเครื่องเล่นรุ่นใหม่นี้ เจ้าของสามารถถ่ายรูปตัวเอง กับสัตว์เลี้ยงของท่านได้

จุดเด่นของเครื่องเล่นรุ่นใหม่นี้ คือฟีเจอร์ช่วยทำอาหาร และจัดส่งอาหารให้กับสัตว์เลี้ยงของท่าน อีกทั้งยังมีตัวเลือกในการสำรวจโลกจริง ซึ่งราคา ทามาก็อตจิ รุ่นใหม่นี้ มีราคาอยู่ที่ 59.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,890 บาท เปิดพรีออเดอร์ใน Amazon, Walmart, Best Buy และ Toys“ R” Us [2]

รีวิว 5 ทามาก็อตจิ ที่ได้รับความนิยม และราคาซื้อขาย

ที่มา : 8 อันดับ ทามาก็อตจิ สนุก ทั้งแบบออฟ ออนไลน์ [3]

สรุป ทามาก็อตจิ

สนุกไปกับการฟักไข่ กับการพัฒนาเครื่องเล่น ทามาก็อตจิ ที่มีความทันสมัย หลากหลายรูปแบบที่ทำออกมาวางจำหน่าย ในปัจจุบัน ยังเป็นเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมในทั่วโลก และมีการผลิตรุ่นใหม่ ๆ ออกมาวางจำหน่าย

อ้างอิง

[1] WIKIPEDIA. (March 29, 2024). Tamagotchi. Retrieved from en.wikipedia

[2] MGR ONLINE. (April 23, 2021). “ทามาก็อตจิ” ของเล่นฮิตยุค 90 ออกรุ่นใหม่. Retrieved from mgronline

[3] Mybest. (April 5, 2023). 8 อันดับ ทามาก็อตจิ สนุก ทั้งแบบออฟ ออนไลน์. Retrieved from th.my-best

คาสิโนออนไลน์
SEXY BACCARAT
SA GAMING
WM CASINO
PG SLOT
JOKER GAME
โปรโมชั่น
สมาชิกใหม่รับโบนัส
แตกแจกเพิ่ม
ฝากแรกของวัน
กงล้อลุ้นโชค
ขาประจำ
ติดต่อเรา
LINE OA
TELEGRAM
แจ้งปัญหา
Betdog-LogoLINE ID : @bdog9Betdog-line
Betdog-bank
Copyright © 2023 Supported by BETDOG
Logo-BetdogLINE ID : @bdog9Betdog-lineBetdog-bankCopyright © 2023 Supported by BETDOG
Betdog-Homeหน้าหลักBetdog-Promotionโปรโมชั่นBetdogBetdog-RegisterสมัครสมาชิกBetdog-eventกิจกรรม
line-Betdog